หลังจาก 8 เมษายนที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์หยุดการปล่อยแพตช์หรือชุดซอฟต์แวร์อัพเดต Windows XP อย่างเป็นทางการ ซึ่งก่อนหน้านั้นไมโครซอฟท์พยายามชี้แจงให้ผู้บริโภคเห็นถึงความเสี่ยงหากไม่เปลี่ยนมาใช้ Windows 7, Windows 8 หรือ Windows 8.1
การหยุดสนับสนุน Windows XP ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะช่วยส่งเสริมยอดขายคอมพิวเตอร์พีซีให้กระเตื้องขึ้นมาบ้าง หลังต้องตกอยู่ในสภาวะซบเซาอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ซึ่งการสรุปตัวเลขยอดจัดส่งคอมพิวเตอร์พีซีทั่วโลกในไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2014 จาก IDC ปรากฎว่าการจัดส่งคอมพิวเตอร์พีซีอยู่ที่ 73.4 ล้านหน่วย ลดลงจากปี 2013 มีการยอดการจัดส่งทั่วโลกอยู่ที่ 76.7 ล้านหน่วย และการเติบโตยังติดลบอยู่ที่ -4.4%
ขณะที่ Gartner ได้สรุปตัวเลขการจัดส่งคอมพิวเตอร์พีซีทั่วโลกในไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2014 ออกมาในทิศทางเดียวกับ IDC ซึ่งยอดจัดส่งอยู่ที่ 76.5 ล้านหน่วย ลดลงจากปี 2013 ที่มียอดการจัดส่งอยู่ที่ 77.9 ล้านหน่วย และการเติบโตติดลบอยู่ที่ -1.7% ทั้งนี้ IDC และ Gartner ยังมองในแง่ดีจากอัตราการเติบโตที่ติดลบในไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2014 ยังน้อยกว่าที่ประเมินไว้ในช่วงแรก
ซึ่งยอดขายของคอมพิวเตอร์พีซีทั่วโลกยังไม่กระเตื้องขึ้นเท่าที่ควร น่าจะเป็นผลพวงมาจากพฤติกรรรมของผู้บริโภคที่หันมาใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมากขึ้น และผู้ใช้คอมพิวเตอร์พีซีตามบ้านเรือนที่เป็น Windows XP อยู่เดิม ยังไม่เห็นความสำคัญหรือพบกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้น รวมไปถึงการย้ายจาก Windows XP มาเป็น Windows 7, Windows 8 หรือ Windows 8.1 จะต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับการอัพเกรดฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ตามมา