Home Blog Page 36

ช่องทางใหม่ IKEA เปิดตลาดออนไลน์ ให้ขายเฟอร์นิเจอร์มือสอง 

By
jirapornt
-

เฟอร์นิเจอร์ไม่ใช้แล้วอย่าเพิ่งทิ้ง IKEA เปิดโปรเจคตลาดออนไลน์ ให้สินค้ามือสองผ่านเว็บของตัวเองเริ่มแล้วในทวีปยุโรป 

IKEA สร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ในมาดริดและออสโล ให้ลูกค้าสามารถขายเฟอร์นิเจอร์มือสองให้กับผู้อื่นได้ผ่านแพลตฟอร์ม IKEA Preowned 

เว็บไซต์จะให้ผู้ใช้ลงรายการเฟอร์นิเจอร์มือสองพร้อมรูปถ่ายและระบุราคาแบบชัดเจน หน้าตาของเว็บไซต์จะคล้ายกับเว็บหลัก แต่จะมีการโชว์สินค้าระบุราคาที่คนขายตั้งเป้าไว้ 

เมื่อผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกันเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปคือนัดสถานที่และเวลาในการพบกันเพราะเว็บเป็นเพียงแค่ตัวกลางเท่านั้น

ผู้ขายสามาถเลือกช่องทางการรับเงิน เช่น โอนเงินผ่านธนาคารโดยไม่มีค่าธรรมเนียม หรือแลกเป็นบัตรของขวัญ Ikea ที่มีส่วนลดเพิ่มอีก 15%จากราคาซื้อเฟอร์นิเจอร์

สินค้าที่เปิดให้วางขายในช่วงแรก เช่น โซฟา ตู้เสื้อผ้า และเตียง เป็นต้น เพื่อลดปัญหาการเกิดขยะล้นเมือง เพราะสินค้าจริง ๆ สภาพก็ยังใช้งานได้อยู่และบางคนก็อยากแค่เปลี่ยนเท่านั้น

ถือว่าเป็นอีกแนวคิดที่ดี อยากให้มาเปิดที่ประเทศไทยบ้างเพราะเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ราคาก็อาจเกินงบ ถ้ามีสินค้ามือสองก็จะเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคได้ 

>> ดูเว็บไซต์ IKEA Preowned

 

ที่มา : theverge 

#IKEA #TechhubUpdate

เพิ่มจุดขาย ค่ายรถไอเดียเจ๋ง ให้เล่นเกมตอนรอชาร์จไฟ

By
piphat phoemphan
-

Volkswagen จับมือ AirConsol ให้เจ้าของรถสามารถเล่นเกมบนรถได้โดยสามารถใช้สมาร์ทโฟนเป็นจอยคอนโทรลเลอร์ และใช้หน้าจอของ Infotainment ของรถเป็นจอภาพในขณะที่รถจอดอยู่

แน่นอนว่า เรื่องนี้มันถูกใจสำหรับคนใช้รถไฟฟ้าขณะจอดรอชาร์จอย่างแน่นอน แต่ Volkswagen ไม่ได้ทำให้กับเฉพาะรถไฟฟ้านะ รถสันดาปแบบเดิมก็สามารถเล่นได้เหมือนกัน นับเป็นการเพิ่มจุดขายของแบรนด์ให้เพิ่มมากขึ้น

สำหรับ AirConsole ไม่ได้จับมือกับแค่ Volkswagen อย่างเดียว เพราะเคยร่วมจับมือกับ BMW และ Mini มาก่อน ทำให้วงการเกมในรถยนต์กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

และปัจจุบัน ต้องยอมรับว่า หน้าจอ Infotainment ในรถยนต์ยุคใหม่ จะมีขนาดใหญ่มาก ๆ เช่น Volkswagen ID.7 จะมีขนาดใหญ่ 15 นิ้ว เหมาะสำหรับการเล่นเกมเป็นอย่างมาก และค่ายรถอื่นๆ อย่าง Mercedes-Benz ก็มีแผนนำเสนอประสบการณ์เกมในรถยนต์เช่นกัน นั่นแปลว่าเทรนด์นี้กำลังมาแรง

ที่มา
techspot

ทำใช้เอง YouTuber ออกแบบรถไฟฟ้า วิ่งได้ด้วยพลังงานแสงอาทิตย์

By
piphat phoemphan
-
YouTuber

เรามักเกิดคำถามกันบ่อย ๆ ว่า ในเมื่อเรามีรถยนต์ไฟฟ้าใช้งานแล้ว แต่ทำไม ยังไม่มีใครกล้าผลิตรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ที่สามารถใช้งานได้จริง ซึ่ง Youtube รายได้นี้ได้ทำให้เราเห็นแล้วว่า อะไรคือข้อจำกัดที่มีอยู่

Drew Builds Stuff ยูทูบเบอร์คนหนึ่งได้สร้างรถไฟฟ้าของเขาขึ้นมา โดยเน้นใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์เป็นหลัก ตัวรถยนต์ จำเป็นต้องใช้พลังงานประมาณ 1200 วัตต์ในการขับเคลื่อน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้โซลาร์เซลล์ ผลิตกระแสไฟให้เกินกว่ากำลังไฟที่ต้องใช้

แต่แผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนรถนั้นคันเดียวนั้นไม่พอ เค้าจึงจำเป็นต้องต่อพ่วงลากที่มีแผงโซลาร์เซลล์ติดไปด้วย และนั่นให้กำลังไฟรวม 1,350 วัตต์ โดยเค้าเลือกใช้แผงโซลาร์เซลล์แบบยืดหยุ่นที่มีน้ำหนักเบาเพียง 3 กิโลกรัม ซึ่งเบากว่าแผงโซลาร์เซลล์แบบแข็งที่มีน้ำหนักประมาณ 27 กิโลกรัม

ในช่วงของการวิ่งทดสอบ เมื่อท้องฟ้าสดใสมีแดด เขาสามารถวิ่งได้นานมากถึง 3 ชั่วโมงโดยที่แบตไม่ลดลงเลย แต่เมื่อท้องฟ้าเริ่มมีเมฆ กำลังไฟที่ผลิตได้ลดลงเหลือประมาณ 350 วัตต์ และนั่นไม่เพียงพอในการชาร์จไฟเข้าแบต

อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพอากาศในวันนั้น รถของเขาวิ่งไปได้ไกลถึง 250 กิโลเมตร และหากเป็นสภาพที่มีแดดตลอดทั้งวัน รถของเขา อาจวิ่งได้ไกลถึงเกือบ 500 กิโลเมตรในทางทฤษฏี

แต่เหตุผลที่รถยนต์โซลาร์เซลล์ยังไม่แมส ปัจจัยสำคัญคือเรื่องของน้ำหนัก เมื่อน้ำหนักรถมากขึ้น ก็จำเป็นต้องใช้มอเตอร์ที่มีแรงขับมากขึ้น รถก็ต้องใช้ไฟมากขึ้น แน่นอนว่า รถของเขาเป็นการประกอบมาเพื่อทดสอบ มีแต่โครงเหล็กที่ติดโซลาร์เซลล์ มันไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ ทั้งเรื่องของระบบกันกระแทก เครื่องปรับอากาศ ระบบความปลอดภัย และอื่น ๆ อีกมากมายที่รถยนต์ทั่วไปมี

สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้รถยนต์โซลาร์เซลล์เกิด คือเรื่องของกำลังการผลิตไฟฟ้าจากแผงที่ต้องทำให้ได้มากกว่านี้ครับ ก็จำเป็นต้องรอเทคโนโลยีพัฒนาต่อไป แต่ส่วนตัวก็มองว่า สามารถนำแผงมาติดตั้งบนหลังคาของรถ EV ได้ ซึ่งก็น่าจะมีส่วนช่วยทำให้รถวิ่งได้ไกลขึ้นครับ

ที่มา
techspot

มาแรง สหรัฐใช้พลังงานโซลาร์เซลล์ ผลิตไฟฟ้าสูงถึง 80%

By
@KBenZ
-

[พลังงานสะอาด] ดูเหมือนพลังงานแสงอาทิตย์และแบตฯ สำรอง กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐฯ หลังมีรายงานว่าผลิตกำลังไฟฟ้าได้สูงถึง 80% และอาจแตะ 96% ภายในช่วงสิ้นปีนี้

รายงานจาก Energy Information Administration หรือ EIA เผยสหรัฐฯ สามารถใช้พลังงานแสงอาทิตย์ผลิตไฟฟ้าได้ 60% คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่ทั้งหมด 20.2 กิกะวัตต์ ซึ่งส่วนใหญ่จากโรงงานไฟฟ้าในรัฐเท็กซัสและเนวาดา นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้สหรัฐฯ ยังมียอดการติดตั้งแบตฯ ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยพบกำลังไฟฟ้า 4.2 กิกะวัตต์ ซึ่งคิดเป็นยอดอีก 20% ของกำลังการผลิตทั้งหมด โดยมีรัฐแคลิฟอร์เนียครองตำแหน่งการติดตั้งมากกว่า 1 ใน 3 ของประเทศ

นอกจากพลังงานแสงอาทิตย์และแบตฯ แล้ว ในสหรัฐฯ ยังมีพลังงานจากกังหันลมที่ 2.5 กิกะวัตต์ ส่วนพลังงานหลักอย่างนิวเคลียร์ ปีนี้ก็มีการเพิ่มกำลังการผลิตด้วยการสร้างเครื่องปฏิกรณ์ใหม่ 4 เครื่อง ในขนาด 1.1 กิกะวัตต์ ที่โรงงาน Vogtle ในรัฐจอร์เจีย ซึ่งถือเป็นโรงงานนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยเริ่มสร้างเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

คาดการณ์จาก EIA เผยสหรัฐฯ ในช่วงสิ้นปีนี้ อาจมีกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 42.6 กิกะวัตต์ โดย 25 กิกะวัตต์มาจากพลังงานแสงอาทิตย์ อีก 10.8 กิกะวัตต์มาจากระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตฯ และ 4.6 กิกะวัตต์มาจากพลังงานลม เท่ากับว่ากำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่อาจสูงถึง 96% ในปี 2024 นี้

การมาของ AI ถูกประเมินแล้วว่าใช้พลังงานสูง แน่นอนว่าการที่ทางสหรัฐฯ เพิ่มส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดเหล่านี้มากขึ้น อาจไม่ใช่เรื่องแปลก ผนวกกับการมาของรถไฟฟ้า และมาตรการเพิ่มแรงจูงใจอย่าง Green Technology ก็ยิ่งทำให้เข้าถึงเป้าหมายการผลิตพลังงานแบบปลอดมลพิษ 100% ได้ยิ่งขึ้น

ที่มา : Techspot

เล่นเกมผ่านสมอง ผู้ป่วยอัมพาตฝังชิป Neuralink ไม่ต้องใช้เมาส์กับคีย์บอร์ด

By
@KBenZ
-

[เล็งด้วยหัว] ล้ำไปอีกขั้นกับทาง Neuralink บริษัทผู้พัฒนา Brain-Computer Interface (BCI) ชื่อดังของ Elon Musk ล่าสุดได้เผยคลิปเล่นเกม Counter-Strike 2 ที่ควบคุมการเล่นด้วยคลื่นสมองล้วน ๆ โชว์การเคลื่อนไหว การเล็ง และการยิJพร้อมกันได้ โดยไม่ต้องใช้เมาส์กับคีย์​บอร์ดช่วยเลย

อัปเดตล่าสุดของ Neuralink เผยผู้ทดสอบคนใหม่ในชื่อ ‘Alex’ เกมเมอร์ที่ชื่นชอบเกมแนว FPS โดยเฉพาะกับ Counter-Strike 2 เกมเดินหน้ายิJยอดนิยมในปัจจุบัน ทว่าหลังประสบอุบัติเหตุจากการซ่อมยานพาหนะ ทำให้ไขสันหลังได้รับบาดเจ็บหนัก จนกลายเป็นอัมพาตแขนขาทั้งสี่ข้าง

ปัจจุบัน Alex ใช้อุปกรณ์ช่วยเล่นเกมอย่าง Quadstick เป็นจอยสติ๊กสำหรับผู้ป่วยอัมพาตโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีเซ็นเซอร์วัดแรงกดและการคลิกผ่านริมฝีปาก ทว่าด้วยข้อกัดของตัวอุปกรณ์ ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือเล็งยิJได้พร้อมกัน

แต่ด้วยการมาของ Neuralink โชว์การใช้ชิป BCI รุ่นใหม่ร่วมกับ Quadstick ทำให้ Alex สามารถเล่นเกม Counter-Strike 2 ได้ดีขึ้น สั่งให้ตัวละครในเกมเคลื่อนไหว เล็งเป้า และยิงพร้อมกันโดยไม่ต้องหยุดการกระทำหนึ่ง เพื่อเริ่มการกระทำอื่น เหมือนก่อนแล้ว (ประมาณว่าเดินยิjไม่ได้ ต้องหยุดเพื่อเล็งก่อน ซึ่งก็จะกลายเป็นเป้านิ่งได้)

“มันบ้ามาก ผมสามารถเคลื่อนไหวไปไหนได้ตามต้องการ ไม่จำเป็นต้องคอยขยับจอย Quadstick ให้ไปทางซ้ายและขวาเหมือนก่อนหน้าแล้ว” Alex อาสาสมัคร Neuralink คนที่สองกล่าว

สำหรับการปลูกถ่ายตัวชิป BCI ของ Neuralink ในหัวของ Alex นั้น ทางบริษัทเผยได้เรียนรู้และนำข้อผิดพลาดของผู้ป่วยก่อนหน้ามาแก้ไขแล้ว เช่น การหดตัวของเส้นใยที่เชื่อมต่อกับสมองผู้ป่วยโดยตรง ต่อไปคือหาวิธีบรรเทาผลกระทบ อาทิ ลดการเคลื่อนไหวของสมองในระหว่างการผ่าตัด และลดช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนกับพื้นผิวสมองให้เหลือน้อยที่สุด

ที่มา : Techspot

ARV ประกาศเป็นตัวแทนจำหน่ายโดรน AUTEL ยกระดับวงการโดรน

By
Techhub
-

ARV ประกาศเป็นตัวแทนจำหน่ายโดรน AUTEL อย่างเป็นทางการ ยกระดับวงการโดรนเพื่อภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศไทย

บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด (ARV) ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์และเทคโนโลยีล้ำสมัย มีความยินดีที่จะประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริษัท ออเทล โรโบติกส์ (Autel Robotics) ยักษ์ใหญ่แห่งวงการโดรนระดับโลกสัญชาติจีน โดย ARV ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Autel Robotics รายแรกในประเทศไทย ความร่วมมือครั้งสำคัญนี้จะช่วยยกระดับการเข้าถึงเทคโนโลยีโดรนคุณภาพสูงสำหรับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในประเทศไทย โดย ARV จะนำเสนอผลิตภัณฑ์โดรน Autel พร้อมบริการหลังการขาย การฝึกอบรม และการสนับสนุนทางเทคนิคอย่างครบวงจร โดยมุ่งเน้นการนำเสนอเทคโนโลยีโดรนนวัตกรรมใหม่ ผสานเข้ากับประสบการณ์ของ ARV ด้านปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ เพื่อสร้างโซลูชันที่ล้ำสมัยสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ

นายสินธู ศตวิริยะ หัวหน้ากลุ่มงานเวนเจอร์ส บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด  กล่าวว่า “ปัจจุบัน ตลาดโดรนทั่วโลกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ทั้งนี้ ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในตลาดที่มีศักยภาพและกำลังเติบโตในอุตสาหกรรมนี้เช่นกัน โดรนกำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญทั้งในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการนำไปใช้ประโยชน์ทางด้านการเกษตร การก่อสร้าง การขนส่งและโลจิสติกส์ การตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐาน การตรวจตราและเฝ้าระวังความปลอดภัย การกู้ภัยพิบัติ การถ่ายภาพและวิดีโอ รวมถึงโดรนเพื่อการนันทนาการสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป

ซึ่งการเป็นพันธมิตรกับ Autel Robotics นี้ มีจุดเด่นสำคัญคือความสามารถและความยืดหยุ่นในการนำเทคโนโลยีโดรนมาผสานกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของ ARV โดยจะช่วยขยายขีดจำกัด สร้างโอกาสใหม่ ๆ และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถบูรณาการร่วมกับหุ่นยนต์ภาคพื้นดิน หรือโซลูชันต่อต้านโดรน (Anti-Drone) ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายในตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจไทยอย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้ ARV จึงได้ร่วมมือกับ Autel Robotics ผู้ผลิตโดรนคุณภาพสูง เพื่อปิดช่องว่างในตลาด ยกระดับและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโดรนในประเทศไทยอย่างยั่งยืน อีกทั้งเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลกอีกด้วย”

Ms. Missa Cao (คุณมิสซ่า เคา) รองประธานฝ่ายขายต่างประเทศ บริษัท Autel Robotics กล่าวเสริม “เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ ARV ในฐานะพันธมิตรในประเทศไทย ด้วยความเชี่ยวชาญของ ARV และเทคโนโลยีโดรนล้ำสมัยของ Autel Robotics เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นภาคส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชน หรือแม้แต่ผู้ใช้งานทั่วไปในประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ“

ผลิตภัณฑ์โดรน Autel ที่วางจำหน่ายผ่าน ARV ครอบคลุมทั้งรุ่น Consumer สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป และรุ่น Enterprise สำหรับภาคธุรกิจ พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการด้วยไลน์อัพสุดล้ำ:

  • EVO II Series: ปฏิวัติวงการโดรนด้วยกล้องความละเอียดสูงสุด 6K และเทคโนโลยี AI อัจฉริยะในการบิน
  • EVO MAX Series: ผู้นำอุตสาหกรรมด้านการบินโดรนอัตโนมัติ ยกระดับประสิทธิภาพสู่ขีดสุดด้วยกล้องสมรรถนะสูง ส่งข้อมูลรวดเร็ว ฟีเจอร์ AI ติดตามอัตโนมัติ พร้อมระบบตรวจจับและหลบหลีกอัตโนมัติ 720° เป็นตัวช่วยสำคัญให้ผู้ประกอบการและองค์กรสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะสำหรับงานสำรวจ ตรวจสอบ และเก็บข้อมูลในพื้นที่ขนาดใหญ่หรือซับซ้อน
  • AUTEL ALPHA: โดรนอัจฉริยะระดับอุตสาหกรรมสำหรับภารกิจที่หลากหลาย มาพร้อมกล้องสมรรถนะสูง ทนทานต่อสภาพอากาศ บินระยะไกลมั่นคง รีโมทคอนโทรลใช้งานง่าย
  • DRAGONFISH: โดรนปีกตรึง (VTOL, Vertical Take-Off and Landing) สามารถขึ้นและลงจอดในแนวตั้ง สามารถใช้งานในพื้นที่จำกัด ประสิทธิภาพสูง ออกแบบเพื่อภารกิจสำรวจและตรวจการณ์ระยะไกล

ทุกรุ่นโดดเด่นด้วยคุณสมบัติด้านความปลอดภัยประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในการใช้งานรองรับภารกิจหลากหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นการสำรวจการลาดตระเวนการค้นหาและกู้ภัยการรักษาความปลอดภัยหรืองานอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำสูง

นอกจากการเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายแล้ว ARV ยังมีบริการหลังการขาย และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลรักษาโดรนอย่างถูกต้อง เพื่อยืดอายุการใช้งานจากผู้เชี่ยวชาญด้านโดรนโดยตรง รวมถึงการฝึกอบรม และการสนับสนุนทางเทคนิคอย่างครบวงจร ผ่านทีมงานที่ชำนาญการพร้อมให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานโดรน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ Autel Robotics ผ่านการจัดจำหน่ายโดย ARV เราพร้อมมอบโซลูชันที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ตั้งแต่ผู้ใช้งานทั่วไปไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ ยกระดับมาตรฐานการใช้งานโดรนในประเทศไทยสู่อีกขั้น และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโดรนให้เติบโตอย่างยั่งยืน

เพื่อเฉลิมฉลองการเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ARV ได้จัดเตรียมโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าที่สนใจโดรน Autel และท่านสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://arv.co.th/en/product-areas/aerial-robotics-ecosystem หรือสอบถามจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายโดยตรง เพื่อรับข้อเสนอที่ดีที่สุดก่อนใคร

สัมผัสประสบการณ์การบินเหนือขีดจำกัดด้วยโดรน Autel และรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้แล้ววันนี้ที่ อีเมล: arv.sale@arv.co.th  |  โทรศัพท์: 063-265-2277  |  Line OA: @ARV.Sale เข้าชมเว็บไซต์ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าโดรน Autel และบริการของ ARV: https://arv.co.th

NECTEC–ACE 2024 เปิดโลกเทคโนโลยียุคใหม่ ด้วยเซนเซอร์ไทยอัจฉริยะ

By
Techhub
-

เนคเทค สวทช. และพันธมิตร พร้อมโชว์ศักยภาพ โอกาสและทิศทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเซนเซอร์ไทย ในงาน NECTEC–ACE 2024 “เปิดโลกเทคโนโลยียุคใหม่ ด้วยเซนเซอร์ไทยอัจฉริยะ” 10 กันยายน นี้

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค สวทช. พร้อมหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชนที่ร่วมสนับสนุนการจัดงาน อาทิ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.), บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอเอ็มดี เทคโนโลยี (ไทยแลนด์) จำกัด ร่วมแถลงข่าวการจัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการเนคเทค ประจำปี 2567 หรือ NECTEC Annual Conference and Exhibitions 2024 (NECTEC–ACE 2024) ภายใต้แนวคิด “ฐานรากเทคโนโลยีก้าวไกล พัฒนาไทยก้าวหน้า” โดยใช้ชื่อ “The Next Era of Thai Intelligent Sensors: เปิดโลกเทคโนโลยียุคใหม่ ด้วยเซนเซอร์ไทยอัจฉริยะ” นำเสนอการพัฒนาเทคโนโลยีเซนเซอร์ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงการประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม พร้อมโชว์ศักยภาพ โอกาส นโยบาย และทิศทางของประเทศไทยในการขับเคลื่อนเทคโนโลยี และอุตสาหกรรมเซนเซอร์ จัดขึ้นวันที่ 10 กันยายน 2567 ณ ศูนย์ประชุมอิมแพคฟอรั่ม (ฮอลล์ 4) เมืองทองธานี

ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. กล่าวว่า เนคเทค สวทช. ในฐานะองค์กรวิจัยของประเทศ ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าต่อกับภารกิจในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศ เปรียบเสมือนเป็น “เครื่องจักรสำคัญเพื่อสร้างฐานรากทางเทคโนโลยีทางด้านอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศขั้นสูงให้กับประเทศ” ผลักดันเทคโนโลยีและผลงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ได้จริง เพื่อสนับสนุนการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ โดยมุ่งเน้น 3 เทคโนโลยีหลัก ได้แก่ (1) Intelligent Sensors (2) Networking & Communication (3) AI & Big Data ซึ่งเนคเทค สวทช. ยังได้ให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ถ่ายทอดประสบการณ์ รวมทั้งการสร้างแพลตฟอร์ม หรือเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญให้กับประเทศ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย พร้อมทั้งสร้างสรรค์ผลงานวิจัยให้ตอบโจทย์การใช้งานภายในประเทศสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ผลักดันงานวิจัยไปสู่ผู้ใช้งานจริงได้อย่างยั่งยืน

ปีนี้นับเป็นครั้งที่ 17 ของการจัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการของเนคเทค หรือ NECTEC-ACE ถือเป็นกิจกรรมสำคัญในการส่งมอบผลงานวิจัยที่ใช้งานได้จริงให้กับประเทศ ในรูปแบบเวทีนำเสนอผลงานวิจัย การแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ สร้างเครือข่ายความร่วมมือ และสนับสนุนภารกิจของเครือข่ายพันธมิตรในการขับเคลื่อนงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ ความพิเศษของการจัดงาน NECTEC-ACE คือ การนำเสนอแนวคิดหลักของการจัดงานที่แตกต่างกันออกไปทุกปี โดยในปีนี้นำเสนอเรื่องราวของเทคโนโลยีเซนเซอร์ ที่มีบทบาทสำคัญในยุคดิจิทัลและเป็นพื้นฐานในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย ขับเคลื่อนให้เกิดนวัตกรรมใหม่ เสริมสร้างศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมทั้งในระดับประเทศและระดับสากล

จึงเป็นที่มาของการจัดงาน NECTEC-ACE 2024 ภายใต้แนวคิด The Next Era of Thai Intelligent Sensors เปิดโลกเทคโนโลยียุคใหม่ ด้วยเซนเซอร์ไทยอัจฉริยะ ที่เนคเทค สวทช. และหน่วยงานพันธมิตรทั้ง 26 หน่วยงาน เตรียมพร้อมนำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจในหลากหลายมิติเกี่ยวข้องกับเซนเซอร์ เซมิคอนดักเตอร์ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ทั้งในรูปแบบสัมมนาวิชาการ การจัดแสดงนิทรรศการเพื่อแสดงศักยภาพของงานวิจัยไทย ที่ผู้เข้าร่วมงานจะได้เรียนรู้ตั้งแต่สถานะปัจจุบันของเทคโนโลยีเซนเซอร์อัจฉริยะในไทย งานวิจัยพื้นฐาน ไปจนถึงการประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงโอกาส และความท้าทายในการพัฒนาเทคโนโลยีเซนเซอร์ของไทย ตลอดจนมุมมองด้านการตลาดและการลงทุน ทั้งในมิติของภาครัฐ ภาคธุรกิจ และประชาชนทั่วไป ที่จะร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรม เสริมระบบนิเวศการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมเซนเซอร์อัจฉริยะภายในประเทศ ให้พร้อมก้าวสู่ตลาดการแข่งขันในระดับสากล

นอกจากนี้ภายในงานแถลงข่าว NECTEC-ACE 2024 ยังได้นำเสนอตัวอย่างผลงานเด่นด้านเทคโนโลยีเซนเซอร์อัจฉริยะของเนคเทค สวทช. อาทิ  (1) แพลตฟอร์มวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ด้วยเครื่องวัดสัญญาณรามานแบบพกพาร่วมชิปขยายสัญญาณ “ONSPEC Prime” ใช้ AI และ Cloud ในการจำแนกผู้ป่วยและพยากรณ์โรค เช่น วัณโรค ไข้เลือดออก และมะเร็ง ทราบผลใน 30 นาที รองรับการตรวจ on-site และการจัดการข้อมูลออนไลน์ (2) แพลตฟอร์มเทระเฮิรตซ์: ที่ประกอบด้วย TeraAnt อุปกรณ์รับและส่งสัญญาณเทระเฮิรตซ์เสาอากาศแบบตัวนำเชิงแสง (THz Photoconductive Antenna) สำหรับนำสัญญาณเทระเฮิร์ต มาใช้ในการศึกษาและวิเคราะห์สมบัติของวัสดุในอุตสาหกรรมอาหาร และยา และ TeraBoost แผ่นบูสต์สัญญาณเมทะเซอร์เฟสสำหรับ 5G/6G ทำหน้าที่เสมือน WiFi Booster ช่วยเพิ่มกำลังและรวมสัญญาณเครือข่าย 5G ให้โฟกัสไปยังบริเวณที่มีความต้องการใช้งานหรือบริเวณตำแหน่งอับสัญญาณ โดยสามารถเพิ่มค่ากำลังของสัญญาณได้สูงสุดถึง 15 dB (ประมาณ 32 เท่า) ที่ความถี่ 26 GHz และรองรับการใช้งาน 6G ในอนาคต

ไฮไลต์ในงาน NECTEC–ACE 2024:

  • 6 หัวข้อสัมมนาทางวิชาการ ที่ได้รวบรวมกูรู ผู้บริหาร นักวิชาการ นักวิจัย วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ จากภาครัฐ และเอกชน กว่า 25 ท่าน ที่จะมาร่วมนำเสนอความรู้ ความก้าวหน้า ที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนาเซนเซอร์อัจฉริยะครบทุกมิติทั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ทั้งด้านนโยบาย
    การสนับสนุนโอกาสการลงทุนการเติบโตในอนาคต
  • 50 บูธนิทรรศการพร้อมใช้ แสดงผลงานวิจัยพัฒนาด้านเซนเซอร์อัจฉริยะ จากเนคเทค สวทช.
    ที่พร้อมตอบโจทย์การประยุกต์ใช้งาน ทั้งสุขภาพการแพทย์ การเกษตร อุตสาหกรรม และงานวิจัย
    ขั้นสูงสู่อนาคตเทคโนโลยีเซนเซอร์ และผลงานจากหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคม สถานบันการศึกษา ร่วมนำนวัตกรรม บริการ โซลูชัน มาตรการสนับสนุน เพื่อผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมเซนเซอร์ในประเทศ

สามารถลงทะเบียนร่วมงานได้ตั้งแต่วันนี้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ที่ https://nectec.or.th/ace2024/

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากระแสสลับอัจฉริยะ MSI – EV Premium/EV Life วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้!

By
Wanvisa Aryutjarakorn
-

MSI แบรนด์ชั้นนำระดับโลกในด้านการเล่นเกมระดับไฮเอนด์ กำลังมีส่วนร่วมในการพัฒนาพลังงานที่ยั่งยืนอย่างจริงจัง ผลิตภัณฑ์ล่าสุด “EV Premium/EV Life” เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากระแสสลับอัจฉริยะสำหรับใช้ในบ้าน วางจำหน่ายแล้ววันนี้ เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากระแสสลับอัจฉริยะนี้โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพเหนือกว่าและคุณสมบัติที่เป็นนวัตกรรมใหม่ มอบประสบการณ์การชาร์จที่ครบถ้วนและมีประสิทธิภาพสูงสำหรับเจ้าของรถยนต์

คุณสมบัติหลักของเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากระแสสลับอัจฉริยะของ MSI ได้แก่:

– ผลิตในไต้หวัน: เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากระแสสลับอัจฉริยะของ MSI ได้รับการพัฒนาและผลิตในไต้หวันโดยใช้ชิ้นส่วนและวัสดุคุณภาพสูง แต่ละหน่วยได้รับการทดสอบและตรวจสอบอย่างเข้มงวดเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพที่เสถียรและเชื่อถือได้

  • Global Charging Standards Compliance: MSI smart EV Chargers meet stringent global standards, including TISI and IEC, ensuring product safety and reliability.

– การปฏิบัติตามมาตรฐานการชาร์จทั่วโลก: เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากระแสสลับอัจฉริยะของ MSI ปฏิบัติตามมาตรฐานสากลที่เข้มงวด รวมถึง TISI และ IEC เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและความเชื่อถือได้ของผลิตภัณฑ์

  • International Protection Certification: IP55 and IK08 compliant to withstand wind and rain. Suitable for indoor or outdoor application. Besides, MSI EV Charger meets the ASTM B117 standard- Rustproof, so can used for in salt air environments, around coastal areas.

– การรับรองการป้องกันระดับนานาชาติ: ได้มาตรฐาน IP55 และ IK08 ทนทานต่อลมและฝน เหมาะสำหรับการใช้งานในร่มหรือกลางแจ้ง นอกจากนี้ เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากระแสสลับอัจฉริยะของ MSI ยังได้มาตรฐาน ASTM B117 ซึ่งป้องกันการเกิดสนิมจึงสามารถใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีเกลือในอากาศ บริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเล

  • WW First and only one 3000m altitude certification to ensure normal operation in high-altitude areas.

– การรับรองการใช้งานที่ระดับความสูง 3000 เมตรเป็นครั้งแรกของโลก เพื่อให้มั่นใจในการทำงานปกติในพื้นที่ที่มีความสูง

  • 7-inch Display: Clearly displays charging status and operation instructions for users. (EV Premium only)

– จอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว: แสดงสถานะการชาร์จและคำแนะนำในการใช้งานอย่างชัดเจน (เฉพาะรุ่น EV Premium เท่านั้น)

  • Compatible with All EVs：Flexible charging cable options are available for Tesla, European, American, Japanese, and Korean EVs and PHEVs.

– เข้ากันได้กับรถยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท: ตัวเลือกสายชาร์จที่ยืดหยุ่นมีให้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและ PHEV ทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์จาก ยุโรป, อเมริกา, ญี่ปุ่น และ เกาหลี

  • Exclusive Mobile App- “EV Life” allows users to monitor charging progress in real-time, set flexible charging time, adjust charging speed for the different usage environments, even away from the vehicle.

– แอพมือถือพิเศษ “EV Life” ให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบความคืบหน้าการชาร์จตามเวลาจริง ตั้งเวลาการชาร์จที่ยืดหยุ่น ปรับความเร็วในการชาร์จสำหรับสภาพการใช้งานที่แตกต่างกันได้ แม้อยู่ห่างจากรถ

  1. Flexible Charging Time Setting: Users can schedule charging times at will, taking advantage of off-peak electricity rates to effectively save costs, while also being environmentally conscious.
  2. Real-time Charging Progress Monitoring: Easily check charging status at home, eliminating the inconvenience of waiting in outdoor queues and providing a more convenient charging experience. (EV Premium only)
  3. Current Control: Adjustable charging speed and current flexibility for different usage environments.
  • RFID Card to start or stop charging just by tapping the card to provide a convenient user experience. (EV Premium only)
  1. การตั้งเวลาการชาร์จที่ยืดหยุ่น: ผู้ใช้สามารถกำหนดเวลาการชาร์จได้ตามต้องการ เพื่อใช้ประโยชน์จากอัตราค่าไฟฟ้านอกช่วงพีคเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
  2. การตรวจสอบความคืบหน้าการชาร์จแบบเรียลไทม์: ตรวจสอบสถานะการชาร์จได้ง่ายที่บ้าน ขจัดความไม่สะดวกในการรอคิวกลางแจ้งและให้ประสบการณ์การชาร์จที่สะดวกยิ่งขึ้น (เฉพาะรุ่น EV Premium เท่านั้น)
  3. การควบคุมกระแสไฟฟ้า: ปรับความเร็วและความยืดหยุ่นของกระแสไฟฟ้าสำหรับสภาพแวดล้อมการใช้งานที่แตกต่างกัน

– ใช้บัตร RFID เพื่อเริ่มหรือหยุดการชาร์จเพียงแตะบัตร เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่สะดวก (เฉพาะรุ่น EV Premium เท่านั้น)

Extensive Collaborations, Wide Applications in Different Fields

In Taiwan, MSI possesses substantial experience in the commercial deployment of charging stations, establishing broad partnerships across various sectors. Collaborative efforts span corporate entities, commercial spaces, automotive dealerships, government institutions, schools, leisure, and entertainment venues, as well as hotels and homestays, fully showcasing the versatile applications of MSI charging stations. In Australia, MSI is currently engaged in discussions with its partners, aiming to replicate the successful Taiwanese experience.

ความร่วมมืออย่างกว้างขวาง การประยุกต์ใช้งานที่หลากหลายในหลายสาขา

MSI มีประสบการณ์อย่างมากในการติดตั้งสถานีชาร์จเชิงพาณิชย์ในไต้หวัน และได้สร้างความร่วมมือที่กว้างขวางในหลากหลายภาคส่วน ความพยายามร่วมกันครอบคลุมถึงองค์กรธุรกิจ พื้นที่เชิงพาณิชย์ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ สถาบันรัฐบาล โรงเรียน สถานที่พักผ่อนและบันเทิง รวมถึงโรงแรมและโฮมสเตย์ โดยทั้งหมดนี้แสดงถึงการประยุกต์ใช้งานที่หลากหลายของสถานีชาร์จของ MSI และ กำลังอยู่ในระหว่างการหารือกับพันธมิตรที่ออสเตรเลีย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับในไต้หวัน

For example, in Linkou, Taiwan, MSI has collaborated with a renowned construction company to establish various charging stations. These stations provide convenient charging services for nearby commuters, restaurant and café patrons, as well as other customers, highlighting MSI’s commitment to facilitating accessible and practical charging solutions in the community.

ตัวอย่างเช่น ที่หลิงโข่ว ไต้หวัน MSI ได้ร่วมมือกับบริษัทก่อสร้างชื่อดังเพื่อจัดตั้งสถานีชาร์จต่าง ๆ สถานีเหล่านี้ให้บริการชาร์จที่สะดวกสำหรับผู้สัญจรใกล้เคียง ลูกค้าร้านอาหารและร้านกาแฟ รวมถึงลูกค้ารายอื่น ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ MSI ในการอำนวยความสะดวกในการชาร์จที่เข้าถึงง่ายและใช้งานได้จริงในชุมชน

MSI: The Innovative Engine for a Sustainable Future

MSI adheres to the philosophy of “Continuously challenging the limits,” and a fierce dedication to creating a sustainable future. In the face of global challenges such as extreme weather conditions and environmental pollution, MSI has embraced the mission of “Taking autonomous action to reduce carbon emissions.” Through the integration of AI technology, MSI actively engages in innovative fields to accelerate the development of new energy and energy storage products that align with a sustainable future, aiming to reduce dependence on fossil fuels.

MSI: เครื่องยนต์นวัตกรรมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

MSI ยึดมั่นในปรัชญา “ท้าทายขีดจำกัดอย่างต่อเนื่อง” และมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายระดับโลก เช่น สภาพอากาศสุดขั้วและมลพิษทางสิ่งแวดล้อม MSI ได้ยึดมั่นในภารกิจ “ดำเนินการโดยอิสระเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน” ผ่านการผสานรวมเทคโนโลยี AI MSI มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในสาขานวัตกรรมเพื่อเร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์พลังงานใหม่และการกักเก็บพลังงานที่สอดคล้องกับอนาคตที่ยั่งยืน โดยมุ่งลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล

MSI aspires to pioneer boundless possibilities, making life more convenient for people of all walks of life, but without detriment to the environment. To take the lead in the pursuit of a sustainable future.

Where to Buy:

https://th-store.msi.com/products/ev-life

https://th-store.msi.com/products/ev-premium

MSI มุ่งมั่นที่จะบุกเบิกความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด ทำให้ชีวิตของผู้คนทุกสาขาอาชีพสะดวกสบายยิ่งขึ้น แต่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อนำหน้าในเส้นทางสู่อนาคตที่ยั่งยืน

สถานที่ซื้อ: [https://evse.msi.com/au/where-to-buy](https://evse.msi.com/au/where-to-buy)

About MSI EVSE

Headquartered in Taiwan, with global service centers around the world, MSI Int‘l Co. Ltd is not only well-known for gaming technology but also a leading brand in the artificial intelligence, commerce, and Internet of Things markets, integrating cloud-compliant servers, industrial PC, AMR for Smart Living, and automotive electronics to provide comprehensive AIoT solutions. For more product information, please go to https://evse.msi.com

  • All rights of the technical, pictures, text and other content published in this press release are reserved. Contents are subject to changes without prior notice.
  • Media contact: Sarunratch Janetipawet, sarunratch@msi.com

 

เกี่ยวกับ MSI EVSE

MSI Int’l Co. Ltd ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในไต้หวันและศูนย์บริการทั่วโลก ไม่เพียงเป็นที่รู้จักในด้านเทคโนโลยีเกมเท่านั้น แต่ยังเป็นแบรนด์ชั้นนำในตลาดปัญญาประดิษฐ์ การค้า และ Internet of Things โดยผสานรวมเซิร์ฟเวอร์ที่สอดคล้องกับคลาวด์ พีซีอุตสาหกรรม AMR สำหรับการใช้ชีวิตอัจฉริยะ และอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ เพื่อให้บริการโซลูชั่น AIoT ที่ครอบคลุม สำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม กรุณาไปที่ [https://evse.msi.com](https://evse.msi.com)

  • สงวนลิขสิทธิ์ทางเทคนิคภาพข้อความและเนื้อหาอื่นๆที่เผยแพร่ในข่าวประชาสัมพันธ์นี้เนื้อหาอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  EV Life EV Premium
Input Rating 1-phase 200 – 240 VAC
Wire L, L2/N, GND
Charging Power 3.2 – 14.4 kW
Charging Current 1-phase 16 – 60 A
Cable Type Type 2 (IEC 62196) / NACS (optional)
Cable Length 5 m / 7.5 m(optional)
Dimension W 22.98 x H 35.48 x D 12.5 cm
Weight 6.5 kg 7 kg
Certification CNS 15511, UL2594, UL2231, UL991, UL1998, FCC Part 15B, ICES-003,
IEC 61851-1, IEC 61851-21-2 / EN301489
User Interface
User Authentication Mobile App Mobile App, QR code,
RFID (ISO/IEC 14443-A, MIFARE)
Display LED 7-inch IPS 400nits
Emergency Stop Mushroom push button
Communication
Connectivity Bluetooth LAN, WIFI, 4G LTE (optional)
Charging Protocol – OCPP1.6J
Protection
RCD Additional CNS / IEC certified RCD required
Cold-Load Pickup Randomized delay before charge resume after power failure
Upstream Breaker In accordance with local regulation
Electrical Protection Surge protection, ground fault, under voltage protect, over voltage protect, over current protect, control pilot protect – low, over temperature protect, relay welding detection
Environment
Operating Temp. -30 – 50 ℃
Cooling Natural cooling
IP/IK Rating IP55, IK08; IP67 (charging cable)
Salt Spray Test IEC60068-2-11, ASTM B117
Humidity < 95% relative humidity, non-condensing
Altitude Up to 3,000 m
Installation Wall mount / stand (optional)
Input Rating, Output Power and Charging Current measurements may have 5% error tolerance from actual values

รับมือน้ำท่วม ไทยใช้เทคโนโลยีดาวเทียม แจ้งเตือนพื้นที่ภัยพิบัติ

By
jirapornt
-

เกาะติดน้ำท่วม GISTDA เตรียมพร้อมรับมือ เปิดเว็บไซต์ให้คนไทยเช็คพื้นที่ภัยพิบัติจากภาพถ่ายดาวเทียม

ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมโดยใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียมไทยโชต ส่งข้อมูลภาพจากดาวเทียมดังกล่าวให้กับหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ

นอกจากนี้อว. ยังติดตามสถานการณ์น้ำ ช่วยประชาชนที่รับผลกระทบจากอุทกภัย  ระดมกองทัพโดรนสำรวจและลำเลียงสิ่งของไปมอบให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก

พร้อมแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำผ่านทุกช่องทางเพื่อรองรับสถานการณ์ใน 3 ระยะ

1. “การเฝ้าระวังน้ำท่วม” ติดตามสถานการณ์น้ำ เฝ้าระวัง แจ้งเตือน และวางแผนอพยพได้อย่างทันท่วงที จากคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ สถาบันสารสนเทศน้ำหรือ สสน. 

ข้อมูลติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำปัจจุบันแบบเรียลไทม์เช่น เส้นทางพายุ ภาพถ่ายดาวเทียม ข้อมูลฝนตกในพื้นที่ เปิดระบบเว็บไซด์และโมบายแอพพลิเคชั่นสำหรับติดตามสถานการณ์น้ำ เช่น เว็บไซด์คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ เว็บไซด์ศูนย์ข้อมูลน้ำจังหวัด เป็นข้อมูลแยกรายจังหวัด และแอพพลิเคชั่น ThaiWater สำหรับประชาชนทั่วไปใช้งานได้ง่าย 

2. “การให้ความช่วยเหลือระหว่างเกิดภัยน้ำท่วม” มีเรือไวไฟ (WiFi) ที่จะเข้าไปให้บริการสัญญาณอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ เครื่องกรองน้ำไส้กรองนาโนแบบเคลื่อนที่ และถุงยังชีพ จัดส่งโดรนขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการขนส่งของไปยังพื้นที่จังหวัดสุโขทัยจำนวน 3 ลำ

3. “ฟื้นฟูหลังน้ำลด” จัดตั้งหน่วยบริการเคลื่อนที่ซ่อมและบริการเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องมือเกษตร ขณะที่ ยังนำนักศึกษาจิตอาสาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ เข้าไปช่วยเหลือประชาชน เช่น การให้บริการซ่อมแซมบ้านเรือน

ติดตามสถานการณ์น้ำ เฝ้าดูและตรวจสอบพื้นที่อื่น ๆ พร้อมรายงานสรุปพื้นที่น้ำท่วมได้ที่  >> disaster.gistda 

#GISTDA #น้ำท่วม #TechhubUpdate

ต่อชีวิต เฮลิคอปเตอร์พลังไฮโดรเจน ส่งอวัยวะเทียมช่วยเหลือคน 

By
jirapornt
-

ภารกิจส่งอวัยวะช่วยเหลือคนต้องต่อสู้กับเวลาที่มีข้อจำกัด 

เราอาจจะเคยเห็นในประเทศไทยเคยมี การส่งต่ออวัยวะไปช่วยคนที่กำลังต้องการให้ทันเวลาด้วยการเปิดเส้นทาง มีรถนำทางหรือประชาสัมพันธ์ให้คนบนท้องถนนได้ทราบก่อน

วันนี้เราจะมาพูดถึงอีกหนึ่งยานพาหนะที่อาจจะเป็นทางเลือกใหม่ในอนาคต

“เฮลิคอปเตอร์ไฮโดรเจน” พลังงานจากเชื้อเพลิงสีเขียวที่ใช้ในการขนส่งอวัยวะ เป็นโปรเจคของบริษัท Unither Bioletronics และ Robinson Helicopter Company Unither

ผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งปอดเทียมที่ผลิตในห้องแล็บเพื่อนำไปรักษาคนโดยเฉพาะ

โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ซึ่งจะใช้เฮลิคอปเตอร์รุ่น R44 และ R66 ที่ผ่านการรับรองการบินเป็นที่เรียบร้อย

ถูกพัฒนาระบบขึ้นและลงในแนวดิ่งแบบไฟฟ้า (EVTOL) ที่สามารถบินได้โดยนักบินหรือควบคุมอัตโนมัติ และเคลื่อนที่ไปยังจุดหมายตามเวลาที่กำหนด

เพื่อปลูกถ่ายอวัยวะได้ทันเวลา เพราะปัจจุบันมีคนรอการรักษามากกว่า 1 แสนคนในสหรัฐและรักษาได้จำกัดต่อวัน การที่มีเฮลิคอปเตอร์ลำนี้เข้ามาก็จะช่วยแพทย์ได้มาก

 

ที่มา : newatlas  

#ไฮโดรเจน  #อวัยวะเทียม #TechhubUpdate

1...353637...1,875Page 36 of 1,875

Hot Issue

© Copyright © 2017 by ARIP Public Company Limited ARIP สงวนสิทธิ์ห้ามทำซ้ำ ทั้งหมด หรือบางส่วนไม่ว่าในรูปแบบหรือสิ่งใดโดยไม่ได้รับการอนุญาตจาก ARIP เป็นลายลักษณ์อักษร ARIP และโลโก้ ARIP เป็นเครื่องหมายการค้าของ ARIP Public Company Limited