Home Blog Page 49

ในที่สุดก็มา Wikipedia เพิ่ม Dark Mode จัดให้ตามคำเรียกร้อง

[ดีกว่าไม่มา] หนึ่งในเว็บยุคแรกเริ่ม ที่มีอายุกว่า 20 ปีแล้วอย่าง Wikipedia และหนึ่งในฟีเจอร์ที่ผู้ใช้เรียกร้องกันมานานอย่าง Dark Mode จากแบบสำรวจรายการสิ่งที่อยากได้จากชุมชนผู้ใช้ในปี 2023 ล่าสุดทางเว็บได้เพิ่มโหมดนี้เข้ามาแล้ว

ข้อดีของ Dark Mode คือการทำให้ใช้งานหน้าเว็บหรือแอปฯ ต่าง ๆ ในที่สว่างน้อยได้ดี เพราะสีดำของโหมดนี้จะช่วยให้เห็นตัวอักษรได้ง่ายขึ้น และไม่สว่างจนรบกวนสายตา แต่อย่างไรก็ตาม อาจมีผู้ใช้หลายคนก็ยังชอบโหมดสีขาวดั่งเดิมอยู่

สำหรับ Wikipedia สามารถเข้า Dark Mode ได้ง่าย ๆ ผ่านแถบเครื่องมือด้านขาว เรื่องหัวข้อ color heading จากนั้นก็ปรับเป็นโหมดมืด สว่าง หรืออัตโนมัติก็ได้ ทว่าในไทยอาจยังไม่ปรากฎ เนื่องจากยังเป็น Beta หรือเวอร์ชั่นทดสอบอยู่

ที่ผ่านมา ใครที่ใช้เว็บเบราเซอร์ Google Chrome ก็อาจใช้งานส่วนขยายที่ช่วยปรับให้หน้าเว็บต่าง ๆ เป็น Dark Mode ได้หมด แต่แน่นอนว่าไมม่สมบูรณ์ 100% มีบางเว็บที่ปรับแล้วแต่ออกมาแปลก ๆ ก็มี ฉะนั้นจะเป็นการดีกว่า หากทางเว็บหรือแอปฯ นั้น ๆ มีฟีเจอร์ Dark Mode เป็นของตัวเอง ฉะนั้นอาจต้องให้เวลาทาง Wikipedia ปรับแต่งแก้ไขอีกนิด จนสามารถเปิดโหมดนี้ได้ทุกคน

ที่มา : Techspot

เสียหายหนัก Delta เจอวิกฤต CrowdStrike รวมค่าเสียหาย 500 ล้านดอลลาร์ฯ

[ชดใช้อ่วม] หนึ่งอัปเดตแต่กระทบล้านเครื่อง จากกรณีของ CrowdStrike ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยแบบครบวงจร และด้วยชื่อเสียงที่มี ทำให้มีบริษัท ร้านค้า สำนักงาน สถานให้บริการต่าง ๆ และสนามบิน ใช้บริการเป็นจำนวนมาก แต่หลังการอัปเดตที่ผิดพลาด ก็ทำให้ผู้ใช้บริการเหล่านี้ได้รับผลกระทบไปเต็ม ๆ (คอมฯ ขึ้นจอฟ้าจนให้บริการอะไรไม่ได้) ล่าสุดมีสายการหนึ่ง เผยเหตุดังกล่าวได้สร้างเสียหายกว่า 500 ล้านดอลลาร์ฯ

Delta Air Lines (DAL.N) ซึ่งถือได้ว่าเป็นสายการบินหลักของสหรัฐฯ ออกมาเผยกับทาง CNBC ว่าผลกระทบจากเหตุการณ์ CrowdStrike ได้สร้างความเสียหายมากถึง 500 ล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งส่งผลให้เที่ยวบินกว่า 2,200 ราย ถูกยกเลิกเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา

Ed Bastian ซีอีโอ Delta Air Lines ได้กล่าวขอโทษกับลูกค้าของสายการบินที่ได้รับผลกระทบ พร้อมยอมรับด้วยว่าทางสายการบินพึ่งพา Microsoft และบริการเทคโนโลยีของ CrowdStrike เป็นอย่างมาก จนได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากเหตุการณ์ครั้งนี้

ท้ายนี้ CNBC เผย Delta Air Lines ได้ว่าจ้างบริษัทกฎหมายแห่งหนึ่ง เตรียมเรียกร้องค่าชดเชยจากทั้ง Microsoft และ CrowdStrike ในเหตุการณ์ร้ายแรงดังกล่าวแล้ว

ที่มา : Reuters

เจออีก 5 แอปอันตราย แฝงตัวอยู่ใน Google Play

[เล็ดรอดได้ไง] ย้อนกลับไปเดือนที่แล้ว Google ได้ประกาศไล่ลบแอปฯ หลายตัวใน Google Play ที่พบว่าเป็นแอปฯ มัลแวร์แฝง หรือแอปฯ ที่ไม่มีคุณภาพ แต่ดูเหมือนจะไม่จบไม่สิ้น หลังล่าสุดพบอีก 5 แอปฯ ที่มาพร้อม Spyware ชนิดใหม่ โดยบางแอปฯ มีผู้ดาวน์โหลดไปแล้วนับหมื่น

เตือนภัยจาก Kaspersky เผยพบ Spyware ใหม่ในชื่อ “Mandrake” ใน 5 แอปฯ ที่เปิดให้ดาวน์โหลดใน Google Play ซึ่งมีรายชื่อทั้งหมดตามนี้

  • AirFS แอปฯ แชร์ไฟล์ผ่าน Wi-Fi โดย it9042 พบมียอดดาวน์โหลดแล้วถึง 30,305 ครั้ง
  • Astro Explorer แอปฯ จัดการไฟล์ โดย shevabad พบมียอดดาวน์โหลด 718 ครั้ง
  • Amber แอปฯ รวมข้อมูลเกม (Genshin Impact) โดย kodaslda พบมียอดดาวน์โหลด 19 ครั้ง
  • CryptoPulsing แอปฯ เช็คข้อมูลคริปโตฯ โดย shevabad พบมียอดดาวน์โหลด 790 ครั้ง
  • Brain Matrix แอปฯ จัดการระบบในสมาร์ทโฟน โดย kodaslda พบมียอดดาวน์โหลด 259 ครั้ง

สำหรับตัว Mandrake ทางด้าน Bitdefender เผยพบครั้งแรกในปี 2020 ซึ่งเป็น Spyware ที่มีความสามารถในการสอดส่องที่ซับซ้อนมาก สามารถหลบเลี่ยงแอปฯ ความปลอดภัยต่าง ๆ ได้ดี จนทาง Kaspersky มาพบว่ามันแอบแฝงใน 5 แอปฯ บน Google Play ในเครื่อง Android ที่เปิดให้ดาวน์โหลดมาตั้งแต่ปี 2022 ที่ผ่านมา

ท้ายนี้ก็ขอฝากทริคเล็ก ๆ ในการดาวน์โหลดแอปฯ บน Google Play ซึ่งเอาจริง ๆ ทาง Google ก็พลาดเรื่องนี้บ่อยมาก ดีสุดคือป้องกันตัวเอง เช็คง่าย ๆ ด้วยการดูชื่อผู้พัฒนา เอาไปค้นหาใน Google ไปเลยว่า มีผลงานอะไรบ้าง และดังแค่ไหน จากนั้นก็ดูในส่วน ‘การขอสิทธิ์เข้าถึง’ ว่าตัวแอปฯ มันขอเข้าถึงส่วนไหนของเครื่อง Android หากพบว่าขอเกินความจำเป็น เช่น เข้าถึงการโทร เข้าถึงไฟล์ในเครื่อง แม้เป็นเพียงแอปฯ ข้อมูลเกม ก็เดาไม่ยากแล้วว่าเป็นแอปฯ มัลแวร์หรือ Spyware แฝงแน่นอน

ลองดูเทคนิคเพิ่มเติมได้ที่ https://www.techhub.in.th/how-about-fake-app/

ที่มา : Bleepingcomputer

พร้อมรับมือ กองทัพสหรัฐฯ พัฒนา AI ต่อต้านภัยคุกคามจากโดรน

[โชว์ของ] มีความเป็นไปได้สูงว่า หากเกิด ‘ความขัดแย้ง’ ขึ้นมา โดรนจะถูกใช้เป็นอาวุธอย่างแพร่หลาย (ดูได้จากข่าวทางการทหารในปัจจุบัน) แน่นอนหลาย ๆ ประเทศได้เริ่มพัฒนาระบบป้องกันแล้ว และล่าสุดทางกองทัพสหรัฐฯ เผยได้ใช้ AI มาใช้กับระบบขีปนาวุธ เพื่อชี้เป้าให้ทำลายโดรนสังหารจากฝ่ายต่างข้ามได้ทันที รักษาความเหนือกว่าทางการทหารของสหรัฐฯ ขึ้นไปอีก

รายงานเผย กองทัพบกสหรัฐฯ ได้นำ AI หรือปัญญาประดิษฐ์และ Machine Learning มาช่วยพัฒนาระบบป้องกันภัยคุกคามจากโดรน ที่มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมว่าจ้าง Camgian บริษัทซอฟต์แวร์ในประเทศ ให้ช่วยพัฒนาระบบป้องกันดังกล่าว โดยได้รับสัญญาว่าจ้างถึง 55 ล้าน หรือเกือบ 2 พันล้านบาท

ปัจจุบันโดรนที่ใช้ในสงครามนั้น เริ่มขนาดเล็กลงเรื่อย ๆ จึงต้องมีการอัปเกรดให้เห็นเซ็นเซอร์ พร้อมปรับ Kill Chain ให้กระชับขึ้น เพื่อให้ระบบป้องกัน สามารถตัดสินใจโต้ตอบได้เร็วขึ้นและเชื่อถือได้มากขึ้นด้วย โดยทาง Camgian จะเข้ามาทำงานอย่างใกล้ชิดกับกองทัพบกของสหรัฐฯ เพื่อช่วยพัฒนา บบ Integrated Air-and-Missile Defense system (IAMD) หรือระบบป้องกันทางอากาศและขีปนาวุธ ซึ่งรับมือได้ทั้งขีปนาวุธพิสัยไกล ขีปนาวุธร่อน และ Drone หรืออากาศยานไร้คนขับนั้นเอง

ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทางกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ได้จัดงาน “Demo Five” เพื่อให้ผู้จำหน่ายระบบป้องกัน มาโชว์การรับมือกับโดรนกว่า 50 ลำที่บินเข้าหาเป้าหมาย โดยมีการทดสอบทั้ง เซ็นเซอร์ ปืน และเทคโนโลยี AI ในโลกแห่งความเป็นจริงอย่างเข้มข้น

ที่มา : Techspot

Spotify เปิดประสบการณ์การโหวตให้แฟน ๆ ทั่วโลกผ่าน “Spotify T-Pop Now Hottest of the Month”

ครั้งแรกในรายการ Thailand Music Countdown

คุณอารี อารีจิตเสถียร Chief Executive Officer, True CJ Creations พร้อมด้วย Kossy Ng, Spotify’s Southeast Asia, Head of Music และคุณพัฒนี จรียะธนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซ์ซิท สาม หก ห้า จำกัด (EXIT 365) 

แฟน ๆ ชาวไทยและทั่วโลกเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับประสบการณ์ทางดนตรีที่ไม่เหมือนใคร Spotify ร่วมกับรายการ Thailand Music Countdown ยกระดับประสบการณ์ให้แฟน ๆ ขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการเปิดตัว “Spotify T-Pop Now Hottest of the Month” ครั้งแรกที่มอบโอกาสให้กับแฟน ๆ สามารถโหวตให้ศิลปินที่ชื่นชอบได้ขึ้นแสดงบนเวทีรายการ Thailand Music Countdown

ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงโปรดในรายการ Thailand Music Countdown แม้ว่ารายการจะจบลงแล้ว หรือการตัดสินใจว่าเพลงใดใน “Spotify T-Pop Now Hottest of the Month” ที่จะปรากฏในรายการ Spotify จะทำให้แฟน ๆ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ทางดนตรีที่ราบรื่นและเต็มอิ่ม ซึ่งทั้งหมดนี้ทำได้แล้วบน Spotify

ภายในงานเปิดตัวที่กรุงเทพฯ Kossy Ng, Spotify’s Southeast Asia, Head of Music พร้อมด้วย คุณอารี อารีจิตเสถียร Chief Executive Officer, True CJ Creations และคุณพัฒนี จรียะธนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซ์ซิท สาม หก ห้า จำกัด (EXIT 365) และโปรดิวเซอร์รายการ Thailand Music Countdown ได้มาพูดคุยถึงความสำเร็จของความร่วมมือกันที่มีต่ออุตสาหกรรมเพลงไทย โดย Kossy Ng กล่าวว่า “การเติบโตของ Spotify ในภูมิภาคนี้สร้างขึ้นจากการสนับสนุนศิลปินและแฟนคลับมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2018 การฟังเพลง T-Pop นั้นเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า และเรามองหาวิธีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ศิลปินประสบความสำเร็จไปทั่วโลก ฉันรู้สึกตื่นเต้นกับการโหวตครั้งแรกที่เรามุ่งเป้าไปที่แฟนชาวไทยและทั่วโลก ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงปรากฏการณ์ความสำเร็จระดับโลกของวัฒนธรรม T-Pop”

สำหรับการโหวตครั้งแรกในเดือนสิงหาคมนี้ Spotify เปิดเผยรายชื่อผู้เข้าชิง 4 อันดับที่ทุกคนรอคอยและเพลงของพวกเขา ได้แก่ ส่วนต่าง (do it without me) จาก BOWKYLION ศิลปินมากความสามารถซึ่งเพิ่งปล่อยซิงเกิลใหม่ของเธอไปไม่นานนี้; แค่ไหนแค่นั้น (NO MATTER WHAT) จาก BUS บอยกรุ้ป T-Pop ที่กำลังได้รับความนิยมและเป็นส่วนหนึ่งของ Spotify RADAR Artist ประจำปี 2024 อีกด้วย; ขึ้นใจ (Unforgettable) จาก NuNew ศิลปินและนักแสดงขวัญใจมหาชน และหนึ่งในพิธีกรรายการ Thailand Music Countdown; และ FEAT จาก PiXXiE เกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง และ Spotify RADAR Artist ประจำปี 2023

วิธีการโหวต

  1. ค้นหาและกดติดตามเพลย์ลิสต์ Spotify x Thailand Music Countdown เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์การโหวต ซึ่งผู้ใช้งานทั้งแฟนคลับชาวไทย และแฟนคลับทั่วโลกสามารถโหวตได้
  2. แฟน ๆ สามารถโหวตศิลปินและเพลงที่ชื่นชอบใน “Spotify T-Pop Now Hottest of the Month” ได้ทุกวัน โดยในแต่ละวัน ผู้ใช้งาน Spotify Free User จะได้รับหนึ่งโหวต และผู้ใช้ Spotify Premium User จะได้รับสองโหวต (สามารถแบ่งโหวตได้)
  3. การโหวตรอบแรกเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เวลา 00.00 น. ถึงวันที่ 25 สิงหาคม 2567 เวลา 23.59 น. และเริ่มโหวตใหม่ทุกวันเวลา 00.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
  4. เข้าไปฟังเพลย์ลิสต์ T-Pop Now เพื่อติดตามฟังเพลง T-Pop ฮิตติดกระแส และแชร์เพลงที่คุณชื่นชอบลงโซเชียลมีเดีย
  5. กดติดตาม @Spotify TH ใน Facebook, Instagram, X และ TikTok เพื่อติดตามการอัพเดทอันดับผลโหวตและการแสดงจากรายการ Thailand Music Countdown พร้อมคอนเทนต์พิเศษอีกมากมาย รับชมรายการ Thailand Music Countdown ได้ทุกวันอาทิตย์ เวลา 17.30 ถึง 18.20 น. ทางช่อง 3

#SpotifyTH #ThailandMusicCountdown #TMCCountdown #TMCxSpotifyHot4_BOWKYLION#TMCxSpotifyHot4_BUS #TMCxSpotifyHot4_NuNew #TMCxSpotifyHot4_PiXXiE

ที่แรกในไทย Spotify ปล่อยฟีเจอร์ใหม่ เพิ่มระบบโหวตให้คะแนนศิลปิน

[โหวตฟรี] หากใครจำสมัยบ้าน AF หรือ Academy Fantasia ที่เปิดให้แฟน ๆ ทางบ้าน ร่วมโหวตให้กับเหล่านักล่าฝันได้ ล่าสุดทาง Spotify เตรียมเปิดระบบโหวตศิลปินที่ชื่นชอบ ซึ่งโหวตได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯ และฟรี ประเดิมใช้ครั้งแรกในประเทศไทยด้วย

Spotify บริการสตรีมเพลงดิจิทัลชื่อดัง ร่วมกับรายการ Thailand Music Countdown ยกระดับประสบการณ์ให้แฟน ๆ ขึ้นไปอีกระดับ ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ “Spotify T-Pop Now Hottest of the Month” มอบโอกาสให้โหวตให้ศิลปินที่ชื่นชอบ ได้ขึ้นแสดงบนเวทีรายการ TMCcountdown

ปัจจุบัน Spotify มีผู้ใช้ทั่วโลกกว่า 626 ล้านราย และจะเป็นอย่างไรหากประเทศไทย สามารถส่งนักร้องโชว์ผลงานเพลงให้ผู้ฟังทั่วโลก พร้อมมีระบบโหวตเพื่อสนับสนุนได้โดยตรง ล่าสุดได้ร่วมกับรายการ Thailand Music Countdown ที่เปิดโอกาสให้ศิลปินเพลง Pop ของไทย แสดงศักยภาพ และประชาสัมพันธ์ผลงานเพลงใหม่ของตัวเองได้

เพื่อการสนับสนุน Spotify จึงได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อย่าง Spotify T-Pop Now Hottest of the Month หรือระบบโหวตศิลปินที่ชื่นชอบได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯ Spotify เอง ซึ่งผู้ใช้งานทั้งแฟนคลับชาวไทย และแฟนคลับทั่วโลกสามารถโหวตได้เช่นกัน

ส่วนวิธีการโหวตนั้น สามารถกดค้นหาและกดติดตามเพลย์ลิสต์ Spotify x Thailand Music Countdown เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์การโหวตนั้นเอง ซึ่งผู้ใช้งานแบบ Free User จะได้รับหนึ่งโหวต ส่วนผู้ใช้แบบ Premium User จะได้รับสองโหวต (สามารถแบ่งโหวตได้) เลย สามารถโหวตศิลปินและเพลงที่ชื่นชอบได้ทุกวัน

การโหวตรอบแรกเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เวลา 00.00 น. ถึงวันที่ 25 สิงหาคม 2567 เวลา 23.59 น. และเริ่มโหวตใหม่ทุกวันเวลา 00.00 น. ตามเวลาประเทศไทยBUS

สำหรับการโหวตครั้งแรกในเดือนสิงหาคมนี้ ทาง Spotify ได้เปิดเผยรายชื่อผู้เข้าชิง 4 อันดับแรก ได้แก่ BOWKYLION กับผลงานเพลง ส่วนต่าง (do it without me) BUS กับผลงานเพลง แค่ไหนแค่นั้น (NO MATTER WHAT) NuNew กับผลงานเพลง ขึ้นใจ (Unforgettable) และ PiXXiE กับผลงานเพลง FEAT

“การเติบโตของ Spotify ในภูมิภาคนี้สร้างขึ้นจากการสนับสนุนศิลปินและแฟนคลับมาโดยตลอด ตั้งแต่ปี 2018 การฟังเพลง T-Pop นั้นเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า และเรามองหาวิธีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ศิลปินประสบความสำเร็จไปทั่วโลก ฉันรู้สึกตื่นเต้นกับการโหวตครั้งแรกที่เรามุ่งเป้าไปที่แฟนชาวไทยและทั่วโลก ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงปรากฏการณ์ความสำเร็จระดับโลกของวัฒนธรรม T-Pop” Kossy หัวหน้าฝ่ายหรือ Head of Music, Asia ของ Spotify กล่าว

สามารถกดติดตามอัพเดทอันดับผลโหวตและการแสดงจากรายการ Thailand Music Countdown ได้ทาง Facebook, Instagram, X และ TikTok ของ Spotify (@Spotify TH ) หรือรับชมรายการได้ทุกวันอาทิตย์ เวลา 17.30 – 18.20 น. ทางช่อง 3HD

แนวคิดใหม่ อัปเดตเมาส์ตลอดชีพ แต่ต้องจ่ายค่าซอฟต์แวร์

ยอมจ่ายไหม เมาส์ใช้ได้ตลอดชีพ แต่ต้องเสียค่าอัปเดทซอฟต์แวร์ 

อาจเป็นจริงในอนาคต Logitech เผยแนวคิดสำหรับการมีเมาส์ใช้ได้ตลอดชีพ แต่ต้องแลกมากับการสมัครสมาชิกเพื่อจ่ายค่าอัปเดตซอฟต์แวร์ ทุกคนจะยอมเสียเงินไหม

Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech พูดถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับการพัฒนาให้เมาส์มีความแข็งแรง และมีเทคโนโลยีที่ล้ำอยู่เสมอโดยไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้าตัวใหม่ 

“Forever Mouse” เมาส์ในอนาคตรุ่นนี้อาจมีราคาสูงถึง 200 ดอลลาร์ หรือประมาณ 7,122 บาท และยังต้องจ่ายค่าสมาชิกเป็นรายเดือนหรือรายปี แม้ว่าจะมีราคาสูงเมื่อเทียบกับเมาส์ทั่วไป 

แต่ถ้าพูดถึงการใช้งานระยะยาวก็อาจจะคุ้มเพราะเมาส์ Logitech ค่อนข้างพังยากอยู่แล้ว แต่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วย 

เมาส์ในอนาคตจะถูกอัปเกรดความสามารถ ให้ใช้งานได้สะดวกและตอบโจทย์ทั้งการทำงานและเล่นกม หรือเปิดขายให้เฉพาะคนที่สนใจในช่วงแรกเพื่อประเมินความต้องการต่อไป

แล้วมันใช้งานได้ตลอดไปจริงหรือไม่

ซีอีโอเผยว่าเมาส์ของ Logitech มีสมบัติความทนทานและใช้งานได้นาน แต่หากเกิดปัญหาสามารถซื้อชิ้นส่วนสำหรับซ่อมแซมเมาส์และอุปกรณ์อื่น ๆ ใน “Logitech Repairที่ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วใน ifixit

เราอาจจะมีเมาส์รุ่นพิเศษแบบนี้มาให้ได้ลองใช้กัน ก็ถือว่าเป็นการแทรกเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามากับสินค้าไอทีให้เรามีตัวเลือกมาขึ้นในอนาคต 

 

ที่มา : arstechnica  

#Logitech #TechhubUpdate

อัปเกรดใหม่ Mandrake สปายแวร์ตัวร้าย แฝงตัวบน Google Play นาน 2 ปี

Mandrake

แคสเปอร์สกี้ค้นพบสปายแวร์ Mandrake แพร่กระจายบน Google Play อีกครั้ง โดยปลอมตัวเป็นแอปเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล แอปดูดาว และอื่นๆ ซึ่งแอปทั้งหมดนี้ยอดดาวน์โหลดรวมกว่า 32,000 ครั้ง

สำหรับ Mandrake เป็นสปายแวร์ที่ซับซ้อน พัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี 2016 และเคยถูกตรวจพบครั้งแรกในปี 2020

ตอนนี้มี Mandrake เวอร์ชันใหม่นี้มีการปรับปรุงฟังก์ชันการทำงานและเทคนิคหลบเลี่ยงการตรวจจับที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การใช้ OLLVM เพื่อปกปิดฟังก์ชันที่เป็นอันตราย การใช้ใบรับรองเพื่อสื่อสารอย่างปลอดภัยกับเซิร์ฟเวอร์ และการตรวจสอบสภาพแวดล้อมการทำงาน

สิ่งที่น่ากังวลคือ Mandrake เวอร์ชันใหม่นี้สามารถหลบเลี่ยงการตรวจสอบความปลอดภัยของ Google Play ได้นานถึง 2 ปี และแอปที่ติด Mandrake ถูกปล่อยบน Google Play ตั้งแต่ปี 2022 และก็ไม่มีแอปใดถูกตรวจพบว่าเป็นอันตรายจนถึงเดือนกรกฎาคม 2024 แม้ว่าแอปเหล่านี้จะถูกลบออกไปแล้ว แต่ก็เคยมีให้ดาวน์โหลดในหลายประเทศ และก็เคยมีคนที่โหลดไปแล้ว

มีหลักฐานที่เชื่อได้ว่า ผู้พัฒนา Mandrake น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยพบก่อนหน้านี้ การกลับมาของ Mandrake ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของภัยคุกคามบนแอปสโตร์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และความยากลำบากในการตรวจจับภัยคุกคามเหล่านี้

วิธีรับมือกับ Mandrake คือ
1.อย่าไปโหลดแอปนอก ถึงแม้ว่า เคสนี้ Google จะพลาดอีกแล้วก็ตาม
2.อย่ากดลิงก์ดาวน์โหลดแอปจากสื่อต่าง ๆ ที่ไม่น่าไว้ใจ
3.ติดตั้งซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม

ที่มา Kaspersky

สมิติเวช เปิดตัวแคมเปญใหญ่ Save Life Save Price สุขภาพดี ราคาเดียว ทั้งเครือสมิติเวช

นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มรพ.สมิติเวช และรพ.บีเอ็นเอช กล่าวว่า ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน ประชาชนพบเจอกับปัญหามากมาย ความเครียด เศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ  สมิติเวช #เราไม่อยากให้ใครป่วย  มีความห่วงใย จึงเปิดแคมเปญใหญ่ Save Life Save Price สุขภาพดี ราคาเดียว ทั้งเครือสมิติเวช  เริ่มต้นตรวจสุขภาพ ราคาเพียง 2,700 บาท

สำหรับแคมเปญใหญ่ Save Life Save Price สุขภาพดี ราคาเดียว ทั้งเครือสมิติเวช โดยมีความแตกต่างกันในแต่ละเดือน  เปิดขาย ตั้งแต่สิงหาคม–ตุลาคม 2567  สำหรับในเดือนสิงหาคม 2567 พบกับ

  • โปรแกรมตรวจสุขภาพ สำหรับครอบครัว อายุ 30-40 ปี 13 รายการ ราคา 2,700 บาท
  • โปรแกรมตรวจสุขภาพ สำหรับผู้หญิง อายุ 40 ปี ขึ้นไป 14 รายการ ราคา 4,400 บาท
  • โปรแกรมตรวจสุขภาพ สำหรับผู้ชาย อายุ 40 ปี ขึ้นไป 14 รายการ  ราคา 4,400 บาท

ซื้อได้ตั้งแต่ วันนี้ -31 สิงหาคม 2567  รับบริการได้ถึง 30 กันยายน 2567  ราคาดังกล่าวรวมค่าแพทย์ และค่าบริการโรงพยาบาลฯ  สำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น

รับสิทธิ์เพิ่มโดยไม่มีค่าใช้จ่าย   ประเมินความเสี่ยงสุขภาพ 7 ภาวะ ด้วยเทคโนโลยี AI อัจฉริยะ  จากการถ่ายภาพดูคุณภาพเส้นเลือดในจอประสาทตา  เช่น  ภาวะโลหิตจาง  ภาวะหลอดเลือดแข็งตัว  โรคหัวใจและหลอดเลือด  จอประสาทตาเสื่อม ความเสี่ยงต่อการบกพร่องของสมรรถนะสมอง   การเผาผลาญกลูโคส   ความเสี่ยงต่อฝุ่นละอองขนาดเล็กที่สามารถหายใจเข้าไป   มูลค่า 1,000  บาท  จำนวนจำกัด 50 ท่านแรก เมื่อซื้อโปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับผู้ชาย หรือ ผู้หญิง อายุมากกว่า 40 ปี ราคา 4,400 บาท เฉพาะ รพ.สมิติเวช สุขุมวิท และรพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ เท่านั้น

ติดตามแคมเปญใหญ่ Save Life Save Price ในเดือน กันยายน–ตุลาคม 2567 ได้ทาง Facebook: Samitivej Club (รพ.สมิติเวช สุขุมวิท และ รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์) Facebook: Samitivej Thonburi Hospital (รพ.สมิติเวช ธนบุรี) Facebook: Dr.Odean by Samitivej Chinatown Hospital (รพ.สมิติเวช ไชน่าทาวน์) Facebook: SamitivejChonburi (รพ.สมิติเวช ชลบุรี) และ Facebook: SamitivejSriracha (รพ.สมิติเวช ศรีราชา)

ยิ้มที่จริงใจ AEON พัฒนาแอปใหม่ ใช้ AI ให้คะแนนรอยยิ้ม

ครั้งแรกของโลก AEON เปิดตัว Edge AI ฝึกอบรมรอยยิ้มและเสียงให้พนักงานเพิ่มทักษะการทักทายลูกค้าให้เก่งขึ้น

แอปพลิเคชั่น “Smile-kun” ใช้ AI ในการวิเคราะห์และให้คะแนนรอยยิ้มของพนักงาน ระดับเสียง ความนุ่มนวล และน้ำเสียงแบบเรียลไทม์ พร้อมให้ข้อเสนอแนะทันที จะเป็นเหมือนเกมให้คะแนนไม่สร้างความกดดันให้กับพนักงาน

Smile-kun จะให้คะแนนรอยยิ้มของดวงตาและปากอยู่ที่ 100 คะแนน และแสดงการตอบสนองด้วยภาพทันทีเพื่อเช็คระดับเสียง และความยากง่าย รูปแบบต่างๆ จะขึ้นอยู่กับบททดสอบแต่ละ level 

เพื่อพัฒนาบุคลากรที่เป็นด่านหน้า สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าเวลามาใช้บริการ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่บนโลกออนไลน์ไม่สามารถทำได้ 

แถมยังส่งเสริมด้านการใช้ทรัพยากรมนุษย์ให้มีงานและอาชีพ เพราะปัจจุบันหลายบริษัทเริ่มเอาเทคโนโลยีหุ่นยนต์หรือตูอัตโนมัติมาใช้แทนคนกันหมด

โดยร้านค้าในเครือส่งพนักงานไปฝึกอบรมแล้ว 3,400 คน ทั้งสาธิตและทำงานจริงกับลูกค้าทั่วไปแถมได้รับความพึ่งพอใจเพิ่มขึ้นถึง 1.6 เท่า ภายใน 3 เดือน เมื่อเทียบกับทุกครั้งที่ผ่านมา

ล่าสุด AEON ร่วมมือกับ InstaVR ฝึกอบรมการบริการที่ร้านอิออนและอิออนสไตล์ประมาณ 240 แห่ง ให้กับพนักงานใหม่และเก่า เพื่อปรับปรุงการบริการลูกค้าให้มีคุณภาพเสมอ

 

ที่มา : instavr  

#AEON  #AI #TechhubUpdate

Hot Issue