เมื่อเร็วๆ นี้ ASUS จัดงานพรีวิว ZenFone 3 Max รอบสื่อมวลชน เป็นการทดสอบประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ที่ทาง ASUS เคลมว่าสามารถอยู่ได้นานสูงสุดถึง 38 วัน ภายใต้โหมดสแตนด์บาย
ZenFone 3 Max รุ่นที่วางขายในไทยจะมีด้วยสองแบบ แบบแรกมีหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ส่วนแบบที่สองมีขนาดหน้าจอ 5.2 นิ้ว งานออกแบบตัวเครื่องใช้กระจกด้านหน้าและโลหะที่ด้านหลังตามสมัยนิยม มุมทั้งสี่ด้านมีโค้งมน มีน้ำหนักเบา หยิบจับได้ง่าย สบายมือ
จุดเด่นของ ZenFone 3 Max มาพร้อมแบตเตอรี่ 4100 mAh ซึ่งลดลงจาก ZenFone Max รุ่นก่อนหน้า ที่ใช้แบตเตอรี่ถึง 5000 mAh แม้แบตจะลดลง แต่ประสิทธิภาพไม่ได้ลดลงตาม โดย ASUS เคลมว่าผลจากทดสอบแบตเตอรี่ 4100mAh สามารถอยู่ได้นานถึง 38 วันในโหมดสแตนด์บาย, ใช้ 3G ต่อเนื่องในการเข้าบราวเซอร์ได้นานถึง 19 ชั่วโมง โทรได้ต่อเนื่องนาน 17 ชั่วโมง และสามารถฟังเพลงต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 72 ชั่วโมง นอกจากนี้ ZenFone 3 Max ยังสามารถใช้เป็นพาวเวอร์แบงค์หรือแบตเตอรี่สำรองไว้ชาร์จกับสมาร์ทโฟน Android หรือ iPhone ได้อีกด้วย
อีกหนึ่งการใช้งานยอดนิยมอย่างกล้องถ่ายภาพ ZenFone 3 Max มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มากับเทคโนโลยี PixelMaster มีโหมด Super Resolution ที่ช่วยปรับความละเอียดภาพได้สูงสุดถึง 64 ล้านพิกเซล มีระบบกันสั่น EIS ให้ในตัว มีระบบ Low Light หรือการถ่ายภาพในที่แสงน้อย และเมนูการใช้งานกล้องถ่ายภาพยังมีให้เลือกมีเยอะพอสมควร ขณะที่กล้องหน้ามากับความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีโหมดให้เลือกพอสมควรเพื่อใช้งานได้ตามความชอบเช่นกัน
ในด้านสเปคอื่นๆ ชิปประมวลผลใน ZenFone 3 Max เป็น Qualcomm Snapdragon 430 Octa-Core ความเร็ว 1.4 GHz, แรม 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB รองรับ microSD card ได้สูงสุด 128GB รันระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow พร้อม ZenUI 3.0 มีสแกนลายนิ้วมือ ราคาในรุ่น 5.5นิ้ว อยู่ที่ 7,990 บาท และ 5.2นิ้ว ราคา 5,990 บาท
