Home Blog Page 71

สายมุดเตรียมโดน Youtube ปรับกฏเข้ม สแกนคนใช้ VPN สมัครพรีเมี่ยม

Youtube ปรับกฏเข้ม

YouTube กำลังดำเตรียมจัดการกับสมาชิก Premium ที่ใช้ VPN เพื่อสมัครสมาชิกราคาถูกในประเทศอื่น

โดยเรื่องนี้ มีผู้ใช้หลายคนโวยผ่าน Reddit หลังพบว่าแผน Premium ของตนถูกยกเลิกเพราะใช้ VPN สมัครสมาชิกนอกเขตที่กำหนด

ปกติ VPN มักจะถูกใช้ปกป้องความเป็นส่วนตัวและป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ แต่มันก็สามารถซ่อนที่อยู่ IP ของผู้ใช้ได้ และสามารถใช้ระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ได้เช่นกัน

หากถามว่า Youtube รู้ได้ยังไง มันก็มีหลายวิธีแหละนะ เช่น ตรวจสอบความแตกต่างของ IP Address กับตำแหน่ง ซึ่งบ่งบอกตำแหน่งที่แท้จริง หาก IP Address ไม่ตรงกับประเทศที่ระบุไว้ในข้อมูลบัญชี YouTube ก็อาจสงสัยว่ามีการใช้ VPN

นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบผ่าน WebRTC Leak โดยเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้เบราว์เซอร์สื่อสารกันได้โดยตรง ซึ่งบางครั้งอาจเปิดเผย IP Address ที่แท้จริงของผู้ใช้ ฉะนั้น สายมุด อย่าคิดว่าเค้าไม่รู้นะเออ

ที่มา
https://techcrunch.com/2024/06/20/youtube-confirms-crackdown-on-vpn-users-accessing-cheaper-premium-plans/

ซุปเปอร์กรีน ไฟฟ้าจากสาหร่าย ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้

ไฟฟ้าจากสาหร่าย

การแสวงหาแหล่งพลังงานสะอาดเป็นหนึ่งในเป้าหมายของนักวิทยาศาสตร์มาหลายทศวรรษแล้ว บางกลุ่มก็มุ่งมั่นพัฒนาพลังงานฟิวชั่น ในขณะที่บางกลุ่มหันไปหาพลังงานทางเลือกอื่นๆ ที่เป็นกลางทางคาร์บอนมากกว่า ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบแหล่งพลังงานสุดล้ำที่ไม่เพียงแต่ไม่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ยังสามารถดูดซับก๊าซนี้ออกจากชั้นบรรยากาศอีกด้วย

งานวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Energies ที่เผยว่า นักวิจัยสามารถผลิตพลังงานหมุนเวียนจากสาหร่าย โดยอาศัยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงตามธรรมชาติของพืช ที่สามารถสกัดพลังงานจากสาหร่ายได้โดยแขวนลอยสาหร่ายในสารละลายภายในขั้วแอโนดและขั้วแคโทด ซึ่งคั่นด้วยแผ่นเยื่อแลกเปลี่ยนโปรตอนที่มีลักษณะคล้ายรังผึ้ง

กระบวนการทั้งหมดทำงานโดยการดักจับอิเล็กตรอนที่สาหร่ายสร้างขึ้นระหว่างการสังเคราะห์ด้วยแสง และนำมาผลิตกระแสไฟฟ้า ที่น่าทึ่งคือ พลังงานที่ได้นี้ไม่เพียงแต่ไม่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ยังดูดซับก๊าซนี้ออกจากชั้นบรรยากาศอีกด้วย

แม้ในขณะนี้ นักวิจัยยังคงสามารถผลิตแรงดันไฟฟ้าได้เพียง 1.0 โวลต์จากเซลล์พลังงานขนาดเล็กนี้ แต่พวกเขาเชื่อว่า ด้วยการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในอนาคตเราอาจสามารถขยายกำลังผลิตจนสามารถใช้พลังงานจากสาหร่ายนี้เพื่อขับเคลื่อนเมืองทั้งเมืองได้

ข้อดีอีกประการของพลังงานจากสาหร่ายคือ ไม่ก่อให้เกิดก๊าซอันตรายหรือไมโครไฟเบอร์ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการกำจัดของเสีย ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบันครับ หวังว่าจะได้ใช้งานไว ๆ นะ

ที่มา
https://bgr.com/science/scientists-found-a-power-source-with-negative-carbon-emissions/

https://www.mdpi.com/1996-1073/17/7/1749

ทนทานของจริง แผงโซลาร์เซลล์เก่า 31 ปี ยังผลิตไฟฟ้าได้ถึง 79%

[ช่วยยืนยัน] ถือเป็นการยืนยันเลยว่า แผงโซลาร์เซลล์สามารถใช้งานได้นานกว่า 25 ปี และแม้จะผ่านไปถึง 30 ปี ก็ยังไม่เสื่อมสภาพง่าย ๆ เหมือนอย่างกรณีของแผงโซลาร์เซลล์จากปี 1992 แห่งหนึ่งในฝรั่งเศส พบยังผลิตไฟฟ้าแบบดั้งเดิมได้ถึง 79.5%

ตามปกติแล้ว ผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ส่วนใหญ่ จะเครมประสิทธิภาพการทำงานดั้งเดิมที่ 80% ในเวลาสูงสุด 25 ปี และอายุการใช้งานแผงโซลาร์เซลล์โดยประมาณก็ 20 ถึง 40 ปี ทว่าหากรักษาการใช้งานดี ๆ ก็อาจคงสภาพได้เกือบ 80% แม้จะผ่านมากว่า 30 ปีแล้วอย่าง Phébus 1 แผงโซลาร์เซลล์ขนาดเล็กเพียง 1 กิโลวัตต์ จากสมาคมพลังงานหมุนเวียนที่ไม่แสวงหากำไร Hespul ในประเทศฝรั่งเศส

สำหรับตัวแผงโซลาร์เซลล์ Phébus 1 นี้ เผยติดตั้งมาตั้งแต่ปี 1992 แล้ว ทว่าผลการเช็คสภาพเมื่อปีที่แล้ว พบยังคงตัวแผงยังจ่ายไฟได้เฉลี่ยร้อยละ 79.5% แม้จะมีอายุการใช้งานถึง 31 ปีแล้วก็ตาม ทั้งยังมีสภาพลดลงเฉลี่ยเพียง 0.66% ต่อปีเท่านั้น

นอกจากทางฝรั่งเศสแล้ว ก็ยังมีรายงานวิจัยในอเมริกาและแถยยุโรปเพิ่มเติมด้วยว่า การเสื่อมสภาพของแผงโซลาร์เซลล์โดยเฉลี่ยนั้นอยู่ที่ 0.36 ถึง 0.75% ต่อปี นับเป็นการพิสูจน์ได้ว่าแผงโซลาร์เซลล์ สามารถใช้งานได้ยาว ๆ กว่า 2 – 3 ทศวรรษ โดยที่ยังคงประสิทธิภาพได้ดีอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็อาจขึ้นอยู่กับผู้ใช้ด้วยเช่นกัน ว่าจะมีการหมั่นดูแลตัวแผงได้ดีแค่ไหนด้วย

ที่มา : Techspot

ภาพจาก : Reneweconomy

ปรับชุดใหญ่ Start เมนู Windows 11 เน้นใช้ง่ายกว่าเดิม

[ใช้ง่ายขึ้น ? ใช่ไหม…] เขื่อว่าหลาย ๆ คนคงคุ้นชินกับ Start เมนูแบบใหม่ของ Windows 11 แล้ว แต่ขณะเดียวกันยอดผู้ใช้ Windows 10 ยังคงเป็นอันดับ 1 แม้จะมีกำหนดเลิกอัปเดตในปีหน้าแล้วก็ตาม ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะหน้า Start เมนูของ Windows 10 นั้น ยังคล้ายคลึงสมัย Windows 7 ก็เป็นได้

ล่าสุดมีผู้ใช้ X ที่ชื่อ @PhantomOfEarth เผยลองใช้ Windows 11 build 22635.3785 รุ่นทดสอบใหม่ พบหน้า Start สามารถลากไอคอนมาไว้ในแถบ Taskbar ด้านล่างได้โดยตรง ไม่ต้องคลิกเลือกคำสั่ง (ให้เหนื่อย) เหมือนก่อนแล้ว

ทั้งนี้ยังได้ลองใช้หน้า All Apps หรือส่วนที่รวบโปรแกรมหรือแอปฯ ต่าง ๆ ทั้งหมด ก็พบว่ามีการปรับคอลัมน์รายชื่อแอปฯ จากแนวตั้ง ให้กลายเป็นนอนแทน ส่วนที่เป็นโฟลเดอร์รวมแอปฯ กลุ่มเดียวกัน ก็ปรับใหม่ให้ดูได้ในแนวนอนด้วยเหมือนกัน พร้อมมีหน้าแอนิเมชั่นเพิ่มเข้ามาใหม่ด้วย นอกนั้นก็พบการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ อีกหลายอย่าง โดยรวมแล้วจะช่วยผู้ใช้เข้าถึงหน้า Start เมนูกับ Taskbar ได้ง่ายขึ้น

ที่ผ่านมา Windows 11 ถูกวิจารณ์ในส่วนแถบ Taskbar ที่ดูมีความยุ่งยากมาโดยตลอด โดยหากใช้งานครั้งแรก (หรือเพิ่งติดตั้ง Windows ใหม่ ๆ) ก็จะมีทั้งส่วนค้นหา ส่วน Copilot และอีกหลาย ๆ วิดเจ็ตที่ไม่ค่อยจำเป็น มาอัดอยู่ในส่วน Taskbar ทั้งหมด จนผู้ใช้บางราย (เช่นตัวผมเอง) ต้องเอาส่วนเหล่านี้ออกเอง เพื่อความสบายตา

ทั้งนี้ทั้งนั้น ทาง Microsoft ยังไม่ได้เผยรายละเอียดการอัปเดตส่วนนี้ออกมา (คงรอประกาศตอนอัปเดตใหม่อย่างเป็นทางการ) ทว่าก็ผู้ใช้ X ที่เป็นเป็นนักพัฒนาอิสระรายนี้ ได้ออกมาเผยให้ดูก่อน แน่นอนว่าวันอัปเดตใหญ่อย่างเป็นทางการ อาจได้เห็นรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ มากกว่านี้

ที่มา : Techspot

เอชพีเปิดตัว HP Pavilion Aero 13 คอนซูเมอร์แล็ปท็อปบางเบาที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี AI เสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวไปด้วยทุกที่

เอชพี ประเทศไทย เปิดตัวแล็ปท็อปพีซี Pavilion Aero 13 รุ่นใหม่ล่าสุดภายใต้แนวคิด “Lightest to the Freedom” ที่ JustCo Co-Working Space สามย่าน มิตรทาวน์ออฟฟิศ กรุงเทพฯ โดยผลิตภัณฑ์ แล็ปท็อป HP Pavilion Aero 13 รุ่นใหม่นี้่่ มาพร้อมกับขุมพลัง AI ออกแบบมาเพื่อปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน มอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้ ซึ่งผู้เข้าร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์จะได้สัมผัสกับประสบการณ์การใช้งานจริงเพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ AI และร่วมพิสูจน์ความเบาของตัวเครื่องอย่างใกล้ชิด

นายสุธี สุวงศ์วัฒนากุล ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ กลุ่มคอนซูเมอร์ พีซี เอชพี อิงค์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในปัจจุบัน อุปกรณ์พีซีไม่ใช่แค่คอมพิวเตอร์อีกต่อไป แต่เป็นเพื่อนคู่ใจที่สามารถส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ตอบสนองความต้องการส่วนตัวได้ เอชพีนำเสนอโซลูชันที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานให้มีความเฉพาะตัวมากขึ้นกว่าที่เคย โดยอาศัยประสิทธิภาพของ AI ที่จะเข้ามาพลิกโฉมหน้าเทคโนโลยีที่่ขับเคลื่อนเราไปสู่อนาคต ผลิตภัณฑ์ HP Pavilion Aero 13 ใหม่นี้ สามารถตอบสนองความต้องการการใช้งานที่หลากหลายและมอบโซลูชั่นที่ทรงพลัง ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพลินเพลินกับความบันเทิงไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม”

ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจใน HP Pavilion Aero 13

  • โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen™ ที่มาพร้อมกับ NPU เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทำให้ใช้งานแบตเตอร์รี่ได้ยาวนาน รองรับการทำงานแบบมัลติทาสกิ้งด้วยสมรรถนะของ CPU, GPU และ NPU
  • HP Smart Sense มาพร้อมกับประสิทธิภาพของ AI ช่วยปรับการทำงานอัตโนมัติ เช่น ปรับระดับเสียงพัดลม อุณหภูมิ และประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างเหมาะสมตามการใช้งาน
  • ฟีเจอร์ Copilot ใน Windows เพิ่มศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ ด้วยผู้ช่วย AI อัจฉริยะ (AI-powered intelligent assistant) ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นแล็ปท็อปรุ่นแรกของเอชพีที่มี Copilot ผู้ช่วย AI อัจฉริยะ กดสั่งการได้ง่ายแค่เพียงปลายนิ้ว นอกจากนี้ ยังมีผู้ช่วย AI สำหรับการประชุมโดยสามารถทดลองใช้งานฟรี 30 วัน ได้ที่ ai
  • สุดยอดคุณภาพเสียงจาก Poly โดย Poly Studio มาพร้อมกับหน้าจอคุณภาพระดับ 5MP ซึ่งเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นได้อย่างไร้รอยต่อ
  • ได้รับการรับรองจาก ENERGY STAR® และการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามเกณฑ์ EPEAT Climate+ ระดับสูงสุด สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเอชพีในการเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตที่ยั่งยืน โดยการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในการผลิตตัวเครื่อง

ในระหว่างช่วงเสวนา นายเศรษฐพร ก่อวาณิชกุล หรือเบล ศิลปินและเจ้าของแบรนด์ ‘Painterbell’ ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์การทำงานบน AI PC ที่ช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยฟีเจอร์ AI ซึ่งมอบประสบการณ์เฉพาะตัวและรองรับการใช้งานของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ยุคไฮบริดได้อย่างเต็มที่

“HP Pavilion Aero 13 สามารถใช้งานได้หลากหลาย พกพาไปทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยน้ำหนักเบาและการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน ซึ่งมาจากประสิทธิภาพที่ทรงพลังของ AMD และยังมี Copilot ผู้ช่วยสุดล้ำที่ช่วยให้เราทำงานได้อย่างราบรื่นและสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องส่งมอบงานเร่งด่วนหรือต้องการทำงานเมื่อเกิดแรงบันดาลใจไม่ว่าที่ไหนก็ตาม” นายเศรษฐพร ก่อวาณิชกุล กล่าว

HP Pavilion Aero 13 – ตอบโจทย์การใช้งานแบบเฉพาะตัวในทุกการสร้างสรรค์

HP Pavilion Aero 13 ผสมผสานฟีเจอร์ระดับพรีเมียมกับประสิทธิภาพที่ปรับแต่งได้เพื่อการใช้งานที่คุ้มค่าที่สุด ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์หรือเพลิดเพลินกับความบันเทิง แล็ปท็อปพีซี HP Pavilion Aero 13 รุ่นล่าสุดให้ภาพสัดส่วน 16:10 ที่คมชัด และพอร์ตเชื่อมต่อที่หลากหลาย พร้อมอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน

HP Pavilion Aero ขนาด 13.3 นิ้ว รุ่นใหม่ เป็นแล็ปท็อปที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในโลก ที่มาพร้อมกับขุมพลัง AI ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลของแมกนีเซียมและอลูมิเนียมเพื่อความทนทาน ทันสมัย และยั่งยืน มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen™ รุ่นล่าสุด

  • ประสิทธิภาพสูงและพกพาสะดวก: ด้วยน้ำหนักที่น้อยกว่า 1 กก. แล็ปท็อป HP Pavilion Aero 13 พรีเมียมออกแบบมาสำหรับไลฟ์สไตล์ที่ต้องเดินทางตลอดเวลา ด้วยจอความละเอียด 5MP บนโมเดลของ AMD ที่มาพร้อมเทคโนโลยี FreeSync™ รองรับ HP Fast Charge ผ่าน USB-C ทำใหใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง
  • จุดประกายความคิดสร้างสรรค์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกัน: เชื่อมต่อการประชุมออนไลน์ได้อย่างมั่นใจด้วยกล้องความละเอียด 5MP และจอภาพ WQXGA ความละเอียด 2.5k นอกจากนี้ แล็ปท็อป HP Pavilion Aero 13 ยังมีชัตเตอร์กล้องแบบแมนวลและระบบ การจดจำใบหน้า (Windows Hello) ที่ช่วยเพิ่มระดับความปลอดภัยจนกว่าผู้ใช้จะพร้อมนำเสนองานในที่ประชุม

ภายในงาน เอชพียังได้โชว์แล็ปท็อปสำหรับคอนซูเมอร์อีก 2 รุ่น ได้แก่ HP Pavilion Plus 14 และ HP Envy x360 เสริมประสิทธิภาพการทำงานยุคไฮบริด

Pavilion Plus 14 มอบสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ผสมผสานกับประสิทธิภาพการทำงานอัจฉริยะ

แล็ปท็อปพีซี HP Pavilion Plus ขนาด 14 นิ้ว รุ่นล่าสุด ยกระดับประสิทธิภาพการทำงานพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ ด้วยตัวเลือกหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพลิดเพลินไปกับความบันเทิงที่บ้าน การทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ในที่ทำงาน หรือการทำงานระหว่างเดินทาง แล็บท็อป HP Pavilion Plus ออกแบบมาเพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ได้ทุกเมื่อที่เกิดแรงบันดาลใจ

แล็ปท็อป HP Pavilion Plus 14 รุ่นใหม่ล่าสุด ออกแบบมาสำหรับไลฟ์สไตล์ที่ต้องการความคล่องตัว ด้วยน้ำหนักเครื่องที่เริ่มต้นที่ 1.4 กก. ผู้ใช้งานสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานสูงสุดถึง 13 ชั่วโมงในการชมวิดีโอด้วยจอ OLED ที่มีความคมชัดสูงถึง 2.8K รองรับ IMAX ยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงไปอีกขั้น อีกทั้งยังมีตัวเลือกที่ขับเคลื่อนโดยโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen™ 7 7840H สำหรับแล็ปท็อปที่ใช้ AMD และ AMD Ryzen™ จะมาพร้อมกับเทคโนโลยี AI ปลดล็อกการเชื่อมต่อประชุมทางไกลผ่าน Windows Studio Effects และนวัตกรรมอื่นๆที่จะตามมาในอนาคต

แล็ปท็อป HP Envy x360– ปรับเปลี่ยนได้อย่างไร้ขีดจำกัด

แล็ปท็อป Envy x360 ขนาด 13 นิ้ว 2-in-1 ตัวช่วยทำงานที่ปรับเปลี่ยนตามผู้ใช้ได้ทุกสถานการณ์

  • ความยืดหยุ่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์: เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย ผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมที่มีความทนทานสูง มาพร้อม Thunderbolt™ 4 พอร์ต ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์งานได้ยาวนานสูงสุด 17 ชั่วโมง
  • ภาพและเสียงที่คัดสรรมาอย่างเชี่ยวชาญ: สัมผัสความคมชัดและความสบายตาที่เหนือกว่า ด้วยอัตราส่วนหน้าจอ 16:10 พร้อมการพัฒนาคีย์บอร์ดและทัชแพดสำหรับท่องเว็บ แก้ไขงานหรือเล่นเกม โดยตัวเลือกจอ OLED มาพร้อมกับความละเอียด 2.8K ผ่านการรับรองโดยมาตรฐานของ IMAX Enhanced ให้คุณภาพความคมชัดที่เหนือชั้น

ราคาและการวางจำหน่าย

สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้า HP Notebook รุ่น HP Envy X360 , Pavilion Plus ตั้งแต่วันที่ 1-31 ก.ค. 2567 ที่ร้านค้าไอทีชั้นนำที่ร่วมรายการ รับของสมนาคุณสุดพิเศษ ติดตามรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติม

และร้านค้าไอทีชั้นนำ ที่ร่วมรายการได้ที่

Facebook: HP Thailand: www.facebook.com/hpthailand

*เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทกำหนด

HONOR พร้อมชน! ส่ง HONOR 200 Series สมาร์ตโฟนสเปคระดับเรือธง เปิดประสบการณ์การถ่ายภาพระดับตำนานด้วยกล้อง AI ร่วมมือพัฒนากับ Harcourt Studio  เตรียมเปิดราคา 25 มิ.ย.นี้!

ออเนอร์ (HONOR) ผู้ให้บริการอุปกรณ์อัจฉริยะชั้นนำระดับโลก เตรียมเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ HONOR 200 Series ภายใต้คอนเซปต์ “The Ai Portrait Master” สมาร์ตโฟนเรือธงเริ่มต้น สเปคเครื่องจัดเต็ม อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพการใช้งานครอบคลุมครบทุกด้าน โดดเด่นด้วยสุดยอดเทคโนโลยีกล้อง AI ระดับไฮเอนด์ ในราคาคุ้มค่า พร้อมร่วมมือกับ Harcourt Studio สตูดิโอถ่ายภาพบุคคลชั้นนำระดับโลกจากปารีสที่สร้างสรรค์ผลงานมายาวนานกว่า 90 ปี ด้วยการนำศาสตร์การถ่ายภาพของสตูดิโอระดับโลกมาผนวกรวมกับเทคโนโลยีกล้องสมาร์ตโฟนขั้นสูง เพื่อมอบประสบการณ์การถ่ายภาพได้อย่างเหนือชั้นแบบมืออาชีพ ตลอดจนชูจุดขายด้วยกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ผสานนวัตกรรมจอแสดงผล Eye Comfort ที่ช่วยถนอมสายตา ขนาดใหญ่ถึง 6.78 นิ้ว พร้อมแบตเตอรี่ซิลิคอนคาร์บอนความจุ 5200mAh รองรับชาร์จไว 100W ทำให้ใช้งานได้ยาวงานไม่มีสะดุด เหมาะสำหรับสายคอนเทนท์และผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ เตรียมพร้อมเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 25 มิถุนายน 2567 โดยจะเริ่มพรีออเดอร์ พร้อมรับโปรโมชันสุดพิเศษและของแถมมากมาย ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน – 5 กรกฏาคม 2567 เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2567 เป็นต้นไป 

HONOR 200 Series สมาร์ตโฟนดีไซน์พรีเมียมระดับเรือธงเริ่มต้นรุ่นล่าสุดจาก HONOR มาพร้อมประสิทธิภาพการใช้งานที่ทรงพลัง ครอบคลุมในทุกด้าน ชูจุดขายด้วยกล้องถ่ายภาพบุคคลเทคโนโลยี AI สุดคมชัด มาพร้อมเลนส์กล้องหลักถึง 3 ตัว ได้แก่ Portrait Main Camera ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, Telephoto Camera ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และ Ultra-wide+Macro Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่ให้ทุกการถ่ายภาพของทุกคนเหนือระดับกว่าที่เคย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่สายคอนเทนต์และครีเอเตอร์ เพื่อพกพานำไปสร้างสรรค์ผลงานได้ในทุกที่ทุกเวลา พร้อมให้ศักยภาพการใช้งานต่อเนื่องยาวนานด้วยซิลิคอนคาร์บอนความจุ 5200mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จเร็วจ่ายไฟได้สูงสุด 100 วัตต์ และอีกจุดไฮไลต์สำคัญกับหน้าจอแสดงผลขนาด 6.78 นิ้ว ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี HONOR Eye Comfort Display ช่วยถนอมสายตาโดยการปรับเปลี่ยนแสงตามแสงจริงในชีวิตประจำวันขณะใช้งาน ทำให้ผู้ใช้รับชมความบันเทิงและใช้งานได้อย่างสบายตา และเซอร์ไพรส์พิเศษกับการคว้านางงามเนื้อหอมขวัญใจมหาชน “อิงฟ้า วราหะ” เจ้าของตำแหน่งมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2022 นั่งแท่นเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสมาร์ตโฟน HONOR 200 Series พร้อมร่วมถ่ายทำภาพยนตร์โฆษณานำเสนอประสบการณ์การใช้งานที่น่าประทับใจ ตลอดจนโชว์ศักยภาพสุดแกรนด์และเป็นที่หนึ่งของ HONOR 200 Series

ห้ามพลาด! เตรียมสัมผัสประสบการณ์การถ่ายภาพพอร์ตเทรตเหนือชั้น ด้วยกล้อง AI สุดอัจฉริยะ คุณภาพแบบสตูดิโอชั้นนำระดับโลกแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนกับ HONOR 200 Series พร้อมกันในวันอังคารที่ 25 มิถุนายน 2567 ณ ลานกิจกรรม The Gallery ชั้น1 ศูนย์การค้า Emsphere เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป หรือรับชมบรรยากาศการเปิดตัวแบบสด ๆ ได้ทาง Facebook Page และ YouTube HONOR Thailand 

ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.hihonor.com/th หรือติดตามข่าวสารและกิจกรรมได้ที่เฟซบุ๊ก HONOR Thailand

“เอ้ก ดิจิทัล” เปิดตัว “Customer 720 Dataverse” ช่วยธุรกิจไทยใช้ดาต้าเชิงลึกแบบเหนือชั้น ผสานพลัง Second-Party Data จากพาร์ทเนอร์รีเทลและโทรคมนาคมชั้นนำ ขับเคลื่อนการทำงานด้วย AI พร้อมโชว์ Use Case การนำไปใช้ร่วมกับ AI และ Deep-Tech เพิ่มโอกาสให้ธุรกิจทุกอุตสาหกรรมเติบโต

เอ้ก ดิจิทัล เดินหน้าปลดล็อก เสริมศักยภาพธุรกิจให้กับคู่ค้าด้วยโซลูชันใหม่ล่าสุด “Customer 720 Dataverse ชูจุดแข็งผสานพลัง Second-Party Data ขนาดใหญ่แบบ 360 องศา จากการเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกับธุรกิจรีเทลและโทรคมนาคมชั้นนำที่มีฐานสมาชิกรวมกว่า 80% ของประชากรไทย กับการใช้ข้อมูลธุรกิจรอบด้าน 360 องศาของลูกค้าในแต่ละองค์กร ขับเคลื่อนการทำงานด้วย AI และ Deep-Tech อย่างเหนือชั้น เพื่อความเข้าใจ Pain Points ของทุกอุตสาหกรรมในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มั่นใจโซลูชันใหม่จะช่วยต่อยอดการวางกลยุทธ์ทางการตลาด กำหนดแผนธุรกิจที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เล็งเจาะกลุ่มธุรกิจค้าปลีก การเงินและประกันภัย ยานยนต์ อสังหาริมทรัพย์ และสื่อโฆษณา ตั้งเป้าโซลูชันใหม่จะสามารถดันธุรกิจ Analytics AI and Consultation เติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 27% 

นายวรภัทร งามเจตวรกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Analytics AI and Consultation บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า “ในโลกธุรกิจยุคดิจิทัล การขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven) ถูกใช้เป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ ทำให้การเข้าถึงข้อมูลที่มีศักยภาพและการวิเคราะห์ข้อมูลกลายเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญต่อการแข่งขันอย่างมาก ไม่เพียงเท่านี้ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงและที่ปรึกษาด้านธุรกิจให้กับแบรนด์ชั้นนำของไทยกว่า 300 แบรนด์ บริษัทฯ เล็งเห็นว่า องค์กรธุรกิจยุคใหม่ต้องการเข้าถึงข้อมูลที่ลึกและกว้างยิ่งขึ้น กล่าวคืออยากรู้ข้อมูลตลาดทั้งในอุตสาหกรรมของตัวเอง (Within-Industry) และข้ามอุตสาหกรรม (Cross-Industry) ที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคแบบเจาะลึกในมิติต่าง ๆ รวมถึงต้องการเครื่องมือที่จะมาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง (Advanced Big Data Analytics) เพื่อให้เข้าใจผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น นำไปสู่การส่งมอบประสบการณ์ การพัฒนาสินค้าและบริการ การจัดแคมเปญได้ตรงใจลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น จึงเป็นที่มาของการผนึกความร่วมมือด้านข้อมูลกับบริษัทชั้นนำในธุรกิจรีเทลและโทรคมนาคม เพื่อนำข้อมูลเชิงลึกมาช่วยให้ธุรกิจคู่ค้าเข้าใจอินไซท์ของผู้บริโภคและตลาดแบบ 720 องศา ด้วยโซลูชันใหม่ Customer 720 Dataverse”

ปฏิวัติการใช้ข้อมูลเพื่อยกระดับการทำตลาดไปอีกขั้น ด้วยโซลูชัน “Customer 720 Dataverse”

ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “Singularity Insight: Seeing the Unseen” การมองเห็นอินไซท์แบบเฉพาะเจาะจงและโอกาสทางธุรกิจ เพื่อทำความเข้าใจผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้ง สามารถตอบสนองเทรนด์ตลาด, Pain Points และความต้องการขององค์กรธุรกิจในยุคนี้ เป็นโซลูชันที่ประยุกต์ใช้บิ๊กดาต้าจากการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำในธุรกิจรีเทลและโทรคมนาคม (Second-Party Data) ที่มีฐานสมาชิกรวมกว่า 80% ของประชากรในประเทศไทย (360 องศา) พร้อมนำไปผสานกับข้อมูล First-Party Data ของแต่ละธุรกิจ (360 องศา) ซึ่งสามารถนำข้อมูลไปสร้างอินไซท์ได้หลายมิติ ทั้งด้านประชากร ไลฟ์สไตล์ พฤติกรรม เชิงพื้นที่ ฯลฯ ช่วยให้เข้าใจผู้บริโภคได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น จากนั้นนำอินไซท์เชิงลึกไปต่อยอดสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจคู่ค้า โดยใช้ศักยภาพ AI, Generative AI และ Machine Learning ของบริษัทฯ มาวิคราะห์ข้อมูลขั้นสูง
จัดกลุ่ม และให้คำแนะนำด้านต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำและดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การวางกลยุทธ์การตลาด การคาดการณ์และพยากรณ์แนวโน้มต่าง ๆ การประเมินความเสี่ยง การพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ เป็นต้น

ธุรกิจ Analytics AI and Consultation มีหัวใจสำคัญในการให้บริการคือ ใช้ศักยภาพของข้อมูล 720 องศา, AI และ Generative AI ที่เหนือกว่า มาผสานกับการทำงานจากความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ของบุคลากรคุณภาพ ทั้งด้านธุรกิจ ข้อมูล และเทคโนโลยี เป็นพลังขับเคลื่อนทุกบริการ โดยบริษัทฯ ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกใน 5 ด้าน ได้แก่ 1) Data Analytics & Enrichment: การเข้าถึงข้อมูลขนาดใหญ่ทั้งแบบ C720 (ผสาน First & Second-Party Data) รวมถึง C360 (ใช้ข้อมูลด้านใดด้านหนึ่ง) และเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าเชิงลึกตามกฎ PDPA และมาตรฐานการกำกับดูแลการเก็บ ประยุกต์ และใช้ข้อมูล (Data Governance) 2) Macro-Micro Segmentation: การจัดกลุ่มลูกค้าแบบละเอียดตามโจทย์ธุรกิจด้วยความเข้าใจทั้งด้านโจทย์ธุรกิจ (Business Objectives) และวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Advanced Data Science) 3) Geo Analytics: การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่สามารถลงลึกได้รายพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วทั้งประเทศไทย 4) Forecasting Analytics: การประยุกต์ใช้ Advanced Modelling กับข้อมูลเชิงสถิติเพื่อพยากรณ์ผลลัพธ์อย่างแม่นยำ 5) AI for Business: การประยุกต์ใช้ AI และ Generative AI รวมถึงเข้าใจความเฉพาะเจาะจงของแต่ละธุรกิจ โดยโซลูชัน Customer 720 Dataverse ทั้ง C360 และ C720 รวมถึงการวิเคราะห์ขั้นสูงสามารถ Tailor-made การให้บริการให้เหมาะสมและตอบโจทย์แต่ละธุรกิจได้อย่างตรงจุด ซึ่งบริษัทฯ จะออกแบบบริการโดยคำนึงถึงการสร้างประโยชน์ 3 มิติสำคัญให้กับธุรกิจคู่ค้า ได้แก่ เพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่าย และบริหารความเสี่ยง

Use Case การนำบิ๊กดาต้าไปใช้ร่วมกับ AI และ Deep-Tech เพิ่มโอกาสให้ธุรกิจเติบโต

  • ธุรกิจรีเทล: นำโซลูชัน Customer 720 Dataverse ไปวิเคราะห์และระบุพื้นที่ที่เหมาะสมในการเปิดสาขาใหม่ (Geolocation) โดยพิจารณาจาก 1) Retail Position & Proposition: การทำความเข้าใจอินไซท์จากโปรไฟล์ลูกค้าในพื้นที่นั้น ๆ เพื่อการตลาดที่เหมาะสมของแต่ละพื้นที่ 2) Competition Analysis: การให้อินไซท์เชิงลึกในการเปรียบเทียบเชิงพื้นที่ละแวกใกล้เคียงที่มีคู่แข่งขององค์กรธุรกิจนั้น ๆ 3) Branch Opening: การวิเคราะห์พยากรณ์ยอดขาย ค่าใช้จ่าย อัตราการกินกันเอง (Cannibalization) รวมถึงจุดคุ้มทุน (Breakeven) จากการเปิดสาขานั้น ๆ ฯลฯ
  •   ธุรกิจการเงิน: ประเมินข้อมูลหลากหลายมิติจากภายใน (C360) เช่น ประวัติการชำระเงิน และข้อมูลภายนอก (C360) เช่น ประวัติการชำระค่าบริการรายเดือนของกลุ่มลูกค้า เพื่อนำมาวิเคราะห์และบริหารความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อได้ใน 2 มิติ ได้แก่ 1) Alternative Lending Scores: การประเมินความสามารถในการชำระหนี้ในอนาคต (Credit Scoring) โดยคาดการณ์และประเมินจากข้อมูลจากแหล่งที่มาที่หลากหลายกว่าที่เคย ทำให้สามารถพิจารณาการให้สินเชื่อกับลูกค้าได้อย่างแม่นยำมากขึ้น 2) Alternative Collection Scores: การให้คะแนนความสามารถในการรับชำระหนี้คืน หลังจากการให้สินเชื่อ โดยพิจารณาจากข้อมูลทั้งภายในและภายนอกองค์กรธุรกิจ

“การได้มาและเข้าถึงข้อมูลของพาร์ทเนอร์ที่เป็น Second-Party Data บริษัทฯ ดำเนินการตามกฎหมาย PDPA และหลักธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance) อย่างเคร่งครัด รวมถึงใช้เทคโนโลยีและการดำเนินงานที่มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด โดยในปีนี้เราเน้นเจาะ
5 กลุ่มธุรกิจที่มีดีมานด์การใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงลึก ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีก ต้องการทำการตลาดยุคใหม่ที่เข้าใจและดูแลลูกค้าเฉพาะบุคคลได้ดียิ่งขึ้น ธุรกิจการเงินและประกันภัย ต้องการลดความเสี่ยง วิเคราะห์และพยากรณ์ความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย เพื่อนำเสนอสินเชื่อ หรือประกันภัยได้ตรงใจขึ้น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ต้องการนำเสนอโฆษณา สินค้า และบริการที่เจาะจงกับความต้องการของลูกค้าทั้งกลุ่มที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและซื้อเพื่อปล่อยเช่า หรือขายต่อลงระดับพื้นที่ได้แม่นยำขึ้น ธุรกิจยานยนต์ ต้องการอินไซท์ที่เข้าถึง Lifestlye และ Lifestage เพื่อนำไปเจาะกลุ่มลูกค้า นำเสนอรถยนต์และบริการหลังการขายได้ดีที่สุด และธุรกิจสื่อโฆษณา ต้องการเจาะกลุ่มลูกค้าและตลาดแบบเฉพาะเจาะจงได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมวางเป้าหมายให้ Customer 720 Dataverse เป็น Growth Driver ของธุรกิจ Analytics AI and Consultation ช่วยหนุนรายได้ปีนี้ให้เติบโตไม่ต่ำกว่า 27%” นายวรภัทร กล่าวสรุป

ไปให้สุด จีนเดินหน้าสร้างตุ๊กตายาง ใช้ AI ช่วยเข้าถึงอารมณ์

Sex Doll

Starpery Technology หนึ่งในผู้ผลิตตุ๊กตายางรายใหญ่ที่สุดของโลกกำลังพัฒนา Sex Doll ขั้นสูงที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งสามารถโต้ตอบและสนทนากับคู่รักได้ดีกว่าเดิม

ตอนนี้ พวกเขากำลังฝึกอบรมโมเดลภาษาขนาดใหญ่พวกเขาอยู่ (ฝึกกับอะไรหว้าาา) ซึ่งโมเดลภาษานี้จะรับข้อมูลจากเซนเซอร์ที่อยู่บนตุ๊กตายาง เพื่อให้สามารถตอบสนองการเคลื่อนไหวและโต้ตอบคำพูดได้อย่างรวดเร็ว สร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ที่น่าเชื่อมากขึ้น พวกเขาคาดว่าจะมีต้นแบบตัวแรกในเดือนสิงหาคมนี้ครับ

ทั้งนี้ แผนงานในอนาคต ของ Starpery ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คือบริษัทวางแผนที่จะนำเสนอหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานบ้านขั้นพื้นฐานได้ รวมทั้งหุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ และผู้พิการครับ อยากเห็นเร็ว ๆ จัง (หมายถึงหุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุนะ….)

ที่มา
pcmag

จีนพัฒนาเอง หุ่นยนต์ Ex-Robots รูปร่างหน้าตาคล้ายคน

วิศวกรจากโรงงาน Ex-Robots กำลังพัฒนาหุ่นยนต์ที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ โดยหุ่นยนต์สามารถแสดงสีหน้าและอารมณ์ภายใต้หน้ากากซิลิโคน

หุ่นยนต์ Ex-Robots สามารถขยับศีรษะ ยิ้ม และแลบลิ้น ถูกพัฒนาให้มีรูปร่างเหมือนมนุษย์เลียนแบบการเคลื่อนไหวของคน ด้วยมอเตอร์ขนาดเล็กที่ติดบริเวณด้านบน

โดยใช้โมเดลและอัลกอริทึมพื้นฐานมากมายที่เป็นโอเพนซอร์สทำให้ AI สามารถจดจำ แสดงอารมณ์ หรือทำงานซับซ้อนมากกว่าหุ่นยนต์ทั่วไป เช่น สามารถรับรู้สภาพแวดล้อมโดยรอบและตอบสนองทางใบหน้า

ขั้นตอนการผลิตหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ ต้องใช้เวลาตั้งแต่ 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือน โดยมีราคาตั้งแต่ 1.5 ล้านหยวน หรือประมาณ 7.6 ล้านบาท

ปัจจุบันหุ่นยนต์เหล่านี้จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์โรงงาน Ex-Robots ตั้งอยู่ในเมืองต้าเหลียน เป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ 

ผู้พัฒนาเชื่อมั่นว่าหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จะมีบทบาทมากขึ้นในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ การศึกษาและด้านบริการ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ในอนาคต

 

Cr.Reuters

#หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ #TechhubUpdate 

COMMART MEGATECH จับตากระแส AI PC กระตุ้นยอดขายกลางปี

บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานคอมมาร์ต จับมือพันธมิตรแบรนด์และผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอที ประกาศความพร้อมการจัดงานมหกรรมสินค้าไอทีกลางปีในธีม “COMMART MEGATECH”

ยกขบวนสินค้าไอที โปรแรง ช้อปคุ้ม พร้อมอัปเดตเทรนด์เทคโนโลยี AI PC ที่จะมากระตุ้นยอดขายกลางปีให้คึกคักอีกครั้ง เตรียมพบสินค้าและโปรโมชั่นพิเศษได้ที่งานคอมมาร์ต ห้ามพลาด 11-14 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00-21.00 น. ณ EH 98-99 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา 

นายบุญเลิศ นราไท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เออาร์ไอพี กล่าวว่า “คาดการณ์แนวโน้มตลาดไอที ช่วงกลางปี 2024 เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะกระแสการมาของเทคโนโลยี AI ที่ส่งผลให้เทคโนโลยีเกิดการผลัดใบ ทำให้ภาพรวมตลาดไอทีส่งสัญญาณที่ดีขึ้น และกำลังก้าวเข้าสู่ Wave 2 ในช่วงกลางปี 2024 และต่อเนื่องไปถึงปี 2025 ในฐานะผู้จัดงานคอมมาร์ตเราเห็นถึงพฤติกรรมการซื้อสินค้าในงานคอมมาร์ต ที่สะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน 

จากสถานการณ์ปกติที่ผู้บริโภคจะเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ใหม่ ทุก 3 ปี แต่ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีแรงกระตุ้นที่เข้ามาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้เร็วขึ้น จะเห็นได้จากช่วง Wave 1 (ช่วงปี 2020-2021) จากสถานการณ์โควิดคนต้องการใช้คอมพิวเตอร์มากขึ้น การ Work From Home และเป็นช่วงที่คริปโทเคอร์เรนซีเป็นที่นิยม ส่งผลให้สินค้าไอทีขาดตลาด เกิดการกักตุนสินค้า และปรับราคาขาย ช่วงปี 2022-2023 ตลาดไอทีเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่ได้มีเทคโนโลยีใหม่หรือปัจจัยที่เข้ามาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากนัก จนมาถึง Wave 2 (ช่วงปี 2024-2025) ที่เริ่มเห็นได้ชัดเจนว่า เทคโนโลยี AI ได้เข้ามาเปลี่ยนเจนเทคโนโลยีและพร้อมกระตุ้นกำลังซื้อให้กลับมาอีกครั้ง”

 


“มี 3 สัญญาณที่ตอกย้ำว่า AI
กำลังเข้ามาเปลี่ยนเจน PC ที่เริ่มเห็นแนวโน้มมากขึ้นในงานคอมมาร์ตกลางปี ไปจนถึงปลายปี เรามองว่า 1) ชิปรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผล AI โดยเฉพาะ เห็นได้จากแบรนด์ผู้ผลิตชิปประมวลผลอาทิ Intel, AMD, Apple, Qualcomm มีการพัฒนาหน่วยประมวลผลที่รองรับการใช้งาน AI PC พร้อมชูเรื่องการประหยัดพลังงานแทบจะเหมือน ๆ กัน

2) แบรนด์ดังเริ่มออกผลิตภัณฑ์ที่รองรับการใช้งาน AI PC รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ รองรับการใช้งาน ฟีเจอร์ Copilot ของ Microsoft และ OpenAI เช่น HP , Dell , Acer, ASUS, Lenovo และ Microsoft ก็ได้เปิดตัวคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่ใช้ AI บุกตลาด PC ที่คาดการณ์การเติบโตอย่างรวดเร็ว  ซึ่งโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ ๆ ก็จะมาพร้อมกับปุ่ม Copilot ที่เป็นปุ่มสำหรับเรียกใช้งาน AI บนเครื่อง สื่อถึงแบรนด์ต่าง ๆ ที่ได้ตอบรับฟีเจอร์ AI ที่มาบน Windows 11 และ

3) AI ถูกย่อส่วนให้อยู่บนสมาร์ทโฟน ช่วยเพิ่มการเข้าถึง AI และทำให้เกิดประสบการณ์ในการใช้งานที่มากขึ้น ทั้ง IOS และ Android จนทำให้คนเริ่มมองว่า AI เป็นเรื่องใกล้ตัว และพร้อมที่จะตัดสินใจเปลี่ยนอุปกรณ์เพื่อรองรับการใช้งานได้ง่ายมากขึ้น”

 


“สำหรับงาน COMMART MEGATECH ครั้งนี้ เชื่อว่าเราจะได้เห็นสินค้าจากเทคโนโลยี
AI ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น จากหลากหลายแบรนด์สินค้า ที่พร้อมนำมาแสดงและขายภายในงานครั้งนี้ ตอกย้ำความเป็นมหกรรมสินค้าไอที ที่ใหญ่ที่สุดในไทย ที่รวบรวมเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ เกดเจด และอุปกรณ์ต่อพ่วงจากแบรนด์ต่าง ๆ ไว้มากที่สุดที่จะทำให้ผู้ที่สนใจได้สัมผัสสินค้าใหม่ก่อนใครได้ภายในงานเดียว” 

นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อไอซีทีและการจัดงาน บมจ. เออาร์ไอพี กล่าวว่า “จากกระแส AI ที่คาดว่าจะเข้ามาช่วยกระตุ้นตลาดงานนี้ให้คึกคัก โดยสินค้าตัวใหม่ที่จะได้ช้อปในงานจะมาพร้อมความเป็น AI อาทิ โน้ตบุ๊ก รุ่นใหม่ นอกจากจะเน้นความบางเบา ประหยัดพลังงานมากขึ้นแล้ว ยังมาพร้อมชิป AI ในตัว โดยเฉพาะฝั่ง Intel ดูได้จากโลโก้ใหม่อย่าง “Intel Core Ultra” ส่วนฝั่ง AMD ก็ใช้เป็น “Ryzen AI” นอกจากนี้ยังมีสินค้าตัวใหม่ที่น่าสนใจอีกหลายตัว อาทิ Desktop PC ที่เปิดตัว SSD Gen 5 ที่มาพร้อมพัดลมระบายความร้อน หรือกระทั่งใส่ชุดน้ำ จากปกติมักจะเห็นในซีพียูหรือการ์ดจอมากกว่า

ถัดมาก็มีแรมแบบใหม่อย่าง CAMM2 ที่มีขนาดกะทัดรัดมากยิ่งขึ้น ใช้พลังงานน้อยลง ซึ่งอาจมาแทนที่แรม SO-DIMM ที่นิยมใช้ในโน้ตบุ๊กหรือ Mini-PC นั่นเอง รวมไปถึง Smart Phone ทั้งฝั่ง iOS และ Android ต่างก็มีฟีเจอร์ AI ที่เพิ่มความสามารถมากกว่าเดิม รวมถึง Gadgets อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น จอคอมพิวเตอร์ ทีวี เราเตอร์ สมาร์ทวอทช์ และอุปกรณ์พกพาอื่น ๆ ก็เริ่มมีรองรับฟีเจอร์อัจฉริยะอย่าง AI มากขึ้น เหล่านี้สามารถมาพบได้ที่งานคอมมาร์ตครั้งนี้ และงานนี้ยังจัดเต็มโปรโมชั่น ส่วนลด แจกกันฉ่ำๆ ตลอดงาน ประกอบด้วย

 

  • คอมมาร์ต Big Bonus ช้อปครบ 3,000.- บาท ได้สิทธิ์ลุ้นโชค 2 ต่อ ต่อแรก ลุ้นจับรางวัลเครื่องฟอกอากาศ , จอคอมพิวเตอร์ , เครื่องเล่นเกมพกพา และ การ์ดจอ ในงาน ต่อที่ 2 อัปโหลดใบเสร็จ ได้ลุ้น Apple HomePod mini 5 รางวัล
  • คอมมาร์ต Digital wallet  10,000.-  บาท คอมมาร์ตช่วยจ่าย ซื้อคอมใหม่ได้ส่วนลดจุกๆ
  • คอมมาร์ต On Top ช้อปครบ 50,000.- แลกคูปองส่วนลดเพิ่ม 500.- (เฉพาะวันพฤหัส – ศุกร์)
  • คอมมาร์ตช่วยจ่ายค่าจอดรถ เพียงซื้อสินค้าในงานคอมมาร์ตครบ 30,000.- รับสิทธิ์จอดรถฟรี 3 ชั่วโมง 
  • คอมมาร์ตอยากแจก ร่วมสนุกกับกิจกรรมที่บูธคอมมาร์ต แจกคูปอง ส่วนลด และของพรีเมี่ยมฟรีทุกวัน
  • คอมมาร์ต ร่วมกับ LINE MAN RIDE มอบส่วนลดสูงสุด 60% สำหรับผู้ที่เดินทางมางานคอมมาร์ต ด้วยบริการ LINE MAN RIDE ทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล แท็กซี่ และมอเตอร์ไซค์ เพียงกรอกโค้ดส่วนลด LMCOMMART ผ่านแอป LINE MAN
  • คอมมาร์ต ร่วมกับ LALAMOVE มอบส่วนลด 50% สำหรับรถยนต์ และรถกระบะทุกประเภท ส่งของด่วนได้ในราคาพิเศษ เพียงกรอกโค้ด LALACOMMART และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับคูปองส่วนลดเพิ่มเติมได้ในงาน

ไม่พลาดทุกโปรโมชั่นและดีลเด็ด เพียงเข้ากลุ่ม LINE OPEN CHAT อัปเดตโปรชั่นจากหน้างาน พร้อมรับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิกเลย https://bit.ly/CommartOpenChat

 

งาน COMMART MEGATECH  ร่วมกับพันธมิตรแบรนด์ไอทีชั้นนำ อาทิ ACE, AMD, Banana, E-Quip, EPSON, iStudio by SPVI, IT CITY, J.I.B, MSI, SPEED Computer, Studio7, ASUS, Ascenti, AppleSheep, BeWell, Ergotrend, LG, Mentagram, Remax และบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ร่วมด้วย Media Partner ด้านการประชาสัมพันธ์ อาทิ Techhub, eLeader, Business+, Beartai, Extreme IT, it24hrs., Notebookspec, Overclockzone


เตรียมตัวให้พร้อมแล้วมาช้อปสุดมันที่งาน COMMART MEGATECH
  ระหว่างวันที่ 11-14 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00-21.00 น. ณ EH 98-99 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เข้าชมฟรี! ตลอดทั้งงาน เดินทางสะดวกด้วย รถไฟฟ้า BTS สถานีบางนา ติดตามข่าวสารโปรโมชั่นและกิจกรรม หรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.commartThailand.com, www.facebook.com/commartThailand , Line: @Commart, และ twitter.com/Commart

Hot Issue