SpeeDi แอพฯ แจ้งเคลมรถยนต์ จาก เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย สามารถเรียกเจ้าหน้ามายังจุดเกิดเหตุได้ในปุ่มเดียว ไม่ต้องบอกรายละเอียดให้วุ่นวาย และไม่เกิน 30 นาที เจ้าหน้าที่ถึงที่หมาย พร้อมเคลมทันที !!
ในวันหนึ่งที่ท้องถนนอุดมไปด้วยรถหลากชนิด ย่อมมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ หากเกิดขึ้นเมื่อไร สิ่งที่ตามมาคือ “การเผชิญหน้ากับคู่กรณี” ที่หลายคนอาจทำอะไรไม่ถูกเวลาเจอเหตุการณ์นี้ ทาง เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย จึงส่ง ‘SpeeDi’ แอพฯ ที่จะมาลดความกังวลนี้โดยเฉพาะ ด้วยการรับบทเป็นตัวกลาง ช่วยติดต่อเจ้าหน้าที่สำรวจอุบัติเหตุ (หรือเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการ) พร้อมส่งตำแหน่งของเราผ่านสมาร์ทโฟนโดยอัตโนมัติ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ สามารถเดินทางมาจุดเกิดเหตุได้ในเวลาไม่เกิน 30 นาที ไม่ต้องไล่หาเบอร์ประกัน ไม่ต้องบอกที่อยู่ให้วุ่นวาย ทั้งหมดจบใน “ปุ่มเดียว” เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตัวแอพฯ ไม่ได้มีเท่านี้ แต่ยังมีความสามารถอีกมากทีเดียว โดยจะมีอะไรบ้าง ลองมาทำความรู้จักแอพฯ นี้ไปพร้อมกันครับ
การใช้งานครั้งแรก
ก่อนใช้งานตัวแอพฯ นั้น เราต้องลงทะเทียนใช้งานแอพฯ กับทาง เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัยก่อน หากไม่ต้องการ ก็เข้าใช้งานแอพฯ แบบไม่ต้องลงทะเทียนก่อนก็ได้ แต่จะเข้าใช้งานฟีเจอร์บางส่วนไม่ได้แทน ทั้งนี้ในหน้า Log-in ถ้าสมาร์ทโฟนที่ใช้มีตัวสแกนลายนิ้วมือ ก็สามารถเข้าสู่ระบบแบบรวดเร็วได้เลยครับ
หน้าตาของแอพฯ
สำหรับหน้าตาหรือ UI ของแอพฯ ก็ดีไซน์ได้ทันสมัยดูสบายตามาก การจัดวางปุ่มฟีเจอร์หลัก (Key Feature) ก็รวมอยู่ในหน้าเดียวเลย ไม่ต้องไปหาให้วุ่นวาย โดยเฉพาะปุ่มสำคัญอย่าง “แจ้งเคลมรถยนต์” และ “ช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน” สองฟีเจอร์หลักที่เป็นพระเอกของแอพฯ ก็โชว์หราในหน้านี้ชัดเจน
ฟีเจอร์ภายในแอพฯ
- แจ้งเคลมรถยนต์
หากผู้ใช้กำลังเผชิญหน้ากับคู่กรณีหลังเกิดอุบัติเหตุอยู่ คงต้องรีบเปิดแอพฯ เรียกใช้ปุ่มนี้ก่อนแน่ สำหรับปุ่มแจ้งเคลมรถยนต์ ทันทีที่เรากด มันจะสอบถามเลขทะเทียนรถยนต์ของเราก่อน ซึ่งเราจะใส่หรือแจ้งภายหลังก็ได้ จากนั้นตัวแอพฯ จะติดต่อไปยังศูนย์เคลมฮอตไลน์ส่งตำแหน่งของเราผ่าน GPS บนสมาร์ทโฟนด้วย ใช้เวลาไม่เกิน 60 วินาที สำหรับรอติดต่อกับเจ้าหน้าที่
หลังติดต่อได้แล้ว ทางศูนย์จะรีบส่งเรื่องไปยังเจ้าหน้านี้ปฎิบัติการ ที่ประจำอยู่ใกล้กับเรามากที่สุด เพื่อให้สามารถเดินทางมายังจุดเกิดเหตุได้ไม่เกิน 30 นาทีนั้นเอง (เฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล) และขณะรอ เรายังสามารถเช็คตำแหน่งของเจ้าหน้านี้เคลมแบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย ระหว่างนี้เราจะนั่งจับเข่าคุยกับคู่กรณีไปพลาง เช็คความคืบหน้าไปพลางก็ได้ครับ…
คลิปสาธิตการให้บริการแจ้งเคลมรถยนต์ของแอพฯ
- ช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน
หากเราไม่ได้ประสบอุบัติเหตุอะไร แต่รถเกิดเสียกลางถนนขึ้นมา ก็สามารถเรียกใช้ฟีเจอร์ “ช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน” เพื่อขอใช้บริการจาก เอ็ม เอส ไอ จี ผ่านตัวแอพฯ ซึ่งจะมีบริการช่วยเหลือหลัก ๆ คือ
- การช่วยเหลือฉุกเฉิน : เรียกรถยกของเอ็ม เอส ไอ จี มาช่วยเคลื่อนย้ายรถของเรา (มาตามตำแหน่ง GPS ในสมาร์ทโฟน)
- การช่วยเหลือต่อเนื่อง : หลังรถโดนยกไปแล้ว ก็ต้องกลัวเควัง ตัวแอพฯ ก็มีบริการช่วยเหลือต่อเนื่อง โดยมีให้เลือกระหว่าง เช่ารถชั่วคราว, เช่าโรงแรม 1 ห้อง 2 คืน และจัดหาผู้ขับขี่ กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน
- เติมน้ำมัน : หากอยู่ ๆ รถเราดันน้ำมันหมดกลางทาง ก็เรียกให้เจ้าหน้าที่เอ็ม เอส ไอ จี มาเติมน้ำมันให้รถเราซะเลย
- บริการให้คำปรึกษา : สำหรับคนที่จะซ่อมรถด้วยตัวเอง เพราะไม่อยากให้วุ่นวายเกินไป ก็โทรขอคำปรึกษาเรื่องเทคนิคแทนก็ได้
****สำหรับฟีเจอร์ “แจ้งเคลมรถยนต์” และ “ช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน” จะเป็นการขอใช้บริการประกันภัยจาก เอ็ม เอส ไอ จี ต้องสมัครตัวประกันภัยของทางบริษัทก่อน ถึงจะเรียกใช้งานได้****
- ข้อมูลอู่
เป็นฟีเจอร์ช่วยสแกนหาศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถที่อยู่ใกล้ ๆ เรา ตัวแอพฯ ก็สามารถค้นหาได้พริบตา โดยมันจะอิงจากตำแหน่ง GPS ของเรานี้เอง และหลังค้นหาเสร็จ ก็จะมีรายชื่อสถานที่ดังกล่าว ที่ระบุทั้งที่อยู่และเบอร์ติดต่อให้พร้อมเลย ง่ายกว่าไปเสิร์ชหา Google Map เยอะ
- ข้อมูลโรงพยาบาล
เช่นเดียวกับฟีเจอร์ข้อมูลอู่ แต่เปลี่ยนมาเป็นโรงพยาบาลแทน อันนี้ก็จะช่วยได้มาก หากเราเจอผู้บาดเจ็บหรือคนป่วยในตอนฉุกเฉิน หลายคนจะติดต่อหาหน่วยงานที่คิดว่าช่วยเหลือได้ ร้อยทั้งร้อยคงโทรหาตำรวจก่อนแน่ ๆ ซึ่งกว่าจะประสานงานได้ ก็คงไม่ทันแล้ว (จะโทรหาป่อเต็กตึ๊งก็ไม่รู้เบอร์อีก) ดังนั้นให้เราเปิดฟีเจอร์นี้ช่วยค้นหาโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ ๆ ดีกว่า จะได้สามารถติดต่อให้ส่งรถพยาบาลมารับได้ทันเวลา
- ช่วยเหลือระหว่างประเทศ
คงไม่ดีแน่ หากต้องประสบเหตุในต่างประเทศ เพราะเราแทบไม่รู้เลยว่า ต้องไปขอความช่วยเหลือจากใคร ในฟีเจอร์ “ช่วยเหลือระหว่างประเทศ” นี้ ก็จะมีปุ่ม โทรติดต่อไปยังทาง เอ็ม เอส ไอ จี ให้ช่วยประสานงานหาวิธีแก้ไข หรือบอกวิธีแก้ไขเบื้องต้นที่ควรรู้ในทันที ไม่ต้องไปเสิร์ชหาแต่อย่างใด
- ไลฟ์สไตล์
จากฟีเจอร์ค้นหา ศูนย์บริการ โรงพยาบาล และหน่วยงานต่างประเทศ จะเห็นเลยว่า ตัวแอพฯ ได้ใส่ “Hyperlink” หรือการแนบลิงค์ไปยังข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้แม่นยำพอควร ดังนั้นตัวแอพฯ เลยได้ใส่แนบลิงค์อื่น ๆ ที่นอกเหนือจากบริการด้านประกันภัยมาให้ด้วย ก็มีทั้งเว็บโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ยิดฮิต และรายชื่อสถานที่ต่าง ๆ อีกเพียบ ทั้งหมดก็เพื่อช่วยประหยัดเวลาเสิร์ชหาข้อมูลนั้นเอง แปลก ๆ ดีเหมือนกันครับ
- เช็คบริการประกันที่ใช้
สุดท้ายนี้ก็เป็นพวกฟีเจอร์ ช่วยเช็ครายละเอียดบริการประกันภัยจาก เอ็ม เอส ไอ จี ทั้งหมด โดยมีตั้งแต่ การต่ออายุกรมธรรม์ การชำระเงิน และการเขียนแบบฟอร์มแจ้งเคลมออนไลน์ ซึ่งก็ช่วยบริหารแพ็กเกจประกันภัยของเราได้สะดวกขึ้น ไม่ต้องโทรหาเจ้าหน้าที่บ่อย ๆ นั้นเอง
สรุป
คงบอกได้ว่า ตัวแอพฯ ใช้ระบบ GPS บนสมาร์ทโฟนได้คุ้มค่าทีเดียว ไม่เพียงใช้บอกตำแหน่งของเราเท่านั้น แต่ยังใช้ค้นหาสถานที่รอบ ๆ ตัวได้ด้วย ซึ่งก็ทำออกมาได้ดี ด้วยการออกแบบตัวแอพฯ ให้ใช้งานง่าย สามารถจบขั้นตอนได้ไว หรือเรียกได้ว่า “ภายในปุ่มเดียว” หน้าตา UI ก็สวยงามสบายตา (ไม่ดูโบราณเหมือนแอพฯ หน่วยงานที่คุ้นเคยกัน) ดูทันสมัยกว่าที่คิด
ส่วนแอพฯ คืออะไรนั้น ให้พูดโดยรวมเลยคือ “เครื่องมือช่วยลดขั้นตอนการติดต่อ” ชั้นยอด ยามเราประสบเหตุที่ไม่คาดผัน แล้วต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แอพฯ นี้ก็จะช่วยประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาหาเบอร์ติดต่อ หรือบอกรายละเอียดอะไรมาก ซึ่งผู้ประสานงานก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นทาง เอ็ม เอส ไอ จี นั้นเอง ซึ่งถ้าใครสมัครประกันภัยเอาไว้ด้วย ก็ยิ่งได้รับประโยชน์จากแอพฯ เต็มที่ แต่ถ้าไม่ได้เป็นลูกค้า ก็ยังเรียกใช้งานฟีเจอร์อื่น ๆ ได้อยู่ อย่างฟีเจอร์ช่วยค้นหาศูนย์บริการหรือโรงพยาบาล ที่นับว่ามีประโยชน์ไม่น้อยอยู่เหมือนกัน
ข้อดี
- หน้าตาแอพฯ สวยงามทันสมัยมาก
- ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยากเท่าที่ควร
- ฟีเจอร์ของแอพฯ ช่วยตอบโจทย์กับใครหลาย ๆ คน
- ลดความยุ่งยาก เวลาต้องการติดต่อหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือได้จริง
ข้อสังเกตุ
- หากอยากใช้งานตัวแอพฯ ได้เต็มประสิทธิภาพ ต้องสมัครประกันภัยของ เอ็ม เอส ไอ จี ก่อน
ติดตามละเอียดได้ที่ http://www.msig-thai.com/th/msigspeedi หรือดาวน์โหลดแอพฯ SpeeDi ได้ทาง