[ท้าท้ายโลก] เทคโนโลยี 3D Print นั้น ปัจจุบันถูกใช้ทั้งการสร้างชิ้นส่วนเครื่องบิน หรือกระทั่งใช้สร้างบ้านก็มีมาแล้ว อนาคตของวงการนี้ยังไงก็ไปได้ไกล แต่ไม่นึกว่าจะไปไกลระดับนอกโลก
Relativity Space สตาร์ทอัพสุดทะเยอทะยานจากแคลิฟอร์เนีย เผยได้รับใบอนุญาตจาก FAA องค์การบริหารการบินแห่งชาติในสหรัฐฯ ให้ส่งตัว Terran 1 จรวดที่ทำจาก 3D Print หรือการพิมพ์ 3 มิติ พร้อมกับภารกิจ GLHF (ย่อมาจาก Good Luck, Have Fun) ซึ่งเตรียมขึ้นบินในวันที่ 8 มีนาคม 2023 ที่เมือง Cape Canaveral รัฐฟลอริดา
ตัวจรวดได้รับการออกแบบให้บรรทุกน้ำหนักบรรทุกได้มากถึง 2,756 ปอนด์ อย่างไรก็ตามในการบินครั้งจะยังไม่มีการบรรทุกอะไรขึ้นไป และนับเป็นวัตถุอะลูมิเนียมจากงานพิมพ์ 3 มิติขนาดใหญ่ โดยมีความสูงถึง 33 เมตร กว้าง 2.2 เมตร และหนักประมาณ 9 ตัน อนึ่งส่วนที่เป็นงานพิมพ์ 3 มิติทั้งหมดนั้น จะอยู่ที่ 85% แต่ทาง Relativity Space เผยจะไปให้ถึง 95% ในอนาคต
ด้านพลังขับเคลื่อนนั้น ก็จะใช้ทั้งออกซิเจนเหลวและก๊าซธรรมชาติเหลวเป็นเชื้อเพลิงให้กับจรวด ซึ่งจะขึ้นบินแบบ Two-stage โดยใน Stage แรก จะใช้มีการใช้เครื่องยนต์ Aeon ทั้งหมด 9 เครื่อง และ Stage ที่สอง จะใช้เครื่องยนต์ Aeon Vac อีกหนึ่งเครื่อง
นอกจาก Terran 1 แล้ว ทาง Relativity Space ก็ยังมีจรวดที่ทำมาจากงานพิมพ์ 3 มิติเช่นเดียวกันอย่าง Terran R ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าพอควร และสามารถนำมาใช้ซ้ำได้ (เช่นเดียวกับจรวด Falcon ของ SpaceX) ซึ่งเคยเปิดตัวในปี 2020 มาแล้ว ปัจจุบันยังอยู่ในช่วงพัฒนา อนึ่งหากสำเร็จทั้งคู่ ก็จะเป็นการช่วยลดต้นทุนภารกิจด้านอวกาศไปได้พอควร และยังประหยัดเวลามากขึ้นด้วย โดยทั้ง Terran 1 และ Terran R ก็ใช้เวลาประมาณ 60 วันในการผลิตเท่านั้น
ที่มา : Techspot