Home Blog Page 17

งานเข้า แฮกเกอร์จีน เจาะ ISP สหรัฐ เข้าถึงระบบ ดักฟังข้อมูล

แฮกเกอร์จีน

มีรายงานว่าแฮกเกอร์จีนได้เจาะระบบผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) รายใหญ่ 3 รายในสหรัฐฯ คือ AT&T, Lumen และ Verizon โดยสามารถเข้าถึงระบบดักฟังข้อมูลที่สร้างไว้เพื่อหน่วยงานรัฐใช้ในการสืบสวนตามคำสั่งศาล (backdoor)

การโจมตีครั้งนี้เชื่อว่า น่าจะมีส่วนเชื่อมโยงกับกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของจีน ซึ่งมีประวัติการจารกรรมข้อมูลจากสหรัฐฯ มาอย่างยาวนาน

สิ่งที่น่ากังวลคือ แฮกเกอร์สามารถเจาะช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่สร้างขึ้นโดย “เจตนา” เพื่อให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ สามารถดักฟังข้อมูลต่าง ๆ ได้ตามคำสั่งศาล ซึ่งแฮกเกอร์อาจเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายและข้อมูลการสื่อสารเป็นเวลาหลายเดือนหรือนานกว่านั้น

“คำว่า เจตนาสร้างช่องโหว่ไว้ มันก็ควรจะมีระบบความปลอดภัยที่รัดกุม ถูกไหมนะ”

เรื่องนี้ มีส่วนทำให้นึกถึงกรณี Apple ที่มีจุดยืนในการต่อต้านคำสั่งหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเคยปฏิเสธคำขอของ FBI ในการสร้างช่องโหว่ใน iPhone เพื่อช่วยในการเข้าถึงอุปกรณ์ของผู้ก่อเหตุ Apple ยืนยันว่าการสร้างช่องโหว่ แม้เพื่อวัตถุประสงค์ที่ดี ก็อาจถูกแฮกเกอร์นำไปใช้ในทางที่ผิดได้ ในวันนี้ชัดเจนแล้วว่า Apple นั้นคิดถูก..

เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า ระบบเข้ารหัสต้องมีความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีข้อยกเว้น เพราะเมื่อมีช่องโหว่ ไม่ว่าจะสร้างขึ้นด้วยเหตุผลใดก็ตาม ย่อมมีความเสี่ยงที่จะถูกแฮกเกอร์ใช้ประโยชน์

ที่มา
https://9to5mac.com/2024/10/08/chinese-hack-of-us-isps-shows-why-apple-is-right-about-backdoors-for-law-enforcement/

อาวุธล้ำสมัย เรือรบไร้คนขับ USV สงครามเร่งสร้างนวัตกรรม

ข้อดีของสงคราม คือการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ของเทคโนโลยี

Naval Group เปิดตัว เรือรบไร้คนขับ USV หรือ Unmanned Surface Vehicle ชื่อว่า Seaquest S เป็นเรือได้รับแรงบันดาลใจจากการใช้เรือรบหุ่นยนต์ของยูเครนในสงครามกับรัสเซีย เรือรบขนาดเล็กนี้มีความยาวไม่ถึง 10 เมตร พร้อมปฏิบัติภารกิจได้นาน 24 ชั่วโมง โดยออกแบบให้รองรับภารกิจหลากหลาย เช่น การลาดตระเวน การทำสงครามอิเล็กทรอนิกส์ และการโจมตี

บทเรียนสำคัญจากสงครามยูเครนคือ การพัฒนาและปรับปรุงระบบเรือรบไร้คนขับต้องรวดเร็ว เพื่อตอบโต้การพัฒนาอาวุธต่าง ๆ จากฝ่ายตรงข้าม ดังนั้น Seaquest S จึงถูกออกแบบเป็นแพลตฟอร์มแบบโมดูลาร์ ที่สามารถปรับแต่งและพัฒนาต่อยอดได้ง่าย

เทคโนโลยี USV มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยกองทัพยูเครนประสบความสำเร็จในการใช้ USV โจมตีเป้าหมายทางทะเล ทางอากาศ และชายฝั่ง ด้วยระบบยิงจรวด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของ USV ในการรบสมัยใหม่

Seaquest S เป็น USV ขนาดเล็กเพียงรุ่นเดียวที่สามารถบรรทุกบนเรือฟริเกตและเรือรบได้ แม้ปัจจุบันจะยังไม่มีความสามารถในการทำงานเป็นฝูง แต่ก็สามารถพัฒนาเพิ่มได้ในอนาคต

เจ้าหน้าที่ยูเครนเชื่อว่า USV จะเข้ามาแทนที่เรือรบแบบเดิม ๆ ในอนาคต โดยเฉพาะในพื้นที่น้ำปิด หรือกึ่งปิด ซึ่งสะท้อนถึงทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีทางการทหารที่เน้นระบบอัตโนมัติ และไร้คนขับมากขึ้น

ที่มา
defensenews

มหิดลเปิดคอร์สสอนฟรี Generative สำหรับมือใหม่

เรียนฟรี มหิดลเปิดสอนคอร์สออนไลน์ Generative AI ที่ช่วยให้ First Jobber ทำงานง่ายขึ้น

ภายในคอร์สนี้จะประกอบด้วยเนื้อหาที่ช่วยให้ทุก ๆ คนได้รู้จักกับเทคโนโลยีเหล่านี้ให้มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงนำเสนอเทคนิคและคำสั่งพื้นฐานเพื่อสร้างสรรค์ผลงานด้วยเทคโนโลยี AI

Generative AI ที่ช่วยให้ First Jobber ทำงานง่ายขึ้น 

(มีทั้งหมด 7 บทเรียน 1 ชั่วโมง 45 นาที)

แนะนำ การใช้ Generative AI application

กลวิธีและเทคนิคสำคัญในการสร้างคำสั่ง AI

เทคนิคการสร้างสรรค์ไอเดียอย่างมืออาชีพด้วยเครื่องมือ AI 

เครื่องมือ AI สรุป วิเคราะห์เปรียบเทียบข้อมูลเนื้อหา และบันทึกและสรุปการประชุม 

เคล็ดลับการทำสื่อในการนำเสนอและการสัมภาษณ์งานด้วย ChatGPT 

สร้างสรรค์สื่อมัลติมีเดียด้วยเครื่องมือ AI

ข้อควรระวังในการใช้งาน Generative AI application

เมื่อเรียนจบแล้วสามารถขอรับใบเซอร์ในระบบได้เลย 

ทางไปเรียน >> mahidol 

 

นอกจากเนื้อหาที่แนะนำไปแล้ว ยังมีคอร์สเรียนอีกมากมายให้ได้อัปสกิลกันที่ จิ้มลิ้งก์เลย >> techhub productivity 

#เรียนออนไลน์ #AI #ChatGPT #TechhubUpdate

ไม่ให้ใช้ฟรี ยกเลิก LINE Notify อยากใช้ต้องจ่ายค่าแพคเกจ

โบกมือลา LINE ประกาศสิ้นสุดการให้บริการ LINE Notify ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม พ.. 2568 เป็นต้นไปเพื่อหันไปมุ่งเน้นพัฒนาบริการใหม่ ที่ยังคงตอบโจทย์การใช้งานนี้ได้ และมีประสิทธิภาพมากกว่า 

สำหรับผู้ที่ต้องการส่งการแจ้งเตือนถึงผู้ใช้ผ่าน LINE แนะนำให้ใช้ Messaging API ในการสร้างและส่งข้อความแจ้งเตือนถึงผู้ใช้ได้ เช่นกัน โดยมีฟีเจอร์ ฟังก์ชั่นและความสามารถที่หลากหลายมากกว่า

ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.. 2568 เป็นต้นไป ฟีเจอร์ของ LINE Notify ทั้งหมด จะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป รวมถึง LINE Notify API ทั้งหมด รวมถึงบัญชี LINE Official Account:  “LINE Notify” (@linenotify) และข้อมูลเว็บไซต์ที่ระบุไว้ด้านล่าง จะถูกลบออกในเดือนพฤษภาคม ปี 2568

การใช้ Messaging API จะช่วยให้สามารถส่งข้อความผ่านบัญชี LINE Official Account ได้เช่นกัน โดยส่งข้อความได้ฟรีแต่จำกัดจำนวนในการส่ง

การสิ้นสุดการให้บริการ LINE Notify ในครั้งนี้ LINE เผยว่าจะยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนา ปรับปรุงการให้บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกท่านต่อไป

 

ที่มา : line

#LINENotify #LINE #TechhubUpdate

ให้ใช้ฟรี Adobe เปิดเว็บใหม่ สกัดคนใช้ AI สร้างภาพปลอม

Adobe เปิดตัวเว็บแอปใหม่ ให้ใช้ฟรี Adobe Content Authenticity ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้สร้างเนื้อหาปกป้องและรับการระบุแหล่งที่มาสำหรับผลงานของตนด้วย Content Credentials 

Content Credentials เปรียบเสมือนฉลากโภชนาการสำหรับเนื้อหาดิจิทัล สามารถแนบข้อมูลไปกับผลงานเพื่อป้องกันคนอื่นเอาผลงานไปใช้ สร้างภาพปลอม (deepfake) ด้วย AI เป็นต้น จึงกลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับเจ้าของผลงาน ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือของเนื้อหาได้

จากสถิติผู้สร้างสรรค์ผลงานกังวลเรื่องการแชร์ผลงานโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการระบุแหล่งที่มาที่ไม่ถูกต้องไปจนถึงผลงานที่เกี่ยวข้องกับ AI  

Adobe Content Authenticity คือเว็บแอปพลิเคชันใหม่ ช่วยให้ผู้ใช้แนบข้อมูลรับรองเนื้อหา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ใช้ได้ทุกโปรแกรม ไม่ว่าจะเป็น Photoshop, Lightroom และ Firefly เว็บแอปจะเชื่อมกับกับแอป Creative Cloud 

เว็บจะเปิดให้ใช้งานในไตรมาสที่ 1 ของปี 2025 สำหรับคนที่สนใจสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าและรับการแจ้งเตือนได้ผ่านเว็บ >> contentauthenticity

 

ที่มา : adobe 

#Adobe #TechhubUpdate

แรงทะลุจักรวาล NASA ทดสอบเน็ตนอกโลก DSOC ส่งข้อมูลผ่านเลเซอร์

DSOC

ต่อไปนี้ คนที่ไปตั้งรกรากบนดาวอังคารในอนาคต อาจจะอัปโหลดรูปลง Facebook ให้เราดูได้ง่าย ๆ แล้วล่ะ

NASA กำลังพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารแห่งอนาคต ด้วยการส่งข้อมูลผ่านเลเซอร์ โดยได้ทำการทดลอง Deep Space Optical Communications หรือ DSOC ผ่านยานอวกาศ Psyche ที่กำลังเดินทางไปสำรวจดาวเคราะห์น้อย และประสบความสำเร็จในการส่งข้อมูลด้วยความเร็วระดับบรอดแบนด์ในห้วงอวกาศลึก!

เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา DSOC สามารถส่งข้อมูลผ่านเลเซอร์เป็นระยะทางไกลถึง 460 ล้านกิโลเมตรจากยาน Psyche กลับมายังโลก ซึ่งเทียบเท่ากับระยะทางระหว่างโลกและดาวอังคารเลยทีเดียว โดย DSOC สามารถส่งข้อมูลกลับมาได้มากถึง 11 เทราไบต์!

DSOC จะแปลงข้อมูลเป็นแสงเลเซอร์อินฟราเรดใกล้ จากนั้นจึงส่งข้อมูลระหว่างเครื่องรับส่งสัญญาณบนยาน Psyche กับสถานีภาคพื้นดิน 2 แห่ง คือสถานีส่งสัญญาณที่ Table Mountain facility ของ JPL และสถานีรับสัญญาณที่กล้องโทรทรรศน์ Hale ขนาด 200 นิ้ว ใน San Diego County

แม้ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ยาน Psyche อยู่ห่างจากโลกมากถึง 53 ล้านกิโลเมตร DSOC ก็ยังสามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงถึง 267 เมกะบิตต่อวินาที ซึ่งเทียบเท่ากับความเร็วอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในปัจจุบันครับ

แม้ DSOC จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการพัฒนา แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการสื่อสารด้วยเลเซอร์ และเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการสำรวจอวกาศ การสื่อสาร และการพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคต โพสต์ Facebook จากดาวอังคาร คงไม่ไกลเกินจริงแล้ว

ที่มา
https://www.techspot.com/news/105054-nasa-laser-comms-demonstrates-serviceable-internet-290-million.html

Agora ร่วมมือ OpenAI ยกระดับการใช้งานสนทนาแบบเรียลไทม์ด้วย AI

Agora บริษัทชั้นนำระดับโลกด้านเทคโนโลยี API เพื่อการสื่อสารแบบเรียลไทม์ ประกาศเปิดตัว Conversational AI SDK หรือ ชุดพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับ AI เชิงสนทนา สร้างการปฏิวัติวงการผ่านความร่วมมือกับ Real-time API จาก OpenAI เพื่อให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถนำเสนอประสบการณ์การสนทนาที่ขับเคลื่อนด้วย AI บนแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น และเป็นธรรมชาติยิ่งกว่าที่เคยเป็น

“การสื่อสารแบบเรียลไทม์ขับเคลื่อนด้วย AI ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภค และองค์กรทั่วโลก สามารถเข้าถึงการพลิกหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของวงการพร้อมใช้ประโยชน์งานของเทคโนโลยีนี้ได้อย่างเต็มที่ ด้วยความร่วมมือของ OpenAI ชุดพัฒนาซอฟแวร์ที่เราได้เปิดตัวนั้นจะช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ จากทั่วทุกมุมโลกเพิ่มการโต้ตอบสนทนาที่เป็นธรรมชาติในแอปพลิเคชันที่พวกเขาสร้างขึ้นผ่านแพลตฟอร์มของเราที่มีทั้งความชาญฉลาดในการโต้ตอบการสนมนาแบบอัจริยะจาก OpenAI และความสามารถในการสตรีมมิ่งเสียงผ่านเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งของ Agora” Tony Zhao, CEO และผู้ร่วมก่อตั้งของ Agora กล่าว

Conversational AI SDK นี้ใช้เทคโนโลยีการส่งข้อมูลแบบอัจฉริยะ และเครือข่ายที่มีความหน่วงต่ำพิเศษ (Low Latency) จาก Agora ที่ให้บริการการตอบสนองแบบเรียลไทม์ถึง 6 หมื่นล้านนาทีต่อเดือน ในกว่า 200 ประเทศทั่วโลกเพื่อช่วยให้การโต้ตอบผ่านเสียงระหว่างมนุษย์และ AI เป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติผ่าน API บนแพลตฟอร์ม OpenAI นอกจากนี้ ในชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ยังมีฟีเจอร์การยกเลิกเสียงสะท้อนด้วย AI และการลดเสียงรบกวน เพื่อให้สามารถประมวลผลเสียงได้อย่างแม่นยำในทุกสภาพแวดล้อม ทำให้นักพัฒนาสามารถเชื่อมต่อกับโมเดล GPT ของ OpenAI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Samuel Lim, CEO และผู้ก่อตั้งของ Grepp ซึ่งเป็นลูกค้าของ Agora ได้แชร์มุมมอง การร่วมมือครั้งนี้กล่าวว่า “ด้วยการรวมผู้ช่วยการเรียนรู้ AI แบบโต้ตอบที่เหมือนจริง เข้ากับแพลตฟอร์มของเราจะช่วยให้เราสามารถปรับปรุงการประเมินทักษะส่วนบุคคล เพิ่มพูนประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ เพิ่มประสิทธิภาพการทดสอบออนไลน์ และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในการขยายการประเมินทักษะและบริการด้านการศึกษาของเราไปทั่วโลก”

การรวมของทั้งสองเทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถสร้างตัวแทน AI ที่ใช้เสียงสำหรับการใช้งานในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เช่น การบริการสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง การบริการคอนเซียร์จ การบริการด้าน Health&Wellness การศึกษาและการเรียนรู้ภาษา การเล่นเกม การสั่งงานด้วยเสียง และอื่น ๆ อีกมาก

ด้าน Yun Zhang CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Wyze แพลตฟอร์มบ้านอัจฉริยะที่มีอุปกรณ์ IoT ขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริ หนึ่งในลูกค้าของ Agora กล่าวว่า “Conversational AI SDK ของ Agora จะช่วยให้เราผสานการสื่อสารผ่านเสียงแบบเรียลไทม์กับ AI เข้ากับผลิตภัณฑ์ IoT ของเราได้อย่างง่ายดาย เครือข่ายของ Agora ได้เข้ามาเปลี่ยนอุตสาหกรรมการสนทนาแบบเรียลไทม์ด้วยการใช้ความหน่วงต่ำพิเศษ ซึ่งมีความจำเป็นต่อการโต้ตอบด้วยเสียงที่เป็นธรรมชาติอย่างแท้จริงกับอุปกรณ์อัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI”

“การผนึกกำลัง รวมเทคโนโลยีระหว่าง Agora กับ OpenAI ในครั้งนี้จะเป็นการเปิดประตูสู่ความคิด สร้างสรรค์และการใช้งานที่สร้างประโยชน์ในวงการ AI ในระดับที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นวงการโค้ชสุขภาพ ผู้ให้บริการสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง หรือแอปพลิเคชัน ฝึกภาษาที่ช่วยให้นักเรียนเสริมส้รางทักษะการพูด ชุดพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับ AI เชิงสนทนา ที่เราาร่วมกับ OpenAI จะช่วยให้นักพัฒนา สามารถสร้างแอปพลิเคชันที่อาจไม่มีใครคาดคิดเป็นไปได้ อีกทั้ง ยังช่วยให้ผู้ใช้งานได้ใช้ประโยชน์จาก AI ในชีวิตประจำวันในรูปแบบใหม่ ๆ ได้อย่างเต็มที่  และ Agora มีความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ OpenAI เพื่อทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้จริง”  Tony Zhao กล่าวเสริม

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Agora’s Conversational AI SDK ที่ร่วมกับ OpenAI สามารถดูได้ที่เว็บไซต์: https://www.agora.io/en/products/agora-openai-conversational-ai-sdk/

Meta ปล่อยเครื่องมือใหม่ ใช้ AI สร้างคลิปจากข้อความ

[ท้าชน OpenAI] จากสร้างรูปภาพด้วย Text สู่การสร้างคลิปวิดีโอ ที่ไม่จำเป็นต้องหาฟุตเทจหรือถ่ายด้วยตัวเองเหมือนก่อนแล้ว เพียงพิมพ์ข้อความสั้น ๆ ก็ได้คลิปวิดีโอตามที่ต้องการ ล่าสุดทาง Meta เอาด้วย เปิดตัว ‘Movie Gen’ ฟีเจอร์ AI ช่วยสร้างคลิปวิดีโอสั้น ๆ จากข้อความ แต่สามารถปรับแต่งแก้ไขวิดีโอและเสียงได้อย่างละเอียด

Meta เปิดตัว Movie Gen โมเดล AI ช่วยสร้างคลิปวิดีโอสั้นจากข้อความ โดยมีความยาวได้สูงสุด 16 วินาที และยังสร้างเสียงประกอบคลิปวิดีโอได้อีกด้วย หรือสามารถนำคลิปที่มี มาปรับแต่งใหม่ผ่านตัวฟีเจอร์ก็ได้อีกเช่นกัน

ความพิเศษของ Movie Gen คือสามารถสร้างคลิป AI ที่มีทั้งความแม่นยำและความละเอียดสูง แม่นยำในที่นี้คือ สามารถป้อนคำสั่งให้ปรับแต่งหน้าหาคลิปได้ เช่น คลิปเด็กปล่อยโคมไฟ ก็ป้อน Prompt สั่งเปลี่ยนโคมไฟเป็นฟองสบู่ และเปลี่ยนสภาพแวดล้อมเป็นป่ามหัศจรรย์ได้อย่างเนียบเนียน และตัวคลิปที่ได้ก็มีความละเอียด Full HD ให้ความคมชัดสูง

มีคลิปตัวอย่าง “น้องหมูเด้ง” หรือ Baby Hippo จาก Movie Gen ด้วย
https://cdn.arstechnica.net/wp-content/uploads/2024/10/meta_hippo.mp4?_=1

ทางด้านซีอีโอ Meta อย่าง Mark Zuckerberg ได้โพสต์คลิปตัวอย่างจาก Movie Gen บน Instagram ด้วย พร้อมโชว์ประสิทธิภาพการปรับแต่งของ AI ดังกล่าว ว่าทำได้เนียนแค่ไหน

 

ดูโพสต์นี้บน Instagram

 

โพสต์ที่แชร์โดย Mark Zuckerberg (@zuck)

ท้ายนี้ตัว Movie Gen ทาง Mark Zuckerberg เผยมีแผนเปิดใช้งานบน Instagram ภายในปีหน้า ซึ่งจะมีข้อจำกัดการใช้งาน และใช้งาน ‘ฟรี’ หรือไม่ รอติดตามกัน

ที่มา : Arstechnica

แบนหนัก แอปดังค่าย Kaspersky ถูกถอดออกจาก Play Store

[ไม่เหลือใย] ดูเหมือนสหรัฐฯ จะมีความจริงจังในการแบน Kaspersky อยู่ไม่น้อย หลังไม่นานมานี้ Google ได้ถอดแอปฯ ต่าง ๆ ของซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ดังกล่าว ออกจาก Play Store เรียบร้อย

จากเครื่อง PC ไปจนถึงอุปกรณ์พกพา จากกระทบแรก ก็ส่งผลให้ Kaspersky ไม่สามารถใช้งานในสหรัฐฯ ได้ แต่ประเทศอื่น ๆ ยังใช้งานได้ตามปกติ ทว่าล่าสุดผู้ใช้ Android ทั่วโลก จะไม่สามารถโหลดแอปฯ ต่าง ๆ ของ Kaspersky ได้อีกต่อไป หลังทาง Google ได้ประกาศถอดแอปฯ ทั้งหมดของบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์จากรัสเซียนี้ ออกจาก Play Store จนหมดแล้ว

ย้อนกลับไปในปี 2017 ทาง Kaspersky เคยตกเป็นเป้าการแบนของรัฐบาลสหรัฐฯ มาแล้ว เนื่องจาก Kaspersky ถูกมองว่าเป็นบริษัทจากรัสเซีย ซึ่งอาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงในประเทศ โดยตอนนั้นได้สั่งห้ามใช้งานซอฟต์แวร์ดังกล่าวในหน่วยงานรัฐ

จนต่อมาได้เกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ก็ยิ่งทำให้เกิดการแบนมากขึ้น จนต่อมาก็สั่งห้ามใช้งานทั่วสหรัฐฯ ทั้งในบริษัทเอกชน รวมไปถึงผู้ใช้งานทั่วไปด้วย ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ในตอนนี้หากใครไปค้นหาชื่อ Kaspersky ใน Play Store ก็จะพบแต่แอปฯ Security ของแบรนด์อื่น ๆ แทน

ที่มา : Techspot

TP-Link เปิดตัวพาร์ทเนอร์โปรแกรม SolutionX เพื่อมอบสิทธิประโยชน์แก่พันธมิตรทางธุรกิจ

บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์อุปกรณ์เน็ตเวิร์กและระบบกล้องวงจรปิดรักษาความปลอดภัยสำหรับธุรกิจองค์กร ภายใต้ชื่อ Omada, Omada Pro และ VIGI จัดงานเปิดตัวระบบพาร์ทเนอร์โปรแกรม SolutionX เพื่อการสนับสนุน และให้สิทธิประโยชน์แก่พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจของทาง TP-Link โดยเน้นเฉพาะกลุ่มพาร์ทเนอร์ที่เป็นผู้วางระบบ (System Integrator) และ ช่างติดตั้งระบบเน็ตเวิร์กองค์กร (Installer) ที่มุ่งเน้นทำงานโปรเจกต์ พร้อมเผยสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากการเข้าร่วมโปรแกรมดังกล่าว

นายเฉิน คุณ, Managing Director บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า TP-Link ได้ดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน โดยในปัจจุบันบริษัทฯ มีสำนักงานใหญ่อยู่ 2 แห่งคือ สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ พร้อมโรงงานผลิตสินค้า 3 แห่งทั่วโลก มีศูนย์ออกแบบและวิจัยผลิตภัณฑ์ 4 แห่ง พร้อมรุกตลาดอุปกรณ์เน็ตเวิร์กสำหรับธุรกิจองค์กร ด้วย 5 แบรนด์ย่อยของเราคือ Omada, Omada Pro, VIGI, Tapo, และ Aginet
และในปีนี้ TP-Link กล้าออกมาประกาศความพร้อมในการรุกตลาดองค์กรในประเทศไทย โดยตั้งเป้ายอดขายโต 2 เท่าในกลุ่มสินค้าระดับองค์กรในอีก 3 ปี จาก 300 ล้านบาทในปี 2024 เป็น 600 ล้านบาทในปี 2027 ด้วยผลิตภัณฑ์หัวหอกอย่าง Omada, Omada Pro ที่เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอุปกรณ์เน็ตเวิร์ก และ VIGI ที่เป็นระบบกล้องวงจรปิดเฝ้าระวัง ซึ่งในขณะนี้ TP-Link เป็นเพียงผู้ประกอบการรายเดียว ที่มีซอฟต์แวร์บริหารจัดการทั้งอุปกรณ์เน็ตเวิร์ก และกล้องวงจรปิดเฝ้าระวังภายใต้ซอฟต์แวร์เดียวกันในชื่อ Omada Central ช่วยลดความยุ่งยากในการบริหารจัดการหลังบ้านให้กับฝ่ายไอที หรือผู้ดูแลระบบขององค์กร.

อีกทั้งบริษัทฯ มีการปรับโครงสร้างองค์กรขนานใหญ่ และเตรียมทีมให้พร้อมรุกตลาดองค์กร โดยเพิ่มฝ่ายขาย, ฝ่ายซัปพอร์ตก่อนการขาย (Presales Engineer), ฝ่ายซัปพอร์ตหลังการขาย (After Sales Service) และหน่วยงานจัดอบรมความรู้ ที่พร้อมซัปพอร์ตพาร์ทเนอร์แบบ Exclusive พร้อมสิทธิประโยชน์ที่สร้างความมั่นใจให้กับพาร์ทเนอร์ที่ทำงานร่วมกับ TP-Link ภายใต้โปรแกรม SolutionX ว่าจะได้รับผลตอบแทนที่มากกว่า และเผชิญปัญหาการแข่งขันด้านราคาน้อยกว่า ด้วยระบบลงทะเบียนงานโปรเจกต์ที่รัดกุม, อัตราส่วนกำไรที่มากกว่ามาตรฐานตลาด และการบริหารราคาขายที่เป็นมาตรฐาน จึงเป็นที่มาในการเปิดตัวระบบพาร์ทเนอร์โปรแกรม SolutionX ในวันนี้ เพื่อสรรหาพาร์ทเนอร์ในกลุ่ม วิศวกรผู้วางระบบ (System Integrator) และช่างติดตั้งระบบเน็ตเวิร์ก (Installer) ที่พร้อมจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดไปร่วมกันกับ TP-Link

นอกเหนือจากการแจ้งที่มาที่ไปของโปรแกรม SolutionX จากนายเฉิน คุนแล้ว ยังมีวิทยากรที่มาให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าที่น่าสนใจอย่าง VIGI และ Omada/Omada Pro ด้วย

นางสาววราภรณ์ จันทร์ลอย, Senior Technical Support Engineer กลุ่มธุรกิจอุปกรณ์กล้องวงจรปิดเฝ้าระวังความปลอดภัย ได้เปิดเผยถึงการเติบโตของตลาดกล้องวงจรปิดทั่วโลกที่มีมูลค่าหนึ่งหมื่นสองพันล้านดอลล่าห์สหรัฐในปี 2023 และคาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตถึงสองหมื่นห้าพันล้านดอลล่าห์สหรัฐในปี 2028 (อ้างอิงข้อมูลจาก Thebusinessresearchcompany.com) TP-Link จึงมีการออกแบบผลิตภัณฑ์กล้องวงจรปิดเฝ้าระวังความปลอดภัยในชื่อแบรนด์ VIGI เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย พร้อมเปิดตัวซอฟต์แวร์จัดการกล้องวงจรปิดเฝ้าระวังความปลอดภัยแบบรวมศูนย์ในชื่อ VIGI VMS และระบบจัดการกล้องวงจรปิดเฝ้าระวังความปลอดภัยแบบรวมศูนย์ผ่านระบบคลาวด์ในชื่อ VIGI Cloud VMS

โดยระบบ VIGI Cloud VMS ซึ่งเป็นระบบจัดการที่ออกแบบเพื่อการดูแลและจัดการกล้องวงจรปิดในธุรกิจที่มีหลากหลายสาขา ทำงานอยู่บนระบบคลาวด์เซิร์ฟเวอร์ AWS สามารถใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์ VIGI ได้ไม่จำกัดจำนวน ไม่จำกัดไซต์งาน และกำหนดสิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ได้ไม่จำกัดผู้ใช้งาน สามารถควบคุมจัดการอุปกรณ์ในแต่ละสาขาได้จากส่วนกลางโดยไม่จำเป็นต้องส่งช่างเทคนิคไปแก้ปัญหาที่สาขาด้วยตัวเอง ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบและบำรุงรักษาได้เป็นอย่างดี และสามารถขยายระบบกล้องวงจรปิดได้อย่างยืดหยุ่นตามการเติบโตของธุรกิจได้อย่างลื่นไหล โดยผู้ที่ใช้งานกล้อง VIGI สามารถใช้งานระบบ VIGI Cloud VMS ได้ฟรี

ต่อมา นายศุภวัฒน์ สุขพูน, Presales Engineer Manager ได้กล่าวถึงการเติบโตของแบรนด์ Omada อุปกรณ์เน็ตเวิร์กสำหรับธุรกิจองค์กร (Enterprise Networking) พร้อมการเปิดตัว 3 บริการใหม่คือ
1. Omada Cloud Essentials ระบบจัดการอุปกรณ์เครือข่ายผ่านระบบคลาวด์ที่ใช้งานได้ฟรีโดยไม่จำกัดจำนวนอุปกรณ์และไซต์งาน เพื่อช่วยให้ระบบเน็ตเวิร์กขององค์กรสามารถทำงานได้อย่างคล่องตัวและรองรับการเติบโตของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. Omada Central ระบบจัดการแบบรวมศูนย์ที่สามารถบริหารจัดการระบบเน็ตเวิร์ก (Omada) และระบบกล้องวงจรปิดเฝ้าระวังความปลอดภัย (VIGI) ได้ในระบบเดียว ช่วยให้ง่ายต่อการดูแล, ตั้งค่า และการแก้ปัญหาเครือข่ายได้อย่างรวดเร็ว
3. เปิดตัวกลุ่มสินค้าใหม่ในชื่อแบรนด์ Omada Pro ซึ่งเป็นอุปกรณ์เน็ตเวิร์กสำหรับธุรกิจองค์กรในระดับ Enterprise Grade ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการใช้งานปริมาณมาก และรองรับการทำงานแบบ 24/7 มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยและระบบจัดการที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมฟังก์ชันการทำงานที่เหนือกว่า เพื่อการจัดการเครือข่ายองค์กรได้อย่างครอบคลุม พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Omada Pro ไม่ว่าจะเป็น Omada Pro Router, Omada Pro Access Point, Omada Pro Switches ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ รวมไปถึง Omada Pro Controller ที่ทำหน้าที่ควบคุมและจัดการอุปกรณ์ Omada Pro ในองค์กรทั้งหมด

งาน TP-Link SolutionX Partner connect จัดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 ณ โรงแรมคาร์ลตัน สุขุมวิท ภายในงานได้รับการตอบรับจากพาร์ทเนอร์และตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยเป็นอย่างมาก สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมโปรแกรม SolutionX สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://bit.ly/TPlinkSolutionXTH หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายของ TP-Link ที่ดูแลท่าน

 

Hot Issue