ก่อนจะเข้าเนื้อหาการรีวิว ขออธิบายคร่าว ๆ กับเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้ก่อนละกัน Philips Hue Lightstrip Plus เป็นหลอดไฟ LED อัจฉริยะ ที่สามารถสั่งเปิด – ปิด หรือเปลี่ยนสีของไฟ ผ่าน Mobile Appได้ เรียกได้ว่าเปลี่ยนห้องธรรมดา ๆ ให้กลายเป็น Smart Room ได้ในพริบตา
เนื้อหาของการรีวิว
1.หน้าตาของ Philips Hue Lightstrip Plus 2.การติดตั้งและการเชื่อมต่อ 3.รูปแบบการการใช้งาน 4.การเชื่อมต่อกับ Apple Homekit และการสั่งงานผ่าน Siri 5.ราคาและรูปแบบการจัดจำหน่าย ว่าแล้วก็มาแล้วเริ่มกันเลย
1.รูปร่างหน้าตาของเจ้า Philips Hue Lightstrip Plus
โดยขนาดที่ได้มาทดสอบนี้มีความยาว 2 เมตร มาพร้อมกับ Adaptor สายสำหรับต่อไปเลี้ยง และหัวปลั๊กสำหรับเปลี่ยนแบบ Universal
2.การติดตั้งและการเชื่อมต่อ
ในการติดตั้งเพื่อใช้งาน สิ่งสำคัญที่ต้องมีคู่กันคือ Philips hue bridge โดยจะเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างหลอด Lightstrip กับมือถือของเรา (ถ้าไม่มีเจ้าตัวนี้ ก็สามารถเสียบไฟและใช้งานได้แค่หลอดไฟธรรมดา)
และเมื่อแกะออกจากกล่อง จะมีสาย Adaptor สำหรับต่อไฟและสายแลน ให้เรานำไปติดตั้งโดยเอาสายแลนเสียบเข้ากับราวเตอร์ในวงแลนเดียวกันกับมือถือ (มือถือเราใช้ Wifi จากราวเตอร์อันไหนก็เสียบอันนั้นเลย) จากนั้นรอจนไฟสีฟ้าติดครบทั้งสามดวงเป็นอันเสร็จ
2.1 การเชื่อมต่อผ่านแอปของ Philips Hue (เรียงจากซ้ายมาขวา) ขั้นแรกคือไปดาวโหลดแอป Philips Hue มีจากทั้ง App Store และ Play Store (ในนี้ผมขอใช้ Iphone ในการรีวิวนะครับ) โดยเมื่อเปิดแอปขึ้น ตัวแอปจะค้นหา Philips hue bridge และให้เราทำตามขั้นเพื่อเชื่อมต่อมือถือกับตัว Bridge
หลังจาก Set up เสร็จ แอพจะทำการค้นหาอุปกรณ์ภายในบ้านเรา หากมีมากกว่าหนึ่งก็จะขึ้นให้เรากดตกลงว่าจะเชื่อมต่อไหม ในทีีนี้ผมมีหลอดไฟอยู่ชนิดเดียวคือหลอดแบบสาย ก็จะทำการเชื่อมต่อโดยใช้ Code ที่แปะอยู่หลัง Adaptor เพื่อเชื่อมต่อกับหลอดไฟ เมื่อใส่ Code เสร็จ ระบบจะเชื่อมต่อและพร้อมใช้งานตามภาพ
หมายเหตุ : หลอดของ Philips Hue มี 3 แบบด้วยกัน คือหลอดแบบโคมไฟ หลอด LED คล้าย ๆ หลอดตะเกียบ และแบบสาย หรือ Lightstrip)
3.รูปแบบการใช้งาน
เมื่อกดเข้ามาในปุ่ม New Scene มุ่มซ้ายบน ในนี้เราสามารถปรับความสว่าง ปรับสีของแสง และเลือกตีมของแสงไฟได้ โดยจะมีให้เลือกมากกว่า 10 ตีม และเฉดสีมากกว่า 16 ล้านสี แค่นี้ก็เพลิดเพลินกับการตกแต่งห้องไปอีกแบบแล้ววว…
4.การเชื่อมต่อผ่าน Apple Homekit และ สั่งงานผ่าน Siri ด้วยคำสั่งเสียง
อันนี้นับเป็นไฮไลท์ของหลอดไฟอันนี้เลยก็ว่า่ได้ครับ ซึ่งมันทำให้ผมชอบมาก เพราะมันทำให้เราดูหล่อขึ้นมาทันที
ตามภาพด่านล่าง เมื่อเข้ามาในแอพ Home สามารถทำการเชื่อมต่อได้ง่าย ๆ เพราะแอพจะทำการค้นหาและให้เราแค่กดเชื่อมต่อแค่นั้น นอกจากนี้ยังสามารถเซ็ต Scenes ที่ใช้งานบ่อยได้ โดยในภาพ หากสั่งงาน Siri ว่า “อรุณสวัสดิ์” ไฟจะค่อย ๆ สว่างขึ้น และหากจะเข้านอน ก็สั่งว่า “Siri ฝันดี” หลอดไฟก็จะค่อย ๆ ดับลง
หรือจะสั่งเปลี่ยนสีของหลอดไฟก็ทำได้ไม่ยาก
หรือจะเป็นสีเขียวและสีอื่น ๆ
และถ้าใครคิดว่า 2 เมตร มันอาจจะยาวเกินไป ก็สามารถตัดออกได้นะ แต่ข้อสังเกตุคือ ส่วนที่จัดออกจะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป โดยในสายจะมีสัญลักษณ์สำหรับให้ใช้กรรไกรตัด ทำให้เราต้องวัดระยะกันดี ๆ เลยก่อนจะตัดมัน
ไอเดียในการนำไปติดตั้ง
5.ราคาและการจัดจำหน่าย
Philips HUE Bridge (Bridge 1 ตัว) ราคา 1,990 บาท
Philips HUE Lightstrip Plus (หลอดไฟ LED แบบเส้นยาว 2 ม.) ราคา 3,190 บาท
โดยทั้งสองตัว มีขายในร้านค้าชั้นนำทั่วไป และในเว็บไซต์ต่าง ๆ เพียงแค่เซิตใน กูเกิล