Home Blog Page 24

ญี่ปุ่นโชว์เหนือ สร้างหุ่นยนต์ดูแลรางรถไฟ สั่งงานผ่านแว่น VR

อัปเกรดเพิ่มขึ้น ญี่ปุ่นโชว์เหนือสร้างหุ่นยนต์ยักษ์คล้ายการ์ตูนชื่อดังอย่าง “กันดั้ม” เพื่อดูแลเส้นทางรถไฟโดยเฉพาะ

JINKI type Zero Ver 2.0 หุ่นยนต์สูง 12 เมตรนี้มีดวงตาเหมือนขวดโค้ก หน้าตาเหมือนวอลล์อี รวมถึงแขนขนาดใหญ่ที่สามารถติดตั้งใบมีดหรือแปรงทาสีได้ ที่จะเป็นพนักงานใหม่ของเส้นทางรถไฟ West Japan Railway ติดตั้งไว้บนรถบรรทุกซึ่งสามารถขับเคลื่อนบนรางได้ เพื่อง่ายต่อการบำรุงรักษา

ผู้ควบคุมจะนั่งอยู่ในรถบรรทุกโดยจะมองการทำงานของหุ่นยนต์ผ่านแว่น VR ที่มีความชัดสูง มือเปลี่ยนอุปกรณ์ได้เพื่อให้หุ่นยนต์ตัดกิ่งไม้ ทาสีโครงโลหะ หรือเก็บสายเคเบิลให้เป็นระเบียบ

West Japan Railway บอกว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในญี่ปุ่นผู้คนกำลังเริ่มเข้าสู่วัยชรา ตลอดจนลดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้

ที่มา theguardian

#แว่นVR #หุ่นยนต์ยักษ์ #TechhubUpdate

 

งานวิจัยใหม่ ฆ่า มะเร็งกระดูก ด้วยเหล็กพิษ เพิ่มโอกาสรอดได้มากกว่า

ดีกว่าเดิมเยอะมากนะ

ปัจจุบัน มะเร็งกระดูกชนิดที่พบมากที่สุดคือ โอสทีโอซาร์โคมา (osteosarcoma) โดยทั่วไปรักษาด้วยการผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งออก ตามด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีรักษาเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็งที่เหลือ แต่ก็มีบางเคส ที่ทำให้มะเร็งกลับมาเป็นซ้ำที่เดิม ทำให้มีโอกาสรอดชีวิตต่ำ

ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบวิธีรักษามะเร็งกระดูกแบบใหม่ที่น่าสนใจ โดยใช้แก้วชีวภาพผสมโลหะพิษที่ชื่อว่าแกลเลียม โดยสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้ถึง 99% โดยไม่ทำร้ายเซลล์ปกติ และอาจช่วยให้กระดูกงอกใหม่ได้ด้วย

ปกติแล้ว การใส่แกลเลียมลงไปในกระดูก มันดูไม่น่าอภิรมย์เท่าไหร่ เพราะมันเป็นพิษต่อเซลล์ในร่างกาย แต่วิธีการของนักวิจัยคือ แกลเลียมจะเข้าสู่เซลล์ผ่านตัวรับชนิดหนึ่ง ทำให้เซลล์มะเร็งที่ “ตะกละ”จะดูดซับแกลเลียมเข้าไปก่อนที่เซลล์กระดูกปกติจะได้รับ

ในการทดลองในห้องปฏิบัติการ ทีมวิจัยได้เพาะเลี้ยงเซลล์กระดูกปกติควบคู่กับเซลล์มะเร็งกระดูก แล้วใช้แก้วชีวภาพผสมแกลเลียมใส่เข้าไปทดสอบ ผลปรากฏว่า ที่ความเข้มข้นของแกลเลียมออกไซด์ 5% แก้วชีวภาพนี้สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งกระดูกได้ถึง 99% ภายใน 10 วัน โดยไม่ทำร้ายเซลล์กระดูกปกติ

พร้อมกันนี้ แก้วชีวภาพ ยังสามารถสร้างกระดูกขึ้นมาใหม่ได้ เมื่อนำไปบ่มในของเหลวเลียนแบบของเหลวในร่างกาย ซึ่งจะเริ่มมีการสร้างกระดูกใหม่หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์

งานวิจัยนี้ตีพิมพ์ในวารสาร Biomedical Materials ชี้ให้เห็นว่า มันสามารถทำได้จริงแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องรอทดสอบกับคนจริง ๆ อีกทีนะ

ที่มา
https://newatlas.com/medical/toxic-glass-kills-99-percent-bone-cancer/

ออกกฎเข้ม IG เริ่มจำกัดการใช้งาน อายุน้อยต้องสร้างบัญชีแยก

Meta เอาจริงออกกฎเข้มสำหรับวัยรุ่น ป้องกันความปลอดภัยและเพิ่มความสบายใจสำหรับผู้ปกครอง

เปิดตัวบัญชี Instagram หรือ IG สำหรับวัยรุ่นมีระบบป้องกันในตัวที่จำกัดผู้คนและคัดกรองเนื้อหาให้เหมาะสมกับช่วงวัย เพิ่มบัญชีสำหรับวัยรุ่นโดยอัตโนมัติ และเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปีจะต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองจึงจะเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าให้เข้มงวดน้อยลงได้

เพื่อหาทางออกให้กับผู้ปกครองที่มีความกังวลไม่อยากให้ลูกติดโซเซียลมากเกินไป หรือได้รับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม โดยแพลตฟอร์มจะคัดกรองเนื้อหาแสดงรายการแนะนำ มุ่งเน้นไปที่เนื้อหาที่สนุกสนานในเชิงบวกมากที่สุด

บัญชีส่วนตัวแบบเริ่มต้นผู้ใช้ต้องกดยอมรับผู้ติดตามใหม่ และผู้ที่ไม่ได้ติดตามจะไม่สามารถดูเนื้อหาหรือโต้ตอบได้ จำกัดการส่งข้อความและเนื้อหาที่ละเอียดอ่อนโดยอัตโนมัติ เช่น การศัลยกรรมเสริมความงาม เป็นต้น

บัญชีสำหรับวัยรุ่นจะได้รับการแจ้งเตือนให้ออกจากแอปหลังจาก 60 นาทีในแต่ละวันและเพิ่มโหมดสลีประหว่าง 22.00 น. ถึง 07.00 น. ซึ่งจะปิดเสียงการแจ้งเตือนในช่วงกลางคืนและส่งการตอบกลับอัตโนมัติไปยัง DM

ข้อกำหนดดังกล่าวจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2024 เป็นต้นไป

ที่มา : Meta

#Instagram #TechhubUpdate

 

ตรวจจับยาก แอปอันตราย ซ่อนใน Google Play ยอดโหลดรวม 11 ล้าน

แอปอันตราย

ย้อนกลับไป 5 ปีก่อน นักวิจัยด้านความปลอดภัย พบแอป Android ที่ดูปกติใน Google Play แต่มันกลับถูกฝังมัลแวร์อย่างแนบเนียนผ่านไลบรารีที่นักพัฒนาใช้เพื่อหารายได้จากโฆษณา และนั่นทำให้อุปกรณ์กว่า 100 ล้านเครื่องที่ติดตั้งแอปฯ นี้ถูกเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตีและดาวน์โหลดข้อมูลที่เป็นอันตรายโดยที่เจ้าของไม่รู้ตัว

แต่ฝันร้าย กำลังเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยนักวิจัยพบว่าแอปฯ ใน Google Play Store จำนวนสองตัว แอบแฝงมัลแวร์ Necro ที่อันตราย โดยมัลแวร์นี้สามารถควบคุมอุปกรณ์ของเรา ส่งข้อมูลส่วนตัวของเราไปให้คนร้าย แถมยังสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมอันตรายอื่นๆ มาติดตั้งในเครื่องเราได้อีกด้วย

ที่น่าตกใจคือ แอปฯ เหล่านี้ถูกดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 11 ล้านครั้ง! และต้องยอมรับว่า มัลแวร์ Necro มันฉลาดมาก สามารถซ่อนตัวอยู่ในส่วนของแอป ฯ ที่ใช้แสดงโฆษณา ทำให้ยากต่อการตรวจจับ แถมยังใช้วิธีซ่อนข้อมูลแบบพิเศษที่ไม่ค่อยมีมัลแวร์ตัวอื่นใช้

นักวิจัยพบ Necro ในแอปฯ Google Play สองตัว ตัวหนึ่งคือ Wuta Camera ซึ่งมีการดาวน์โหลด 10 ล้านครั้งจนถึงปัจจุบัน Wuta Camera เวอร์ชัน 6.3.2.148 ถึง 6.3.6.148 มี SDK ที่เป็นอันตรายที่ทำให้แอปฯ ติดไวรัส แต่เมื่อตรวจเจอ แอปฯ ได้รับการอัปเดตเพื่อลบส่วนประกอบที่เป็นอันตรายออก และตอนนี้แอปสามารถใช้งานได้ตามปกติc]h;

SDK ที่ติดไวรัส (Infected SDK) คือชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Development Kit) ที่ถูกผู้ไม่หวังดีแอบใส่โค้ดอันตรายลงไป โดยปกติ SDK เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักพัฒนาสร้างแอปพลิเคชันได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น แต่เมื่อ SDK ติดไวรัส มันจะกลายเป็นช่องทางให้มัลแวร์แทรกซึมเข้าไปในแอปฯ ที่ใช้งาน SDK นั้นๆ โดยที่นักพัฒนาอาจไม่รู้ตัว

ส่วนแอปฯ อีกตัวที่มีการดาวน์โหลดประมาณ 1 ล้านครั้ง ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Max Browser ซึ่งตอนนี้ ไม่มีให้ดาวน์โหลดผ่าน Google Play แล้ว ถ้าหากใครยังมีในเครื่่องก็ลบออก หรืออัปเดตให้เป็นเวอร์ชั่นปัจจุบันดีที่สุด

ที่มา
https://arstechnica.com/security/2024/09/11-million-devices-infected-with-botnet-malware-hosted-in-google-play/

STelligence คว้ารางวัล AI Innovation Partner of the Year 2024 จาก Microsoft Thailand

อีกก้าวแห่งความสำเร็จของ STelligence เมื่อได้รับรางวัล Business Transformation Awards สาขา AI Innovation จากงาน Microsoft Thailand Partner of The Year Awards 2024 ที่จัดขึ้นเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา รางวัลนี้เป็นการยืนยันถึงศักยภาพและความเชี่ยวชาญของ STelligence ในการสร้างสรรค์โซลูชัน AI ที่โดดเด่นและได้รับการยอมรับในระดับสากล

ความสำเร็จครั้งนี้เกิดจากการพัฒนาโซลูชัน AI ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยี Speech-to-Text, GPT-4 และ Advanced Prompt Engineering ซึ่งได้รับการกล่าวถึงโดย Microsoft ว่าเป็น “ผู้นำในโครงการ AI นี้เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ทั้งกับลูกค้าและทีมงาน”

โครงการ Microsoft Thailand Partner of The Year Awards 2024 สนับสนุนวิสัยทัศน์ AI for All Thais” ของไมโครซอฟท์ ที่ประกาศโดย คุณธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คุณธนวัฒน์ได้กล่าวถึง STelligence ว่าเป็น AI Tech Startup ที่พัฒนาแพลตฟอร์ม Enterprise Risk Management (ERM) ซึ่งนำเอา AI มาช่วยในการจัดเตรียมรายงานความเสี่ยง (Risk Report) ประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) รวมไปถึงการวิเคราะห์ (Analytics) และจัดทำรายงานความเสี่ยงให้กับบอร์ดบริหารและหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ นับเป็นการนำเอา AI เข้ามาสนับสนุนงานบริหารความเสี่ยง และส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กรอย่างเป็นรูปธรรมและมีนัยสำคัญ

ดร.สันติสุข ลิ้มปีติเจริญโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท STelligence กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลนี้ ขอขอบคุณทาง Microsoft ที่ยอมรับในผลงานของเรา เรามุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพของคนไทย เศรษฐกิจไทย และภาครัฐ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลเชิงบวกต่อประเทศ พร้อมผลักดันให้ GDP ของไทยเติบโต เราเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีผู้เชี่ยวชาญ และบริษัทที่แข็งแกร่งระดับโลก ในหลายสาขา โจทย์สำคัญคือจะทำอย่างไรให้คนรุ่นใหม่ที่ยังไม่เชี่ยวชาญ รวมถึงบริษัทขนาดกลางและย่อม สามารถนำ AI มาใช้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและเติบโตได้ เราเชื่อว่าหลายองค์กรในไทยต้องการนำ AI มาใช้ แต่กระบวนการอาจซับซ้อนและต้องใช้เวลานานเกินไป ดังนั้น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ “พร้อมใช้” ให้ลูกค้าของเรา จะช่วยลดเวลาสู่ตลาด (time to value) และมั่นใจได้ว่าโซลูชันที่พัฒนาขึ้นมานั้น สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในประเทศไทยได้อย่างแท้จริง”

คุณสรุจ ทิพเสนา CTO และ กรรมการบริหาร บริษัท STelligence กล่าวว่า “ก้าวต่อไป เรามุ่งมั่นที่จะเน้นการประยุกต์ใช้ AI เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรไทยมากขึ้น เช่น AI สำหรับกฎหมายไทย เพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลและปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือการนำ AI มาช่วยเรื่อง Knowledge Management โดยเฉพาะการแชร์ความรู้ข้ามสาขา (Cross-domain Knowledge Sharing) ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันและมอบการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับองค์กรไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม

รางวัลนี้นับว่าเป็นบันไดก้าวสำคัญของการบรรลุเป้าหมายที่ STelligence ต้องการผลักดันให้คนไทยใช้ AI เพื่อยกระดับการขับเคลื่อนองค์กรธุรกิจให้แข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืน

 (อธิบายภาพประกอบ)

– ท่านแรก: คุณธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด

– ท่านที่ 2: ดร.สันติสุข ลิ้มปีติเจริญโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท เอส เทลลิเจนซ์ จำกัด

– ท่านที่ 3: คุณสรุจ ทิพเสนา CTO และกรรมการบริหาร บริษัท เอส เทลลิเจนซ์ จำกัด

– ท่านที่ 4: คุณ Kevin Wo Managing Director, Global Partner Solutions ASEAN, Microsoft

ทางรอดใหม่ ใช้ กระจกสะท้อนแสง แดด ช่วยต้นไม้ใกล้สูญพันธุ์

กระจกสะท้อนแสง

ต้นไม้ที่ชื่อ Serianthes nelsonii เป็นพืชหายากที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง ปัญหาสำคัญคือต้นกล้าส่วนใหญ่ไม่สามารถอยู่รอดในป่าที่ร่มครึ้มเนื่องจากขาดแสงแดด แม้ว่าการเพาะในเรือนเพาะชำจะช่วยให้ต้นกล้าเติบโตได้ แต่ก็ไม่สามารถอยู่รอดเมื่อนำไปปลูกในป่า

นักวิทยาศาสตร์จึงได้รับแรงบันดาลใจจากพลาสติกคลุมดินที่มีการใช้สีสะท้อนแสงเพื่อเพิ่มการเติบโตของพืชผล พวกเขาจึงทดลองใช้วิธีที่คล้ายกันนี้โดยใช้กระจกสะท้อนแสงแดดไปยังต้นกล้าที่อยู่ในป่า

กระจกถูกจัดวางเป็นรูปแบบโมเสกรอบๆ ต้นกล้า ทั้งในเรือนเพาะชำและในป่าจริง ผลการทดลองพบว่ากระจกสามารถสะท้อนแสงแดดได้มากกว่า 70% และช่วยเพิ่มการเติบโตของต้นกล้าได้ถึง 175% รวมถึงเพิ่มอัตราการรอดชีวิตได้ 161% (ดีเว่อร์ )

การใช้วิธีนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการอนุรักษ์พันธุ์ไม้หายาก เนื่องจากเป็นวิธีที่ราคาไม่แพงและสามารถนำไปปรับใช้ได้ง่าย ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการอยู่รอดของต้นกล้าที่ปลูกในป่าได้อย่างมากครับ

ที่มา
https://newatlas.com/science/forest-floor-mirrors-seedling-growth/

Synology เตรียมจัดงานใหญ่แห่งปี “Synology Solution Day 2024” ยิ่งใหญ่ ชูโซลูชันสุดล้ำตอบโจทย์องค์กรยุค AI เสริมศักยภาพธุรกิจสู่อนาคตดิจิทัล

Synology ผู้นำด้านโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลและความปลอดภัยระดับโลก เตรียมเปิดฉากงานใหญ่ Synology Solution Day 2024 โดยปีนี้เน้นแสดงเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่จะช่วยสนับสนุนการทรานสฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลอัจฉริยะ การปกป้องข้อมูล และการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัย รวมถึงการนำ AI เข้ามาช่วยให้องค์กรทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อให้ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐไม่ตกขบวนโลกดิจิทัล พร้อมโอกาสพิเศษสำหรับผู้ลงทะเบียน 500 คนแรก ที่จะได้รับรางวัลสุดพิเศษ

นายรหัท บุญตันจีน Account Manager บริษัทบริษัท ไซโนโลจี้ จำกัด (Synology) กล่าวว่า งาน Synology Solution Day 2024 เป็นเวทีสำคัญในการนำเสนอเทคโนโลยีล่าสุดที่เข้ามาช่วยจัดการข้อมูลของธุรกิจในองค์กรทุกระดับ และสนับสนุนการทรานสฟอร์มธุรกิจสู่ดิจิทัลอย่างครบถ้วน โซลูชันครอบคลุมทั้งการจัดเก็บข้อมูลอัจฉริยะ การปกป้องข้อมูล และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัย รวมถึงระบบบริหารจัดการการเตือนภัยอัจฉริยะสำหรับองค์กรภาครัฐและเอกชน

ไฮไลท์สำคัญของงานในปีนี้คือการนำเสนอเทคโนโลยี ActiveProtect สำหรับการปกป้องข้อมูลธุรกิจที่ปรับขนาดได้ จัดการง่าย และปลอดภัย Synology ยังนำ AI มาใช้เพื่อเพิ่มความรวดเร็วและความสะดวกในการบริหารจัดการข้อมูล พร้อมนำเสนอ Synology Office Suite โซลูชันการทำงานร่วมกันที่จะช่วยให้องค์กรทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ภายในงานยังมี Demo Booth เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานสัมผัสกับโซลูชันต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ ยังมีเวทีเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในอุตสาหกรรม IT และการจัดการข้อมูล ที่จะมาแบ่งปันประสบการณ์และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้โซลูชันของ Synology เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจและการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร Synology จัดงานต่อเนื่องมากว่า 10 ปี ตั้งแต่ปี 2017 และขยายการจัดงานไปยังกว่า 20 ประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี ไต้หวัน และญี่ปุ่น ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 30,000 คน จากทั้งสถานที่จริงและงานออนไลน์

“Synology Solution Day 2024 เหมาะสำหรับภาคธุรกิจและหน่วยงานรัฐบาลที่ต้องการเห็นภาพชัดเจนของการทรานสฟอร์มธุรกิจในยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นระบบจัดเก็บและปกป้องข้อมูลอย่างปลอดภัย โซลูชัน AI ที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และระบบวิดีโอเฝ้าระวังที่ทันสมัย เพื่อยกระดับองค์กรให้ก้าวทันยุคดิจิทัลอย่างมั่นคง งานจะจัดขึ้นในวันที่ **2 ตุลาคม 2567 เวลา 13.00-17.00 น. ที่โรงแรม S31 สุขุมวิท
ผู้ที่สนใจจากภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมงาน เพื่อสัมผัสกับสุดยอดโซลูชันจาก Synology ที่จะเปลี่ยนโฉมองค์กรให้พร้อมสู่อนาคตดิจิทัลอย่างแท้จริง สำหรับผู้เข้าร่วมงาน 500 คนแรกที่ลงทะเบียนล่วงหน้า Synology เตรียมของรางวัลพิเศษไว้มากมาย” นายรหัทกล่าวทิ้งท้าย

ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่: https://sy.to/oiq2z

เลิกหนุน Huawei ใช้ HarmonyOS ติดตั้งแทน Windows

[ทางเลือกใหม่] เป็นที่ทราบกันดีว่า สหรัฐฯ ได้ทยอยแบนบริการต่าง ๆ จากจีนพอควร ที่โด่งดังเลยก็มีการห้าม Google ทำธุรกิจกับ Huawei จนทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่สามารถใช้งาน Android ได้จนถึงทุกวันนี้ อีกสิ่งที่น่ากังวลคือ วันไหนสหรัฐฯ จะแบน Huawei ไม่ให้เข้าถึง Windows ด้วย ล่าสุดทางบริษัทได้ประกาศเตรียมใช้ HarmonyOS แทนแล้ว

Yu Chengdong ประธานบริษัท Huawei Consumer Business ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านการถ่ายทอดสดเมื่อวันที่ 20 กันยายน เผย Huawei เตรียมเปิดตัว HarmonyOS ที่จะถูกติดตั้งไว้ล่วงหน้าแทน Windows เลย

ทาง Yu Chengdon เผยเลยว่า Huawei ต้องเลิกสนับสนุน Windows หลังจากที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำมาตั้งแต่ปี 2019 ตั้งแต่นั้นมา บริษัทประสบปัญหาด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ทั้งเครื่องมือสร้างชิป และแม้แต่ซอฟต์แวร์ที่ได้รับการปรับปรุงด้วย

เรียกได้ว่าเป็นการเตรียมตัวล่วงหน้า แม้ปัจจุบันยังไม่มีรายงานว่า Huawei ถูกสั่งไม่ให้เข้าถึง Windows ออกมา จึงทำให้บริษัทต้องเตรียมตัวพัฒนา OS สำหรับฝั่ง PC เป็นของตัวเอง 100% ซึ่งในโน้ตบุ๊กรุ่นปัจจุบันอย่างซีรีส์ Matebook (2024) อาจเป็นรุ่นสุดท้ายที่มีระบบปฏิบัติการ Windows แล้ว รุ่นต่อไปจะมาพร้อม HarmonyOS เวอร์ชั่น PC แทน

ท้ายนี้ทาง Yu Chengdon กล่าวด้วยว่า Huawei ได้เริ่มลดการพึ่งพาชิ้นส่วนจากต่างประเทศมานานแล้ว ดังนั้นผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่จะเปิดตัวในอนาคตจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนตัว HarmonyOS เวอร์ชั่น PC อาจมีกำหนดเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้

ที่มา : Huaweicentral

ผิดคาด จรวดจีน Deep Blue Aerospace ลงจอดแนวตั้งไม่สำเร็จ

[อย่างน้อยก็ได้ลอง] แนวคิดการนำจรวดกลับมาใช้งานใหม่ได้อีกครั้ง ถือเป็นการปฏิวัติวงการอวกาศอย่างยิ่ง เพราะช่วยลดต้นทุนได้อย่างมหาศาล ซึ่งบริษัทที่เป็นตัวตั้งตัวตีในเรื่องนี้เลยคือ SpaceX ตามมาด้วย Blue Origin ล่าลุดทางประกาศจีน ได้ส่ง Deep Blue Aerospace เข้าสู้ด้วย โดยมีแนวคิดคล้ายกัน แต่ไม่นานนี้กลับประสบความล้มเหลวในการลงจอดจรวดแบบแนวตั้ง

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เผยภาพถ่ายจากโดรน ที่ได้ถ่ายขั้นตอนการลงจอดของ Nebula-1 จรวดจากบริษัทจีน Deep Blue Aerospace ซึ่งประสบล้มเหลวในวินาทีสุดท้าย

โดยทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นในก่อนหน้า กระทั่งตอนลดความเร็วในการลงจอด ดูเหมือนตัวจรอดจะอยู่สูงจากพื้นดินมากเกินไป ทำให้จรอดตกกระแทกจนเกิดระเบิดในที่สุด แต่เคราะห์ดีที่จรวดยังไม่ได้รับความเสียหายมาก

แม้จะล้มเหลว แต่การทดสอบครั้งนี้ได้ประสบความสำเร็จหลายอย่าง เนื่องจากบรรลุเป้าหมายถึง 10 ใน 11 ข้อแล้ว โดยการทดลองครั้งต่อไป มีกำหนดอีกทีในเดือนพฤศจิกายนปีนี้

สำหรับจรวด Nebula-1 ถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Thunder-R ที่ใช้ออกซิเจนเหลวและน้ำมันก๊าด ซึ่งเป็นจรวดเชื้อเพลิงเหลวแบบใช้ซ้ำได้ลำแรกของจีนในปี 2022 และก่อนหน้านี้เคยลงจอดได้สำเร็จมาแล้ว หลังแตะพื้นจากความสูงหนึ่งกิโลเมตร

ที่มา : https://www.techspot.com/news/104830-dramatic-drone-footage-captures-failed-chinese-rocket-landing.html

#China #DeepBlueAerospace #Rocket #Space #Techhub

ข้อมูลใหม่ เปิดผลวิเคราะห์ดินดวงจันทร์ บอกต้นกำเนิดและวิวัฒนาการ

จีนออกเอกสารฉบับแรกเกี่ยวกับดินตัวอย่างที่เก็บจากยานสำรวจดวงจันทร์ฉางเอ๋อ 6 เอกสารดังกล่าวอาจให้ข้อมูลเชิงลึกและนำไปสู่ทฤษฎีใหม่ ๆ เกี่ยวกับดวงจันทร์และวิวัฒนาการของดวงจันทร์ได้

ยานสำรวจดวงจันทร์ฉางเอ๋อ 6 ขึ้นสู่ห้วงอวกาศกินเวลานานถึง 53 วัน เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ยานลงจอดได้เก็บดินตัวอย่างภายในบริเวณที่เรียกว่าหลุมอุกกาบาตอพอลโล กลับมายังโลกด้วยน้ำหนัก 4 ปอนด์ (1,935.3 กรัม) ได้สำเร็จ

ตัวอย่างเหล่านี้ถูกนำไปเก็บไว้ในสถานที่พิเศษที่พัฒนาขึ้นเพื่อการจัดเก็บ การวิเคราะห์ และได้ศึกษาวิจัยตีพิมพ์ใน National Science Review ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับดินที่เก็บมาเป็นครั้งแรก

นักวิจัยพบว่าตัวอย่างที่เก็บได้มีความหนาแน่นต่ำกว่าตัวอย่างจากดวงจันทร์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเก็บจากด้านใกล้ของดวงจันทร์ อีกทั้งดินยังประกอบด้วยอนุภาคสีอ่อน มีส่วนผสมของแร่ Feldspar และแก้ว อีกทั้งมีความเข้มข้นของแร่ธาตุหายากจากลาวาบนดวงจันทร์

รวมถึงมีเศษหินที่เกิดจากการการพุ่งชนของดาวเคราะห์น้อย และดินที่มียอนุภาคสีอ่อน มากกว่าตัวอย่างที่เก็บได้จากภารกิจด้านใกล้ของยานฉางเอ๋อ 5 ในปี 2020

ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะนำไปสู่แนวคิดและทฤษฎีใหม่ ๆ เกี่ยวกับต้นกำเนิดและวิวัฒนาการของดวงจันทร์ และในอีก 2 ปีข้างหน้าจะเปิดให้ประเทศอื่น ๆ สามารถยื่นขอตัวอย่างดินไปวิจัยได้

ย้อนอ่านเหตุการณ์ยานอวกาศจีน ฉางเอ๋อ-6 ลงจอดบนพื้นผิวดวงจันทร์
>> techhub 

ที่มา : space 

#ยานสำรวจ #ดวงจันทร์ #ฉางเอ๋อ 6 #TechhubUpdate

 

Hot Issue