เมื่อสองบุคคลสำคัญของโลกพูดถึง AI ด้าน วลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวว่า “ประเทศไหนเป็นผู้นำด้าน AI จะได้เป็นผู้นำโลก” ส่วนด้าน อีลอน มัสก์ นักธุรกิจหรือหนึ่งในผู้นำด้านไอทีบอก “AI จะทำให้เกิด WW3”
ประเด็นร้อน ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งมีกระแสเกี่ยวกับ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ หลังสองผู้นำด้านไอทีของโลกอย่าง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กับ อีลอน มัสก์ ออกมาโต้เถียงเรื่องนี้อย่างดุเดือด จนเป็นที่ขบคิดกันพักใหญ่ แต่เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา เหมือนกระแสนี้จะกลับมาอีกครั้ง เมื่อทาง วลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้ออกมากล่าวในงานปฐมนิเทศแก่นักศึกษาแห่งหนึ่งที่ว่า
“Artificial intelligence is the future, not only for Russia, but for all humankind. It comes with colossal opportunities, but also threats that are difficult to predict. Whoever becomes the leader in this sphere will become the ruler of the world,”
AI คืออนาคต ไม่ใช่เฉพาะรัสเซีย แต่เป็นอนาคตสำหรับมนุษย์ชาติทุกคน มันมาพร้อมโอกาสที่ใหญ่ยิ่ง ทั้งยัง มีภัยคุกคาม ยากที่จะคาดเดาด้วย ฉะนั้น หากประเทศไหนเป็นผู้นำในด้านนี้ จะได้เป็นผู้นำโลก !!
กลายเป็นปูติน มีความเห็นเกี่ยวกับ AI คล้าย ๆ ทั้ง อีลอน มัสก์ ที่มองว่า “AI อันตราย” กับ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ที่มองว่า “มันคือโอกาส” หากมองการพัฒนา AI ในปัจจุบัน ก็จะเห็นได้ว่า มีหลายบริษัทได้นำเทคโนโลยีนี้ มาช่วยเพิ่มศักยภาพแก่ตนเองมากมายทีเดียว (จนมีพนักงานบางตำแหน่งตกงานด้วย) ส่วนด้านการทหาร ก็มีมาตั้งแต่ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 หรือ WW1 แล้ว ที่เคยนำ “โดรน” มาช่วยรบนั้นเอง ปัจจุบันก็ได้พัฒนาให้มีความฉลาดขึ้น ไม่ต้องคอยสั่งการมากมายเหมือนเก่า
China, Russia, soon all countries w strong computer science. Competition for AI superiority at national level most likely cause of WW3 imo.
— Elon Musk (@elonmusk) September 4, 2017
ทั้งนี้ อีลอน มัสก์ ก็ได้ออกมาตอบโต้ความเห็นของปูตินเหมือนกัน โดยกล่าวว่า “ในอนาคตที่จะถึงนี้ จีนและรัสเซีย จะกลายเป็นประเทศที่มีความแข็งแกร่งด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ และมีการแข่งขันพัฒนา AI ในระดับนานาชาติ แต่ในความเห็นของผม นี้น่าจะเป็นสาเหตุของ WW3 นะ”
ไม่นานมานี้ก็มีรายงานว่า รัฐบาลจีนได้ทุ่มงบมหาศาล ให้จีนได้เป็นศูนย์กลางด้าน AI กันเลย รวมถึงบริษัทเอกชนชื่อดังในจีนอย่าง Tencent, Baidu และ Alibaba ก็ลุยพัฒนาระบบนี้ด้วยเหมือนกัน เรียกได้ว่าอนาคตของ AI อาจจะมาถึงเร็วกว่าที่คิดก็เป็นได้ ส่วนใครจะได้เป็นผู้นำด้านนี้ ก็รอลุ้นกันครับ
ที่มา : Techspot