Home Blog Page 62

คอร์สสุดฮิต Excel ระดับอินเตอร์ เรียนฟรีแถมมีใบเซอร์

เซฟเก็บไว้ก่อน! คอร์สสุดฮิตโปรแกรม Excel ระดับสากล เรียนฟรีแถมมีใบเซอร์

Santander Open Academy เปิดสอนออนไลน์เนื้อหาใหม่สำหรับคนที่สนใจ Microsoft Excel โดยเฉพาะ เนื้อหาเป็นขั้นพื้นฐานสามารถทำความเข้าใจได้แบบง่าย ๆ

หลักสูตรนี้จะช่วยพัฒนาทักษะที่จำเป็นใน Excel ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานจนถึงระดับกลาง เพื่อเสริมความรู้เรื่องฟังก์ชันต่างๆ ที่จำเป็นในการดำเนินการจัดการข้อมูลหรือวิเคราะห์ข้อมูล

ทางไปเรียน >> Course Santander | Excel (ตั้งแต่วันนี้ – 31/12/2024)

สำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปเรียนได้ทุกประเทศทั่วโลก สอนเป็นภาษาอังกฤษจัดเต็ม 8 ชั่วโมง เมื่อเรียนจบครบทุกหลักสูตร สามารถขอรับใบเซอร์ในระบบได้

สำหรับคนที่กำลังหาคอรืสเรียนออนไลน์ที่เป็นภาษาไทย สามารถกดลิ้งค์นี้ได้เลยครับ

>> techhub 

#Excel #TechhubUpdate

เช็คเองไม่ไหว YouTube เปิดทางคนดู แจ้งลบคลิปที่สร้างโดย AI

เยอะเกินไปด็มีผลเสีย YouTube เช็คเองไม่ไหว เปิดคำร้องให้ผู้ใช้แจ้งคลิปที่ทำจาก AI ได้ด้วยตัวเอง หากพบว่ามีการเลียนแบบใบหน้าหรือเสียงคลิปดังกล่าวจะถูกลบทันที

Meta ไม่ใช่บริษัทเดียวที่ต้องเผชิญกับเนื้อหาสร้างโดย AI ที่เพิ่มมากขึ้นหลายเท่าทำให้ส่งผลกระทบต่อแพลตฟอร์ม YouTube เริ่มปรับนโยบายใหม่อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถร้องขอให้ลบเนื้อหาที่สร้างโดย AI ที่มีลักษณะเลียนแบบ

ถึงแม้ว่า YouTube จะเปิดเครื่องมือ AI ใน Creator Studio ที่ให้ผู้ใช้สามารถสร้างผลงานจาก AI ในเชิงสร้างสรรค์และติดป้ายกำกับเนื้อหาว่า AI  แต่หากตรวจพบว่าวิดีโอตั้งใจให้เป็นการล้อเลียนหรือทำให้เข้าใจผิดจะถูกตรวจสอบทันที

อย่างไรก็ตามการส่งคำขอให้ลบออกวิดีโอ ไม่ได้หมายความว่าเนื้อหานั้นจะถูกลบออกเสมอไป แต่จะใช้ดุลพินิจของทีมงานในการตัดสิน

YouTube จะส่งแจ้งเตือนไปยังครีเอเตอร์ทันที และให้ทำการลบคลิปหรือเข้าสู่ขั้นตอนของการยื่นคำร้องต่อไป โดยที่จะต้องดำเนินการภายใน 48 ชั่วโมง 

เนื้อหาที่สร้างขึ้นจาก AI ที่ผิดกฎ ได้แก่ ล้อเลียนเสียดสีบุคคลสาธารณะหรือบุคคลที่มีชื่อเสียง

อาชญากรรม ความรุนแรง เพราะอาจทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดได้

 

ที่มา : techcrunch 

#YouTube #AI #TechhubUpdate 

เตือนแบบใด รัฐบาลอินโดโดนล็อคไฟล์ สุดท้ายได้คีย์จากแฮกเกอร์

[ตบหัวแล้วลูบหลัง] กลืนไม่เข้าคายไม่ออกกันเลย หลังศูนย์ข้อมูลแห่งชาติของอินโดนีเซียถูก Ransomware เล่นงาน จนไฟล์ข้อมูลสำคัญมากมายโดนล็อครหัส ทว่าภายหลังกลุ่มแฮกเกอร์ได้ส่งคีย์ถอดรหัสมาให้ เผยเป็นการเตือนให้รัฐบาลอินโดนีเซียหาคนที่มีความเชี่ยวชาญจริง ๆ มาดูแลเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นการด่วน

รายงานจาก Golem.de เว็บไซต์เทคโนโลยีของเยอรมนีเผย Brain Cipher กลุ่มแฮกเกอร์ได้ส่ง Ransomware ไปโจมตีศูนย์ข้อมูลแห่งชาติของอินโดนีเซีย (PDNS) เป็นชั่วคราว ก่อนเตรียมส่งคีย์ถอดรหัสไปให้ พร้อมคำแนะนำการใช้งานเสร็จสรรพ

“เราหวังว่าการโจมตีครั้งนี้ จะทำให้ทางรัฐบาลเห็นความสำคัญในการจัดหาเงินทุน เพื่อรับสมัครผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณสมบัติเหมาะสม” กลุ่ม Brain Cipher กล่าว พร้อมเผยอีกว่าการโจมตีครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองใด ๆ สุดท้ายได้กล่าวขอโทษต่อชาวอินโดนีเซีย ที่อาจได้รับผลกระทบจากการโจมตีครั้งนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม การโจมตีครั้งนี้ยังทำให้ทราบด้วยว่า ศูนย์ข้อมูลในเมืองหลวงจาการ์ตาหลาย ๆ แห่ง ไม่มีการ Backup หรือสำรองข้อมูลเอาไว้เลย ปัจจุบันทางรัฐบาลอินโดนียังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้ และท้ายนี้ก็ยังไม่ชัวร์ว่าคีย์ถอดรหัสใช้งานได้จริงหรือไม่

ที่มา : Tomshardware

EL-2 Goldfinch เครื่องบินเชื้อเพลิงไฮบริด บินขึ้นได้แทบไม่ใช้รันเวย์

EL-2 Goldfinch

Electra บริษัทด้านอากาศยานยุคใหม่ ประสบความสำเร็จในการทดสอบเครื่องบินไฮบริดไฟฟ้า EL-2 Goldfinch โดยสามารถบินได้โดยแทบจะไม่ต้องใช้รันเวย์

สำหรับ EL-2 Goldfinch เป็นเครื่องบินในลักษณะขึ้นลง โดยใช้ทางวิ่ง แต่สามารถ Take off โดยใช้ระยะทางเพียง 52 เมตร หรือประมาณ 10% ของระยะทางที่เครื่องบินทั่วไปใช้ในการขึ้นบิน

นอกจากนี้ EL-2 Goldfinch นั้นสร้างขึ้นบนระบบไฮบริดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้มีความเงียบกว่าเครื่องบินทั่วไป โดยมีระดับเสียงเพียง 75 เดซิเบลในระยะที่วิ่งออกไป 91 เมตร นอกจากนี้ ยังช่วยลดมลพิษทางอากาศได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับเครื่องบินทั่วไป โดยจะเตรียมให้บริการจริงในปี 2028

ที่มา
https://www.thecooldown.com/green-tech/estol-aircraft-electra-electric-airplane-slug/

คุมเข้ม ระบบตรวจจับใบหน้า หลัง AI พลาด จับผิดตัว

[หาข้อยุติ] บางครั้ง AI ก็ไม่ได้แม่นเสมอไป หลังเคยทำให้ชายคนหนึ่งถูกจับเพราะระบบเข้าใจผิด จนชีวิตต้องพลิกผันไปอีกยาว

ย้อนกลับไปในปี 2020 ได้มีเหตุเข้าจับกุมนาย Robert Williams ชายผิวสีในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐฯ โดยตำรวจได้บุกรวบตัวถึงบ้าน ต่อหน้าภรรยาและลูกสาวตัวน้อยสองคนของเขา

นาย Robert ถูกคุมขังไว้ประมาณ 30 ชั่วโมง ในที่สุดตำรวจก็พบว่า ‘จับผิดคน’ เข้าให้แล้ว สืบเนื่องจากระบบตรวจจับใบหน้าหรือ Facial Recognition Technology (FRT) ทำงานผิดพลาด แยกคนผิวสีออกจากกันไม่ได้

โดยตอนเกิดเหตุ กล้องวงจรปิดพบคนร้านแอบขโมยนาฬิกาหรูในร้าน ทว่าก็ถ่ายติดหน้าได้ไม่ชัดนัก ทางตำรวจจึงนำ FRT เข้ามาช่วย ซึ่งก็พบว่าตรงกับใบหน้าของนาย Robert จากนั้นก็นำไปให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของร้านดู (ซึ่งยังไม่เห็นตอนเกิดเหตุด้วยซ้ำ) และสุดท้ายเจ้าหน้าที่รายนั้นก็ชี้มา

“ชีวิตผมพลิกผันโดยสิ้นเชิง หวังว่าหลังจากนี้คงไม่คิดว่าชายผิวสีทุกคนหน้าตาเหมือนกันหมด” Robert Williams กล่าว

หลังจากนั้นระบบ FRT ก็ยังทำให้เกิดการจับผิดตัวขึ้นอีก 2 ครั้ง จนล่าสุดทางกรมตำรวจเมืองดีทรอยต์ได้การตั้งกฏควบคุมการใช้ระบบตรวจจับใบหน้าใหม่อย่าง ACLU โดยหนึ่งในนั้นคือการห้ามไม่ให้นำไปใช้จับกุมใครอีก แต่ต้องมีหลักฐานอื่น ๆ ที่เชื่อถือได้เพิ่มเติมด้วย พร้อมกันนี้ยังได้จัดอบรมการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวให้มากขึ้น

ที่มา : Engadget

อยากใช้ต้องจ่ายเพิ่ม Apple Intelligence ฟีเจอร์ใหม่ ผู้ช่วยอัจฉริยะ

[AI Plus] หลัง Apple ได้กระโดดลุยศึก AI อย่างเต็มตัว ภายใต้ชื่อใหม่ว่า Apple Intelligence ชูเป็นสุดยอดผู้ช่วยอัจฉริยะส่วนตัว ที่จะเข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้งานอย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม มีรายงานเผย Apple อาจมีเวอร์ชั่นรายเดือน มาพร้อมคุณสมบัติ ‘พิเศษ’ สำหรับผู้สมัครสมาชิกเท่านั้น

Bloomberg เผย Apple อาจเปิดตัว Apple Intelligence+ ที่มาพร้อมคุณสมบัติที่มากขึ้น แต่แลกกับค่าบริการแบบรายเดือน ซึ่งจะเป็นแผนในระยะยาว แต่ระหว่างนี้ก็สามารถใช้งาน Apple Intelligence ตัวเริ่มต้นได้ฟรี

นอกจาก Apple Intelligence แล้ว ผู้ใช้ยังสลับไปใช้ ChatGPT ของ OpenAI ได้ด้วย และยังใช้งานได้แบบไม่ต้องมีบัญชีอีก อย่างไรก็ตาม มีคาดการณ์ว่า Apple อาจจับมือกับทาง Google และ Anthropic บริษัทสตาร์ทอัปด้านปัญญาประดิษฐ์จากสหรัฐฯ ด้วย เพื่อขอให้บริการ AI ทางเลือก ผ่านอุปกรณ์ iOS หรือ MacOS ของตัวเองเพิ่มเติม

ท้ายนี้ Apple Intelligence จะเปิดให้ใช้งานผ่าน iOS 18 , iPadOS 18 , macOS Sequoia และ watchOS 11 เวอร์ชั่นล่าสุดในเร็ว ๆ นี้

ที่มา : Macrumors

เกือบพัง คว้าอาวุธยิงโดรนส่งของ เข้าใจว่าถูกสอดแนม

[Florida Man vs Drone] งานนี้ทำเอาห้างดังกุมขมับ หลังถูกคุณปู่ที่ฟลอริดา (Florida) สอยโดรนส่งของ Walmart จนร่วง เพราะคิดว่าเป็นโดรนสอดแนม สุดท้ายเจอค่าเสียหายเกือบแสนบาท

ปัจจุบันสหรัฐฯ เริ่มมีการใช้โดรนขนาดย่อมช่วยบินส่งของแล้ว ตัวอย่างเช่น Walmart ห้างค้าปลีกชื่อดังของสหรัฐฯ ที่ได้จับมือกับทาง Wing สตาร์ทอัพผู้พัฒนาโดรนส่งสินค้าเชิงพาณิชย์ (ในเครือ Alphabet บริษัทแม่ Google) จนออกมาเป็นโดรนส่งของที่บินได้ราว ๆ 10 กิโลเมตร และขนของหนักได้ไม่เกิน 1.5 กิโลกรัม โดยช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้ส่งของไปแล้วกว่า 20,000 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม Walmart คงไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุนี้ หลัง Dennis Winn ชราวัย 72 ปี จากรัฐฟลอริดา ได้คว้า 9 มม. ยิงใส่โดรนส่งของจนเกือบร่วง เหตุเพราะคิดว่าเป็นโดรน UAV มาแอบสอดส่อง

ด้านตำรวจที่เข้าจับกุมเผยด้วยว่า Dennis Winn มายืนหน้าบ้านเพื่อรอให้โดรนร่อนลงมาใกล้ ๆ จนเมื่อบินห่างจากพื้นเพียง 75 ฟุตแล้ว ก็จัดการใช้อาวุธปืnยิงใส่ทันที

นับว่ายังดีที่ตัวโดรนสามารถบินกลับที่ฐานปล่อยใน Walmart ได้อยู่ แต่ก็พบรูกระสุนและระบบขนส่งของที่เสียหาย ซึ่งคิดเป็นมูลค่าความเสียหายทั้งหมดที่ 2,500 ดอลลาร์ฯ หรือราว ๆ 94,000 บาท

ท้ายนี้นาย Dennis Winn ถูกตั้งข้อหายิงปืnใส่อากาศยานและในที่อยู่อาศัย พร้อมถูกสั่งปรับ 1,000 ดอลลาร์ฯ หรือประมาณ 37,000 บาท

ที่มา : Techspot

MIT พัฒนาหุ่นยนต์ใส่ของ Grocery ใช้สมองกลช่วยนักช้อป

Grocery

นักวิจัยจากห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (CSAIL) ของ MIT กำลังพัฒนาหุ่นยนต์เก็บของใส่ถุง

หุ่นยนต์ตัวนี้ชื่อว่า “Grocery Packing Robot” โดยในตอนนี้ มันสามารถหยิบและเก็บสินค้าที่มีรูปร่างและขนาดหลากหลายชนิดลงถุงได้ โดยไม่ทำให้สินค้าเสียหาย โดยเฉพาะกับผลไม้หรือขนม

Packing Robot ทำงานโดยการใช้เซนเซอร์ เก็บข้อมูลและใช้สมองกลสั่งการไปยังมือจับที่ออกแบบให้นุ่มนิ่ม หุ่นยนต์สามารถมองเห็นสินค้าที่กำลังเคลื่อนที่มาตามสายพานลำเลียงและตัดสินใจว่าจะจับสินค้าอย่างไรให้ดีที่สุด

เซ็นเซอร์ที่มือ จะสัมผัสและวัดว่าสินค้านั้นแข็งหรืออ่อนแค่ไหน และให้คะแนนความบอบบาง สินค้าที่แข็งแรงกว่าจะถูกเก็บลงถุงก่อน ในขณะที่สินค้าที่บอบบางจะถูกแยกไว้เพื่อเก็บทีหลัง

โครงการนี้อยู่ในขั้นตอนการวิจัยนะ และยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่จะพร้อมสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ แน่นอนว่า มันต้องมีการปรับปรุงความเร็วในการเก็บของใส่ถุง โดยจะต้องมีการเพิ่มเซ็นเซอร์และปรับปรุงอัลกอริทึมให้ดีขึ้น แต่ก็เชื่อว่า อีกไม่นานหรอก

ที่มา
https://www.techspot.com/news/103628-mit-designing-robot-bag-groceries-supermarket

ฟูจิฟิล์ม ชวนเปิดรับความสนุกให้กว้างขึ้นด้วย INSTAX WIDE 400 กล้องอินสแตนท์อนาล็อกที่ถ่ายรูปได้กว้างจุใจกับแท็กไลน์ “Make room for more”

บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด ชวนเปิดมุมมองการถ่ายภาพกลุ่มและภาพทิวทัศน์สวยๆ ด้วยกล้องอินสแตนท์อนาล็อกรุ่นใหม่ล่าสุด INSTAX WIDE 400 (WIDE 400) ที่เตรียมวางจำหน่ายในไทยสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ กล้องรุ่นใหม่ พร้อมแท็กไลน์ “Make room for more” สานต่อเสน่ห์ภาพสวยแบบกว้างจุใจจากรุ่น WIDE 300 ที่เปิดตัวในปี 2014 เพื่อรองรับฟิล์ม WIDE ขนาดใหญ่กว่าฟิล์มมินิถึง 2 เท่า โดย WIDE 400 มาพร้อมดีไซน์ที่ใช้งานสะดวกเพียงหมุนเลนส์ไปทางซ้ายเพื่อเปิดเครื่อง แถมยังเก็บภาพมุมกว้างได้ง่าย ๆ ด้วยปุ่มชัตเตอร์ปุ่มเดียว นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันตั้งเวลาถ่ายโฉมใหม่ที่ทำให้ทุกคนเข้ามาอยู่ในเฟรมได้พร้อมกัน เติมเต็มความสนุกในการเก็บช่วงเวลาพิเศษได้แบบไม่มีสะดุด

ภาพโปรโมตหลักของกล้อง WIDE 400

กล้องอินสแตนท์ตระกูล INSTAX เปิดตัวครั้งแรกในปี 1998 และนับจากนั้นก็ได้รังสรรค์เทคโนโลยีใหม่ ๆ สอดรับกับเทรนด์และยุคสมัยที่เปลี่ยนอยู่ตลอด กลุ่มผลิตภัณฑ์ INSTAX จึงต่อยอดจากกล้องอินสแตนท์อนาล็อกไปสู่กล้องอินสแตนท์ไฮบริดที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล รวมไปถึงเครื่องปรินต์รูปจากสมาร์ตโฟนและกล้องดิจิทัลตัวจิ๋วขนาดเล็กกว่าฝ่ามือ โดย INSTAX ยังคงมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์การถ่ายภาพรูปแบบที่หลากหลายเพื่อขยายกลุ่มผู้ใช้จากกลุ่มวัยรุ่นผู้หญิงไปยังกลุ่มผู้ชายวัยกลางคน

การถ่ายภาพแบบฟิล์ม WIDE ช่วยให้เก็บภาพได้กว้างขึ้น เหมาะสำหรับการถ่ายรูปแบบกลุ่มและภูมิทัศน์ กล้องรุ่นนี้สามารถเก็บภาพวัตถุและบรรยากาศโดยรอบได้อย่างสมบูรณ์ คุณสมบัตินี้ช่วยเพิ่มการนำเสนอรูปแบบการถ่ายภาพได้มากขึ้น ทำให้ผู้ใช้งานทั่วโลกชื่นชอบรูปแบบฟิล์ม WIDE

รูปแบบฟิล์ม WIDE

ผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัว

(1) กล้อง INSTAX WIDE 400

 

คุณสมบัติหลัก

(1) กล้องอินสแตนท์อนาล็อกมุมกว้างที่เก็บทุกช็อตได้อย่างสมบูรณ์แบบ

กล้อง WIDE 400 ออกแบบโดยเน้นการใช้งานที่เรียบง่าย เปิดเครื่องได้สะดวกเพียงหมุนเลนส์ไปทางซ้าย และกดถ่ายรูปได้ทันทีด้วยปุ่มชัตเตอร์ปุ่มเดียว ถ่ายภาพระยะไกลตั้งแต่ 3 เมตรขึ้นไป สามารถหมุนเลนส์เพื่อปรับเป็นโหมดภูมิทัศน์ได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเลนส์ระยะใกล้ที่ช่วยให้ถ่ายภาพในระยะ 40 ซม. ได้อย่างคมชัด

(2) สนุกกับระบบตั้งเวลาถ่ายด้วยคันโยกแบบอนาล็อก

ตัวตั้งเวลาถ่ายที่อยู่ด้านหน้าของกล้องนั้นใช้งานง่าย เพียงเลื่อนคันโยกตามตำแหน่งของไฟ LED ก็สามารถเลือกระยะเวลานับถอยหลังได้สูงสุด 10 วินาที การจับเวลาจะเริ่มหลังกดปุ่มชัตเตอร์ โดยทุก 2 วินาที ไฟ LED แต่ละดวงจะดับลงเพื่อให้ทุกคนเตรียมตัวเข้าเฟรม นับเป็นลูกเล่นในสไตล์อนาล็อกที่ใส่เข้ามาได้อย่างลงตัว

(3) หามุมถ่ายภาพได้ดั่งใจด้วยอุปกรณ์เสริมสำหรับปรับองศากล้อง

หามุมสวย ๆ ถ่ายภาพได้ง่ายขึ้นด้วย “อุปกรณ์เสริมสำหรับปรับองศากล้อง” ที่ใช้แทนขาตั้งกล้องในการตั้งเวลาถ่ายได้ โดยสามารถปรับมุมมองได้ 2 ระดับตามมุมที่อยากได้

วันวางจำหน่ายและราคา

กล้อง INSTAX WIDE 400 จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยในช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2567 ในราคา 5,690 บาท ผ่านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของฟูจิฟิล์ม โดยแฟน ๆ สามารถติดตามอัปเดตล่าสุดเกี่ยวกับวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้ที่เพจเฟซบุ๊ก: Instax Thailand

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมล่าสุดเกี่ยวกับกล้องตระกูล INSTAX รุ่นใหม่จากฟูจิฟิล์มได้ทาง Facebook Page: Instax Thailand, IG: @instax_thailand, Line OA: @instaxthailand และติดต่องานได้ที่ instaxthmarketing@gmail.com

นักศึกษาใหม่สจล. พร้อมลุยสู่เส้นทางผู้ประกอบการนวัตกรรมและการลงทุน สถาบันเทคโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จัดงานปฐมนิเทศนั

สถาบันเทคโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จัดงานปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ประจำปีการศึกษา 2567 ภายใต้แนวคิด “Unlock Your Magic: ปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์ในตัวคุณ“ นำทีมโดย รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. พร้อมด้วยผู้บริหาร อาจารย์ บุคลากร และนักศึกษารุ่นพี่ต้อนรับนักศึกษาใหม่กว่า 7,000 คน ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน 2567 ณ หอประชุมเจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค)

รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สถาบันเทคโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า แนวคิด“Unlock Your Magic: ปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์ในตัวคุณ“ มาจากทีมรุ่นพี่นักศึกษาสจล. ที่ร่วมคิดสร้างสรรค์ธีมงานเพื่อให้สจล. เป็นพื้นที่เรียนรู้สำหรับทุกคน เพื่อ เพื่อสนับสนุนให้นักศึกษาได้มีพื้นที่แสดงทักษะความสามารถ และต่อยอดหรือสร้างทักษะใหม่ เพื่อพัฒนาตัวเองให้ต่อยอดความฝันในเส้นทางการทำงาน และการใช้ชีวิตอย่างประสบความสำเร็จและมีความสุข มีศักยภาพตอบโจทย์ตลาดแรงงาน และการทำงานในอนาคต ซึ่งสถาบันฯ ตั้งเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ “The World Master of Innovation ผู้นำนวัตกรรมระดับโลก” ให้นักศึกษาพร้อมสู่การเป็น Global Citizen ขับเคลื่อนผ่าน 3 เป้าหมาย คือ SMART DIGITAL GREEN University ทั้งด้านหลักสูตร 2 ปริญญา หลักสูตรนานาชาติหลักสูตรปริญญาโท และปริญญาเอก และคอร์สเรียนออนไลน์ สำหรับคนทุกช่วงวัย ตอบโจทย์ทั้ง Hard Skills และ Soft Skills

รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี กล่าวด้วยว่า ในงานวันปฐมนิเทศนักศึกษา ทาง สจล. ได้ทำการสำรวจความต้องการเกี่ยวกับทักษะที่น้อง ๆ นักศึกษาใหม่ ประจำปี 2567 ต้องการเพิ่มเติมในขณะที่ศึกษาอยู่ใน สจล. พบว่า มีทักษะที่น้องๆสนใจ 5 ด้าน จากนักศึกษาที่ทำการสำรวจทั้งหมด 3,474 คน ได้แก่
1.ด้านการเป็นผู้ประกอบการและการลงทุน 43.87%
2.ด้านคิดวิเคราะห์ และประมวลผล 32.91%
3.ด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย นวัตกรรม 30.12%
4.ด้านคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ 28.30%
5.ด้านการทำงานเป็นทีม 27.87%

ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของ สจล. ที่ผลักดันให้นักศึกษาทุกคนได้มีโอกาสได้เรียนรู้ และเพิ่มเติมหลักสูตรที่ตรงกับความต้องการ นอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์ทักษะให้กับนักศึกษาด้วยระบบที่เรียกว่า Skills Mapping, Skills Transcript และน้อง ๆ นักศึกษาตั้งแต่ ปี 1 จะได้ลงมือปฏิบัติงานจริงในหลักสูตรนั้น ๆ เรียนและฝึกปฏิบัติร่วมกับภาคอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการตัวจริงในวงการ มีพื้นที่แสดงผลงานผ่านแพลทฟอร์มงาน KMITL INNOVATION EXPO 2025 เตรียมจัดครั้งต่อไปวันที่ 6-8 มีนาคม 2568 เพื่อปูทางให้น้อง ๆ นักศึกษาได้มีไอเดีย และสามารถเชื่อมโยงโครงการที่ทำมาต่อยอดให้เป็นโมเดลธุรกิจเชื่อมต่อกับผู้ประกอบการ และภาคอุตสาหกรรม เติมฝันตอบโจทย์ได้จริงด้วยทีมคณาจารย์ บุคลากรที่มีประสิทธิภาพ พร้อมดูแลนักศึกษาทุกคนอย่างเต็มที่ทั้งการเรียนและชีวิตในมหาวิทยาลัย

สำหรับบรรยากาศงานปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ประจำปีการศึกษา 2567 สามารถรับชมย้อนหลังได้ที่นี่
https://www.youtube.com/watch?v=5GQHFwvObAghttps://youtu.be/5GQHFwvObA
ติดตามความเคลื่อนไหวอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ทาง https://www.facebook.com/kmitlofficial และเว็บไซต์ https://www.kmitl.ac.th และติดตามรายละเอียดหลักสูตรที่เปิดสอนได้ที่ https://curriculum.kmitl.ac.th/ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8000

Hot Issue