Home Blog Page 68

โดนแบนเฉย สหรัฐคว่ำบาตร Kaspersky เหตุเพราะกลัวโดนขโมยข้อมูล

โดนจนได้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ประกาศคว่ำบาตรผู้บริหารบริษัท Kaspersky จำนวน 12 คน ซึ่งล้วนเป็นผู้บริหารระดับสูงทั้งหมด โดย 6 คนเป็นผู้บริหารระดับสูงสุด (C-suite) และ 4 คนเป็นกรรมการบริษัท ส่วนที่เหลือเป็นผู้จัดการอาวุโสและรองประธาน

โดยผู้ใช้ Kaspersky ในสหรัฐฯ ได้รับคำเตือนว่าการอัปเดตซอฟต์แวร์จะหยุดลงในวันที่ 29 กันยายน 2567 ซึ่งจะทำให้ซอฟต์แวร์นั่นเป็นเวอร์ชั่นเก่า และไม่สามารถรับมือกับภัยคุกคามจากมัลแวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บริษัทในเครือที่โดนไปด้วยคือ บริษัท AO Kaspersky Lab, OOO Kaspersky Group และ Kaspersky Ltd. ซึ่งได้ถูกกำหนดให้เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐ เนื่องจากมีความกังวลว่าซอฟต์แวร์ของ Kaspersky อาจถูกใช้เพื่อขโมยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้ ซึ่งอาจนำไปสู่ข้อกล่าวหาเรื่องการจารกรรม

Brian Nelson รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังด้านการก่อการร้ายและข่าวกรองทางการเงิน กล่าวว่ารัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องประชาชนจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ (แต่นี่อาจจะเป็นแค่ข้ออ้างหนึ่ง)

เพราะจริง ๆ เรื่องนี้ อาจเป็นผลมาจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ และความกังวลว่าประชาชนสหรัฐฯ อาจตกเป็นเป้าหมายของการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาสนับสนุนยูเครนอย่างเปิดเผยนั่นเองครับ

สำหรับตอนนี้ ใครที่ใช้ Kaspersky อยู่ ไม่จำเป็นต้องมีความกังวลใด ๆ ครับ เพราะดูแลแล้ว มันไม่ได้เป็นปัญหามาจากผลิตภัณฑ์ แต่เป็นเรื่องของความขัดแย้งระหว่างประเทศ ซึ่งไทยเอง ก็ไม่มีปัญหาอะไรกับรัสเซียครับ

ที่มา
https://www.techradar.com/pro/us-announces-sanctions-for-kaspersky-antivirus-executives

มาใหม่ หุ่นยนต์ HumanPlus เลียนแบบพฤติกรรมคน

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดได้สร้างหุ่นยนต์ที่เรียกว่า ‘HumanPlus’ เป็นหุ่นยนต์ที่สามารถเลียนแบบท่าทางของมนุษย์ได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถเรียนรู้จากการกระทำของมนุษย์ได้เพียงแค่สแกนการเคลื่อนไหว

ทีมวิจัยกล่าวว่าหุ่นยนต์สามารถเรียนรู้การเล่นเปียโน การตีลูกปิงปองไปมา และอื่นๆ ใช้กล้องเพียงตัวเดียวเชื่อมต่อกับโปรแกรมในหุ่นยนต์ที่มีเทคโนโลยีแบบซับซ้อน

HumanPlus ต้องศึกษาโดยใช้ข้อมูลการเคลื่อนไหวของมนุษย์นานกว่า 40 ชั่วโมง เพื่อเรียนรู้ภารกิจและทำตามทีละขั้นตอน และติดตามมนุษย์โดยใช้กล้องและจำลองท่าทางได้แบบเรียลไทม์ได้อีก

หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ตัวนี้มีใช้ชิ้นส่วนจากหลายบริษัท เช่นตัวของหุ่นยนต์จะเป็นรุ่น H1 ของบริษัท Unitree ในส่วนแขนและมือมาจาก Inspire-Robots เป็นต้น

ลักษณะพิเศษอย่างของหุ่นยนต์คือการออกแบบเป็นโอเพ่นซอร์ส ซึ่งหมายความว่าฟังก์ชันการทำงานสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามต้องการในอนาคต

โดยทีมนักวิจัยจะเร่งพัฒนาหุ่นยนต์เพื่อให้ทันต่อความต้องการในอนาคต ที่มีแนวโน้มว่าหุ่นยนต์ในรูปแบบฮิวแมนนอยด์จะเติบโตแบบก้าวกระโดดในอีกหลายปีข้างหน้า

เพราะหลายบริษัทก็เริ่มหันมาให้ความสนใจและเดินหน้าผลิตเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นหุ่นยนต์จาก Tesla ที่ติดตั้งหุ่นยนต์ Optimus ให้ทำงานจริงแล้ว

อ่านเพิ่มเติม >> techhub 

 

ที่มา : interestingengineering  

#TechhubUpdate

Ferrari เอาจริง เปิดโรงงานผลิตรถสปอร์ต EV เน้นใช้พลังงานหมุนเวียน

Ferrari เปิดตัวอาคาร e-building ใช้พลังงานแสงอาทิตย์แห่งใหม่เพื่อเตรียมเปิดตัวรถสปอร์ต EV คันแรก

รถสปอร์ตคาร์สัญชาติอิตาลีสร้างอาคาร e-building เป็นโรงงานแห่งใหม่ซึ่งใช้พลังงานหมุนเวียนทั้งหมดเพื่อเอาไว้ใช้สร้างรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ Ferrari

โรงงานแห่งนี้นอกจากผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจะควบคู่ไปกับการผลิตรถไฮบริดเจเนอเรชั่นใหม่ รวมถึงเป็นแหล่งผลิตแบตเตอรี่ มอเตอร์ไฟฟ้า และอินเวอร์เตอร์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่นในอนาคต

เฟอร์รารี่ได้ลงทุนไปประมาณ 214 ล้านดอลลาร์ เพื่อทำให้โรงงานแห่งนี้กลายเป็นจริง อาคารแห่งนี้จะใช้พลังงานหมุนเวียนโดยติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์กว่า 3,000 แผง บนหลังคา สามารถผลิตพลังงานได้ 1.3 เมกะวัตต์ 

จุดเด่นของโรงงานนี้จะนำน้ำฝนและพลังงานต่าง ๆ ที่เหลือจากการทดสอบแบตเตอรี่และมอเตอร์กลับมาใช้ใหม่ได้ถึง 60%

รวมถึงเตรียมเปิดตัวรถสปอร์ต EV รุ่นแรกภายในสิ้นปีนี้ คาดว่าเคาะราคาอยู่ที่ 535,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 19 ล้านบาทไทย

Ferrari ได้เปิดตัวรถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอินรุ่นแรก นั่นคือ SF90 Stradale และตั้งเป้าว่าภายในปี 2026 จะรถยนต์ไฟฟ้าและ PHEV เพิ่มขึ้นต่อไปเพื่อรองรับผู้ที่สนใจ

 

ที่มา : electrek

#รถยนต์ไฟฟ้า #พลังงานหมุนเวียน # EV #Ferrari #TechhubUpdate 

จีนทำสำเร็จ ภารกิจสำรวจดวงจันทร์ ฉางเอ๋อ 6 กลับถึงโลกแล้ว

ตามกันมาหลายเดือน ภารกิจสำรวจดวงจันทร์ของยานฉางเอ๋อ 6 ประสบความสำเร็จ

หลังจากเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จีนได้ส่งยานสำรวจฉางเอ๋อ รุ่นที่ 6 ขึ้นสู่อวกาศเพื่อส่งไปสำรวจพื้นผิวด้านไกลของดวงจันทร์ เป็นบริเวณที่ยังไม่มีประเทศเข้าไปสำรวจได้

เพื่อทำภารกิจกางธงเป็นประเทศแรก รวมถึงเก็บตัวอย่างเศษหินและดินที่อยู่ใกล้กับปล่องภูเขาไฟกลับมาสำรวจอีกครั้ง 

ในภารกิจสุดแสนจะท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นความกดดันเรื่องการสื่อสาร ที่ต้องใช้ดาวเทียมทวนสัญญาณเพื่อสื่อสารกับยานสำรวจ หรือการโคตรกลับมายังโลกก็ดูเหมือนเป็นเรื่องที่ยากไปหมด

ฉางเอ๋อ 6 อยู่บนอวกาศประมาณ 53 วัน ก่อนชิ้นส่วนจะแตกออกจากกัน ส่งยานกลับมาจุดลงจอดได้สำเร็จ บริเวณเขตปกครองตนเองมองโกเลีย ทางตอนเหนือของจีน เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2024 เวลา 14:07

ตามแผนภารกิจที่ตั้งไว้แถมเศษหินและดินของดวงจันทร์ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เพื่อส่งต่อให้นักวิจัยไปศึกษาต่อไป

ถือว่าปิดฉากการสำรวจดวงจันทร์ของยานฉางเอ๋อ 6 อย่างสมบูรณ์ และในอนาคตจีนกำลังวางแผนยานฉางเอ๋อรุ่นต่อไป เพื่อกลับไปทำภารกิจอีกครั้ง

อ่านเพิ่มเติม >> ทำไมต้องสำรวจด้านหลังดวงจันทร์ ?

ที่มา : edition 

#ฉางเอ๋อ6 #TechhubUpdate

ปิดตัวอีกราย แอปสั่งอาหาร Robinhood เลิกให้บริการ 31 ก.ค.

เป็นเรื่องที่น่าเศร้า เมื่อแอปให้บริการรับส่งอาหาร ที่เป็นตัวกลางสำหรับร้านค้ารายย่อยกำลังจะปิดตัวลง

ล่าสุด SCBX ประกาศยุติการให้บริการแอปพลิเคชั่น Robinhood อย่างเป็นทางการ 

โดย SCBX เผยว่าได้บรรลุภารกิจช่วยเหลือร้านค้า ไรเดอร์ และผู้คนในช่วงวิกฤตโควิดได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา แอปพลิเคชั่น Robinhood สามารถให้บริการในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองท่องเที่ยวต่าง ๆ 

จึงประกาศว่าตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 เวลา 20.00 . เป็นต้นไป แอปพลิเคชั่นในเครือทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น Robinhood Shop, Robinhood Rider, Robinhood Driver จะไม่สามารถใช้บริการได้อีกต่อไป

จึงเร่งให้ผู้ประกอบการร้านค้า ไรเดอร์ ผู้ขับรถยนต์โดยสาร สามารถใช้บริการแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อทำธุรกรรมให้เสร็จเรียบร้อย

นับเป็นอีกหนึ่งแอปที่น่าเสียดาย หากต้องปิดตัวลง เพราะ Robinhood ถือเป็นแอปที่พัฒนามาได้ค่อนข้างดี สามารถควบคุมราคาสินค้าได้ ตามที่ตั้งกฎว่าราคาที่ขายผ่านแอปต้องตรงกับหน้าร้าน ทำให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงร้านค้าได้ง่ายขึ้นแถมราคาก็ไม่ได้สูงจนเกินไปเมื่อเทียบกับแอปประเภทเดียวกัน

ที่มาSCBX 

#Robinhood #TechhubUpdate

HPE เปิดตัวเทคโนโลยี Virtualization ใหม่ ส่งเสริมประสิทธิภาพ เร่งระยะคุ้มทุน และลดความเสี่ยงในการทำงานแบบครบวงจร

การเปิดตัวเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtualization) ใหม่ ทำให้ HPE เป็นผู้ให้บริการรายแรกที่นำเสนอเทคโนโลยีและบริการระดับองค์กรที่ครอบคลุมรวมถึงชุดเทคโนโลยีไฮบริดคลาวด์

บริษัทฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอนเตอร์ไพรส์ [Hewlett Packard Enterprise (NYSE: HPE)] ประกาศขยายการให้บริการไฮบริดคลาวด์ด้วยเทคโนโลยี HPE Virtualization สำหรับ HPE Private Cloud ซึ่งประกอบด้วยเครื่องเสมือนเคอร์เนล (Kernel-based Virtual Machine (KVM)) แบบโอเพนซอร์ส พร้อมกับซอฟต์แวร์ประสานอัตโนมัติแบบคลัสเตอร์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ HPE เพื่อรองรับประสิทธิภาพและความพร้อมใช้งานขั้นสูงที่จำเป็นสำหรับเวิร์กโหลดขององค์กรที่มีความต้องการในการใช้งานสูง โดยคลัสเตอร์การจำลองเสมือนนี้ได้รับการจัดการผ่านส่วนควบคุมบนคลาวด์ ซึ่งจะช่วยลดความจำเป็นในการใช้ทรัพยากรเพื่อการจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อระบบภายในองค์กร ทั้งนี้ เทคโนโลยี Virtualization ของ HPE ได้รับการออกแบบให้มีความพร้อมใช้งานสูง แม้ในช่วงที่ไม่ได้มีการเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์

นายฮัง ทาน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ HPE Hybrid Cloud กล่าวว่า “เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของการทำงานไฮบริดคลาวด์อย่างแท้จริง บริษัทต่างๆ เริ่มตระหนักถึงความจำเป็นในด้านการออกแบบระบบแบบไฮบริด (Hybrid by Design) ที่จะสามารถนำเสนอโมเดลการดำเนินงานคลาวด์บนแพลตฟอร์มแบบองค์รวมได้ และในขณะเดียวกัยสามารถมอบความยืดหยุ่น การควบคุม และอิสระจากข้อจำกัดในการโอนย้ายบริการ และเพื่อช่วยตอบสนองความต้องการเหล่านี้ เราตื่นเต้นมากที่จะได้ขยายข้อเสนอไฮบริดคลาวด์ของเราด้วยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtualization capability) ของ HPE สำหรับ HPE Private Cloud โดยการรวบรวมความสามารถของไฮบริดคลาวด์ทั้งระบบหน้าบ้านและหลังบ้าน (Full-stack) และระบบนิเวศคลาวด์แบบไฮบริดแบบเปิดของเรา ทำให้คลาวด์ HPE GreenLake สามารถรองรับการเติบโตในอนาคตสำหรับองค์กรได้อย่างเพรียบพร้อม นอกจากนี้คลาวด์ HPE GreenLake ยังให้ความสำคัญกับลูกค้ามาเป็นอันดับแรก โดยเรามุ่งมั่นที่จะรองรับมาตรฐานแบบเปิด (Open standards) รวมถึงรองรับผู้ให้บริการแบบ multi-vendor และระบบ multi-cloud นอกจากนี้ HPE จะยังคงร่วมมือกับผู้นำในอุตสาหกรรมรายอื่นๆ ในด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เสมือน  (Virtualization Technology) และเทคโนโลยีคอนเทนเนอร์ (Container Technology) ต่อไป เพื่อรองรับการทำงานของระบบเพื่อส่งมอบโซลูชั่นที่ดีที่สุดตามความต้องการของลูกค้าของเรา”

HPE Virtualization ได้ผนวกกับ HPE Private Cloud อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อมอบประสบการณ์การจัดการที่ง่ายดาย พร้อมการปกป้องข้อมูล และบริหารวงจรแบบอัตโนมัติ

เทคโนโลยี Virtualization ของ HPE เป็นส่วนหนึ่งของโซลูชันระบบคลาวด์ส่วนตัวแบบครบวงจร ซึ่งสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีด้านการประมวลผล การสร้างเครือข่าย และการจัดเก็บข้อมูลระดับชั้นนำของ HPE โดยลูกค้าที่ใช้ HPE Private Cloud พร้อมเทคโนโลยี Virtualization ของ HPE จะได้รับประโยชน์จากประสบการณ์การจัดการที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ซึ่งรวมถึงการทำงานแบบอัตโนมัติ Day 0, Day 1+, การจัดเตรียม VM ที่รวดเร็วด้วยการคลิกเพียงสองครั้ง พร้อมการปกป้องข้อมูลในตัว และการจัดการวงจรการใช้งานแบบอัตโนมัติ

นอกจากนี้ ลูกค้าจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากแพลตฟอร์ม HPE Alletra Storage MP ที่ผสานรวมแบบเนทีฟ (Native integration) ของ HPE ซึ่งให้ประสิทธิภาพสูงสำหรับเวิร์กโหลดที่มีข้อมูลจำนวนมากและลดขนาดข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย HPE Alletra Storage MP จะช่วยขยายและเพิ่มขนาดของระบบได้อย่างอิสระเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับความต้องการเวิร์กโหลดเฉพาะแต่ละงาน และตอนนี้ยังสามารถขยายการจำลองข้อมูลไปยังคลาวด์สาธารณะด้วยเทคโนโลยีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ (SDS) ได้อีกด้วย ทั้งนี้ บริการให้คำปรึกษา บริการเฉพาะด้านต่าง ๆ และบริการการจัดการของ HPE ลูกค้าจะสามารถป้องกันความเสี่ยงด้านการดำเนินงานและด้านเทคโนโลยีได้มากยิ่งขึ้น พร้อมกับได้รับระยะคุ้มทุนที่รวดเร็วยิ่งขึ้น

HPE Private Cloud ใช้งานได้ทั้งเวิร์กโหลดเสมือนจริง รวมถึงเวิร์กโหลดบนคลาวด์ และเวิร์กโหลด AI พร้อมทั้งรองรับเครื่องเสมือน (Virtual machine) คอนเทนเนอร์ และ Bare Metal โดยบริษัทที่เลือก HPE Private Cloud จะได้รับการผสานรวมแบบเนทีฟร่วมกับบริการไฮบริดคลาวด์ของ HPE เช่น การปกป้องข้อมูลและความยืดหยุ่นทางไซเบอร์ (Zerto, บริษัทในเครือฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอนเตอร์ไพรส์) ตลอดจนการจัดการการดำเนินงานด้าน IT ที่ขับเคลื่อนด้วย AI (OpsRamp, บริษัทในเครือฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอนเตอร์ไพรส์) พร้อมด้วยการผสานรวมของบริษัทชั้นนำอื่นๆ  ซึ่งทั้งหมดนี้จะถูกนำเสนอด้วยโมเดลการจัดการคลาวด์บนแพลตฟอร์มแบบครบวงจรผ่านคลาวด์ HPE GreenLake

HPE เป็นผู้ให้บริการรายแรกที่นำเสนอเทคโนโลยีไฮบริดคลาวด์แบบเต็มรูปแบบ

การเพิ่มเทคโนโลยี Virtualization ใหม่นี้ ได้ทำให้ HPE กลายเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่นำเสนอชุดเทคโนโลยีและบริการระดับองค์กรเต็มรูปแบบสำหรับเทคโนโลยีคลาวด์ไฮบริด ซึ่งได้แก่

  • โครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ส่วนตัวแบบแยกส่วน พร้อมระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI
  • การจำลองเสมือนและการแบ่งส่วนเครือข่าย (HPE Aruba Networking)
  • การเคลื่อนย้ายข้อมูลด้วยประสบการณ์แบบครบวงจรทั้งบนคลาวด์ส่วนตัวและคลาวด์สาธารณะ โดยใช้ SDS (HPE Alletra Storage MP)
  • ชุดการทำงานของระบบที่ครบสมบูรณ์ (เครื่องเสมือน, คอนเทนเนอร์, Bare Metal) และเฟรมเวิร์ก AI
  • บริการคลาวด์แบบมัลติคลาวด์และผู้ให้บริการหลายรายสำหรับการจัดการการดำเนินงานด้าน IT (OpsRamp) การปกป้องข้อมูลและความยืดหยุ่นทางไซเบอร์ (Zerto) รวมถึงการรายงานความยั่งยืน (Sustainability Insights Center)
  • ส่วนควบคุมคลาวด์แบบครบวงจรบนแพลตฟอร์ม (HPE GreenLake)
  • บริการให้คำปรึกษาและบริการเฉพาะด้านต่าง ๆ บริการการจัดการ และบริการทางการเงิน

การผสานรวมเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบของ HPE ให้เข้ากับการทำงานจากองค์กรภายนอก ทำให้ HPE มีความน่าสนใจเป็นพิเศษเมื่อลูกค้าต้องการให้ผู้ให้บริการแบบรายเดียวลดความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีและการดำเนินงานให้อยู่ในระดับต่ำสุด

ช่วยประหยัด TCO ได้ถึง 5 เท่า ด้วยแนวทาง Hybrid by Design ใน 3 ขั้นตอน

องค์กรต่างๆ สามารถประหยัด TCO ได้สูงสุดถึง 5 เท่า1 เมื่อใช้ HPE Private Cloud และเป็นพาร์ทเนอร์กับ HPE เพื่อปรับปรุงอสังหาริมทรัพย์ด้าน IT เสมือนจริงให้ทันสมัย โดย HPE ได้กำหนดแนวทางแบบองค์รวมไว้สามขั้นตอนดังนี้

  1. การปรับให้เหมาะสม (Optimize) – ใช้ประโยชน์จาก HPE Cloud Physics เพื่อปรับขนาดพื้นที่ Virtualization ของลูกค้าให้เหมาะสม และได้รับประโยชน์จากข้อได้เปรียบทางสถาปัตยกรรมของโซลูชัน HPE Private Cloud เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ TCO
  1. การเพิ่มความทันสมัย (Modernize) – ร่วมกับ HPE Services เพื่อเร่งนำแพลตฟอร์มคลาวด์เนทีฟและ AI มาใช้ โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีของ HPE เช่น การย้ายข้อมูลของ Zerto, เทคโนโลยีคอนเทนเนอร์และการจำลองเสมือนของ HPE, โซลูชันจากองค์กรภายนอก และพาร์ทเนอร์ Public Cloud ของ HPE
  1. การลดความซับซ้อน (Simplify) – ขจัดความซับซ้อนในการจัดการสภาพแวดล้อมที่หลากหลายบนคลาวด์ส่วนตัวและสาธารณะ (Private and Public Clouds) โดยใช้ประโยชน์จากประสบการณ์การทำงานแบบครบวงจรของแพลตฟอร์มคลาวด์ HPE GreenLake และบริการคลาวด์ไฮบริดผสานรวมแบบเนทีฟของ HPE ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแบบหลายรายและมัลติคลาวด์

ตัวอย่างเทคโนโลยี Virtualization ของ HPE ได้รับการจัดแสดงที่งาน HPE Discover 2024 และวางแผนจะเปิดตัวครั้งแรกโดยเป็นส่วนหนึ่งของ HPE Private Cloud Business Edition ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2024

ที่มา:

1 เทียบกับ TCO ของสภาพแวดล้อมเสมือนจริงเดิมขณะใช้งาน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก เอกสารหลักฐานของ HPE

เกี่ยวกับ ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์

ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ (NYSE: HPE) เป็นบริษัทระดับโลกแบบ edge-to-cloud ที่ช่วยให้องค์กรเสริมประสิทธิภาพ ปลดล็อคทุกข้อจำกัด เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ HPE ถือกำเนิดจากการสร้างจินตนาการใหม่ในอนาคตและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อความก้าวหน้าในการใช้ชีวิตและการทำงานของผู้คน HPE นำเสนอโซลูชันเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เปิดกว้างและเป็นบริการที่ไม่เหมือนใคร ด้วยข้อเสนอที่ครอบคลุมบริการคลาวด์ การประมวลผล คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงและปัญญาประดิษฐ์, การประมวลผลอัจฉริยะในระดับเอดจ์ ซอฟต์แวร์ และพื้นที่เก็บข้อมูล HPE มอบประสบการณ์ที่สอดคล้องกันทั่วทั้งคลาวด์และเอดจ์ทั้งหมด ช่วยให้ลูกค้าพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ มีส่วนร่วมในรูปแบบใหม่ และเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: www.hpe.com

เลอโนโว พร้อมวางจำหน่าย Lenovo ThinkStation P2 Tower ในประเทศไทยแล้ววันนี้

  • เลอโนโว ออกแบบเวิร์กสเตชันอันทรงพลังอย่าง Lenovo ThinkStation P2 Tower รุ่นใหม่
    เพื่อการทำงานระดับมืออาชีพในราคาที่เอื้อมถึงได้

เลอโนโว เปิดตัว Lenovo ThinkStation P2 Tower ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในไลน์โซลูชันเดสก์ท็อปเวิร์กสเตชัน ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การทำงานระดับมืออาชีพของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในปัจจุบัน โดยผสานทั้งประสิทธิภาพการประมวลผลอันแข็งแกร่ง ความโดดเด่นในแง่ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือของตัวผลิตภัณฑ์ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมั่นใจว่าจะสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง โดยผลิตภัณฑ์ Lenovo ThinkStation P2 Tower พร้อมวางจำหน่ายด้วยราคาที่จับต้องได้ แล้ววันนี้ในประเทศไทย

Lenovo ThinkStation P2 Tower คือ เดสก์ท็อปเวิร์กสเตชันที่เต็มเปี่ยมไปด้วยองค์ประกอบภายในที่สมบูรณ์แบบ ด้วยโปรเซสเซอร์ขั้นสูงสุดอย่าง Intel® Core™ i9 ที่รองรับสูงสุดถึง 24 คอร์ พร้อมรองรับ Intel vPro® ให้สามารถปรับและเข้าถึงได้ทุกองศาการทำงานของวิศวกร ดีไซน์เนอร์ นักวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงนักเรียนนักศึกษา พร้อมมอบประสิทธิภาพที่เหนือชั้นผ่านการประมวลผลระดับองค์กรได้อย่างไร้ที่ติ เหมาะกับมือโปรที่ต้องจัดการกับเวิร์กโหลดและข้อมูลจำนวนมาก นอกจากนี้ยังขยายขอบเขตความครีเอทีฟได้ด้วยตัวเลือกกราฟิกแยกจาก NVIDIA RTX™ A2000 สูงสุดถึง 12GB และ RTX 4070 ถึง 12 GB

เดสก์ท็อปเวิร์กสเตชันตัวนี้มาพร้อมกับแอพพลิเคชันที่ได้รับการรับรองจาก ISV ซึ่งเป็นตัวช่วยให้การทำงานที่ละเอียดและซับซ้อนเป็นไปได้อย่างราบรื่นด้วยประสิทธิภาพระดับสูง สำหรับระบบปฏิบัติการที่มากับตัวเครื่องมีให้เลือกสรรได้ระหว่าง Microsoft Windows หรือ Linux ให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ตามความต้องการของซอฟต์แวร์และสภาพแวดล้อมการทำงาน Lenovo ThinkStation P2 Tower เป็นเดสก์ท็อปเวิร์กสเตชันที่ประหยัดพลังงานได้สูงสุด และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามเกณฑ์มาตรฐานการรับรองทั้งจาก EPEAT® Gold และ TCO Certified Generation 9

หมดกังวลกับปัญหาด้านความปลอดภัยเพราะ Lenovo ThinkStation P2 Tower มาพร้อมกับชุดโซลูชันความปลอดภัยทั้งด้านฮาร์ดแวร์  และซอฟต์แวร์อย่าง ThinkShield ที่จะช่วยปกป้องเวิร์กสเตชันและข้อมูลได้ครอบคลุมมากที่สุด โดยชิป Trusted Platform Module (TPM) 2.0 จะกำหนดรหัสผ่านเพื่อเข้าถึงพาสเวิร์ดและข้อมูลสำคัญอื่น ๆ ได้ และเมื่อเกิดการบุกรุกหรือขโมยข้อมูลเกิดความเสียหายจะมี BIOS ที่ช่วยรักษาและซ่อมแซมได้เองทันทีหากระบบถูกรบกวน นอกจากนี้ยังมี Kensington Security Slot™ ที่เสมือนเป็นกลไกการป้องกัน เสริมความปลอดภัยและซัพพอร์ตการอัพเดทเฟิร์มแวร์จาก Windows ได้อย่างทันท่วงที

Lenovo ThinkStation P2 Tower มากับตัวเลือกการเชื่อมต่อขั้นสูงเพื่อการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่อพ่วงและอุปกรณ์เสริมได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพอร์ตหรือสล็อตขยายรวมถึง USB-C, Thunderbolt™ 4 และ PCIe ด้วยดีไซน์ง่ายต่อการบำรุงรักษาทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงการอัพเกรดส่วนประกอบได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มอัตราการผลิตได้สูงขึ้นแม้ใช้เวลาทำงานน้อยลง

ผลิตภัณฑ์เวิร์กสเตชันจากเลอโนโว ได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับการเสริมประสิทธิภาพ และยกระดับศักยภาพของผู้ใช้งาน พร้อมรักษามาตรฐานความน่าเชื่อถือของการใช้งานที่จำเป็นในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของเทคโนโลยีความเป็นเสมือน (Virtual Reality) หรือไปแบบผสมผสาน ไปจนถึงการเรียนรู้ของเครื่องจักร, ฐานข้อมูลวิทยาศาสตร์, วิศวกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ช่วย (CAE), การจับภาพด้วยเทคโนโลยีเอไอ ผ่านโปรเซสเซอร์ประมวลผลที่ทรงพลัง Intel® Xeon® W processors รุ่นใหม่ล่าสุด เพื่อตอบสนองความต้องการ และกำลังที่มากขึ้น ด้วยประสิทธิภาพที่แข็งแกร่ง ยืดหยุ่นในการประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว ให้รองรับกับโลกแห่งการทำงานแบบไฮบริดแห่งอนาคต

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Lenovo ThinkStation P2 Tower ได้ที่ https://www.lenovo.com/th/th/p/workstations/thinkstation-p-series/lenovo-thinkstation-p2-tower-workstation/

เกี่ยวกับ เลอโนโว

เลอโนโว ภายใต้บริษัท Lenovo Group Limited (HKSE: 992) (ADR: LNVGY) เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลกที่มีมูลค่าธุรกิจ 57 พันล้านเหรียญสหรัฐ และอยูในรายชื่อบริษัท Fortune Global 500 อันดับที่ 217 เลอโนโวได้มีสาขาให้บริการลูกค้ากว่าล้านคนใน 180 แห่งทั่วโลก โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการสร้างอุปกรณ์อัจฉริยะเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยียุคใหม่ พร้อมวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการส่งมอบเทคโนโลยีอันชาญฉลาดยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน เลอโนโวได้สร้างความสำเร็จในฐานะผู้ผลิตพีซี พร้อม Pocket-to Cloud ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในพอร์ตโฟลิโอ ได้แก่ อุปกรณ์ทีรองรับและปรับแต่งระบบ AI (พีซี, เวิร์กสเตชัน, สมาร์ทโฟน และ แท็บเล็ต) ระบบโครงสร้างพื้นฐาน (ศูนย์ข้อมูล data center, พื้นที่เก็บข้อมูล, Edge, คอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ประสิทธิภาพสูง) รวมไปถึงซอฟต์แวร์ โซลูชัน และการบริการ เลอโนโวมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมที่เชื่อถือได้และชาญฉลาดยิ่งขึ้นสำหรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตเพื่อสร้างสังคมดิจิทัลที่ครอบคลุม เท่าเทียม และยั่งยืนแก่ผู้ใช้ทุกคนทั่วโลก ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเลอโนโวเพิ่มเติมได้ที่ https://www.lenovo.com และอ่านข่าวสารล่าสุดผ่านทาง StoryHub

NT แถลงผลประกอบการ 4 เดือนแรกปี 67 เผยกำไรได้เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้

วันที่ 26 มิถุนายน 2567  นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมประชุมกับ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เพื่อรับทราบผลการดำเนินงาน 4 เดือนแรกของปี 2567 และมอบนโยบายแนวทางการดำเนินงานให้คณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูง

โดยมี พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์  กรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT รายงานผลการดำเนินงานด้านการเงินตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2567 ว่ามีรายได้รวมทั้งสิ้น 27,929.78 ล้านบาท รายจ่าย 25,672.47 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,257.31 ล้านบาท ดีกว่าแผนซึ่งประมาณการอยู่ที่ขาดทุน 1023.97 ล้านบาท แบ่งตามกลุ่มธุรกิจ ดังนี้

  • Hard Infrastructure 3,151.07 ล้านบาท
  • International 582.70 ล้านบาท
  • Mobile 15,635.84 ล้านบาท
  • Fixed Line & Broadband 5,913.17 ล้านบาท
  • Digital 916.08 ล้านบาท
  • ICT Solution 578.22 ล้านบาท
  • รายได้อื่น 1,077.36 ล้านบาท
  • โครงการรัฐ 34 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานภายหลังการควบรวบ ได้ดำเนินการบูรณาการกระบวนการ รวมถึงระบบงานต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจ อาทิ กระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ กระบวนการส่งต่อผลงานวิจัยและนวัตกรรมออกสู่เชิงพาณิชย์ ระบบงาน Customer segment  พร้อมเตรียมรองรับนโยบาย  Go Cloud First โดย NT  มีความพร้อมให้บริการระบบคลาวด์กลางภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการจัดหาทรัพยากรด้านการประมวลผล (Computing Resource) ให้กับภาครัฐในรูปแบบการให้บริการ  Cloud Service  รองรับหน่วยงานรัฐให้เข้าถึงทรัพยากรด้านคลาวด์ด้วยมาตรฐานสากล พร้อมกับนำเทคโนโลยีใหม่ที่ทันสมัยมาเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลภาครัฐ รวมถึงได้เพิ่มบริการ Market Place บน GDCC เพื่อรองรับการให้บริการแพลตฟอร์มไอที แอปพลิเคชันใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งในปัจจุบัน NT Cloud Service ได้ให้บริการลูกค้าภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน มากกว่า 1,700 ราย มี Workloads มากกว่า 5,000 workloads

ในส่วนของให้บริการ 5G ได้กำหนดแผนการดำเนินงานแบ่งเป็นโครงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 5G บนคลื่น 700 MHz กำหนดให้มีการสร้างโครงข่าย 4G/5G จำนวน 13,500 สถานีฐาน ครอบคลุมพื้นที่ 95% ของจำนวนประชากร โดยข้อมูล ณ เดือนพฤษภาคม 2567 ติดตั้งครอบคลุม 60 % ของจำนวนประชากร พร้อมกันนี้ได้ตั้งเป้าให้ปี 2567 มีผู้ใช้บริการ my บนโครงข่าย 700 MHz จำนวน 600,000 เลขหมาย สำหรับโครงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 5G บนคลื่น 26 GHz อยู่ระหว่างการหาพันธมิตรเพื่อร่วมกันทำโซลูชั่นเพื่อเสนอบริการ 5G Private Network แก่ลูกค้าองค์กร

ทั้งนี้ทิศทางการดำเนินธุรกิจในรูปแบบร่วมลงทุนกับพันธมิตร NT ได้ร่วมกับบริษัท OneWeb Network Access Holdings Limited จัดตั้ง Satellite Network Portals Site Hosting Service ในภูมิภาคอาเซียน เพื่อเป็นสถานีภาคพื้นดินบริหารจัดการดาวเทียมวงโคจรต่ำ โดยตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนากิจการดาวเทียมสื่อสารของประเทศ ควบคู่ไปกับความคุ้มค่าในการลงทุน และจะต้องสอดคล้องกับนโยบายดาวเทียมสื่อสารแห่งชาติ เพื่อให้ความร่วมมือที่เกิดขึ้นสร้างประโยชน์ให้ภาพรวมของประเทศ ทั้งในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีสื่อสาร สาธารณสุข รวมถึงการพัฒนาในเชิงเศรษฐกิจ และสังคม ซึ่ง NT ในวันนี้พร้อมเป็นองค์กรแห่งชาติที่สามารถเชื่อมต่อเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมเพื่อคนไทยทุกคน

BenQ ร่วมกับ Uneekor โชว์นวัตกรรมเด่น Golf Simulator Projector รุ่น LK936ST พร้อมยกสนามกอล์ฟจำลองสร้างประสบการณ์ใหม่ลูกค้า ในงาน Thailand Golf Expo 2024

BenQ ผู้สร้างนวัตกรรมด้านภาพที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ร่วมออกงานจัดแสดงสินค้าระดับประเทศในงาน Thailand Golf Expo 2024 โดยได้ร่วมมือกับ Uneekor ผู้นำด้านเทคโนโลยีเครื่องจำลองกอล์ฟ จัดห้องกอล์ฟซีมูเลเตอร์ (Golf Simulator) เพื่อจำลองการเล่นกอล์ฟสุดครบครันให้กับผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ภายในงานครั้งนี้ BenQ ได้มีการแสดงนวัตกรรมล้ำสมัยด้านเครื่องฉายภาพที่คิดค้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการอย่างเหนือระดับ อย่างกอล์ฟซีมูเลเตอร์โปรเจคเตอร์ (Golf Simulator Projector) รุ่น LK936ST สะท้อนความเป็นผู้นำและความสำเร็จที่ได้รับการไว้วางใจจากลูกค้า และการตอบรับที่ดีจากผู้เข้าชมงานอย่างท่วมท้น

นายโรเจอร์ เฉิน ผู้อำนวยการ บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า BenQ ได้เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตของตลาดกีฬากอล์ฟในร่มของประเทศไทยที่มีความคึกคักต่อเนื่อง ควบคู่กับการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่กีฬากอล์ฟ โดยพบจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดือนมกราคมถึงมีนาคม 2567 มากกว่า 21 ล้านคน จึงได้นำโปรเจคเตอร์รุ่น LK936ST ร่วมออกบูธแสดงสินค้าในงาน Thailand Golf Expo 2024 ที่ผ่านมา เทคโนโลยีเลเซอร์ที่ปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมการฉายภาพ เพื่อรองรับเทรนด์กอล์ฟซีมูเลเตอร์ (Golf Simulator) ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในประเทศไทย ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความบันเทิงครบรสจากการเล่นกอล์ฟในห้องแอร์หรือภายในบ้าน ขณะเดียวกันยังต้องการพื้นที่เพื่อสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนช่วงหลังเลิกงาน หรือกิจกรรมสำหรับครอบครัวในวันหยุดได้อย่างครอบคลุม รวมถึงด้านธุรกิจโรงแรม เพื่อเพิ่มสิ่งอํานวยความสะดวกในโรงแรมให้นักท่องเที่ยวดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของสนามกอล์ฟที่สมจริง นับเป็นการตอกย้ำความสำเร็จในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยีของ BenQ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง”

LK936ST เลเซอร์โปรเจคเตอร์ที่ได้รับรางวัลด้านความสมจริง โดดเด่นและแม่นยำที่สุดในทุกๆ มิติ มาพร้อมความสามารถและประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อประสบการณ์การตีกอล์ฟที่เหนือระดับ

  • ความละเอียดคมชัดระดับ 4K เพื่อการนําเสนอคุณภาพของภาพที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ โดย LK936ST มีความละเอียด 3 ล้านพิกเซล เพิ่มความละเอียดมากกว่า Full HD 1080p ถึง 4 เท่า จึงมอบความคมชัดของทุกรายละเอียดภาพได้อย่างชัดเจน
  • ความถูกต้องแม่นยําของสีที่น่ามหัศจรรย์ ความแม่นยําของสี Rec 709 ถึง 92% เพื่อความแม่นยำของสีที่ดีที่สุด เพลิดเพลินกับการเล่นกอล์ฟด้วยสีสันสมจริงสุดสมบูรณ์แบบ พร้อมการฉายภาพที่ปรับเปลี่ยนตามสีที่แสดงสนามกอล์ฟได้เป็นอย่างดี
  • เพิ่มมิติมุมมองภาพได้เสมือนจริง ด้วย 5100 ANSI LASER LUMENS เหมาะสําหรับการฉายภาพขนาดใหญ่ในห้องที่สว่างได้อย่างสมดุล
  • เลนส์คุณภาพสร้างอัตราส่วนระยะฉายใกล้ปกติแบบคงที่ ด้วยเลนส์สําหรับระยะฉายสั้น (SHORT-THROW) เต็มหน้าจอที่กว้าง 14 ฟุตโดยมีระยะฉายน้อยกว่า 12 ฟุต สามารถฉายภาพขนาดใหญ่กว่าปกติได้ในพื้นที่จํากัด และมีฟังก์ชันการแก้ไขภาพสี่เหลี่ยมคางหมู 3D อัตโนมัติและการปรับภาพให้พอดีกับมุมอีกด้วย ช่วยแก้ไขปัญหาที่โปรเจคเตอร์ส่วนใหญ่ไม่สามารถปรับเข้ากับพื้นที่จำลองได้ทั้งหมด
  • เลเซอร์ที่ไม่ต้องบํารุงรักษา LK936ST ของ BenQ มีการออกแบบด้วยกลไกเลเซอร์ที่ปิดผนึกด้วยฟังก์ชันป้องกันฝุ่น IP5X เพื่อให้ฝุ่นไม่เข้าไปในเลนส์ และมีสีที่ทนทานในระยะยาว โดยมีอายุการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพถึง 20,000 ชั่วโมง

ความพิเศษในงานนี้คือ BenQ ได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์สำคัญอย่าง Uneekor ผู้นำด้านเทคโนโลยีเครื่องจำลองกอล์ฟ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพการสาธิตภาพที่สมจริงที่สุดของสนามกอล์ฟชื่อดังระดับโลก ได้ผนวกระบบ EYE XO โดยใช้กล้องความเร็วสูง 2 ตัว เพื่อให้ตอบสนองต่อการตีกอล์ฟด้วยความแม่นยำสูง และมีการติดตั้ง Launch Monitor สำหรับนักกอล์ฟทุกคนให้สามารถรับข้อมูลไม้กอล์ฟและลูกได้ทันที โดยไม่เกิดความล่าช้าในการแสดงผลด้วยภาพ ผู้เล่นยังสามารถสลับไม้จากมือขวาไปมือซ้ายได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องปรับอุปกรณ์ อีกทั้งระบบ EYE XO ยังให้การเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์กอล์ฟในระบบอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ GS Pro, TGC 2019, E6 เป็นต้น

นายโรเจอร์ เฉิน กล่าวเสริมว่า นอกจากโปรเจคเตอร์รุ่น LK936ST ทาง BenQ ยังได้นำกระดานอัจฉริยะ BenQ Board Pro RP04 มาร่วมออกบูธภายในงาน เพิ่มทางเลือกให้กับโค้ชหรือผู้ฝึกสอนกอล์ฟสามารถใช้งานโปรเจคเตอร์ควบคู่กับกระดานอัจฉริยะ เพื่อประสิทธิภาพการซ้อมที่มากยิ่งขึ้น ทั้งการจําลองสนามกอล์ฟส่วนตัว และพร้อมตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่กำลังมองหาประสบการณ์เล่นกอล์ฟที่แม่นยำ สะดวกครบครัน และใช้งานง่าย ซึ่งจากแนวโน้มการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมกีฬากอล์ฟในร่ม และภาพรวมธุรกิจอุปกรณ์กีฬากอล์ฟของประเทศไทย เราคาดหวังว่าจะนำมาสู่โอกาสในการขยายฐานลูกค้าให้มีการเข้าถึงสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นของ BenQ ต่อไปในอนาคต

โดยงานนี้ได้รับความสนใจและมีผลตอบรับที่ดีจากผู้เข้าร่วมงานในหลากหลายวงการ อาทิ ดีเจอาร์ต มารุต ชื่นชมบูรณ์ ดีเจชื่อดังผู้ที่ชื่นชอบการตีกอล์ฟ และนักกอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทยอย่างโปรเจ็ต สัตยา ทรัพย์อัประไมย ที่ได้มาร่วมสัมผัสและทดลองใช้ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีคุณภาพสูงของโปรเจคเตอร์ LK936ST ซึ่งสะท้อนความความสำเร็จและความมุ่งมั่นของ BenQ ในตลาดกอล์ฟซีมูเลเตอร์ภายในประเทศไทยอย่างเต็มที่

สำหรับผู้ที่สนใจกอล์ฟซีมูเลเตอร์โปรเจคเตอร์ (Golf Simulator Projector) รุ่น LK936ST ที่ร่วมกับ Uneekor สามารถติดต่อ BenQ เพื่อสอบถามเพิ่มเติมและรับสิทธิประโยชน์จากแพ็กเกจ Early-Bird ที่มีจำนวนจำกัดได้ก่อนใคร โดยสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ทาง https://benqurl.biz/3yFKX8A

สามารถติดตามข่าวสารต่างๆ จาก BenQ ได้ทาง Facebook: BenQ และ LINE Official : @BenQCare.

Tesla เป็นเรื่องอีก ขังเด็กไว้ข้างในรถ แบตหมดประตูเปิดไม่ได้

เป็นเรื่องใหญ่ เมื่อของแบตเตอรี่ 12 โวลต์ ที่ใช้สำหรับควบคุมระบบอิเล็กทรอนิกส์ของรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model Y เกิดหมดทำให้ไม่สามารถใช้ประตูและหน้าต่างได้

Renee Sanchez โทรหาเจ้าหน้าที่อย่างเร่งด่วนเพื่อขอความช่วยเหลือเพราะหลานอายุ 20 เดือน ติดอยู่ในรถยนต์ไฟฟ้า Tesla เพียงลำพัง

เธอเผยว่าเมื่อนำหลานสาวนั่งคาร์ซีตและรัดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อย เธอได้ทำการปิดประตูและอ้อมไปนั่งในฝั่งคนขับเพื่อพาหลานสาวไปสวนสัตว์ แต่แบตเตอรี่ของรถนั้นเกิดปัญหา

ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้เธอพยายามใช้สมาร์ทโฟนในการปลดล็อก (Phone Key) ก็ยังไม่สามารถช่วยหลานได้ 

แถมช่วงนี้รัฐแอริโซนามีอุณหภูมิสูงเรื่อย ๆ และกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อตัวเด็ก จึงได้ติดต่อขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับเพลิงโดยใช้ขวานทุบกระจกเพื่อช่วยเด็กได้อย่างปลอดภัย 

แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความกังวลว่าทำไมจึงไม่มีวิธีที่ง่ายในการเปิดรถจากภายนอกเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือไม่ได้รับการแจ้งเตือนให้ทราบถึงจำนวนของแบต

เมื่อไม่นาน Tesla ก็เจอปัญหาแบตเสีย ทำรถล็อคและต้องจ่ายค่าเปลี่ยนแบตเกือบแสน

อ่านเพิ่มเติม >> https://www.techhub.in.th/tesla-driver-locked-out-of-car/

 

ที่มา : theverge

#Tesla #ModelY #TechhubUpdate

Hot Issue