ครั้งแรกในเมืองไทย กับการเปิดตัว “Huawei Mate 8” สมาร์ทโฟน Android ที่โดดเด่นด้วยจอแสดงผลขนาด 6 นิ้ว พร้อมการออกแบบระดับพรีเมียม ใช้ชิปประมวลผลที่ช่วยให้การใช้งานที่รวดเร็ว พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการ Android Marshmallow 6.0 และยังตอบสนองการทำงานที่ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh
สเปค Huawei Mate 8 มีดังนี้ครับ
– ตัวเครื่องบาง 7.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 185 กรัม
– หน้าจอ LCD ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920 x 1080 พิกเซล) 368ppi
– ซีพียู Huawei Kirin 950 (64-bit,16nm FinFET+), Octa-core (4 x 2.3 GHz A72+ 4 x 1.8 GHz A53) + i5 co-processor
– รัน Android Marshmallow 6.0 ครอบทับด้วยอินเทอร์เฟซ EMUI 4.0
– แรม 4GB, พื้นที่เก็บข้อมูลในตัวเครื่อง 64GB
– ใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด ประเภท NANO SIM
– กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด 2.0, ระบบป้องกันการสั่นไหว OIS (Optical Image Stabilization), เซ็นเซอร์แบบ BSI CMOS, แฟลชแบบ Dual Tone, ระบบออโต้โฟกัสแบบ PDAF+CAF Auto Focus, ซูมแบบดิจิตัล 4 เท่า, ขนาดภาพสูงสุด 4608 x 3456 พิกเซล, บันทึกวีดีโอความละเอียด 1080p 60 เฟรมต่อวินาที, บันทึกวีดีโอ Slo-Motion ความละเอียด 720P 120 เฟรมต่อวินาที
– กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, รูรับแสงขนาด 2.4, ขนาดภาพสูงสุด 3264 x 2448 พิกเซล, บันทึกวีดีโอความละเอียด 1080p 30 เฟรมต่อวินาที
– แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh
Huawei Mate 8 ที่ CK ลองจับภายในงานเปิดตัวในไทยวันนี้ (28 มกราคม 2559) เป็นรุ่น Premium Version ใช้อะลูมิเนียมเป็นส่วนประกอบหลักแทบทั้งหมด เสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดูถึงความพรีเมียม มีความน่าจับ เห็นแล้วยังอยากได้มาใช้สักเครื่อง อิอิ ^^
ลักษณะภายนอกเปลี่ยนไปจาก Huawei Ascend Mate 7 พอสมควร โดย Huawei Mate 8 มีการปรับตำแหน่งกล้องหน้า, เซนเซอร์, กล้องหลัง, สแกนลายนิ้วมือ และตำแหน่งลำโพง อย่างไรก็ตามด้วยหน้าจอขนาดถึง 6 นิ้ว เป็นอะไรที่ไม่ถนัดนักที่จะหยิบจับหรือใช้ด้วยมือเดียว
ภายในงานเปิดตัว ทางผู้บริหารให้ข้อมูลว่า Huawei Mate 8 ให้ความสว่างและความคมชัดของสีที่ถูกต้องถึง 95% ขอบหน้าจอกับขอบตัวเครื่องห่างกันเพียง 1.7 มิลลิเมตร ส่วนความสูงนั้นมีขนาดเท่าสมาร์ทโฟน 5.5 นิ้ว ซึ่งหัวเว่ยใช้เทคนิคเพิ่มพื้นที่ของหน้าจอออกทางด้านข้างนั่นเอง
สำหรับซีพียูเป็นรุ่นใหม่ Huawei Kirin 950 ที่ให้ประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นกว่ารุ่นเดิมถึง 100% พร้อมจีพียูหรือหน่วยประมวลกราฟิกที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 125% ขณะเดียวกันตัวเครื่องยังมีวัสดุระบายความร้อน 6 ชั้น รองรับการระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ
ส่วนสำคัญอย่างแบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh ใช้งานได้นานสูงสุดเฉลี่ยถึง 2.36 วัน สูงกว่า Huawei Ascend Mate 7 และ iPhone 6s Plus ใช้ดูวีดีโอ HD นานถึง 17 ชั่วโมง, เปิดเบราวเซอร์ผ่าน 4G นานถึง 20 ชั่วโมง, โทรด้วย 3G นานถึง 28 ชั่วโมง และฟังเพลงได้นานถึง 98 ชั่วโมง
ด้านการใช้งานในทางธุรกิจ มีการใช้เทคโนโลยี Handsfree 3.0 ที่ช่วยกระจายเสียได้ 120 องศา, สามารถบันทึกเสียงที่ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย 3-Microphone Applications และฟีเจอร์ Document Readjustment ที่สามารถจับภาพพรีเซนเตชั่นได้
ขณะที่ฟีเจอร์เด่นที่โชว์ในงานเปิดตัว เรียกว่า “Knuckle” เป็นการใช้ข้อนิ้วมือสำหรับตัดภาพบางส่วน โดยสามารถตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยม หรือรูปทรงอื่นๆ ได้ใช้ข้อนิ้วมือเคาะหน้าจอ 2 ครั้ง เพื่อแคปเจอร์หน้าจอ หรือใช้ข้อนิ้วมือวาดเป็นตัวอักษรย่อภาษาอังกฤษเพื่อเรียกใช้งานแอปได้ เช่น วาดเป็นรูปตัว “C” เพื่อเปิดกล้อง, วาดรูปตัว “M” เพื่อเป็นแอปฟังเพลง เป็นต้น
Huawei Mate 8 จะวางขายในไทยรุ่นเดียว คือรุ่น Premium Version ในราคา 23,990 บาท
นอกจาก Huawei Mate 8 แล้ว ช่วงท้ายยังมีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่น นั่นคือ Huawei GR5 ที่มาพร้อมสเปคดังนี้
– หน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD 403ppi
– ตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมทั้งหมด
– ใช้ซีพียู Octa-Core แบบ 64-bit
– กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์ BSI
– กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
– กล้องถ่ายภาพรองรับโหมด Slow motion, Good food mode, และ Perfect Selfie
– แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh
– รองรับฟีเจอร์ Fingerprint Sense 2.0