Home Blog Page 25

ไม่ถามสักคำ ผู้ใช้โวย Kaspersky บังคับใช้ซอฟต์แวร์ใหม่

[อลม่าน] ย้อนไปก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้สั่งแบน Kaspersky โดยห้ามจำหน่ายในประเทศ สืบเนื่องจากความมั่นคง เพราะเป็นบริษัทจากรัสเซีย ส่วนลูกค้าก็ถูกโอนไปยัง Pango บริษัทผู้ให้บริการด้านโซลูชั่นความปลอดภัยไซเบอร์ของสหรัฐฯ แทน จนล่าสุดผู้ใช้ Kaspersky ในสหรัฐฯ พบซอฟต์แวร์ใหม่ปรากฏในเครื่องอย่าง “UltraAV” แบบไม่ทันตั้งตัว

“ตื่นขึ้นมาพบ Kasperky หายไปจากระบบโดยสิ้นเชิง พร้อมกับ UltraAV และ Ultra VPN ที่เพิ่งถูกติดตั้งใหม่” จากผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งที่ได้ออกมาเผย จนมีผู้ใช้รายอื่น ๆ ได้ออกมายืนยันว่าเจอเหมือนกัน รวมถึงมีกระทู้อื่น ๆ ที่รายงานเหมือนกันด้วย

อดีตตัวแทนจำหน่ายของ Kasperky เผยรู้สึก ‘หงุดหงิด’ กับการลบซอฟต์แวร์ Kaspersky โดยอัตโนมัติ และแทนที่ด้วยซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสตัวอื่นโดยสิ้นเชิง ทางด้านอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหรัฐฯ กล่าวว่าการกระทำนี้ กลับเป็นความเสี่ยงครั้งใหญ่ซะมากกว่า

อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้บางรายเผยได้รับอีเมลจาก Kaspersky เกี่ยวกับการเปลี่ยนไปใช้ UltraAV แล้ว ซึ่งการเปลี่ยนไปใช้ซอฟต์แวร์ดังกล่าว เกิดขึ้นตอนที่รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจห้ามจำหน่ายซอฟต์แวร์ Kaspersky ทั่วประเทศ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาแล้ว

และในช่วงต้นเดือนกันยายน มีรายงานว่า Kaspersky ได้บรรลุข้อตกลงในการโอนลูกค้าไปยัง Pango ซึ่งเป็นเจ้าของ UltraAV นั้นเอง แน่นอนว่าเป็นซอฟต์แวร์ที่ไม่คุ้นหู เนื่องจากเพิ่งมาใหม่ จนสร้างความกังวลให้กับอดีตผู้ใช้ Kaspersky พอควร

Vadim M. ทีมงานของ Kaspersky เผยผ่าน Forum ในเว็บไซต์ Official เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมาว่า บริษัทได้ร่วมมือกับ UltraAV เพื่อทำให้การเปลี่ยนผ่านไปสู่ผลิตภัณฑ์ของตนเป็นไปอย่างรารื่นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

แต่แม้จะมีข้อตกลงกันแล้ว ทางผู้ใช้ Kaspersky ก็รู้สึกไม่พอใจที่ถูกบังคับติดตั้งซอฟต์แวร์ลงในเครื่อง PC โดยไม่ได้รับอนุญาต บางรายจัดการลบ UltraAV และ UltraVPN ออกทันที

ที่มา : Techcrunch

โปรเจคใหม่ สร้างแพเก็บขยะ กำจัดพลาสติกในทะเล

องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมที่ไม่แสวงหากำไร Ocean Cleanup เตรียมเปิดโปรเจคครั้งใหม่ เป้าหมายกำจัดขยะในมหาสมุทรแปซิฟิกให้หมดไปภายในปี 2034

แผนกำจัดพลาสติกให้หมดไปในมหาสมุทรแปซิฟิกต้องใช้เงินสูงถึงประมาณ 7.5 พันล้านดอลลาร์ โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิได้กำจัดขยะจากบริเวณตอนกลางของมหาสมุทรแปซิฟิกไปแล้วกว่า 450 เมตริกตัน

แพเก็บขยะพลาสติกขนาดใหญ่ สามารถเก็บขยะที่ลอยอยู่ในมหาสมุทรประมาณ 79,000 เมตริกตัน ซึ่งมีขนาดประมาณสองเท่าของรัฐเท็กซัส

โดยใช้เทคโนโลยีล่าสุดที่เรียกว่า System 03 ประกอบด้วยแผงกั้นลอยน้ำยาวประมาณ 1.4 ไมล์ ซึ่งลากระหว่างเรือสองลำจะใช้ความเร็ว 2.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แผงกั้นมีลักษณะเป็นแพขนาดใหญ่จะสามารถเก็บขยะได้สะดวกและรวดเร็ว

หลังจากนั้นขยะทั้งหมดจะถูกนำไปคัดแยกและนำไปรีไซเคิลต่อไป เพื่อกลับมาทำให้มีประโยชน์อีกครั้ง

Ocean Cleanup เคยเอาเรือพลังงานแสงอาทิตย์ มาโชว์ในประเทศไทยแล้วด้วย แถมยังช่วยดักจับขยะแม่น้ำเจ้าพระยา

อ่านเพิ่มเติม >> techhub

ที่มา : warpnews

#OceanCleanup #TechhubUpdate

 

ช่วยถ่ายทำ หนังภาคต่อ 28 YEARS Later ถ่ายด้วย iPhone 15 Pro Max

[เป็นส่วนหนึ่ง] ที่ผ่านมา Apple เคยนำเสนอการใช้ iPhone ถ่ายหนังสั้นมาหลายเรื่องแล้ว อย่างไรก็ตาม ตัว iPhone จำต้องมีอุปกรณ์เสริมมากมายเช้ามาช่วยด้วย ล่าสุดพบหนังภาคต่อของ 28 YEARS Later ใช้ iPhone 15 Pro Max ในการถ่ายทำบางฉากด้วย

รายงานจาก Wired เผย Danny Boyle ผู้กำกับหนังซอมบี้ภาคต่อชื่อดังอย่าง 28 YEARS Later เตรียม iPhone 15 Pro Max จำนวนหลายเครื่องมาใช้ถ่ายทำหนังในบางฉาก ซึ่งแต่ละเครื่อง จะได้รับการดัดแปลงให้ใช้ร่วมกับเลนส์กล้อง DSLR ฟูลเฟรมได้ พร้อมกับชุดอุปกรณ์เสริมอย่างดี

อย่างไรก็ตาม iPhone 15 Pro Max จะถูกใช้เสริมกับกล้องดิจิตอลระดับโปรซูเมอร์ราคา 4,000 ดอลลาร์ฯ หรือราว ๆ 132,000 บาท ที่เป็นกล้องหลักจริง ๆ ทั้งนี้ตัวหนังใช้ต้นทุนโดยรวม 75 ล้านดอลลาร์ฯ หรือราว ๆ 2.5 พันล้านบาท นับเป็นการถ่ายหนังด้วย iPhone ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ที่ผ่านมาเคยมีหลายเรื่องทั้ง Tangerine ของ Sean Baker และ Unsane ของ Steven Soderbergh ใช้ iPhone ช่วยถ่ายมาแล้ว ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุนการถ่ายหนังได้เป็นอย่างดี ท้ายนี้ตัวหนัง 28 Years Later ภาคที่สาม มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เดือนมิถุนายน 2025 ปีหน้า

ที่มา : Engadget

โดน Kill Switch รถ Cybertruck ติดปืนกล ถูกสั่งปิดระบบจากระยะไกล

[ไม่ใช่ของขวัญ] สถานการณ์รัสเซียในสมรภูมิยูเครนยังดำเนินต่อไป ไม่มีทีท่าว่าจะสงบง่าย ๆ ล่าสุดทางผู้นำกองทัพเชเชน ได้โพสต์คลิป Cybertruck รถกระบะสุดทนทานจาก Tesla ถูกนำมาติดปืนกลเพื่อสู้รบ แต่ต่อมาเผยถูก Elon Musk สั่งปิดระบบจากระยะไกล

รายงายจาก CNN เผย Ramzan Kadyrov ผู้นำทัพเชเชนได้ใช้ Cybertruck ติดปืนกลบนหลังคาจำนวน 2 คัน พร้อมถ่ายคลิปขณะนำไปใช้สู้รบในยูเครนด้วย พร้อมเผยชมว่าใช้งานได้อย่างคล่องตัว ลุยเขตสู้รบบริเวณป่าของยูเครนได้ดีทีเดียว

ทว่าต่อมาทางผู้นำทัพเชเชนได้ออกมาฟ้องว่า ตัวรถถูกกดปุ่ม Kill Switch ปิดระบบจากระยะไกล คาดเป็นฝืมือของ Elon Musk พร้อมตำหนิการกระทำดังกล่าวอย่างรุนแรง เผยมันดูไม่แมนเลย

ทั้งนี้ทาง Ramzan Kadyrov กล่าวว่าได้รับตัวรถ Cybertruck มาเป็นของขวัญด้วย ซึ่งสวนทางกับ Elon Musk ที่ต่อมาได้กล่าวใน X/Twitter ทันทีว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่แรก และมองว่า “มันปัญญาอ่อนมาก” ที่คิดว่าตนเองจะส่งมอบตัวรถให้กับนายพลรัสเซีย

มีการวิเคราะห์ว่า Ramzan Kadyrov ต้องการ “ยั่วยุ” จึงเผยว่าตนเองได้รับ Cybertruck เป็นของขวัญ เพื่อให้ Elon Musk ที่สนับสนุนยูเครนอยู่นั้นเกิดความไม่พอใจ สืบเนื่องจากมีการส่งดาวเทียม Starlink ของ SpaceX ไปช่วยเหลือยูเครนนั่นเอง

ท้ายนี้ Elon Musk ยังไม่ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของ Ramzan Kadyrov แต่เชื่อว่าคงเกิดความไม่สบายใจแน่ ที่สินค้าของตนเองถูกนำไปใช้สู้รบ เหมือนตอนที่เคยปฏิเสธคำร้องของกองทัพยูเครนในปีที่แล้ว ว่าจะนำ Starlink ไปช่วยเหลือการรบกับรัสเซีย

ที่มา : Techspot

Agora ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการสื่อสารเรียลไทม์ ครองตลาดใหญ่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ไลฟ์สตรีมมิ่ง แบบ Interactive โดย Agora.io

Agora บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านเทคโนโลยี API เพื่อการสื่อสารแบบเรียลไทม์ ก้าวเข้าสู่การเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกด้วยการถือครองส่วนแบ่งตลาดที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบัน Agora ได้ให้บริการรองรับการสื่อสารแบบเรียลไทม์ผ่านเสียงและวิดีโอกว่า 6 หมื่นล้านนาทีต่อเดือน Agora ถือเป็นส่วนหนึ่งของผู้ขับเคลื่อนการปฏิวัติทางดิจิทัลในหลายอุตสาหกรรม ส่งผลให้รายได้ของ Agora เติบโต 4.6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาหรือเป็นจำนวนเงินกว่า 15.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ Agora ในฐานะผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันการมีส่วนร่วมแบบเรียลไทม์

ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลล่าสุดในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเผยว่า Agora ได้ให้บริการลูกค้าไปแล้ว 1,700 ราย ในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อนหน้า สืบเนื่องจากเทรนด์ปัจจุบันซึ่งคาดการณ์ว่า ภายในปี พ.ศ. 2573 ตลาดวิดีโอสตรีมมิ่งใน APAC จะเติบโตสูงถึง 112.89 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากการผู้ใช้สตรีมมิ่งผ่านโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งผู้ใช้งาน 86% พึ่งพาสมาร์ทโฟนในการเข้าถึงคอนเท้นท์ต่าง ๆ และเพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นนี้ Agora มีความตั้งใจในการส่งมอบแพลตฟอร์มที่ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดส่งข้อมูลเนื้อหาที่มีการโต้ตอบได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น รวมถึงทำให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปในภูมิภาค APAC ได้อย่างต่อเนื่อง

ตลอดระยะเวลา 10 ปีในการดำเนินงาน Agora ได้แสดงให้เห็นถึงความโดดเด่น โดยมีอัตราการเข้าถึงแพลตฟอร์มต่าง ๆ อาทิ การเข้าถึง 60% ในแอปพลิเคชันชั้นนำ รูปแบบวิดีโอ 1 ต่อ 1 การเข้าถึง 45% ของแอปหาคู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมไปถึง 65% ของห้องแชทด้วยเสียงที่เป็นที่รู้จักดีใน APAC นอกจากนี้ Agora ยังร่วมขับเคลื่อน 40% ของแอปสตรีมมิ่งสดอันดับต้น ๆ ยิ่งตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการให้บริการสนทนาแบบเรียลไทม์จากบุคคลภายนอก (Third-Party RTC provider) นอกจากนี้  Agora ยังร่วมมือกับบริษัทใหญ่ ๆ ในภูมิภาค เช่น Fastwork.co (ประเทศไทย) ซึ่งได้เห็นผลลัพธ์ Conversion จากการแชทเป็นการชำระเงินเพิ่มขึ้น 2 เท่า และ Everywhere.id (อินโดนีเซีย) ซึ่งมีการโต้ตอบเพิ่มสูงขึ้น 71% และสูงสุดถึง 13 ล้านนาทีต่อเดือน แสดงให้เห็นถึงบทบาทความสำคัญของ Agora ในการมีส่วนร่วมเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของการสื่อสารเรียลไทม์

“Agora เป็นผู้นำในการขับเคลื่อนนวัตกรรมในหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงสังคม, การศึกษา, การแพทย์ทางไกล, การไลฟ์สดขายสินค้า, สื่อและความบันเทิง, เกม, การหางานในอนาคต, และ AI เชิงสนทนา โดยโซลูชันการมีส่วนร่วมแบบเรียลไทม์ที่ล้ำสมัยจาก Agora ช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถสร้างประสบการณ์เชิงโต้ตอบที่ไร้รอยต่อ ซึ่งสามารถปรับแต่งให้ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ชมทั่วโลกได้ ขณะเดียวกันเรายังมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ธุรกิจท้องถิ่นได้ค้นพบจุดแข็งของตนและประสบความสำเร็จในระดับโลก” Effie Fang, Director of Agora’s APAC Sales Team กล่าว

Agora มีความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของ AI ด้วยโซลูชันหลายรูปแบบที่ทันสมัยของ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถส่งมอบการสร้างประสบการณ์ AI ที่ราบรื่นทั้งในด้านเสียง วิดีโอ และแชทได้อย่างทันท่วงที โดยรับประกันความรวดเร็วในการทำงานและประสิทธิภาพระดับสูงไม่ว่าจะอยู่ในเงื่อนไขของเครือข่ายใด

ให้ใช้ฟรี ส่วนขยายตัวท็อป เอาใจสายดูคลิป

ใช้ YouTube ให้ดูโปรไปอีกขั้น ด้วยแทบเมนูที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกได้มากขึ้น!

Techhub แนะนำส่วนขยาย YouTube Extension ที่คนใช้ยูทูปต้องมีติดเครื่องไว้ เพราะมันครบ จบ ในตัวเดียวแถบอเนกประสงค์นี้จะช่วยให้เรา Control และใช้งานยูทูปได้ดีมากยิ่งขึ้น แถมช่วยให้เราประหยัดเวลาในการดาวน์โหลดวิดีโอ, Shorts, Screenshot, Repeat รวมถึง Thumbnail Images และฟังก์ชั่นอื่นๆ ในการเล่นวิดีโออีกมากมาย ไปดูวิธีการติดตั้งและใช้งานกันครับ

1. ดาวน์โหลดติดตั้งตัว Extension เสริม ที่นี่ 

2. เมื่อกดติดตั้งเสร็จทุกขั้นตอนแล้ว YouTube จะมีแทบเมนูขึ้นมาข้างล่างให้เราใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายเลย ไม่ว่าจะดาวน์โหลดวิดีโอได้ไฟล์คุณภาพสูง, ดาวน์โหลดภาพปก Thumbnail, แคปหน้าจอ Screenshot หรือปรับแต่งธีม เล่นวิดีโอซ้ำ สร้างปุ่มค้นหา ปรับแต่งการเล่นวิดีโอ ทำจอเล็กจอใหญ่ และโหมดต่างๆ 

3. เมื่อเราดูวิดีโอ Shorts ก็จะมีแทบปุ่มให้เรากด Download คลิปที่ชอบเก็บเอาไว้ดูตอนไม่มีเน็ตได้ด้วย บอกเลยตัวนี้เป็น Extension เสริมที่คนใช้ YouTube ต้องมีติดไว้เลยจบครบวงจรในตัวเดียว ไปลองใช้กันดูได้ครับ

ลดขนาดภาพอย่างง่าย ได้ไฟล์คมชัด แบบไม่ง้อโปรแกรม

อยากลดขนาดไฟล์ภาพให้ส่งผ่านออนไลน์แบบได้ไฟล์คมชัด หรือเซฟเก็บไว้ได้แบบไม่ต้องกลัวเปลืองพื้นที่

Techhub แนะนำเทคนิคลดขนาดภาพอย่างง่าย ใช้งานบน Windows 10 และ Windows 11 ได้แบบไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่ม วิธีนี้จะช่วยปรับแต่งขนาด คุณภาพ และชนิดของไฟล์ได้ในไม่กี่ขั้นตอน มีวิธีทำยังไงไปดูกัน

1. เปิดรูปภาพด้วยโปรแกรม Photo (โปรแกรมดูรูปภาพและแก้ไขภาพที่ติดตั้งมาพร้อมกับ Windows)

คลิกที่เลือกเมนู Resize image

2. เลือกกำหนดขนาด Width x Height ใหม่ได้อย่างอิสระ รวมถึงปรับ Quality คุณภาพของไฟล์ให้ดีกว่าเดิมได้ด้วย

วิธีนี้สามารถกำหนดไฟล์ File type เป็นทั้ง JPG, PNG, TIF, BMP ได้ตามที่ต้องการอีกด้วย เมื่อกำหนดค่าที่ต้องการได้แล้วก็กด Save และนำภาพไปใช้ต่อได้เลยทันที ไปลองใช้กันดูครับ

“ฮิตาชิร่วมส่งใจ กู้ภัยน้ำท่วม” บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าฟรีแก่ผู้ประสบอุทกภัย

บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าฮิตาชิที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยฟรี พร้อมส่วนลดอะไหล่ 50% ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อาร์เซลิก ฮิตาชิ โฮม แอพพลายแอนซ์ ผู้จัดจำหน่าย และผู้ให้บริการหลังการขายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ฮิตาชิ (ภายนอกประเทศญี่ปุ่น) ส่งแคมเปญ “ฮิตาชิร่วมส่งใจ กู้ภัยน้ำท่วม” เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้รับความเสียหาย โดยฮิตาชิมอบบริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าฮิตาชิที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยฟรี พร้อมส่วนลดค่าอะไหล่ 50% ทั้งสินค้าที่ยังคงอยู่ในประกัน และนอกประกันเพื่อส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้ลูกค้าทุกท่านได้กลับมาดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติได้เร็วที่สุด

นายสิทธิพงษ์ จามีกรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เซลิก ฮิตาชิ โฮม แอพพลายแอนซ์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า อาร์เซลิก ฮิตาชิ ตระหนักถึงผลกระทบต่อทรัพย์สินและความเดือดร้อนในการดำเนินชีวิตประจำวันที่ผู้ประสบเหตุอุทกภัยต้องเผชิญจากเหตุน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ฮิตาชิจึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาทุกข์และช่วยเหลือประชาชนทุกท่านอย่างเต็มกำลังผ่านแคมเปญ “ฮิตาชิร่วมส่งใจ กู้ภัยน้ำท่วม” พร้อมทั้งขอร่วมส่งกำลังใจให้ทุกท่านผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปได้อย่างเร็วที่สุด

สำหรับแคมเปญ “ฮิตาชิร่วมส่งใจ กู้ภัยน้ำท่วม” เป็นการส่งมอบบริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าฮิตาชิที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น โดยมอบส่วนลดค่าอะไหล่ 50% พร้อมทั้งฟรีทั้งค่าบริการ และค่าเดินทาง สำหรับสินค้าที่เกิดความเสียหายจากภัยน้ำท่วมในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม สามารถติดต่อขอใช้บริการได้ ณ ศูนย์บริการในพื้นที่ของท่านในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย หนองคาย และนครพนม ในวันและเวลาทำการ วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.30 น. – 17.00 น. (วันหยุดทำการ: วันเสาร์-วันอาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดพิเศษอื่นๆ ของบริษัท) ระยะเวลาตั้งแต่ 1 กันยายน 2567 – 31 ตุลาคม 2567 สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Head Office Service Center โทร Call Center เบอร์ 02-335-5455

แคนนอน ขยายบริการให้เช่ากล้อง เลนส์  และอุปกรณ์เสริมแบบครบเซ็ต ‘Camera & Lens Rental Service’ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพิ่มรุ่นใหม่ กับอัตราค่าเช่าเบาๆ เริ่มต้นที่ 100 บาท/วัน

แคนนอน  ขยายบริการให้เช่ากล้อง เลนส์  และอุปกรณ์เสริมแบบครบเซ็ต ‘Camera & Lens Rental Service ปี 2’  หลังได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีในปีที่ผ่านมา  โดยเพิ่มรุ่นกล้อง เลนส์  และอุปกรณ์เสริมกว่า 74 รายการ กับอัตราค่าเช่าเริ่มต้นเพียง 100บาท/วัน  พร้อมเพิ่มช่องทางในการค้นหารุ่นที่ต้องการเช่าได้จากเว็บไซต์แคนนอน ตอบโจทย์ช่างภาพมือทุกระดับ และครีเอเตอร์รุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพสูงระดับมืออาชีพ ด้วยกล้อง เลนส์ และอุปกรณ์เสริมแบบฟูลเซ็ต แต่ไม่พร้อมลงทุนในระยะยาว หรือต้องการทดลองใช้งานในระยะสั้นก่อนตัดสินใจลงทุน

โดยปีนี้ แคนนอน ได้เพิ่มผลิตภัณฑ์กล้องรุ่นยอดนิยม รองรับงานถ่ายมืออาชีพทุกรูปแบบ รวมแล้วกว่า 74 รุ่น ซึ่งรวมถึงกล้อง EOS R ใหม่ล่าสุด เลนส์ RF และ EF กว่าอีก 36 รุ่น และอุปกรณ์เสริมอีกมากมาย อัตราค่าเช่าเริ่มต้นที่ 100 บาท และลูกค้าเก่าที่เคยใช้บริการแล้ว จะยังได้ส่วนลดพิเศษค่ามัดจำอีกด้วย ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเลือกเช่าตามสเกลของงานแต่ละครั้ง ดังนี้

  • ค่าเช่ากล้องแคนนอนรายวัน เริ่มต้นที่วันละ 300 – 2,600 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นของกล้อง)
  • ค่าเช่าเลนส์แคนนอนรายวัน เริ่มต้นที่วันละ 100 – 4,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นของเลนส์)
  • ค่าเช่าอุปกรณ์เสริมแคนนอนรายวัน เริ่มต้นที่วันละ 200 – 300 บาท (ขึ้นอยู่กับชนิดของอุปกรณ์เสริม)

ผู้ที่สนใจใช้บริการ Camera & Lens Rental Service ของแคนนอน สามารถตรวจสอบรายการกล้อง เลนส์และอุปกรณ์เสริมทั้งหมด และราคาเช่าของแต่ละรุ่น  ตลอดจนเงื่อนไขในการเช่าได้ตั้งแต่วันนี้ โดยโทรสอบถาม Canon Call Center โทร. 02- 344-9999 หรือที่ Line Official @CanonThailand หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ลิงก์:

https://th.canon/en/consumer/web/camera-rental-service

หัวเว่ย ประเทศไทย น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายอุปกรณ์เทคโนโลยีห้องเรียนอัจฉริยะ พร้อมนำโครงการดิจิทัลบัสสู่สุรินทร์ มุ่งลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาในพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร

บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าผสานความร่วมมือกับโครงการส่วนพระองค์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ดำเนินงานโครงการความร่วมมือด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อพัฒนาศักยภาพและเพิ่มโอกาสทางการศึกษา รวมถึงการพัฒนาสุขภาพอนามัยที่ดีให้แก่เด็กและเยาวชน พร้อมทั้งสานต่อกิจกรรมโครงการ ”รถดิจิทัลบัสเพื่อสังคม” ในวโรกาสสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามงาน ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บ้านชำปะโต อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งมอบองค์ความรู้และพัฒนาทักษะทางดิจิทัลแก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล

ทั้งนี้นายเอดิสัน สวี่ กรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด และคณะ ได้ร่วมกราบบังคมทูลรายงานความก้าวหน้าโครงการดังกล่าว พร้อมทั้งจัดให้มีการสาธิตการเรียนการสอนระบบห้องเรียนอัจฉริยะ (Smart Classroom) ผ่านระบบวีดีโอประชุมออนไลน์ (Huawei Cloud Meeting) ร่วมกับโรงเรียนพี่ โรงเรียนน้อง พร้อมเชิญทอดพระเนตรการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศและการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนบนรถดิจิทัลบัส

โอกาสนี้ บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบห้องเรียนอัจฉริยะ (Smart Classroom) ประกอบด้วย แท็บเล็ตหัวเว่ยจำนวน 40 ชิ้น อุปกรณ์เราเตอร์หัวเว่ย 2 ชิ้น อุปกรณ์หน้าจออัจฉริยะ (IdeaHub) 1ชุด พร้อมระบบประชุมทางไกล (Huawei Cloud Meeting) แด่โครงการส่วนพระองค์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อสนับสนุนโครงการตามพระราชดำริ ด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนในพื้นที่ถิ่นทุรกันดารให้เข้าถึงโอกาสด้านการศึกษาอย่างเท่าเทียม

โดยในปีนี้ หัวเว่ยได้น้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในหลักสูตรบนดิจิทัลบัสให้เข้ากับโรงเรียนในพื้นที่มากยิ่งขึ้น เช่น การเรียนรู้เทคโนโลยีอย่างเท่าเทียม ส่งเสริมการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างมีความรับผิดชอบ 5G, IoT, Cloud, AI และวิธีป้องกันภัยต่อตนเองและคนรอบข้าง ให้ความรู้ประเภทของอาชญากรรมไซเบอร์ สร้างความตระหนักรู้ในการท่องโลกโซเชียล รวมทั้งสร้างความตระหนักรู้ต่อพลังงานสะอาด เทคโนโลยีหมุนเวียนและพลังงานสีเขียว ส่งเสริมการพัฒนาสู่ชุมชนอีกด้วย

“ที่หัวเว่ย เราเชื่อว่าการเข้าถึงเทคโนโลยีเป็นกุญแจสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำ และเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล โครงการรถดิจิทัลบัสเพื่อสังคมเป็นอีกหนึ่งในความมุ่งมั่นของเราที่จะสร้างสังคมดิจิทัลที่ยั่งยืน โดยการนำความรู้และนวัตกรรมไปสู่ทุกชุมชนในประเทศไทย เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการศึกษาและพัฒนาทักษะดิจิทัลให้กับเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นอนาคตของประเทศ” นายเอดิสัน สวี่ กล่าว

ภายหลังจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตรการสาธิตการเรียนการสอนห้องเรียนอัจฉริยะ (Smart Classroom) เสร็จสิ้น ทรงพระราชทานพระราชวโรกาส ทรงพระอักษรพู่กันจีน ลงนามเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ในการสนองงานด้านการศึกษาและการช่วยเหลือสังคม ร่วมกันใช้นวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีเป็นสื่อในการสืบทอดหลักคุณธรรมผ่านปัญญาแห่งดิจิทัล เพื่อความเท่าเทียมในสังคมและนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้น้อมนำพระราชดำริของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มาดำเนินงานโครงการส่งเสริมการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อโลกสีเขียวที่ยั่งยืน สอดคล้องกับพันธกิจของหัวเว่ยในการดำเนินธุรกิจและส่งเสริมสังคมไทยตลอด 25 ปี

ทั้งนี้ในการดำเนินงานที่ผ่านมา หัวเว่ยได้ร่วมกับโครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี IdeaHub จำนวน 24 เครื่อง พร้อมระบบ Huawei Cloud Meeting สำหรับจัดการเรียนการสอนทางไกล (แบบสื่อสาร 2 ทาง) และสำหรับการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) พร้อมทั้งสนับสนุนระบบกักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ ตามโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และสุขศาลาโรงพยาบาลท้องถิ่น ทั่วประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารอย่างต่อเนื่อง

นอกจากโครงการดังกล่าว หัวเว่ย ประเทศไทย ยังได้ดำเนินการฝึกอบรมเพื่อให้ประชาชนทั่วไปและเยาวชนได้มีความรู้ความเข้าใจทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการ Huawei ASEAN Academy, โครงการ ICT Academy และโครงการ Seeds for Future

Hot Issue