รีวิว : HP EliteBook Folio G1 หรูหราในแบบกะทัดรัด


โน๊ตบุ๊คสำหรับองค์กรอีกตัวจาก HP ที่มาพร้อมกับขนาดบางเบากะทัดรัดที่สุดในขณะนี้ โดยตัวเครื่องมีความบางเพียง12 มิลลิเมตรเท่านั้น และมีน้ำหนักไม่ถึง 1 กิโลกรัม แต่ประสิทธิภาพและวัสดุยังโหดสมระดับตามสไตล์ Business laptop

Cover HP F G1 2

EliteBook Folio G1 เป็นหนึ่งใน Elitebook Series ของทาง HP ที่มีจุดเด่นในด้านการออกแบบและการใช้วัสดุที่มีความทนทานสูง ทั้งยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยมากมาย จึงเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการโน๊ตบุ๊ค ไว้เป็นผู้ช่วยชั้นดีต่องานธุรกิจ สำหรับ Folio G1 ต้องขอบอกเลยว่า เป็น “Business laptop” ที่บางเบากะทัดรัดที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลยครับ ทั้งนี้ตัวเครื่องยังมีจุดเด่นอีกหลายอย่างได้แก่

  1. วัสดุตัวเครื่องเกรด Military Standard (MIL-STD) และขึ้นโครงด้วยโลหะชิ้นเดียว
  2. กางจอได้ถึง 180 องศา
  3. หน้าจอความละเอียด Ultra HD 4K
  4. ลำโพง Bang & Olufsen
  5. กล้องอินฟาเรต 2 ตัว สำหรับสแกนใบหน้า 3 มิติ (ใช้ร่วมกับ Windows Hello)
  6. คีย์บอร์ด HP Premium Collaboratio
  7. ช่อง USB 3.1 Type-C สองช่อง
  8. แบตฯ ใช้ได้นาน
  9. ประกัน 3 ปีแบบ On Site Service
  10. Custom สเปกที่ต้องการได้

HP F G1 1

สเปก Elitebook Folio G1 (รายละเอียดสเปกที่เลือกได้)

CPU : Intel Core m7 (มีให้เลือกตั้งแต่ m5 จนถึง m7)
GPU : Intel HD Graphics 515 (On Board)
RAM : 8 GB DDR4-1866 SDRAM
ROM : เริ่มต้น SSD 128 GB (เลือกได้สูงสุด 512 GB)
Display : ขนาด 12.5 นิ้ว 4K UHD 2160p 3840 x 2160 จอสัมผัส
Connections : USB Type-C x 2 และ พอร์ตหูฟัง 3.5
Network : Intel 802.11a/b/g/n/ac และ Bluetooth 4.2
OS : Windows 10 Home

ในส่วนของการ Custom สเปกคือ เราสามารถระบุสเปกที่ต้องการได้ เช่น จะเอา Core m5 หรือ Core m7, HDD เท่านี้ SSD เท่านั้น, เอา NFC หรือไม่เอา, ใช้จอทัชสกินหรือไม่ทัช และอื่น ๆ อีกมากมายเลยครับ แต่สำหรับตัวเครื่องที่ผมได้มานี้ จะไม่มีระบบทัชสกรีน ใช้ซีพียู Core m5-6Y57 แรม 8Gb SSD 256GB และ Windows…..

วัสดุและการออกแบบ

IMG_8170

สิ่งแรกที่ขอสัมผัสก่อนเลยคือขนาดตัวเครื่อง ซึ่งหลังได้สัมผัสด้วยตัวเองแล้ว ก็ต้องยอมรับเลยว่า มันเล็กกะทัดรัดมากจริง ๆ จน Ultrabook หลายรุ่น หรือแม้กระทั้ง Macbook (2015) ยังต้องอาย

IMG_8186

ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 292 x 209 x 11.9 cm เท่านั้น และมีน้ำหนักเพียงแค่ 0.97 kg ส่วนวัสดุที่ใช้ ตามสเปกที่บอกคือ MIL-STD หมายถึง วัสดุที่ใช้ในอุปกรณ์ทางการทหาร ซึ่งตัว Folio G1 ก็ผ่านการ Drop Test (ทดสอบการกระแทก) เป็นที่เรียบร้อย

IMG_8335

ในส่วนของข้อพับนั้น ทาง HP ยืนยันว่า ได้จับทดสอบความทนทานเป็นที่เรียบร้อย และจากวัสดุที่ใช้ ดูเหมือนจะใช้อลูมิเนียมที่มีความแข็งแรงพอควร ดังนั้นจึงหายห่วงเรื่องข้อพับอายุสั้นไปได้เลย

IMG_8319

เนื่องจากตัวเครื่องใช้ซีพียู Core m5-6Y57 ที่มีความร้อนไม่มาก จึงไม่มีช่องระบายความร้อนเหมือนโน๊ตบุ๊คทั่วไป ทำให้ตัวเครื่องมีความบางมากขึ้น ทั้งนี้ยังมีลำโพงอยู่ใต้เครื่องด้วย

IMG_8189

กางจอกันหน่อย

IMG_8237

ทดลองกางจอ 180 องศาด้วย

IMG_8231

บนจอตัวเครื่องมาพร้อมกล้องอินฟาเรต 2 ตัว ที่เอาไว้สำหรับ Windows Hello โดยเฉพาะ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยไปลองใช้ในงานเปิดตัวครั้งแรก พบว่าตัวกล้องมีความแม่นยำสูงมาก ๆ แปปเดียวก็สามารถสแกนหน้าเรา แล้วปลดล๊อคเครื่องได้เลย แต่อนิจจาตัวเครื่องที่ผมได้นี้กลับเป็น…..

IMG_8203

Windows 7 !!! (WTF…) เนื่องจาก Windows Hello เป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่ใน Windows 10 แต่ไม่มีใน Windows ตัวนี้ ดังนั้นผมจึงอดเทสกล้องอินฟาเรต 2 ตัวไปปริยาย…. อย่างไรก็ตาม ตัว Windows ก็ยังมีโปรแกรมประจำตระกูล Elitebook Series ลงไว้ให้ด้วย นับว่ายังปราณี

IMG_8202

ตัวแป้นพิมพ์หรือคีย์บอร์ดที่ใช้คือ HP Premium Collaboratio เป็นคีย์บอร์ดระดับพรี่เมี่ยมจากทาง HP ซึ่งให้สัมผัสการพิมพ์ที่ Fin มาก ๆ และตัวคีย์บอร์ดยังมีไฟ LED Backlight สีขาว (หรือน้ำเงินหว่า) ที่ช่วยเพิ่มความพรีเมี่ยมของเจ้า Folio G1 เข้าไปอีก

IMG_8215

ตัว Touchpad ไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่ให้ความรู้สึกการสัมผัสได้ Fin ไม่แพ้คีย์บอร์ด

IMG_20160810_134829478

อีกจุดที่ชูความเป็น Business laptop คือ ปุ่มลัด รับ/วางสายโทรศัพท์ และปุ่มลัดเข้าดูปฏิทินบนแป้นพิมพ์ ซึ่งหากมีการตั้งค่าก็สามารถใช้งานได้เลย

IMG_20160810_134928220

ในส่วนของจอ แม้มีขนาดอยู่ที่ 12.5 นิ้ว แต่กลับมีความละเอียดระดับ 4K (3840 x 2160) ความคมชัดไม่ต้องสืบ ส่วนระบบสัมผัสนั้น อย่างที่บอกตอนแรก (รุ่นที่ผมเทสไม่มี) เราสามารถเลือกตอนซื้อได้ว่า จะให้มีจอสัมผัสหรือไม่มีก็ได้ แน่นอนว่า ถ้าเลือกไม่มีก็จะได้ราคาเครื่องที่ถูกลงนั้นเอง

IMG_20160810_133056240

สำหรับพอร์ตการเชื่อมต่อนั้น ตัว Folio G1 จะมีแค่ช่อง USB 3.1 Type-C สองช่องเท่านั้น ไม่มีช่อง USB A ที่เราใช้ ๆ กันอยู่ ถ้าอยากให้มี ก็ต้องใช้ตัว Docking หรือสายแปลงเท่านั้น

IMG_20160810_132848816

แต่นับว่ายังดี ที่ตัว Folio G1 นั้น แถมสายแปลง USB 3.1 Type-C เป็นพอร์ตเชื่อมต่ออื่น ๆ มาให้ด้วย ได้แก่ สายแปลงเป็น VGA, HDMI, LAN และ USB A รวมทั้งหมด 4 ชุด พร้อม Adapter ชาร์จไฟแบบ USB Type-C ด้วย

IMG_20160810_133111414

ทว่า เอาเข้าจริง ๆ เราจะเหลือช่อง USB 3.1 Type-C แค่ช่องเดียวเท่านั้น เพราะอีกช่องเป็นที่สำหรับ Adapter ชาร์จไฟ อยากได้พอร์ตเยอะ ต้องควักตังค์สอยตัว Docking สถานเดียว
(- – *

IMG_8269

ลองถือตัวเครื่องด้วยมือข้างเดียว น้ำหนักแค่ 0.97 kg สบ๊าย

IMG_8298

Stand พร้อม !!

ประสิทธิภาพ

09

 Software ที่มีในเครื่อง เช่น HP Bang & Olufsen Audio, Broacom Advanced Control Suite 4 และ TightVNC Server Configuration

รายละเอียดสเปก Folio G1 ตัวที่เทส

001

ทดสอบด้วย Cinebench R15 ผลที่ได้คือ ซีพียูได้คะแนน 257 cb
ส่วน OpenGL ได้คะแนน 35.98 fps

08

ในส่วนระสิทธิการระบายความร้อน ก็เป็นไปตามสภาพ เมื่อไม่มีช่องระบาย อุณหภูมิก็สูงตาม (แต่ไม่สูงจนเครื่องไหม้) ยังไงเราคงไม่เอาโน็คบุ๊กตัวนี้ไปเล่นเก่มกินสเปกหรอกนะครับ มันผิดวัตถุประสงค์ เพราะถึงอย่างไร ซีพียู Core m ไม่ได้เกิดมาเพื่อการนี้

004

ผลทดสอบจาก X264 FHD Benchmark

03

ทดสอบความเร็ว SSD ผลที่ได้นับว่าน่าตกใจทีเดียว โดยความเร็ว Read/Write ได้ไปที่ Read : 1411 MB/s กับ Write 1157 MB/s !! (เห็นว่าใช้ SSD รุ่น SAMSUNG MZVPV256 ด้วย)

07

จากผลทดสอบนี้ บอกเลยว่าได้ Rank C ก็ดีแล้ว สำหรับการเล่นเกมกินสเปกแบบปรับสุดอย่าง Resident Evil 6 แต่หลังทดสอบเสร็จ เครื่อนร้อนจี๋เลยครับ…

สรุป

IMG_8178

เมื่อก่อนเคยสงสัยว่า ทำไมต้องมีการแยกประเภทของโน็ตบุ๊ตเป็น Consumer (ผู้ใช้ทั่วไป) กับ Commercial (ผู้ใช้ระดับองค์กร) จากที่ลองเทสเจ้า Folio G1 ก็ทำให้รู้ถึงความแตกต่างของโน็ตบุ๊ตทั้งสองประเภทนี้แล้วครับ

Folio G1 ถือเป็น Commercial โน็ตบุ๊ต มีความทนทานสูงมาก ลองจับแล้วรู้เลยว่า ตัวโน็ตบุ๊ตแข็งแรงขนาดไหน ทั้งนี้ยังเปี่ยมไปด้วยความหรูหรา ต่างจากโน็ตบุ๊ต Consumer อย่างเห็นได้ชัด ส่วนจุดเด่นที่เห็นชัดที่สุด ก็ไม่พ้นความเล็กกะทัดรัดของมัน ที่เหมาะสำหรับพกพามาก ๆ ทั้งยังมีน้ำหนักเบา ใส่แบกกระเป๋าแทบไม่รู้สึกถึงความหนักเลย ส่วนสเปกก็จัดว่าดี แต่ก็ต้องยอมรับว่า เอาไว้ใช้ทำงานหรือพิมพ์งานเท่านั้น สาย Gaming หรือ Graphic design ไม่เหมาะแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้ออาจต้องคิดหนักในส่วนของราคา ซึ่งเริ่มต้นที่ 40,000 ไปจนถึง 70,000 บาท แพงเอาเรื่องทีเดียวครับ คาดว่าที่แพง คงเป็นเพราะวัสดุและการออกแบบของมัน ที่ต้องยอมรับว่าดีจริง แต่ก็มีข้อแลกเปลี่ยนเช่นกัน

ข้อดี

  • ตัวเครื่องมีความทนทานสูง
  • การออกแบบสวยงามหรูหรามาก
  • มีความกะทัดรัดเบาบางเป็นอย่างยิ่ง
  • จอความละเอียดสูง
  • ประสิทธิภาพเครื่องกำลังดี โดยเฉพาะ SSD โหดมาก
  • กล้องอินฟาเรดสแกนใบหน้า 3 มิติ มีความแม่นยำสูง (จากที่เทสใน Folio G1 อีกรุ่น)

ข้อสังเกตุ

  • พอร์ตเชื่อมต่อน้อยไป
  • เครื่องร้อนเร็ว โดยเฉพาะตอนดูไฟล์ 4K
  • ราคาค่อนข้างสูง

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here