Home Blog Page 54

Dyson เอาจริงเรื่องเทคโนโลยีเครื่องเสียง เปิดตัวหูฟัง Dyson OnTrac™ มาพร้อมเสียงคุณภาพสูง และระบบตัดเสียงแบบ Active ที่ทรงพลัง พร้อมดีไซน์สุดล้ำ

  • ระบบ Noise Cancellation ที่ทรงพลังที่สุด​: ลดเสียงรบกวนภายนอกสูงสุดถึง 40 เดซิเบล
    สามารถตรวจสอบเสียงรอบข้างได้มากถึง 384,000 ครั้งต่อวินาที
    พร้อมรายงานผลแบบเรียลไทม์ผ่านแอปฯ MyDyson™³
  • คมชัดยิ่งกว่า ทุกสเป็กตรัมเสียง: เก็บรายละเอียดในทุกช่วงเสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงเบสที่หนักแน่น
    หรือเสียงสูงแหลมก็คมชัดทุกย่านความถี่ ตั้งแต่ 6Hz – 21kHz
  • ฟังต่อเนื่องนานถึง 55 ชั่วโมง1: ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 2 สัปดาห์ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง2
  • ฝาและโฟมครอบหูที่ปรับแต่งได้: วัสดุสุดพรีเมียม มอบผิวสัมผัสที่ให้ความรู้สึกหรูหรา สวมใส่สบายแบบเหนือชั้น

Dyson เปิดตัวหูฟังไร้สาย Dyson OnTrac™ พร้อมคุณภาพเสียงละเอียดแบบไฮไฟ (High Fidelity: HI-FI) รุ่นแรก มีประสิทธิภาพการตัดเสียงรบกวนที่ทรงพลังที่สุด¹ พร้อมมอบประสบการณ์การฟังเพลงอันดื่มด่ำยาวนานสูงสุด 55 ชั่วโมง² 

มาพร้อมสีสันให้เลือกปรับแต่งได้กว่า 2,000 สไตล์ ทั้งฝาครอบหูและโฟมครอบหู ตัวโฟมผลิตจากฟองน้ำคุณภาพสูงหุ้มด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์เนื้อนุ่มพิเศษ ช่วยให้สวมใส่สบาย กระชับ ด้วยการซีลทางอะคูสติกที่แนบสนิทพอดี นอกจากนี้ ขาหูฟังระบบกลไกแบบ Multi-pivot และการวางแบตเตอรี่ไว้ที่ก้านคาดศีรษะในตำแหน่งพิเศษ ช่วยกระจายน้ำหนักของตัวหูฟังได้อย่างสมดุล

“เป้าหมายของการค้นคว้าด้านวิศวกรรมเสียงของ Dyson คือการถ่ายทอดคลื่นเสียงและท่วงทำนองตามแบบฉบับของศิลปินอย่างสมบูรณ์ ไร้ซึ่งสิ่งรบกวน เราต้องการสร้างสรรค์หูฟังที่ผู้คนจะชื่นชอบ ตื่นเต้น และภาคภูมิใจ ด้วยประสบการณ์ด้านแอโรอะคูสติกที่ยาวนานกว่า 30 ปี เราเชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์ของเสียง ด้วยการลดเสียงรบกวนผ่านห้องเก็บเสียงสะท้อนภายในและความเชี่ยวชาญของเหล่าวิศวกร เราได้นำความรู้ด้านเสียงที่สั่งสมมาประยุกต์ใช้และต่อยอดเพื่อพัฒนาหูฟัง Dyson OnTrac™  หูฟังครอบหูรุ่นแรกจากเราที่เน้นเรื่องเสียงเพียงอย่างเดียว มอบระบบตัดเสียงรบกวนที่ทรงพลังที่สุด คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม และความสบายแม้สวมใส่ตลอดทั้งวัน ผ่านวัสดุ การออกแบบ และการปรับแต่งที่เลือกได้ตามใจ” Jake Dyson หัวหน้าวิศวกรของ Dyson กล่าว

ระบบ Noise Cancellation ที่ทรงพลังที่สุด

เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม Dyson OnTrac™ มาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation (ANC) ที่ปรับตามสภาพแวดล้อม ใช้ไมโครโฟน 8 ตัว ตรวจสอบเสียงรอบข้างได้มากถึง 384,000 ครั้งต่อวินาที ระบบนี้ทำงานร่วมกับวัสดุคุณภาพเยี่ยมและรูปทรงภายในหูฟังที่ออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อตัดเสียงรบกวนที่ไม่ต้องการได้สูงสุดถึง 40 เดซิเบล 

คมชัดยิ่งกว่า ทุกสเป็กตรัมเสียง

Dyson OnTrac™ มาพร้อมลำโพงไดรเวอร์นีโอดีเมียมขนาด 40 มม. ความต้านทาน 16 โอห์ม และระบบประมวลผลสัญญาณเสียงขั้นสูง ให้เสียงที่มีช่วงความถี่กว้างในช่วงความถี่ต่ำตั้งแต่ 6 เฮิรตซ์ ไปจนถึงความถี่สูง 21,000 เฮิรตซ์ ถ่ายทอดรายละเอียดของเสียงทั้งเสียงเบสหนักแน่นและเสียงแหลมสูง คมชัดสม่ำเสมอทุกโน๊ตเพลงและทุกคำพูด นอกจากนี้ ตัวครอบลำโพงยังเอียงเข้าหาใบหู 13 องศา เพื่อประสบการณ์การฟังที่ดีที่สุด

ฟังต่อเนื่องนานถึง 55 ชั่วโมง1  แม้เปิดระบบตัดเสียงรบกวน

Dyson OnTrac™ มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้สูงสุด 55 ชั่วโมง1 ช่วยให้คุณฟังเพลงได้ยาวนานถึงสองสัปดาห์2 แม้จะเปิดระบบตัดเสียงรบกวน ANC อยู่ก็ตาม แบตเตอรี่ลิเธียมไออนประสิทธิภาพสูงสองก้อนถูกติดตั้งอยู่ภายในก้านคาดศีรษะเพื่อช่วยกระจายน้ำหนักได้อย่างสมดุล คุณสามารถเปิดหรือปิดระบบตัดเสียงรบกวน ANC ได้ง่าย ๆ เพียงแค่แตะเบา ๆ สองครั้ง ที่หูฟังข้างใดข้างหนึ่ง

การออกแบบทางวิศวกรรม เพื่อคุณภาพเสียงล้ำ ๆ และสวมใส่สบายทั้งวัน

Dyson OnTrac™ ได้รับการรับรองโดย US Ergonomics4 ผสมผสานความสวมใส่สบายและคุณภาพเสียงไว้ด้วยกันอย่างยอดเยี่ยม ด้วยวัสดุที่เลือกสรรมาอย่างพิถีพิถันกับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อการซีลทางอะคูสติกที่แนบสนิทพอดี มอบคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมและความรู้สึกสบายแม้สวมใส่ยาวนาน โฟมครอบหูคุณภาพสูงและขาหูฟังระบบกลไกแบบ Multi-pivot ช่วยลดแรงกดที่ใบหู พร้อมตำแหน่งแบตเตอรี่ที่ก้านคาดศีรษะช่วยกระจายน้ำหนักได้อย่างสมดุล โฟมครอบหูหุ้มด้วยผ้าหนังกลับไมโครไฟเบอร์สัมผัสนุ่มและแรงกดที่กำลังพอดี ช่วยให้สวมใส่ได้อย่างสบาย เข้าได้กับรูปทรงศีรษะที่หลากหลาย

ปรับแต่งได้ตามใจ ด้วยวัสดุคุณภาพดีและสีสันสุดหรู

Dyson OnTrac™ มีให้เลือก 4 สี แต่ละสีผลิตอย่างพิถีพิถันด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยม ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ออกแบบโดย Jake Dyson และทีม CMF ด้วยแรงบันดาลใจจากเครื่องจักรซีเอ็นซี ตัวเลือกสีต่าง ๆ ได้แก่ สี CNC Aluminum สี CNC Copper และสี CNC Black Nickel ส่วนสีพิเศษอย่าง Ceramic Cinnabar มาพร้อมผิวสัมผัสแบบเคลือบเซรามิก นอกเหนือจากสีสันเหล่านี้ คุณยังสามารถปรับแต่ง Dyson OnTrac™ ของคุณด้วยการแมทช์ฝาครอบด้านนอกกับโฟมครอบหู ซึ่งมีหลากหลายสีสันและวัสดุให้เลือกได้ตามความต้องการ

ฝาครอบด้านนอกและโฟมครอบหูสำหรับปรับแต่ง 

ฝาครอบด้านนอกผลิตจากอลูมิเนียมคุณภาพสูง มีน้ำหนักเบา แข็งแรง ทนทาน มาในหลากสีสันและพื้นผิว ทั้งแบบเซรามิกและแบบอะโนไดซ์ ติดตามรายละเอียดราคาและการวางจำหน่ายได้เร็ว ๆ นี้

แอปพลิเคชัน MyDyson™³ 

แอปพลิเคชัน MyDyson™³ มีระบบตรวจสอบเสียงแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะตรวจสอบระดับเสียงภายในและเสียงภายนอกหูฟัง พร้อมแจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อเสียงอยู่ในระดับที่อาจเป็นอันตราย นอกจากนี้ แอปพลิเคชัน MyDyson™³ ยังช่วยให้ผู้ใช้เลือกโหมดอีควอไลเซอร์แบบกำหนดเองได้ 3 แบบ ได้แก่ โหมด Bass Boost โหมด Neutral และโหมด Enhanced

ฟีเจอร์เพิ่มเติมอื่น ๆ

  • เซ็นเซอร์ตรวจจับศีรษะ: เซ็นเซอร์แบบคาปาซิทีฟจะตรวจจับเมื่อถอดหูฟังจากการสวมใส่ ตัวเซ็นเซอร์จะส่งสัญญาณให้หยุดเสียงที่กำลังเล่นชั่วคราว เสียงจะกลับมาเล่นต่อโดยอัตโนมัติเมื่อสวมใส่
  • ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ: เล่น หยุดชั่วคราว ข้ามเพลง กรอกลับไปข้างหน้าและย้อนกลับได้อย่างง่ายดาย หรือกดค้างเพื่อสั่งการด้วยเสียง
  • การโทรที่คมชัด: ไมโครโฟนแบบ Dual Beam-forming รับเสียงสนทนาของคุณได้อย่างชัดเจน ไม่รับเสียงรบกวนจากภายนอก
  • ติดตามเสียงแบบเรียลไทม์: ตรวจสอบระดับเสียงภายในและเสียงภายนอกหูฟังอย่างต่อเนื่อง ส่งแจ้งเตือนเมื่อเสียงอยู่ระดับที่อาจเป็นอันตรายผ่านแอปพลิเคชัน MyDyson™
  • ควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน MyDyson™: แอปพลิเคชัน MyDyson™ มอบการอัพเดทซอฟต์แวร์อัตโนมัติให้คุณ

งานวิจัยและการพัฒนาเสียง

Dyson ขึ้นชื่อในด้านการเป็นผู้บุกเบิกทางเทคโนโลยี และก้าวสู่แวดวงที่แปลกใหม่ แต่ละโครงการเริ่มต้นด้วยการวิจัยขั้นพื้นฐานและความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ ในเรื่องวิศวกรรมของเสียง วิศวกรของ Dyson ให้ความสำคัญกับการรักษาความสมบูรณ์ของเสียง เป้าหมายคือการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มอบเสียงที่เหมือนต้นฉบับที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยปราศจากการบิดเบือนหรือสิ่งรบกวน ในการบรรลุเป้าหมายนี้ ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับอะคูสติก (Acoustics) และจิตส​​นเทศศาสตร์การได้ยิน (Psychoacoustics) ซึ่งวิศวกรของ Dyson ได้พัฒนามาตลอดหลายปีในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ส่งต่อคลื่นเสียงให้เคลื่อนที่ผ่านอากาศ ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา Dyson ได้สร้างทีมงานระดับโลกที่มีความรู้ด้านเทคนิคการลดเสียงรบกวนและอะคูสติก ตลอดจนพัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่อง ทั้งความรู้ด้านการสร้างเสียง การตัดเสียงรบกวน และการออกแบบระบบไฟฟ้าอะคูสติก

Dyson OnTracTM ยังไม่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลล่าสุดได้ที่ Dyson.co.th หรือลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารเกี่ยวกับเทคโนโลยีล่าสุดได้ที่นี่

“เอเซอร์” รับรางวัล No.1 Brand Thailand 2024 แบรนด์อันดับ 1 ที่สะท้อนความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากผู้บริโภค ต่อเนื่องเป็นปีที่ 13

บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด โดย นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เป็นตัวแทนขึ้นรับรางวัล “No.1 Brand Thailand 2024” ในหมวดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก การันตีความสำเร็จที่สะท้อนความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากผู้บริโภคให้เป็นแบรนด์คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยอดนิยมอันดับ 1 ที่ครองใจผู้บริโภคต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 ทั้งนี้รางวัลดังกล่าว มาจากการสำรวจทัศนคติที่มีต่อแบรนด์ต่าง ๆ ในประเทศไทย โดยความร่วมมือของนิตยสาร Marketeer กับ บริษัท มาร์เก็ตติ้ง มูฟ จำกัด ร่วมกับ ภาควิชาการตลาด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทำการสำรวจวิจัยครอบคลุมผู้บริโภคทั่วประเทศ จำนวนไม่น้อยกว่า 5,500 ตัวอย่าง แบ่งเป็น 81 หมวดสินค้า เพื่อค้นหาแบรนด์สินค้าและบริการที่เป็นหนึ่งในใจผู้บริโภคทั้งด้านคุณภาพ และการตลาด

เพลย์ลิสต์ใน Spotify เปลี่ยนวิธีการฟังเพลงของคนไทย

  • Spotify มีเพลย์ลิสต์กว่า 8 พันล้านรายการทั่วโลก ที่เหมาะกับทุกช่วงเวลา ทุกโมเมนต์ของผู้ฟัง
  • คนไทยมีความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างและฟังเพลย์ลิสต์ ซึ่งเป็นเหตุผลหลักกว่าครึ่งในการเลือกฟังเพลง

คุณยังจำช่วงเวลาที่ใช้ไปกับการมิกซ์เทปเพื่อมอบให้คนพิเศษได้ไหม? ปัจจุบัน Spotify มีเพลย์ลิสต์กว่า 8 พันล้านรายการทั่วโลก และได้เข้ามาพลิกวิธีการฟังเพลงและการสร้างเพลย์ลิสต์อย่างแท้จริง โดยเพลย์ลิสต์ที่ผู้ใช้งานในประเทศไทยสร้างบน Spotify เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และ 82% ของเพลย์ลิสต์บน Spotify ล้วนเกี่ยวข้องกับความรัก

หลายครั้งที่คนไทยนิยมสร้างเพลย์ลิสต์เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่มีความสุข อกหัก และอีกหลากหลายอารมณ์ นอกจากนี้คนไทยยังสร้างเพลย์ลิสต์ที่สอดคล้องไปกับกิจวัตรประจำวันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพลย์ลิสต์ระหว่างนั่งรถไฟฟ้าไปทำงาน เพลงที่ฟังระหว่างรถติด หรือเฉลิมฉลองช่วงเวลาพิเศษต่าง ๆ อย่างวันเกิด

Spotify เปิดตัวแคมเปญ “อีกกว่าพันล้านเพลย์ลิสต์ที่เข้าใจคุณ” ร่วมกับศิลปินแห่งยุคอย่าง Jeff Satur และ MILLI ที่บอกเล่าถึงทุกช่วงเวลาที่เราควรมีเพลงประกอบโมเมนต์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นตอนบังเอิญเจอเจ้านายบนรถไฟฟ้า หรือ เผลอไปแตะมือคนแปลกหน้าบนรถไฟฟ้าก็ตาม ความคิดสร้างสรรค์เหล่านี้สะท้อนผ่านการตั้งชื่อเพลย์ลิสต์ตลก ๆ ของคนไทย เช่น ลาป่วยไม่พอต้องลาออก หรือ อกหักทันทีเพราะมีมือที่สาม ซึ่งเพลย์ลิสต์เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงอารมณ์ ความรู้สึกที่หลากหลายในแต่ละโมเมนต์ของผู้ฟังที่แตกต่างกัน

ค้นพบเพลงที่ตอบโจทย์ทุกโมเมนต์สำคัญในชีวิตคุณผ่าน Spotify ไม่ว่าคุณจะมีความสุข อกหัก หรือรู้สึกอะไรอยู่ก็ตาม Spotify ก็มีเพลย์ลิสต์ที่เหมาะสำหรับช่วงเวลาต่าง ๆ คุณเสมอ แล้วเพลย์ลิสต์ของคุณล่ะ เป็นอย่างไร?

เปิดไลน์อัพสมาร์ตโฟน vivo ครึ่งปี 2024 กับทริคการเลือกเครื่องที่ใช่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และการใช้งาน

ในปี 2024 ที่ตลาดสมาร์ตโฟนเต็มไปด้วยตัวเลือกที่น่าสนใจมากมาย การค้นหาโทรศัพท์มือถือคู่ใจสักหนึ่งเครื่องที่ตรงกับทุกความต้องการนั้นอาจกลายเป็นเรื่องที่สร้างความลังเลให้กับผู้ใช้งาน บทความนี้จะพาไปเจาะลึกไลน์อัพอันหลากหลายของสมาร์ตโฟนจาก วีโว่ (vivo) แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก เพื่อไขข้อข้องใจและทำความเข้าใจถึงจุดเด่นของแต่ละซีรีส์ พร้อมค้นหารุ่นที่ใช่ที่สุดสำหรับผู้ใช้งานแต่ละสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสายเน้นกล้องล้ำสมัย คอเทคโนโลยีที่มองหาสมาร์ตโฟนสเปกล้ำ ผู้ที่มองหาตัวเลือกคุ้มค่าในราคาประหยัด ก็มั่นใจได้ว่า vivo จะมีตัวเลือกที่ใช่รอให้ได้ลองสัมผัสอย่างแน่นอน

สมาร์ตโฟนจาก vivo ไม่ได้โดดเด่นแค่ระบบถ่ายภาพพอร์ตเทรตอันไร้ที่ติเท่านั้น แต่ในฐานะแบรนด์เทคโนโลยีชั้นนำ vivo ตั้งใจที่จะเข้าถึงและเชื่อมโยงผู้คนทั่วโลกเข้าด้วยกันผ่านการพัฒนาอุปกรณ์สื่อสารที่ครบครันทั้งด้านดีไซน์ ฟีเจอร์ และประสิทธิภาพ และด้วยความเข้าใจเป็นอย่างดีถึงความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ใช้งาน vivo ได้ออกแบบและวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเพื่อให้ครอบคลุมผู้คนทุกรูปแบบ โดยปัจจุบัน vivo แบ่งสมาร์ตโฟนออกเป็น 3 Series เพื่อความสะดวกในการเลือกใช้งาน ตั้งแต่ X Series V Series ไปจนถึง Y Series ไปดูกันว่าแต่ละซีรีส์มีจุดเด่นและกลุ่มเป้าหมายแตกต่างกันอย่างไร รวมถึงซีรีส์ไหนเหมาะกับใครบ้าง

X Series: สำหรับผู้หลงใหลในเทคโนโลยีและการถ่ายภาพขั้นสูง

vivo X Series คือสุดยอดสมาร์ตโฟนเรือธงที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ชื่นชอบ ‘ความล้ำ’ โดยเฉพาะ! จุดเด่นของซีรีส์นี้อยู่ที่ดีไซน์ภายนอกอันหรูหราและเทคโนโลยีภายในแบบจัดเต็มทุกระบบ ตอบโจทย์ได้ทุกการใช้งานที่หนักหน่วง เหมาะกับผู้ที่ต้องการความทรงพลังอย่าง เกมเมอร์ ครีเอเตอร์ ช่างภาพมืออาชีพ รวมไปถึงผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การใช้งานเหนือระดับในชีวิตประจำวัน

ไม่ใช่แค่หรูหราด้วยดีไซน์ แต่สมาร์ตโฟนจาก X Series ยังผลิตจากวัสดุระดับพรีเมียมที่ผ่านการทดสอบเพื่อการันตีความทนทาน มาพร้อมชิปเซ็ตอันทรงพลังระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม แบตเตอรี่เทคโนโลยี BlueVolt ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ vivo รวมถึงระบบชาร์จที่รวดเร็วและหน่วยความจำขนาดใหญ่ ตลอดจนการรองรับฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลาย นอกจากนี้ อีกหนึ่งจุดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับ X Series คือฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ด้านการถ่ายภาพสุดล้ำที่ vivo จับมือพัฒนาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านเลนส์ระดับโลกอย่าง ZEISS ตั้งแต่ในรุ่น X60 Pro ที่เปิดตัวเมื่อปี 2020 มาจนถึงรุ่นล่าสุดอย่าง X100 5G และ X100 Pro 5G ที่เปิดตัวกันไปเมื่อเดือนมกราคม และได้รับการตอบรับจากผู้ใช้งานชาวไทยอย่างดีเยี่ยม ทำให้ซีรีส์นี้ได้ชื่อว่าเป็น ‘นิยามใหม่แห่งการถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟน’ เนื่องจากสามารถมอบผลลัพธ์ภาพถ่ายที่สวยคมชัดทุกสถานการณ์เหมือนถ่ายด้วยกล้องมืออาชีพ และสามารถปรับแต่งได้ด้วยฟีเจอร์ระดับโปรตามความชื่นชอบของผู้ใช้งาน

V Series: ความลงตัวของสไตล์และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน

นอกจากรุ่นเรือธง vivo ยังคงนำเสนอความพรีเมียมอย่างต่อเนื่องในไลน์อัพ V Series ซึ่งเป็นเพอร์เฟกต์แมตช์สำหรับคนที่ชื่นชอบความทันสมัย ติดตามเทรนด์และแฟชัน และกำลังมองหาสมาร์ตโฟนที่ ‘มีสไตล์’ เน้นดีไซน์โฉบเฉี่ยว น้ำหนักเบา แต่ยังคงต้องการสมรรถนะที่เร็วแรงพร้อมเทคโนโลยีกล้องหน้าและกล้องหลังที่ ‘ถ่ายเทพเกินคน’

vivo V Series เป็นที่รู้จักด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพบุคคลที่โดดเด่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Aura Light Portrait System ไฟออร่า หรือระบบปรับอุณหภูมิแสงอัจฉริยะ ที่เปิดตัวพร้อมรุ่น V27 5G เมื่อต้นปี 2023 และเป็นเอกลักษณ์ของสมาร์ตโฟนซีรีส์นี้มาจนถึงปัจจุบัน ไปจนถึงการดึงฟีเจอร์ที่ร่วมพัฒนากับ ZEISS ที่เคยมีเฉพาะในรุ่นเรือธงมาไว้ในรุ่นล่าสุดอย่าง V30 Pro 5G แต่นอกจากระบบถ่ายภาพแล้ว สมาร์ตโฟนในซีรีส์นี้ยังมาพร้อมการใช้งานรอบด้านที่ยอดเยี่ยม การประมวลผลที่มีประสิทธิภาพ และฟีเจอร์ครบครัน ทำให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานอื่น ๆ ได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะทำงาน เรียน เล่นเกม หรือรับชมความบันเทิง โดยทั้งหมดนี้ vivo วางจำหน่ายในราคาสุดคุ้มค่า เริ่มต้นเพียงหนึ่งหมื่นต้น ๆ เท่านั้น ทำให้ V Series เป็นกลุ่มตัวเลือกสมาร์ตโฟนที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้งานหลากหลายไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่นักเรียนนักศึกษา ไปจนถึงวัยทำงาน และผู้ใช้งานทั่วไปที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและดีไซน์ที่ทันสมัยลงตัว

Y Series: จัดเต็มประสิทธิภาพในราคาคุ้มค่า

สำหรับผู้ใช้งานที่มองหาสมาร์ตโฟนดีไซน์สวย ฟีเจอร์ครบครัน ในราคาที่เป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์ Y Series จาก vivo คือคำตอบ! มือถือในกลุ่มนี้ถูกพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ตโฟนที่ใช้งานทั่วไปได้อย่างครบครันและมีประสิทธิภาพ โดยที่ไม่ต้องจ่ายราคาแพง เพราะแม้สมาร์ตโฟนในซีรีส์น้องเล็กนี้จะวางขายในราคาเพียงหลักพัน แต่ vivo จัดเต็มทั้งดีไซน์ที่ทันสมัย หน้าจอคมชัด กล้องความละเอียดสูง และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานมาให้ผู้ใช้งานอย่างเกินราคา เหมาะสมกับผู้ใช้งานหลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่นักเรียนนักศึกษา ผู้เริ่มต้นใช้สมาร์ตโฟน หรือใครก็ตามที่ต้องการโทรศัพท์ที่เชื่อถือได้สำหรับชีวิตประจำวันในราคาที่จับต้องได้ง่าย

ล่าสุดสำหรับ Y Series vivo ได้เปิดตัว Y28 ในตลาดประเทศไทยในราคาเริ่มต้นเพียง 5,999 บาท แต่จัดเต็มมาทั้งกล้องถ่ายภาพ แบตเตอรี่ 6000mAh หน้าจอคุณภาพสูง และไฟวงแหวน Dynamic Light นอกจากนี้ยังมีรุ่น Y100 5G ที่ vivo อัดสเปกมาเต็ม 100 ในราคา 9,999 บาท ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแบบ AMOLED กล้องหลักความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล รองรับระบบชาร์จไว vivo FlashCharge 80W และการใช้งาน 5G ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ยังมาพร้อมระบบปฏิบัติการที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้รุ่นพี่ ถือว่าเป็นอีกซีรีส์ที่มีหลากหลายตัวเลือกคุ้มค่าและทำให้หลาย ๆ คนลืมภาพสมาร์ตโฟนราคาประหยัดที่ฟีเจอร์ไม่เพียงพอต่อการใช้งานไปได้เลย!

สำหรับใครที่กำลังเกิดอาการลังเลในการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือคู่ใจสักเครื่อง หนึ่งในสมาร์ตโฟนของ vivo อาจเป็นคำตอบที่กำลังตามหาสำหรับใช้งานได้ยาวๆ สัมผัสไลน์อัพที่ครอบคลุมทุกความต้องการและงบประมาณด้วยตัวเองเพื่อเลือกซื้อรุ่นที่ใช่ได้แล้ววันนี้ที่ vivo Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ สามารถติดตามความเคลื่อนไหว และอัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีจาก vivo ได้ก่อนใครที่เฟซบุ๊ก vivo Thailand

สแกนจ่ายที่ฮ่องกงด้วยทรูมันนี่ ผ่าน Alipay+ ได้แล้ววันนี้ ไม่ต้องแลกเงินก่อนก็สแกนจ่ายในต่างประเทศได้ สะดวก ง่าย แถมได้รีวอร์ด

ทรูมันนี่ ผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถสแกนจ่ายด้วยแอปทรูมันนี่ที่ฮ่องกงได้แล้ว ผ่านอาลีเพย์พลัส (Alipay+) แพลตฟอร์มการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือด้วยดิจิทัลโซลูชันที่พัฒนาโดย แอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถสแกนจ่ายที่ร้านค้ากว่า 90% ทั่วฮ่องกง ที่มีสัญลักษณ์ Alipay+ หรือ AlipayHK ซึ่งครอบคลุมทั้งร้านอาหาร ร้านค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ ฯลฯ หมดกังวลเรื่องการหาที่แลกเงิน เพียงแค่เปิดแอปทรูมันนี่เลือกประเทศและสแกนจ่ายได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องแลกเงินค้างไว้ในบัญชี เพราะระบบจะแปลงเงินบาทในบัญชีตามสกุลและอัตราแลกเปลี่ยนคงที่รายวันตามประเทศที่เลือกให้ใช้จ่ายได้ทันที ไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ เพิ่มเติม และคุ้มยิ่งกว่าด้วยสิทธิพิเศษจาก อาลีเพย์พลัส รีวอร์ด (Alipay+ Rewards)

นางสาวมนสินี นาคปนันท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า “ฮ่องกงถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยม ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเลือกเดินทางท่องเที่ยว ด้วยกิจกรรมที่มีให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพที่งดงามและสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงการช้อปปิ้ง การรับประทานอาหาร และการไหว้พระขอพร โดยปีนี้คาดว่าฮ่องกงจะมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปไม่น้อยกว่า 5 แสนคน ซึ่งจะมากเป็นอันดับ 2 ของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  การเปิดบริการให้คนไทยสามารถใช้จ่ายด้วยแอปพลิเคชันทรูมันนี่ที่ฮ่องกงผ่าน  Alipay+ ถือเป็นการเสริมสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่สะดวก ปลอดภัย และคล่องตัวผ่านการสแกนจ่าย แถมยังได้สิทธิพิเศษ”

ความร่วมมือระหว่าง ทรูมันนี่ และ อาลีเพย์พลัส ในครั้งนี้ ยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วยการเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเข้าถึงผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กในฮ่องกงบนเครือข่ายของ AlipayHK ได้อย่างสะดวกสบาย ผ่านร้านค้าที่สามารถรับชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน ทรูมันนี่ ได้ทันที โดยที่ร้านค้าเดิมไม่ต้องลงทุนติดตั้งระบบใหม่เพิ่มเติม นับเป็นการสร้างโอกาสใหม่ ๆ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล ให้กับบรรดาร้านค้ารายย่อยอีกด้วย

ในปัจจุบัน ทรูมันนี่ ได้ขยายบริการใช้จ่ายในต่างประเทศครอบคลุมมากกว่า 40 กว่าประเทศทั่วโลก อาทิ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย เบลเยี่ยม เยอรมนี และฝรั่งเศส ฯลฯ เพื่อมอบความสะดวกสบาย และปลอดภัยในการใช้จ่ายให้นักเดินทางในต่างแดนได้โดยไม่ต้องแลกเงิน  เพียงดาวน์โหลด สมัครและเติมเงินได้ง่าย ๆ และเมื่อจะจ่ายก็เพียงเปิดคิวอาร์โค้ดบนแอป ทรูมันนี่ กดเลือกประเทศ  และสแกนจ่ายได้ทุกร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ Alipay+ (อาลีเพย์พลัส)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริการใช้จ่ายในต่างประเทศผ่าน ทรูมันนี่ และ Alipay+ รวมถึงโปรโมชันต่าง ๆ ได้ที่ https://www.truemoney.com/global-network-offline-payment/

เรียนฟรี เขียนโปรแกรม JavaScript หลักสูตรอินเตอร์มาใหม่

เรียนได้ทุกคน เว็บไซต์การศึกษาออนไลน์เปิดคอร์สเรียนใหม่ สำหรับคนที่อยากเสริมทักษะการเขียนโปรแกรมโดยเฉพาะ

JavaScript เป็นหนึ่งในภาษาการเขียนโปรแกรมที่สำคัญที่สุดในโลก มีความสำคัญทั้งหน้าเว็บและการสร้างเกม HTML5 และถูกใช้กันอย่างแพร่หลาย ไปจนถึงการทำภารกิจอวกาศของ NASA

คอร์สเรียนนี้เป็นระดับขั้นพื้นฐานของ JavaScript เรียนรู้การใช้งานจริงของหลักการเขียนโค้ด แก้ปัญหา และการใช้เครื่องมือต่าง ๆ 

JavaScript 101 – First Programming Steps

ทางไปเรียน >> academy.zenva 

มีทั้งหมด 46 บทเรียน (2 ชั่วโมง 29 นาที) สอนเป็นภาษาอังกฤษ สามารถโหลดข้อมูลในระบบได้เลย

เนื้อหาที่น่าสนใจ 

– Variables

– Arithmetic Operators

– Conditional Statements

– Boolean Logic

– Functions

– Methods

ถึงแม้เมื่อเรียนจบจะไม่มีใบเซอร์ แต่สกิลความรู้เราได้กลับมาแน่นอน สามารถเข้าสู้ระบบและเริ่มเรียนได้ทันที แถมไม่มีวันหมดอายุ

สำหรับใครที่อยากเรียนการเขียนโปรแกรมอื่น ๆ เข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของ techhub ได้เลยเรารวบรวมไว้ให้แล้ว 

>> techhub productivity  

#เขียนโปรแกรม #JavaScript #TechhubUpdate

เช็คให้ชัวร์ Google ยกเลิกบริการย่อลิ้งก์ คนแห่ใช้เยอะจนเกินรับไหว

เช็คให้ชัวร์ ลิ้งก์ย่อ URL ของ Google จะไม่สามารถใช้งานได้อีก

Google ตัดสินใจปิดส่วนการให้บริการของ Google URL Shortener 

นักพัฒนาที่ใช้ลิ้งก์ในรูปแบบ https://goo.gl/* จะได้รับผลกระทบ และ URL เหล่านี้จะไม่สามารถใช้งานได้อีกตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2025

ผู้ใช้งานจะได้รับการแจ้งเตือนจาก Google ในช่วงเดือนสิงหาคมให้ทำการเปลี่ยนแปลงลิ้งก์ก่อนจะถึงเวลาปิดระบบและลิ้งก์ทั้งหมดจะขึ้นตอบสนอง 404

ในช่วงแรกการเปลี่ยนการใช้ลิ้งก์ลิงก์สั้น Google เผยว่าอาจทำให้เกิดความไม่สะดวก เพราะระบบจะพัฒนาชุดข้อมูลตลอดจนกว่าจะสมบูรณ์

ตั้งแต่ปี 2018 Google ประกาศเลิกใช้และเปลี่ยนผ่าน Google URL Shortener เป็น Firebase Dynamic Links เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการค้นหาเนื้อหาบนอินเทอร์เน็ต 

รวมถึงบริการย่อ URL ยอดนิยมใหม่ๆ จำนวนมากจนเกินรับไหว ในส่วนของ URL ที่มีอยู่ยังคงให้บริการต่อไปแต่ยังไม่สามารถสร้างลิ้งก์ใหม่ได้แล้ว 

 

ที่มา : googleblog  

#Google #URL #TechhubUpdate

ความเร็วแสง NASA ส่งเพลงฮิปฮอปไปดาวศุกร์ ทดสอบส่งข้อมูล แค่ 14 นาที

[แร็พนอกโลก] ตามข้อมูลแล้ว ดาวศุกร์อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เป็นลำดับที่ 2 ซึ่งมีระยะทางอยู่ราว ๆ 108 ล้านกิโลเมตร แต่จะเป็นอย่างไรหากทาง NASA อยากทดสอบการส่งข้อมูลความเร็วแสง ด้วยการส่งเพลง ‘ฮิปฮอป’ ข้ามอวกาศไปยังดาวศุกร์

เมื่อวันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา NASA ได้ส่งข้อมูลเป็นเพลงฮิปฮอปอย่าง The Rain ของ Missy Elliott ไปยังดาวศุกร์ ผ่านการส่งสัญญาณผ่านคลื่นความถี่วิทยุจาก Deep Space Network (DSN) โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 14 นาที

Brittany Brown หัวหน้าทีมสื่อสารของ NASA เผยเป็นผู้เสนอแนวคิดในครั้งนี้เอง เพื่อชู ‘การก้าวข้ามขอบเขต’ ด้วยการส่งเพลงของ Missy Elliott ไปยังอวกาศ สืบเนื่องจากเป็นศิลปินที่เคยมี MV เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอวกาศนั้นเอง

สำหรับ DSN ถือได้ว่าเป็นเครือข่ายโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดของ NASA ซึ่งมีเสาวิทยุขนาดยักษ์จำนวนมากในโลก คอยช่วยส่งคำสั่งและรับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ จากยานอวกาศที่เดินทางไปทำภารกิจที่ดวงจันทร์หรือไกลออกไปจนปัจจุบัน

ที่มา : Techspot

ล่มทั่วโลก Windows ขึ้นจอฟ้า หลังอัปเดต CrowdStrike

[ไปทั้งระบบ] ขึ้นชื่อว่าจอฟ้าหรือ Blue Screen of Death (BSOD) ย่อมหมายถึงปัญหาใหญ่ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ล่าสุดมันได้เกิดขึ้นพร้อมกันทั่วโลก หลังอัปเดต CrowdStrike ตัวล่าสุด ส่งผลให้เครื่อง Windows เกิดปัญหาจอฟ้าจนระบบล่มกันทั่วหน้า

CrowdStrike คือ Endpoint Detection and Response (EDR) หรือซอฟต์แวร์ที่รวมฟีเจอร์ป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ชื่อดัง (เรียกว่าเป็น Antivirus ระดับองค์กรก็ได้) เมื่อช่วงบ่ายของวันศุกร์นี้เอง พบข้อผิดพลาดร้ายแรงจากการอัปเดตซอฟต์แวร์ดังกล่าว ส่งผลให้ระบบปฏิบัติการ Windows 10 และ 11 เกิดความเสียหายจนหยุดทำงาน สุดท้ายขึ้น bugcheck\blue screen หรือจอฟ้าในที่สุด

เบื้องต้นคาดเกิดปัญหาในเซ็นเซอร์ตรวจจับอย่าง Falcon จนมีขึ้นชื่อในจอฟ้าเลยว่า csagent.sys ที่เป็นของทาง CrowdStrike นั้นเอง บ่งบอกสาเหตุชัดเจนว่าทำให้ Windows ทำงานผิดปกติ ล่าสุดทางบริษัทเผยได้เร่งแก้ไขปัญหานี้แล้ว

ส่วนตอนนี้หากองค์กรไหนใช้ CrowdStrike และได้อัปเดตตัวซอฟต์แวร์ดังกล่าว ก็มีโอกาสระบบล่มชั่วคราวเหมือนกัน เบื้องต้นพบในสนามบินหลายแห่งทั่วโลก ส่วนในไทยก็มี Potato Corner ที่เจอล่าสุด และอาจมีเพิ่มอีกในเร็ว ๆ นี้

ที่มา : Mashable

How To ปิด Lock Screen ตัวใหม่ ช่อนได้ Widget ที่ไม่ต้องการ

ถ้าใครเพิ่งอัปเดต Windows ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด จะพบว่ามันได้เพิ่มส่วนประกอบ Widget สภาพอากาศรวมถึงข่าวหุ้น และข่าวอื่น ๆ เข้าในหน้า Lock screen

ส่วนตัวผมชอบ Widget สภาพอากาศนะ แต่อาจจะไม่ชอบข่าวหุ้น หรือข่าวอื่น ๆ ที่ Microsoft พยายามจะยัดเยียดให้เรา

แย่ที่สุดคือเราไม่สามารถปรับแต่งมันได้ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ไม่สามารถปรับแต่งแค่สภาพอากาศแล้วเอาอย่างอื่นออกไปได้ และก็อาจต้องอดทนใช้ต่อไป สิ่งที่ทำได้ ก็แค่ปิดมันทั้งหมดออกไปครับ

วิธีการคือ
1.ให้เรากดปุ่ม Windows + I เพื่อเข้าไปในหน้า Setting
2.แท็ปด้านซ้ายมือ กดเลือกไปที่ Personalization
3.เลือกที่ Lock Screen
4.เลือกที่ Lock Screen Status
5.ตรง Weather and more เลือกเป็น None

เท่านี้ ตรง Windows Lock Screen ก็จะไม่มีการแสดงอะไรที่น่ารำคาญแล้วครับ

Hot Issue