Intel เปิดตัวโซลูชันใหม่ที่เรียกว่า RealSense ID เทคโนโลยีที่รวมเอาเซ็นเซอร์และ AI มาไว้ด้วยกัน เพื่อตรวจสอบใบหน้า ซึ่งทำงานคล้ายกับ Face ID
RealSense ID จะใช้เลนส์กล้องสองตัวและเซ็นเซอร์พิเศษที่สามารถจับความลึกได้ เมื่อรวมกับโครงข่ายประสาทเทียมขั้นสูง จะสามารถตรวจจับและแยกแยะใบหน้าของบุคคลได้ ใช้ตรวจสอบสิทธิ์สำหรับเข้าใช้งานอุปกรณ์อัจฉริยะ
Intel ระบุว่าขั้นตอนการตั้งค่านั้นออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ไม่จำเป็นต้องตั้งค่าเครือข่าย ผู้ใช้จะสามารถปลดล็อกสิ่งที่สำคัญสำหรับตนได้อย่างรวดเร็ว แต่เป็นโซลูชันที่มีความแม่นยำสูงซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในการป้อนข้อมูล ซึ่งยังต้องอาศัยชิปความปลอดภัยสำหรับจัดเก็บข้อมูลและเข้ารหัสผู้ใช้เช่นเดียวกับที่ Secure Enclave ทำบน iPhone และ iPad
ข้อดีของ RealSense ID คือสามารถรวมเข้ากับระบบล็อคอัจฉริยะ เช่นควบคุมการเข้าถึงระบบ ณ จุดขาย ตู้เอทีเอ็ม และอุปกรณ์อื่น โดย Intel ได้สร้างระบบป้องกันการปลอมแปลง ความพยายามปลดล็อกอุปกรณ์ด้วยรูปภาพ วิดีโอ หรือขณะใส่มาสก์
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ Face ID เปิดตัวกับ iPhone X ในปี 2560 ยังไม่เห็นคู่แข่งที่พัฒนาเทคโนโลยีคล้ายกัน อาจเป็นเพราะเซ็นเซอร์ Face ID มีราคาแพง และต้องใช้พื้นที่มากพอสมควร ขณะที่สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ ส่วนใหญ่ที่ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าในปัจจุบัน จะประมวลผลภาพในแบบ 2 มิติ เท่านั้น
เป็นเรื่องน่าสนใจว่า RealSense ID ของ Intel จะนำระบบจดจำใบหน้าระดับ Face ID ไปใช้กับอุปกรณ์อื่น ๆ หรือไม่ ในขณะเดียวกันก็มีข่าวลือว่า Apple จะเพิ่ม Touch ID กลับใน iPhone รุ่นอนาคต เนื่องจากผู้ใช้บางรายดูเหมือนจะชอบวิธีสแกนนิ้วมากกว่า
#TechhubUpdate
