เรื่องเล็กๆ หลายครั้งก็ทำให้เราพลาดได้อยู่เหมือนกัน เหมือนอย่างกรณีของคุณเอกสิทธิ์ผู้เขียนการ์ตูน ICE-T.com ซึ่งตีพิมพ์ในทุกฉบับปักษ์หลังของคอมพิวเตอร์.ทูเดย์ คุณเอกสิทธิ์โทรมาปรึกษานายเกาเหลาในเช้าวันเสาร์ที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝน
คุณเอกสิทธิ์เล่าให้ฟังว่าพีซีที่บ้านพักนี้รู้สึกว่าทำงานช้ามากๆ ซึ่งคุณเอกสิทธิ์ก็คิดว่าปัญหาคงมาจากการที่ในฮาร์ดดิสก์มีไฟล์เก็บอยู่มากจนเกินไป เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงตัดสินใจ Zip ไฟล์ทั้งหมดให้เล็กลง แล้วก็ลบไฟล์ต้นฉบับทิ้ง
นายเกาเหลาฟังแล้วก็เห็นด้วยในฐานะผู้ฟังที่ดี แต่มาสะดุดใจกับประโยคต่อมาว่า “แต่หลังจากนั้นผมก็มาลองเปิดไฟล์ที่ Zip บีบเอาไว้ ปรากฏว่าไฟล์มัน Error แล้วพอไปดูที่ Recycle Bin เพื่อจะไปเอาไฟล์กลับมา ก็มีไฟล์ไม่ครบอยู่ดี ตอนนี้มืดแปดด้านไม่รู้จะเริ่มต้นทำอะไรต่อดี เพราะไฟล์ที่หายไปนั้นเป็นไฟล์งานที่สำคัญทั้งนั้นเลย”
งานนี้ต้องบอกว่าคุณเอกสิทธิ์นี่โชคร้ายเอามากๆ เพราะนายเกาเหลาเข้าใจว่า ต้นเหตุน่าจะมาจากขนาดของไฟล์โดยรวมทั้งหมดนั้นมีขนาดใหญ่กว่าถังขยะ Recycle Bin จึงทำให้ส่วนเกินเหล่านั้นถูกลบออกไปเลยทันที เพื่อนๆ สามารถลองเข้าไปเช็กดูว่า Recycle Bin ของเรานั้นมีขนาดเท่าไร ก็ทำได้โดยคลิกขวาที่ Recycle Bin -> Properties ดูขนาดพื้นที่ในช่อง Maximum size (MB) ตัวเลขที่เห็นนี่แหละคือพื้นที่เก็บไฟล์ที่เราลบ
ปัญหานี้การแก้ไขขอแนะนำให้ใช้โปรแกรมกู้ไฟล์ต่างๆ เข้ามาช่วย อาทิ PC Inspector (โหลดได้จาก www.comtodayMag.com) แต่เนื่องจากไฟล์มันมีขนาดใหญ่มาก การกู้ไฟล์ก็อาจได้มาไม่ครบ แต่ที่แน่ๆ ก็คงดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ประสบการณ์เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า หลังจากที่ Zip ไฟล์แล้ว ก่อนที่จะลบไฟล์ต้นฉบับ ก็อย่าลืมเช็กก่อนว่าไฟล์ที่ Zip นั้นสามารถเปิดใช้งานได้จริง
นายเกาเหลาแถมให้นิดหนึ่งสำหรับการใช้ PC Inspector เพื่อการกู้ไฟล์คือ หลังจากที่ติดตั้งโปรแกรมแล้วก็ให้เปิดโปรแกรมขึ้นมา
1. ในหน้าจอแรกจะถามว่าต้องการใช้ภาษาอะไร อันนี้ให้เลือกเป็น English คลิกที่เครื่องหมายถูก
2. จากนั้นก็คลิกเลือกปุ่ม Scan (ปุ่มบนสุด) รอสักครู่โปรแกรมจะเช็กว่ามีไดรฟ์อะไรบ้าง ให้คลิกเลือกไดรฟ์ที่จะค้นหาไฟล์ที่ถูกลบ เช่น E: คลิกที่เครื่องหมายถูก
3. รอจนโปรแกรมค้นเสร็จก็มีรายชื่อของไฟล์ที่สามารถกู้ขึ้นมา อยากกู้ไฟล์ไหนก็คลิกปุ่ม Save จากนั้นก็กำหนดว่าจะกู้ไฟล์ไปเก็บไว้ที่ไหน