ในงานเปิดตัว Note 10 (ขออนุญาตนอกแบรนด์เล็กน้อย) มีอยู่ประโยชน์หนึ่งที่ผมชอบมากคือ “Work-Life Balance น่ะ ตายไปแล้ว !!” ผม “Nani !!” …ล้อเล่นครับ ทาง Samsung ไม่ได้กล่าว แต่ความหมายก็ราว ๆ นี้ คือเขาบอกว่า กลุ่มคนทำงานสมัยใหม่ ไม่ได้ใช้ Work-Life Balance แล้ว แต่เป็น Work-Life-Work-Life ทำงานไปด้วย ใช้ชีวิตไปด้วยนั้นเอง เรียกแบบเพราะ ๆ คือ สนุกทั้งการใช้ชีวิตและการทำงานไปพร้อมกัน
กลับมาที่หัวข้อรีวิว ครั้งผมได้มีโอกาสลองสัมผัสโน้ตบุ๊กระดับองค์กรจากซีรีย์ Latitude อย่าง Dell Latitude 7400 2-in-1 เป็นโน้ตบุ๊กบางเบาระดับ Hi-End งานประกอบกับวัสดุขั้นพรีเมี่ยม ความทนทานสูง และแบตฯ ที่เคลมว่าใช้งานได้ยาว ๆ ถึง 20 ชั่วโมง มาพร้อมช่องต่อชาร์จแบบ Thunderbolt 3 รองรับการชาร์จผ่าน Power Bank ที่ชาร์จพลังงานผ่านพอร์ต USB Type-C ได้เลย เน้นใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งก็น่าจะตอบโจทย์คนทำงานในยุคนี้กัน
สเปก Dell Latitude 7400 2-in-1
Display : ขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080) จอสัมผัส 360 องศา Gorilla Glass 5
CPU : Intel Core i7-8665U
VGA : Intel UHD 620 Graphics
RAM : 8GB LPDDR3 2133MHz
SSD : 256GB M.2 PCIe NVMe
Wireless : Intel® Dual Band Wireless AC 9560 (802.11ac) 2×2
Port : USB Type-A 3.1 (Gen 1) x 2, USB Thunderbolt 3 x 2, HDMI 1.4 x 1, external uSIM card tray option (WWAN only) x 1, Memory card reader x 1 และ Combo audio jack x 1
Battery : 4 Cell 52 Whr ExpressCharge
Weight : 1.3 kg
OS : Windows 10 Pro (64bit)
แกะกล่อง
อุปกรณ์ในกล่องก็มีตามนี้
วัสดุและดีไซน์
งานประกอบ งานวัสดุ และงานออกแบบหรือดีไซน์นั้น Dell Latitude 7400 2-in-1 ก็จัดเต็มสมฐานะโน้ตบุ๊กสายธุรกิจหรือองค์กร และในฐานะพี่ใหญ่แห่ง Latitude 7000 Series จริง ๆ ตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมสีเงินแบบคลีน ๆ ดูหรูหรา และเพิ่มความหล่อได้ดี
ความบางตัวเครื่องก็อยู่ที่ 14.89 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนักก็อยู่ที่ 1.3 กิโลกรัม ตรงขอบหลังตัวเครื่องก็มีช่องระบายความร้อนเป็นรูระบายจำนวน 8 รู ถ่ายเทความร้อนจากซีพียูมาโดยตรง
เมื่อพลิกดูใต้เครื่อง ก็จะเห็นช่องดูดลมเป็นแผงยาวตามภาพ เรื่องระบายความร้อนเรียกได้ว่าหายห่วง (ถ้าไม่เอาไปเล่นเกมหรือตัดต่อคลิปน่ะนะ)
พอร์ตเชื่อมต่อทั้งหมดก็มี USB Type-A 3.1 (Gen 1) x 2, USB Thunderbolt 3 x 2, HDMI 1.4 x 1, external uSIM card tray option (WWAN only) x 1, Memory card reader x 1 และ Combo audio jack x 1
จากปกติตระกูล Latitude มักจะมาในร่างสีดำแต่รอบนี้มาเป็นสีเงินล้วน เมื่อเปิดฝาพับหรือหน้าจอขึ้นมา ก็จะพบกับแสงสะท้อนจากตัวเครื่องทะแยงทันที
อย่างทึ่เกริ่นไปว่าตัวเครื่องเป็นรุ่นพับจอได้ 360 องศา ดังนั้นบานพับก็ต้องมีความทนทานสูง ซึ่ง Dell Latitude 7400 ตัวนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง
การใช้งาน
ตามหัวข้อรีวิว Dell Latitude 7400 2-in-1 ก็เป็นโน้ตบุ๊กจอสัมผัสแบบพับได้ 360 องศา สามารถแปลงร่างได้ 4 แบบ อาทิ Laptop Mode , Stand Mode , Tablet Mode และ Tent Mode
ตัวคีย์บอร์ดก็มาพร้อมไฟ LED ใต้ปุ่มกด ความสว่างบาง ๆ Touch Pad ไม่ใหญ่มาก แต่ก็ตอบสนองการใช้งานได้ลื่นไหลโอเค ส่วนปุ่ม Power ตรงนี้ตอนที่ซื้อ เราสามารถเลือกได้ว่าจะเอาที่สแกนลายนิ่วมือ หรือไม่เอาเพื่อไปลงฟีเจอร์ส่วนอื่นก็ได้ ก็นับเป็นอีกข้อดีของโน้ตบุ๊กระดับองค์กร
ส่อง Keyboard Layout แบบเต็ม ๆ
Dell Latitude 7400 ในร่างแท็บเล็ด
หน้าจอของ Dell Latitude 7400 2-in-1 ก็มีขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด Full HD รองรับการใช้งานแบบสัมผัสและปากกา Active Pen จากการใข้งานต้องบอกเลยว่า จอสวยสดคมชัดจริง แต่ไม่ค่อยสู้แสงเท่ารไนัก เวลาใช้งานตรงจุดที่มีแสงแดดส่องเข้าหน้าจอเต็ม ๆ นั้น จำเป็นต้องเปิดความสว่างสู้จนสุดเลยครับ
ตัวเครื่องมีกล้องหน้า Webcam ที่มาพร้อม IR Cam & Prox Sensor สแกนใบหน้าผ่าน Windows Hello เพื่อปลดล็อคเครื่อง และตัวเซ็นเซอร์ Prox ที่สามารถรับรู้สิ่งใกล้เคียง จึงเกิดเป็นอีกฟีเจอร์คือ Express Sign-In ตัวเครื่องจะสแกนใบหน้าแล้วปลดล็อคเครื่องทันที เมื่อเรามานั้งตรงหน้าจอตัวเครื่อง
ตัวอย่างฟีเจอร์ Express Sign-In
ประสิทธิภาพ
ขุมพลังหลักของ Dell Latitude 7400 2-in-1 นี้ ก็มี Intel Core i7-8665U กับแรมขนาด 8GB
คะแนนจาก Cinebench R15 ด้าน OpenGL ก็ได้ไป 46.73 fps ส่วนคะแนน CPU ก็อยู่ที่ 570 cb ตามสภาพโน้ตบุ๊กบางเบา ที่ใช้ซีพียู Intel รหัส U ครับ
ผลเทสจาก PC Markl ได้คะแนนไป 3,505 คะแนน ถือว่าแรงกำลังดีสำหรับโน้ตบุ๊กบางเบา แต่ก็ยังไม่เหมาะที่จะใช้งานระดับกราฟฟิก ตัดต่อวิดีโอ หรือเล่นเกม แต่ถ้าใช้เข้าเว็บ พิมพ์งาน เช็คหุ้น ก็สบาย ๆ เลย และอยู่ได้ยาวด้วย
ผลความเร็วอ่านเขียนจาก SSD ขนาด 256GB ในตัวเครื่อง
มาถึงส่วนสำคัญแล้ว จากที่บอกว่าแบตฯ รุ่นนี้อยู่ทนถึง 20 ชั่วโมง จึงเทสด้วยโปรแกรม BatteryMon โดยสถานะตอนนี้คือ แบตฯ เหลือ 65% จากความจุระดับ 49408 mWh ไม่ได้ต่อสายชาร์จ ผลลัพท์ถือว่าโอเคเลย โดยแบตฯ ที่เหลืออยู่ 65% นี้ ยังสามารถใช้งานได้ยาว ๆ ถึง 10 ชั่วโมง หากเต็ม 100% ก็น่าจะใช้งานได้ยาว ๆ เกือบ 20 ชั่วโมงตามที่เคลมเลยครับ
สรุป
Dell Latitude 7400 2-in-1 ถือเป็นโน้ตบุ๊กบางเบาระดับองค์กรที่โดดเด่นในเรื่องวัสดุกับดีไซน์มาก ด้วยความที่เป็น Latitude ในระดับ 7000 Series ตัว Top สุด ก็จัดเต็มความพรีเมี่ยม อย่างไรก็ตาม ตัวเครื่องยังไม่ถือว่ามีน้ำหนักเบามากนัก โดยตัวเครื่องขนาดจอ 14 นิ้วนี้ มีน้ำหนักอยู่ที่ 1.3 กิโลกรัม แต่ก็แลกกับวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานสูงแทน ส่วนความบางถือว่าบางมากแล้ว เมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กที่จอพับได้ 360 องศารุ่นอื่น ๆ
ด้านสเปกก็ตามสภาพโน้ตบุ๊กบางเบา ไม่ได้แรงหวือหวามาก แต่ก็ไม่เบาจนเกินไป ส่วนฟีเจอร์ Express Sign-In หรือเซ็นเซอร์ตรงกล้องหน้าจอ ที่ตัวเครื่องจะสแกนใบหน้าแล้วปลดล็อคเครื่องทันทีนั้น ถือว่าน่าสนใจและก็ช่วยประหยัดเวลาในการเปิดใช้งานเครื่องได้ดีเลย และอีกส่วนคือแบตฯ ที่ต้องยอมรับจริง ๆ ว่า อยู่ทนมาก ใช้งานนอกสถานที่ได้ยาว ๆ ไม่ต้องมองหาปลั๊กไฟให้วุ่นวาย
สุดท้ายนี้ราคาเริ่มต้นของ Dell Latitude 7400 2-in-1 ก็อยู่ที่ประมาณ 50,000 บาท ก็เป็นราคาตามสไตล์โน้ตบุ๊กบางเบาระดับองค์กร โดยเฉพาะ Latitude 7000 Series จาก Dell ครับ