รีวิวครั้งพิเศษหน่อย เพราะผมใช้เจ้า ZenBook 15 UX533 ในที่นี้ มาเขียนรีวิวเองซะเลย เพื่อซึมซับประสบการณ์การใช้งานจากมันให้ได้มากที่สุด (วันไหนได้โน๊ตบุ๊คตัวอื่นมารีวิว เดี๋ยวทำแบบนี้บ้างดีกว่า ฮ่า ฮ่า) เข้าเรื่อง รีวิวครั้งนี้เรามาพบกับ ASUS ZenBook 15 UX533 หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า ASUS ZenBook 15 UX533FD เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาสุดหรูจากตระกูล ZenBook โดยตัว UX533 นี้ ก็เป็นรุ่นจอ 15.6 นิ้ว ที่มาพร้อมซีพียู Intel Core i7-8565U กับการ์ดจอ GTX 1050 Max-Q ในตัวเลย ถือเป็นรุ่น Top ของซีรีย์ ZenBook (ที่จับต้องได้นะ ไม่ใช่พวก ZenBook รุ่น Pro, S หรือ Deluxe) ซึ่งรู้หรือไม่ว่า ตัวเริ่มต้นมีราคาอยู่ที่ 26,990 บาทเท่านั้น (จอ 13 นิ้ว พร้อมซีพียู Intel Core i5) แม้สเปกจะไม่สูงมาก แต่มีดีไซน์กับวัสดุหรูระดับ ZenBook ชวนให้กระเป๋าตังค์สั่นได้อยู่ ส่วนตัว Top นี้จะพิเศษขนาดไหน และมีราคาอยู่ที่เท่าไร ลองมาติดตามรีวิวนี้กันครับ
สเปก ASUS Zenbook 15 UX533
Display : 15.6 นิ้ว Full HD (1920 x 1080) สัดส่วน 16:9 มี 100% sRGB Color Gamut
CPU : Intel Core i7-8565U ความเร็ว 1.8GHz มี Turbo Boost (เพิ่มความเร็วได้สูงสุด 4.6GHz) กับ 8MB cache
VGA : NVIDIA GeForce GTX 1050 Max-Q 2GB GDDR5 VRAM
RAM : 16GB 2400MHz DDR4 onboard (อัพเกรดแรมไม่ได้)
HDD : 512GB PCIe 3.0 (ใส่เพิ่มได้อีก 1 ช่อง)
Camera : 3D IR HD camera
Connect : Wi-Fi Dual-band 802.11ac gigabit-class และ Bluetooth 5.0
Port : USB 3.1 Gen 2 Type-C (ความเร็ว 10Gbps และต่อออกจอได้) x 1, USB 3.1 Type-A (ความเร็ว 10Gbps) x 1, USB 3.0 Type-A (ความเร็ว 5Gbps) x 1, HDMI x 1, SD card reader x 1 และช่องเสียบไฟเลี้ยง
Battery : 73Wh 4-cell lithium-polymer พร้อมเคลมใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 14-15 ชั่วโมง
Size : 35.4cm x 22.0cm x 1.79cm
Weight : 1.69kg
OS : Windows 10 Home
แกะกล่อง
ในกล่องไม่มีอะไรมาก มีเฉพาะตัวเครื่อง ASUS ZenBook 15 UX533 กับชุดไฟเลี้ยง และ Soft Case หรือซองใส่ตัวเครื่องเท่านั้น
หน้าตาชุดไฟเลี้ยงกับ Soft Case แบบชัด ๆ
วัสดุและดีไซน์
อย่างที่เคยกลางไปในพรีวิว Asus ZenBook 14 UX433 หรือรุ่น 14 นิ้ว เป็นสีน้ำเงิน Royal Blue เหมือนกัน และวัสดุแบบเดียวกัน ฉะนั้นจะพูดอีกรอบ สีน้ำเงิน Royal Blue คือสี The Best ของซีรีย์นี้แล้ว (ส่วนตัวล้วน ๆ)
ขอบทองแดงตรงบานพับช่วยเพิ่มความหรูได้ดี ไม่สิ ดีมาก ๆ ๆ ถ้าขาดไปคือจืดเลย (เหมือนจะเห็นราคาแล้ว ?)
ขนาดตัวเครื่อง 35.4cm x 22.0cm x 1.79cm กับความบาง 3mm และน้ำหนัก 1.69kg ส่วนวัสดุเป็นอลูมิเนียมเกรด US Military-Grade (MIL-STD-810G) ทนทาน งานประกอบก็แน่นหนา อาจจะไม่หรูหราเท่ารุ่น Pro หรือ S แต่ราคานี้คือแจ่ม (เท่าไร เดี๋ยวบอก)
วัสดุเป็นอลูมิเนียนชั้นเยี่ยม แต่รุ่นนี้แอบเป็นรอยง่ายอยู่นะนายจ๋า…
ใต้ตัวเครื่องมีลำโพงคู่จาก Harman Kardon พร้อมควบคุมด้วยโปรแกรม ASUS SonicMaster เช่นเคย ประสิทธิภาพโอเคเลย ดังกระหึ่มอยู่เหมือนกัน อีกส่วนก็มีช่องระบายร้อนเป็นแถบตะแกรงยาว ๆ หนึ่งแถว
ส่วนช่องระบายร้อนหลักก็อยู่ที่มุมซ่ายมือของตัวเครื่องนี้เอง
ช่องดูดลมอยู่บริเวณข้อพับขอบทอง เป็นช่องดูดลมแถวยาวเลย
และด้วยดีไซน์แบบเฉพาะของ Asusอย่าง Ergolift ที่ช่วยยกตัวเครื่องหรือแป้นพิมพ์ให้สูงขึ้นจากพื้น โดยใช้ลูกเล่นจากบานพับและหน้าจอช่วยดันนี้เอง ก็ส่งผลให้สามารถระบายความร้อนได้ขึ้น รวมถึงพิมพ์สบายมือขึ้นด้วย แต่แอบเสียดายอยู่นิด ๆ เมื่อเทียบกับรุ่น ZenBook S แล้ว ตัวนั้นมี Ergolift ยกสูงกว่ามาก ๆ ครับ
พอร์ตเชื่อมต่อที่มีให้มากมาย อาทิ USB 3.1 Gen 2 Type-C หนึ่งช่อง มี USB 3.1 Type-A และ USB 3.0 Type-A อย่างละช่อง (น่าจะให้สองช่องไปเลย) มีพอร์ต HDMI ขนาดมาตรฐานให้ (ไม่ใช่ Mini HDMI) และ SD card reader สุดท้ายช่องเสียบไฟเลี้ยง
การใช้งาน
เมื่อเปิดเครื่องขึ้นมา ก็พบกับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้วงาม ๆ ที่มาพร้อมดีไซน์แบบ NanoEdge หรือจอไร้ขอบ ตามภาพเลยครับ ขอบมี แต่น้อยมาก ๆ และเป็นทั้ง 4 ด้านเลย พอเป็นแบบนี้แล้ว ก็ทำให้โน๊ตบุ๊คจอ 15.6 นิ้วตัวนี้ มีขนาดตัวเครื่องแทบไม่ต่างจากรุ่นจอ 14 นิ้ว
หลักฐานคือ สามารถยัดใส่กระเป๋าโน๊ตบุ๊คขนาด 14 นิ้วของผมได้ (แบบฉิวเฉียด) ยอมใจขนาดและความบาง
กลับมาดูที่หน้าจอกันอีกรอบ (ดูให้เต็มตาเลยครับ เหอ ๆ) ตัวจอตามสเปกมีความละเอียด Full HD (1920 x 1080) สัดส่วน 16:9 และมี 100% sRGB Color Gamut หลังลองใช้อยู่พักใหญ่ หรือตลอดที่เขียนรีวิวนี้ บอกเลยว่า แจ่มมากก จอสวยคมชัดพอควร น่าเสียดายที่ไม่ใช่จอด้านหรือ Anti-Glare เลยมีสะท้องแสงให้ขัดตาอยู่บ้าง
คียบอร์ดแบบ Full-size พร้อมปุ่ม NumPad กับมีไฟ LED backlit สีฟ้าสวยงาม ตัวปุ่มกดมี key travel ลึก 1.4mm พิมพ์มันมือมาก พิสูจน์จากการเขียนรีวิวตัวมันเป็นเวลานาน ๆ อยู่นี้เอง
Touchpad มี Glass-covered ให้ความรู้สึกเหมือนผิวกระจก แต่ลื่น ใช้งานได้ดี ไม่รู้สึกติดขัด ทั้งรองรับการใช้นิ้วจิ้มพร้อมกัน 4 นิ้ว และฟีเจอร์ Smart Gestures ของ Windows 10 ด้วย
คียบอร์ด Full-size ของตัวเครื่องแบบเต็ม ๆ (และย้ำกันอีกครั้ง….)
กล้องแบบ 3D IR HD camera รองรับ Windwos Hello หรือสแกนใบหน้าแบบ 3D ได้ กับความละเอียด HD หรือ 720P
จุดเด่นสำคัญของตัวเครื่องอย่าง ErgoLift ตอนรีวิวรุ่น ZenBook S ก็เคยว้าวไปแล้ว พอมาในรุ่นนี้ก็มีเหมือนกัน โดยเวลากางหน้าจอออก ตัวจอหรือบานพับจะดันส่วนคียบอร์ดขึ้นมา 3 องศา ช่วยทั้งเรื่องระบายความร้อนและช่วยยกระดับการพิมพ์ให้ดีขึ้นได้ErgoLift Hinge
ErgoLift Hinge
ประสิทธิภาพ
ในที่สุดก็ได้เวลาทดสอบสเปก Intel Core i7-8550U + GTX 1050 Max-Q + แรม 16GB ในตัวมันแล้ว ลองมาดูกันครับว่า พอทุกอย่างมาอยู๋ในร่างบางเบานี้ ประสิทธิภาพจะเป็นยังไง
เปิดตัวรายละเอียดสเปก Intel Core i7-8550U + GTX 1050 Max-Q + แรม 16GB
ลองวัดความแรงขั้นต้นด้วย Cinebench R15 ผลที่ได้คือ GTX 1050 Max-Q 2GB ได้ไป 116.48 fps กับ CPU i7-8565U ก็อยู่ที่ 707 cb ถือว่าสูงมากสำหรับ Ultrabook
ต่อด้วยโปรแกรมวัดประสิทธิภาพโดยรวมจาก PC Mark 10 ก็ได้คะแนนไป 4,174 Score ได้อานิสงส์จากการ์ดจอ GTX 1050 Max-Q 2GB ช่วยไว้เยอะ
วัดความเร็วอ่าน-เขียนโดย Crystal Disk Mark ของ SSD 512GB PCIe 3.0 ตัวเครื่อง Read ได้ 1,734 MB/s และ Write ได้ 1,458 MB/s เร็วแรงเลย
ส่วนเรื่องแบตฯ ที่เคลมว่าใช้ได้ 14 – 15 ชั่วโมงนั้น ลองวัดด้วยการใช้งานตอนเขียนรีวิวในสภาพแสงจอ 95% เปิดทั้งเว็บทั้ง Youtube และต่อ Wi-Fi จากแบตฯ 100% เต็ม พอผ่านไป…
1.50 ชั่วโมงหรือเกือบ 2 ชั่วโมง แบตฯ เหลือ 80% ตีไปหากใช้งานแบบต่อเนื่อง ก็อยู่ประมาณ 10 ชั่วโมง ถือว่านานเลยนะ
เกมมิ่ง
ในเมื่อมีการ์ดจอแยกอย่าง GTX 1050 Max-Q ก็ขอเทสส่วนเกมมิ่งด้วยซะเลย และด้วยความอยากรู้ว่า Max-Q ของการ์ดจอรุ่นนี้ ในตัวเครื่องนี้ จะเป็นยังไงบ้าง
เทสเกม Resident Evil 2 แบบปรับ Low สุด พร้อมจอยไร้สาย ผลก็ตามวิดีโอเลย ลื่นไหลดี เล่นได้เพลิน ๆ แต่ผมกลัวก่อน…
คราวนี้ลองใช้โปรแกรมจับค่า fps ด้วย พร้อมเปิดเกมยอดนิยมขณะนี้อย่าง Apex Legends แน่นอนว่าปรับ Low สุดเช่นกัน ผลคือทำค่า fps ได้ราว ๆ 50 – 65 fps
ส่วนลื่นขนาดไหนนั้น ลองดูคลิปนี้เลย อัดจากตัวเครื่องขณะเล่น และตายโชว์…
ความร้อนเป็นยังไง ขณะเล่นเกม Apex Legends ความร้อนสูงสุดอยู่ที่ 93 องศา แต่โดยเฉลี่ยคือ 79 องศา ถือว่าระบายความร้อนได้โอเคเลย อาจยังไม่เท่าพวกโน๊ตบุ้คเกมมิ่งบางรุ่น แต่แค่นี้ก็ดีแล้ว
สรุป
ในระหว่างอ่านรีวิวมา ทุกคนคงจะเห็นราคาของมันแล้ว… ใช่แล้วครับ Asus ZenBook 15 UX533 รุ่น Top สุดนี้ สนนราคาอยู่ที่ 45,990 บาท โอเคครับ ลองมาวิเคราะห์อะไรกันหน่อย บางคนน่าจะเคยอ่านรีวิว Asus ZenBook S มาแล้ว สเปกของมันคือ Intel Core i7-8550U กับแรม 8GB และจอ 13.3 นิ้ว ไม่มีการ์ดจอ แต่ราคาอยู่ที่ 46,990 บาท แพงกว่ารุ่นที่รีวิวนี้หนึ่งพันบาท ความแตกต่างก็มีวัสดุกับงานประกอบที่ดีกว่า แต่คงไม่ต่างกันเยอะ มีพอร์ต Thunderbolt แต่เชื่อว่าหลายท่านคงแทบไม่ได้ใช้ และจอที่สวยคมกว่า แต่รุ่นนี้ผมก็ว้าวเหมือนกัน
กลับมามองที่ ZenBook 15 UX533 อีกครั้ง มันมี Intel Core i7-8550U + GTX 1050 Max-Q + แรม 16GB + SSD 512GB + จอ 15.6 นิ้ว และดีไซน์กับวัสดุที่แทบไม่ต่างกัน บางเบาพอ ๆ กัน และเป็น ZenBook เหมือนกัน ขาดแค่ไม่มี Thunderbolt กับ Ergolift ไม่สูงเท่าเท่านั้น พอเห็นอะไรไหมครับ Asus ZenBook 15 UX533 นับเป็น Ultrabook ชั้นดีตัวหนึ่ง แต่กลับมีสเปกที่เกือบเทียบเท่ากับโน๊ตบุ๊คเกมมิ่งระดับเริ่มต้น เล่นเกมได้ดี (แต่ต้องปรับ Low นะ) ระบบระบายความร้อนก็โอเค ส่วนราคาก็ตามที่กล่าวไป ความแตกต่างระหว่าง Ultrabook ชั่นเยี่ยมอย่าง ZenBook S ก็เห็นแล้ว ถึงจุดนี้ผู้อ่านลองพิจารณากันเลยครับ : D