Home Blog Page 70

ASUS วางจำหน่าย Vivobook S 15 (S5507) โน้ตบุ๊ก Copilot+ PC ตัวแรก พร้อมซีพียู Snapdragon® X Elite รุ่นล่าสุด!

เอซุส (ประเทศไทย) นำโดย คุณ วิจิตรา หิรัญญการ, ผู้จัดการฝ่ายช่องทางการจัดจำหน่ายคอนซูมเมอร์ (ซ้าย), มร. เควิน หวัง, ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์ (ขวา) และ ดร. นนท์ จินดาพล, ผู้อำนวยการแผนกพัฒนาธุรกิจประเทศไทย บริษัท ควอลคอมม์ (กลาง) ร่วมเปิดตัวโน้ตบุ๊ก ASUS Vivobook S 15 (S5507) พร้อมเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยครั้งแรกวันที่ 27 มิถุนายน 67 นี้เป็นต้นไป ในราคา 46,990 บาท

นับเป็นโน้ตบุ๊ก Copilot+PC ตัวแรก มาพร้อมเทคโนโลยี AI บนแพลตฟอร์ม Snapdragon® X Elite สามารถใช้งานฟังก์ชัน AI และเร่งประสิทธิภาพการทำงาน AI ด้วย Qualcomm Hexagon™ NPU ในตัว สามารถประมวลผล AI สูงสุดถึง 45 TOPS มีฟีเจอร์สำคัญอย่าง Windows Studio Effects ที่จะช่วยการจัดการเรื่องแสง, จุดรบกวน (noise) และ เสียงรบกวนระหว่างการใช้งานวีดีโอคอล, ฟีเจอร์ Live Captions ช่วยให้คำบรรยายแบบเรียลไทม์ได้อย่างแม่นยำมากกว่า 40 ภาษาทั่วโลก และฟีเจอร์ Paint Cocreator หรือเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างภาพจากการวาดหรือคำอธิบายข้อความด้วยความช่วยเหลือของ AI พร้อมแนะนำแอปพลิเคชันเอกสิทธิ์เฉพาะจากเอซุส StoryCube ที่จะช่วยจัดการข้อมูลดิจิทัล ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยบริหารจัดการไฟล์

คุณแซนดร้า หวง  Product Manager – Consumer PC และ คุณสิรวิชญ์ เลิศสุวรรณศิริ Consumer PC – Product Marketing บริษัทเอซุส (ประเทศไทย)

ASUS Vivobook S 15 (S5507) ยังโดดเด่นในเรื่องการประหยัดพลังงาน สามารถใช้งานได้สูงสุด 18 ชั่วโมง ตัวเครื่องบางเพียง 14.7 มม. น้ำหนัก 1.42 กก. สามารถพกไปทำงานนอกสถานที่ได้อย่างสะดวก มาพร้อมหน้าจอแสดงผลคุณภาพสูง ASUS Lumina OLED ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด 3K (2880×1620) อัตราส่วน 16:9 120Hz ให้ภาพสวยงาม คมชัด ทุกรายละเอียด พร้อมถนอมดวงตาจากแสงสีฟ้า และยังเพิ่มสไตล์ให้กับผู้ใช้ด้วยตัวเครื่องอะลูมิเนียม สี Cool Silver มาพร้อมไฟคีย์บอร์ด RGB (1-Zone) ปรับแต่งสีได้ โดยเอซุสพร้อมพาคุณเข้าสู่ยุคแห่ง AI PC ส่งโน้ตบุ๊ก Copilot+PC ตัวแรกจากเอซุสให้คุณเป็นเจ้าของแล้ววันนี้

ข้อมูลสินค้าเพิ่มเติม

  • S5507QA-MA966WF: Snapdragon® X Elite X1E 78 100 Processor 3.4GHz (42MB Cache, up to 3.4GHz, 12 cores, 12 Threads); Qualcomm® AI Engine up to 75 total TOPs / Qualcomm® Adreno™ GPU / Qualcomm® Hexagon™ NPU 45 TOPs / LPDDR5X 32GB / 1TB M.2 NVMe™ PCIe® 4.0 SSD / 15.6-inch 3K (2880 x 1620) OLED 16:9 aspect ratio 120Hz refresh rate / 1.42 kg  /  Microsoft Office Home & Student 2021 + Microsoft 365 Basic ราคา 46,990 บาท

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ https://www.facebook.com/ASUSTHAILAND 

ASUS Online Store: https://www.asus.com/th/store/  

ASUS Official Store บน Shopee: https://bit.ly/2UEpBCb 

ASUS Official Store บน Lazada: https://bit.ly/2UBBmcJ 

ท้าชน IG เปิดตัวแอป Whee ค่ายเดียวกับ TikTok

[Meta มองมา] แม้ตอนนี้ TikTok จะโดนจับตามองเป็นพิเศษ (โดยเฉพาะสหรัฐฯ) แต่ทางฝั่งผู้พัฒนาอย่าง ByteDance ก็ยังมุ่งพัฒนาบริการใหม่ ๆ ออกมา ล่าสุดได้ประกาศเตรียมเปิดตัวแอปฯ โซเชียลใหม่อย่าง “Whee” ที่เน้นแบ่งปันรูปภาพ แต่มีลักษณะคล้ายคลึงกับ Instagram จาก Meta

Whee เป็นแอปฯ โซเชียลเน็ตเวิร์คใหม่ที่พัฒนาโดย ByteDance ชูมาพร้อมฟีเจอร์ Club ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถแชร์ภาพระหว่างกันได้ ซึ่งคล้าย ๆ กับแอปฯ Instagram ของ Meta และคล้ายยันหน้าตาหรือ UI เลย

อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์แบ่งปันรูปภาพของ Whee นั้น เปิดสำหรับผู้ใช้ที่ Add friend ระหว่างกันเท่านั้น สืบเนื่องจากตัวแอปฯ นั้น เผยเน้นเชื่อมโยงผู้คนที่รู้จักกัน มากกว่าคนแปลกหน้าทางอินเทอร์เน็ต

ปัจจุบันแอปฯ Whee เปิดให้ดาวน์โหลดผ่าน Play Store ของ Google ในบางประเทศแล้ว และประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย แต่ยกเว้นสหรัฐฯ

ที่มา : Techspot

แอลจี เปิดตัว LG SIGNATURE OLED M4 นวัตกรรมทีวีไฮเอนด์ไร้สายครั้งแรกในไทย รับเทรนด์ปี 2567 มั่นใจตลาดทีวีพรีเมียมโตต่อเนื่อง

ตอกย้ำ 11 ปีแห่งผู้นำนวัตกรรมทีวี OLED ตัวจริง อัปเกรดชิปประมวลผลทีวี และความสว่างคมชัดยิ่งขึ้น

บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำตลาดทีวีพรีเมียม และผู้นำนวัตกรรม OLED ระดับโลก 11 ปีซ้อน ด้วยการเปิดตัวไลน์อัพทีวีใหม่ล่าสุดประจำปี 2567 ชูนวัตกรรมทีวี OLED ไร้สายครั้งแรกของโลก “LG SIGNATURE OLED M4” ขนาด 97 นิ้ว รุ่น OLED97M4 ที่เปลี่ยนนิยามการเข้าถึงประสบการณ์ความบันเทิงภายในบ้านได้อย่างอิสระ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘อิสระในการออกแบบพื้นที่ของคุณเอง’ (Freedom to Design Your Own Space) ด้วยความสามารถการสตรีมมิ่งวิดีโอและเสียงระดับ 4K แบบไร้สายด้วย Zero Connect Box ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งทีวีได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะวางที่มุมไหนของบ้าน ย้ำความเชื่อมั่นตลาดทีวีพรีเมียมในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ไลน์อัพใหม่ของทีวี OLED ในปี 2567 มีทั้งหมด 4 ซีรีส์ ได้แก่ LG SIGNATURE OLED M4 ขนาด 97 นิ้ว LG OLED evo G4, C4 และ LG OLED B4 ขนาดตั้งแต่ 48 ถึง 97 นิ้ว ในขณะที่ทีวี QNED มีทั้งหมด 4 ซีรีส์ ได้แก่ QNED91TSA (MiniLED), QNED89TSA, QNED86TSA และ QNED80TSA ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 55 จนถึง 98 นิ้ว ให้ผู้บริโภคได้เลือกตามความต้องการ

นายซองฮัน จอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “กว่าทศวรรษที่แอลจีนำเสนอนวัตกรรมทีวีระดับโลกให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง เราไม่เคยหยุดพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ และตื่นเต้นที่จะก้าวเข้าสู่ปีที่ 11 แห่งการเป็นผู้นำตลาดทีวี OLED ตัวจริง ด้วยการนำเสนอทีวี OLED แบบไร้สายรุ่นแรกของโลกในประเทศไทย เราเข้าใจเป็นอย่างดีว่าผู้บริโภคยุคใหม่มองหาทีวีที่ให้มากกว่าฟีเจอร์การใช้งานด้านการรับชมคอนเทนต์ แต่ยังต้องการให้ทีวีเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งบ้านด้วย เรามั่นใจว่านวัตกรรมทีวี LG SIGNATURE OLED M4 นี้จะเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่เข้ามาพลิกโฉมอนาคตของผู้บริโภค ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของแอลจีเรื่อง Reinvent Your Future”

นายอำนาจ สิงหจันทร์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แอลจีให้ความสำคัญกับการศึกษาความต้องการใหม่ๆ ของผู้บริโภค ทำให้เราสามารถพัฒนานวัตกรรมทีวีรุ่นใหม่ออกมาตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างต่อเนื่อง ยืนยันด้วยตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดทีวีพรีเมียม 11 ปีซ้อน และมั่นใจว่าในปีนี้เราจะยังรักษาส่วนแบ่งของตลาดทีวี OLED ที่ 60% และส่วนแบ่งของตลาดทีวีโดยรวมทั้งหมด 20% พร้อมตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายทีวี OLED ในปี 2567 อีก 30% ด้วยกลยุทธ์การเปิดตัวไลน์อัพใหม่ของทีวีที่ครอบคลุม พร้อมทั้งชูจุดเด่นการนำเสนอนวัตกรรมทีวีขั้นสูงอย่าง LG SIGNATURE OLED M4 ทีวีระดับไฮเอนด์ที่มอบประสบการณ์ความบันเทิงที่แตกต่างออกไปด้วยนวัตกรรมการส่งสัญญาณภาพ 4K และเสียงที่คมชัดสูงสุดแบบไร้สาย เราคาดว่าการเปิดตัวนวัตกรรมทีวีในปีนี้จะช่วยสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาด และได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนๆ ทีวี OLED ในไทยที่ให้ความไว้วางใจแบรนด์แอลจีในฐานะผู้มอบประสบการณ์ความบันเทิงภายในบ้านขั้นสูงสุดให้กับทุกคน โดยปัจจุบันตลาดพรีเมียมในประเทศไทยยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วน 15% ในภาพรวมตลาดทีวีภาพรวมทั้งหมด”

ไฮไลต์ของการเปิดตัวไลน์อัพทีวีใหม่ล่าสุดประจำปี 2567 ของแอลจี ได้แก่

ยกระดับการแสดงภาพและการประมวลผลที่เร็วขึ้นด้วยชิปประมวลผลใหม่รุ่น α11 ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ขุมพลังชิปประมวลผลของแอลจีที่ออกแบบมาเพื่อจอแสดงผล OLED โดยเฉพาะ ช่วยยกระดับการแสดงผลภาพและการประมวลผลที่เร็วขึ้น โดยในปีนี้มีทีวี LG SIGNATURE OLED M4 และ LG OLED evo G4 ที่ได้รับการอัปเกรดชิปประมวลผล α11 (อัลฟ่า) AI Processor 4K ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่ล้ำหน้าที่สุดของทีวี OLED ตามมาด้วย LG OLED evo C4 ที่ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล α9 AI Processor 4K Gen7 ซึ่งชิปประมวลผล AI จะมอบภาพที่มีมิติและคมชัดยิ่งขึ้นทั้งในโทนมืดและสว่าง รวมถึงมอบความสมดุลของเสียงได้ดียิ่งขึ้น

AI Picture Pro และ AI Sound Pro ที่อัพเกรดไปอีกขั้น

เทคโนโลยี AI ที่มาในทีวีของแอลจี ช่วยให้การแสดงผลภาพและเสียงได้อย่างเหนือระดับ โดยในทีวีแอลจีไลน์อัพใหม่ประจำปี 2567 ยังมาพร้อมเทคโนโลยี AI Picture Pro ที่มอบคุณสมบัติแยกแยะวัตถุที่มีความละเอียดระดับพิกเซล (AI Object Enhancing) ช่วยปรับภาพวัตถุให้ชัดเจนสะดุดตายิ่งขึ้น และคุณสมบัติการปรับการแสดงผลสีภาพตามต้นฉบับที่ผู้กำกับตั้งใจไว้ (AI Director Processing) ผ่านการวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยี AI ในขณะที่ฟีเจอร์ AI Sound Pro ในทีวีรุ่นที่ใช้ชิปประมวลผล α11 AI Processor 4K ก็ช่วยยกระดับการจำลองเสียงรอบทิศทางที่สมจริงยิ่งขึ้นถึง 11.1.2 ชาแนล (11.1.2 Ch Virtual Sound) และช่วยแยกเสียงต่าง ๆ ออกจากกัน พร้อมรีมาสเตอร์เสียงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น (AI Voice Remastering)

โปรแกรม webOS Re:New ใหม่ล่าสุด รองรับการอัปเดตนานถึง 5 ปี

ด้วยจุดเด่นของแอลจีที่เป็นทั้งผู้พัฒนานวัตกรรมทีวี OLED และเป็นทั้งผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม webOS ผู้ที่เป็นเจ้าของทีวีแอลจีรุ่นใหม่ประจำปี 2567 จึงมั่นใจได้ว่าระบบปฏิบัติการ webOS 24 ที่ได้รับการอัปเดตล่าสุดในปีนี้ จะรองรับการอัปเดตระบบปฏิบัติการทีวีไปจนถึง webOS 28 หรืออีก 5 ปีข้างหน้า และยังสามารถใช้งานต่อไปได้หมดกังวลเรื่องการใช้งานอินเทอร์เฟซที่ตกยุค หรือปัญหาทีวีไม่รองรับการใช้งานแอปพลิเคชันใหม่ๆ อีกต่อไป

สำหรับไลน์อัพทีวีจากแอลจีในปี 2567 พร้อมวางจำหน่ายแล้ว โดยมีรายละเอียดราคา ดังนี้

  • LG SIGNATURE OLED M4 ขนาด 97 นิ้ว ราคา 1,099,990 บาท
  • LG OLED evo 4K G4, C4 และ LG OLED B4 ขนาดตั้งแต่ 48 – 97 นิ้ว ราคา 49,990 – 999,990 บาท
  • LG QNED 4 ซีรีส์ ได้แก่ QNED91TSA (MiniLED), QNED89TSA, QNED86TSA และ QNED80TSA ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 55 – 98 นิ้ว ราคา 28,990 – 149,990 บาท

ผู้สนใจสามารถสอบถามได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและสาขาที่ร่วมรายการ รายละเอียดของทีวีแอลจีเข้าชมได้ที่ https://www.lg.com/th/oled หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลแอลจี 0-2057-5757 และติดตามกิจกรรมจากแอลจีได้ทางเฟซบุ๊ก แฟนเพจ LG Global อินสตาแกรม lg_thailand:

ไม่อยากเสี่ยง Apple เลิกให้บริการ Pay Later สินเชื่อซื้อก่อนจ่ายทีหลัง

Apple ได้ประกาศว่าจะหยุดให้บริการ Apple Pay Later หรือซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลังที่เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่แล้ว โดยการเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 

แต่ผู้ใช้ปัจจุบันที่ยังคงเปิดใช้บริการสินเชื่อ Apple Pay Later อยู่จะยังสามารถจัดการและชำระสินเชื่อได้ผ่านแอป Wallet ได้ตามปกติ

ตั้งแต่ปี 2023 Apple Pay ให้ผู้ใช้สมัครขอสินเชื่อตั้งแต่ 50 ดอลลาร์ถึง 1,000 ดอลลาร์ และแบ่งการชำระเงินออกเป็น 4 งวดเท่าๆ กันในระยะเวลา 6 สัปดาห์ โดยไม่มีค่าธรรมเนียมหรือดอกเบี้ย

และได้รับเสียงตอบรับที่ดีแต่ Apple เผยว่าจะมุ่งเน้นไปที่ฟีเจอร์ใหม่ที่จะเปิดให้บริการ Apple Pay ทั่วโลกในช่วงปลายปีนี้แทน หากใครสนใจซื้อสินค้าสามารถเลือกผ่อนชำระจากบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตที่เข้าร่วม

อาจเป็นเพราะไม่อยากเสี่ยงกเรื่องการเงินในอนาคต หรืออาจกระตุ้นยอดขายแบบใหม่ ให้ผู้ที่สนใจซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์แทน

 

ที่มา : 9to5mac

#Apple #PayLater #TechhubUpdate

แจ้งเตือนปลอม กดแจ้งเตือนติดตั้งโปรแกรม แถมมัลแวร์ผ่านหน้าเว็บ

แจ้งเตือนปลอม

มีการค้นพบแคมเปญการกระจายมัลแวร์รูปแบบใหม่ ที่ใช้ข้อความแจ้งปัญหาปลอมจาก Google Chrome, Word และ OneDrive เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ติดตั้ง “ตัวแก้ไข” ซึ่งแท้จริงแล้วคือมัลแวร์

การหลอกติดตั้งก็จะประมาณว่า นาย ๆ “Chrome นายทำงานช้าลงนะ ลองเพิ่มความเร็วด้วยการติดตั้งโปรแกรมนี้ดูสิ” กดตกลงเมื่อก็นั่นแหละ

แคมเปญนี้ถูกพบว่าใช้งานโดยกลุ่มแฮกเกอร์หลายกลุ่ม รวมถึงกลุ่มที่อยู่เบื้องหลัง ClearFake กลุ่มใหม่ที่ชื่อ ClickFix และกลุ่ม TA571 เป็นกลุ่มที่ชื่อกระฉ่อน และเป็นที่รู้จักในฐานะกลุ่มที่เป็นนักกระจายมัลแวร์ตัวยง

ข้อความเหล่านี้จะหลอกให้ผู้ใช้กดปุ่มเพื่อคัดลอก “สคริปต์ PowerShell” ที่เป็นอันตรายไปยังคลิปบอร์ด แล้วนำไปวางและรันในหน้าต่าง Run หรือ PowerShell ซึ่งสคริปต์นี้จะติดตั้งมัลแวร์ลงในเครื่อง

สคริปต์ PowerShell ที่เป็นอันตรายนี้ คือ ชุดคำสั่งที่เขียนด้วยภาษา PowerShell ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อทำกิจกรรมที่เป็นอันตรายต่อระบบคอมพิวเตอร์หรือเครือข่าย สคริปต์เหล่านี้สามารถทำงานได้หลากหลาย ตั้งแต่การขโมยข้อมูลส่วนตัว การติดตั้งมัลแวร์ ไปจนถึงการควบคุมระบบจากระยะไกล

เมื่อสคริปต์ PowerShell ถูกเรียกใช้งาน มันจะทำตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อยืนยันว่าอุปกรณ์เป็นเป้าหมายที่ถูกต้อง จากนั้นจะดาวน์โหลดเพย์โหลดต่างเช่น ล้างแคช DNS
ลบเนื้อหาในคลิปบอร์ด แสดงข้อความหลอกลวง และดาวน์โหลดสคริปต์ PowerShell อื่นจากระยะไกล

แต่ PowerShell ก็ป้องกันได้นะ โดย 1.ระมัดระวังในการเปิดไฟล์แนบอีเมลหรือคลิกลิงก์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ 2.อัปเดต OS ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดและติดตั้งซอฟต์แวรน์แอนตี้ไวรัสครับ

ที่มา
bleepingcomputer

เนื้อหาจัดเต็ม เรียนฟรีโปรแกรมสุดฮิต ลงทะเบียนไว้ ได้ใช้จริง

ใช้คอมพิวเตอร์ให้เก่งกว่าเดิม เปิดคอร์สออนไลน์ฟรี เรียนรู้การใช้โปรแกรมสุดฮิต Microsoft Word , Excel , PowerPoint และ Canva เพื่อเอามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง

ลงทะเบียนไว้ก่อนคอร์สนี้เริ่มวันที่ 1 กรกฎาคม 2567

ทางไปเรียน >> ทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Literacy) 

 

เนื้อหาที่น่าสนใจ

ใช้งานคอมพิวเตอร์ , อินเทอร์เน็ต

ใช้โปรแกรม Microsoft Word , Excel , PowerPoint

ใช้โปรแกรมสร้างสื่อดิจิทัล (Canva)

ทำงานร่วมกันแบบออนไลน์

การใช้ดิจิทัลเพื่อความมั่นคงปลอดภัย

ผู้เรียนมีคะแนนรวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 70% ถือว่าผ่านเกณฑ์ สามารถขอรับใบรับประกาศนียบัตรในระบบได้

นอกจากเนื้อหาที่แนะนำไปแล้ว ยังมีคอร์สเรียนอีกมากมายให้ได้อัปสกิลกันที่

จิ้มลิ้งค์เลย >>  techhub productivity 

 

#TechhubUpdate

ไอเท็มสุดแปลก หน้ากากติดจอ LED ซ่อนอารมณ์ใบหน้าจริง

ซ่อนสีหน้าไว้ในหน้ากากดิจิทัล

Qudi Mask 2 ไอเท็มสุดแปลกที่หลายคนอาจต้องการ 

หน้ากากนี้เป็นอวาตาร์ดิจิทัลที่สวมใส่ได้ ซึ่งซ่อนใบหน้าจริงของผู้ใช้ไว้ใต้จอแสดงผล LED และสามารถแสดงอารมณ์ได้แบบอัตโนมัติ มันจะแสดงใบหน้าแบบพิกเซลและแอนิเมชั่นสีสันสดใสที่โหลดเก็บไว้ในแอปพลิเคชั่น

มันสามารถเปลี่ยนการแสดงออกได้อัตโนมัติ โดยติดตามศีรษะและไมโครโฟนและท่าทางของผู้สวมใส่ เช่น พยักหน้า ส่ายหัว หรือเอียงศีรษะ หน้ากากก็จะประมวลผลและแสดงสีหน้าออกมาแบบเรียลไทม์

หน้ากากถูกพัฒนาขึ้นให้ดีกว่าเดิมเพิ่มไฟ LED เรืองแสง ใช้วัสดุที่ดีขึ้นกระชับหน้า รวมถึงแสดงอารมณ์ได้มากกว่า 30 อารมณ์ แถมปรับแต่งได้

ออกแบบมาทั้งหมด 3 เวอร์ชัน ได้แก่ Kawaii , Robot , limited edition (XX)

ที่เปิดแคมเปญระดมทุนผ่าน Kickstarter และได้รับเสียงตอบรับที่ดี พร้อมพัฒนาและวางขายต่อไปในอนาคต คาดว่าจะเปิดขายในสิ้นปีนี้ ราคาจะอยู่ที่ 199 ดอลลาร์ หรือประมาณ 7,304 บาท 

 

ที่มา : theverge

#หน้ากากดิจิทัล #TechhubUpdate

สายมุดเตรียมโดน Youtube ปรับกฏเข้ม สแกนคนใช้ VPN สมัครพรีเมี่ยม

Youtube ปรับกฏเข้ม

YouTube กำลังดำเตรียมจัดการกับสมาชิก Premium ที่ใช้ VPN เพื่อสมัครสมาชิกราคาถูกในประเทศอื่น

โดยเรื่องนี้ มีผู้ใช้หลายคนโวยผ่าน Reddit หลังพบว่าแผน Premium ของตนถูกยกเลิกเพราะใช้ VPN สมัครสมาชิกนอกเขตที่กำหนด

ปกติ VPN มักจะถูกใช้ปกป้องความเป็นส่วนตัวและป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ แต่มันก็สามารถซ่อนที่อยู่ IP ของผู้ใช้ได้ และสามารถใช้ระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ได้เช่นกัน

หากถามว่า Youtube รู้ได้ยังไง มันก็มีหลายวิธีแหละนะ เช่น ตรวจสอบความแตกต่างของ IP Address กับตำแหน่ง ซึ่งบ่งบอกตำแหน่งที่แท้จริง หาก IP Address ไม่ตรงกับประเทศที่ระบุไว้ในข้อมูลบัญชี YouTube ก็อาจสงสัยว่ามีการใช้ VPN

นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจสอบผ่าน WebRTC Leak โดยเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้เบราว์เซอร์สื่อสารกันได้โดยตรง ซึ่งบางครั้งอาจเปิดเผย IP Address ที่แท้จริงของผู้ใช้ ฉะนั้น สายมุด อย่าคิดว่าเค้าไม่รู้นะเออ

ที่มา
https://techcrunch.com/2024/06/20/youtube-confirms-crackdown-on-vpn-users-accessing-cheaper-premium-plans/

ซุปเปอร์กรีน ไฟฟ้าจากสาหร่าย ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้

ไฟฟ้าจากสาหร่าย

การแสวงหาแหล่งพลังงานสะอาดเป็นหนึ่งในเป้าหมายของนักวิทยาศาสตร์มาหลายทศวรรษแล้ว บางกลุ่มก็มุ่งมั่นพัฒนาพลังงานฟิวชั่น ในขณะที่บางกลุ่มหันไปหาพลังงานทางเลือกอื่นๆ ที่เป็นกลางทางคาร์บอนมากกว่า ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบแหล่งพลังงานสุดล้ำที่ไม่เพียงแต่ไม่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ยังสามารถดูดซับก๊าซนี้ออกจากชั้นบรรยากาศอีกด้วย

งานวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Energies ที่เผยว่า นักวิจัยสามารถผลิตพลังงานหมุนเวียนจากสาหร่าย โดยอาศัยกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงตามธรรมชาติของพืช ที่สามารถสกัดพลังงานจากสาหร่ายได้โดยแขวนลอยสาหร่ายในสารละลายภายในขั้วแอโนดและขั้วแคโทด ซึ่งคั่นด้วยแผ่นเยื่อแลกเปลี่ยนโปรตอนที่มีลักษณะคล้ายรังผึ้ง

กระบวนการทั้งหมดทำงานโดยการดักจับอิเล็กตรอนที่สาหร่ายสร้างขึ้นระหว่างการสังเคราะห์ด้วยแสง และนำมาผลิตกระแสไฟฟ้า ที่น่าทึ่งคือ พลังงานที่ได้นี้ไม่เพียงแต่ไม่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ยังดูดซับก๊าซนี้ออกจากชั้นบรรยากาศอีกด้วย

แม้ในขณะนี้ นักวิจัยยังคงสามารถผลิตแรงดันไฟฟ้าได้เพียง 1.0 โวลต์จากเซลล์พลังงานขนาดเล็กนี้ แต่พวกเขาเชื่อว่า ด้วยการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในอนาคตเราอาจสามารถขยายกำลังผลิตจนสามารถใช้พลังงานจากสาหร่ายนี้เพื่อขับเคลื่อนเมืองทั้งเมืองได้

ข้อดีอีกประการของพลังงานจากสาหร่ายคือ ไม่ก่อให้เกิดก๊าซอันตรายหรือไมโครไฟเบอร์ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการกำจัดของเสีย ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบันครับ หวังว่าจะได้ใช้งานไว ๆ นะ

ที่มา
https://bgr.com/science/scientists-found-a-power-source-with-negative-carbon-emissions/

https://www.mdpi.com/1996-1073/17/7/1749

ทนทานของจริง แผงโซลาร์เซลล์เก่า 31 ปี ยังผลิตไฟฟ้าได้ถึง 79%

[ช่วยยืนยัน] ถือเป็นการยืนยันเลยว่า แผงโซลาร์เซลล์สามารถใช้งานได้นานกว่า 25 ปี และแม้จะผ่านไปถึง 30 ปี ก็ยังไม่เสื่อมสภาพง่าย ๆ เหมือนอย่างกรณีของแผงโซลาร์เซลล์จากปี 1992 แห่งหนึ่งในฝรั่งเศส พบยังผลิตไฟฟ้าแบบดั้งเดิมได้ถึง 79.5%

ตามปกติแล้ว ผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ส่วนใหญ่ จะเครมประสิทธิภาพการทำงานดั้งเดิมที่ 80% ในเวลาสูงสุด 25 ปี และอายุการใช้งานแผงโซลาร์เซลล์โดยประมาณก็ 20 ถึง 40 ปี ทว่าหากรักษาการใช้งานดี ๆ ก็อาจคงสภาพได้เกือบ 80% แม้จะผ่านมากว่า 30 ปีแล้วอย่าง Phébus 1 แผงโซลาร์เซลล์ขนาดเล็กเพียง 1 กิโลวัตต์ จากสมาคมพลังงานหมุนเวียนที่ไม่แสวงหากำไร Hespul ในประเทศฝรั่งเศส

สำหรับตัวแผงโซลาร์เซลล์ Phébus 1 นี้ เผยติดตั้งมาตั้งแต่ปี 1992 แล้ว ทว่าผลการเช็คสภาพเมื่อปีที่แล้ว พบยังคงตัวแผงยังจ่ายไฟได้เฉลี่ยร้อยละ 79.5% แม้จะมีอายุการใช้งานถึง 31 ปีแล้วก็ตาม ทั้งยังมีสภาพลดลงเฉลี่ยเพียง 0.66% ต่อปีเท่านั้น

นอกจากทางฝรั่งเศสแล้ว ก็ยังมีรายงานวิจัยในอเมริกาและแถยยุโรปเพิ่มเติมด้วยว่า การเสื่อมสภาพของแผงโซลาร์เซลล์โดยเฉลี่ยนั้นอยู่ที่ 0.36 ถึง 0.75% ต่อปี นับเป็นการพิสูจน์ได้ว่าแผงโซลาร์เซลล์ สามารถใช้งานได้ยาว ๆ กว่า 2 – 3 ทศวรรษ โดยที่ยังคงประสิทธิภาพได้ดีอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็อาจขึ้นอยู่กับผู้ใช้ด้วยเช่นกัน ว่าจะมีการหมั่นดูแลตัวแผงได้ดีแค่ไหนด้วย

ที่มา : Techspot

ภาพจาก : Reneweconomy

Hot Issue