Home Blog Page 1573

TextBlade คีย์บอร์ดพกพาไร้สายขนาดจิ๋ว แต่แจ๋ว

คีย์บอร์ดพกพาสุดแนว เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ดีไซน์ล้ำ และขนาดที่เล็กมาก จนเรียกได้ว่าเล็กที่สุดในโลก ในบรรดาอุปกรณ์เสริมสำหรับช่วยพิมพ์ตัวอื่นๆ รองรับการใช้งานได้ทั้ง iOS และ Android (KitKat+)

4 สัจจะธรรมแห่งความโลภ บทเรียนดีๆ ที่ได้จากกล้องฟิล์ม

ในวันที่เงียบสงบไร้ผู้คน  ได้มีสายลมอ่อนๆโชยเข้ามาในบ้าน  บ้านที่เต็มไปด้วยความตระกละของชายคนหนึ่งนาม “แมมมอน”  ผู้ที่กระหายความต้องการทุกอย่างที่ตนอยากได้  เพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปและในตอนนั้นเอง  ที่ทำให้แมมมอนได้พบกับอะไรบางสิ่ง  ที่ทำให้ถึงกับต้องแสยะยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจราวกับปีศาจก็ไม่ปาน  และนั่นก็คือ”ความงดงาม”อย่างหาที่เปรียบมิได้

 

Tam
ความโลภ  ความตระกละที่ไม่สิ้นสุด  จนไม่มีสิ่งใดมาเติมเต็มได้  แต่บัดนี้  แมมมอนได้ให้ความสนใจกับความงดงามของภาพที่ถูกถ่ายโดยกล้องรุ่นเก่าอย่าง ”กล้องฟิล์ม”  ทำให้เกิดความสนใจและสงสัยอย่างยิ่งว่า”ทำไมมันถึงได้งดงามเช่นนี้?  ทำไมตนเองถึงไม่สามารถถ่ายให้งดงามเช่นนั้นได้  ทั้งๆที่ตนเองได้ใช้กล้อง DSLR รุ่นใหม่ล่าสุด  แถมฝีมือหรือมุมมองนั้นก็ไม่ได้ด้อยกว่าใครบนโลก” มันเป็นคำถามที่ทำให้แมมมอนไม่สบายใจอย่างมาก  และด้วยความโลภที่มากมาย  ทำให้เขาอยากจะครอบครองความงดงามนั้นไว้ตลอดกาล เขาถึงกับศึกษาหาวิธีการ  ที่ทำให้ภาพงดงามด้วยอุปกรณ์(กล้องฟิล์ม)ที่เหมือนกันอย่างละเอียดถี่ถ้วน  จนได้บทเรียนหลายๆอย่าง

…..

…..

…..

บทเรียนแรก:    ความทรงจำที่มิอาจลบเลือน
บนโลกใบนี้  ไม่ว่าจะใครก็ไม่สามารถลบความทรงจำได้อย่างแน่นอน  เปรียบเทียบได้กับ ”กล้องฟิล์ม” ที่เมื่อไหร่ที่ได้กดชัตเตอร์ไปแล้ว  ก็ไม่สามารถลบภาพที่พึ่งถ่ายออกไปได้เช่นกัน  ซึ่งนั่นเป็นข้อดีสำหรับคนที่มีนิสัยเสียที่เมื่อถ่ายภาพเสร็จ 1 ภาพ  ก็จะต้องเปิดดูก่อนว่าภาพนี้งดงามหรือไม่  การกระทำเช่นนี้อาจจะทำให้เสียจังหวะในการเก็บภาพที่งดงามอย่างที่สุดก็เป็นได้

 

บทเรียนที่สอง:   ความโลภที่กัดกินกับความตั้งใจที่แข็งแกร่ง
อย่างที่รู้ “กล้องฟิล์ม” ไม่สามารถลบหรือดูรูปได้  ทำให้การถ่ายภาพต้องมีความตั้งใจมากยิ่งขึ้นเนื่องจากต้องคิดถึงสิ่งที่ได้และสิ่งที่เสียไปว่ามันคุ้มค่ากันหรือไม่  ไม่ใช่เอาแต่โลภมากถ่ายเอาเยอะเข้าว่าจนมีแต่รูปสั่วๆหาดีไม่ได้ ฉะนั้น  การจะถ่ายภาพทุกภาพเพื่อให้ได้รูปที่งดงามดั่งที่ประสงค์  เราต้องอย่าปล่อยให้ความโลภมากัดกินจิตใจที่ตั้งใจ  มิเช่นนั้นก็จะไม่มีทางได้สิ่งที่ตั้งใจแม้ความโลภจะมีมากมายแค่ไหน

 

บทเรียนที่สาม:   ความงดงามที่ใฝ่ฝัน
ทุกๆคนมีความโลภหมดทุกคน  และความโลภของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน  ในกรณีของแมมมอนนั้นคือความงดงามของภาพที่เป็นธรรมชาติ  ไม่มีการแต่งเติมใดๆ  ซึ่งหาได้จากกล้องฟิล์มที่มีความละเอียดเหมือนกันหมดเพราะเป็น “ฟูลเฟรม” ที่ทำให้ภาพมีความละเอียด งดงาม สมจริง เป็นธรรมชาติและถึงแม้ปัจจุบันจะมี ”กล้อง DSLR” ที่เป็นฟูลเฟรมแล้ว  แต่ราคานั้นแสนแพง  ไม่เหมาะกับความโลภของแมมมอนที่เอาแต่ได้เพียงอย่างเดียว

 

บทเรียนที่สี่:  การเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่งดงาม
แมมมอน  ถึงจะเป็นชายที่มีความโลภอย่างไร้ขีดกำจัด  แต่ในเรื่องการถ่ายภาพก็ยังติดอยุ่กับกรอบเดิมๆ  อย่างการถ่ายภาพที่ภาพนั้นจะต้องคมชัด  สีไม่เพี้ยน  ไม่เบลอ  ซึ่งหากได้สัมผัสกับการถ่ายภาพด้วยกล้องฟิล์มที่ไม่สามารถวัดแสงได้  อาจทำให้มีการตั้งค่าที่ผิดเพี้ยน  แต่ในบางทีถ้าออกนอกกรอบบ้าง  รูปที่เกิดจากการตั้งค่าที่ผิด  อาจจะมีมิติที่สวยงามอย่างบังเอิญก็ได้

 

สี่บทเรียนของกล้องฟิล์ม  ได้เติมเต็มสิ่งที่แมมมอนขาดหายไป   นั่นคือการมองโลกที่ย้อนกลับเพราะมนุษย์เราทุกๆคนล้วนแต่ตามหาสิ่งใหม่เพื่อมาเติมเต็มสิ่งที่ขาด  โดยไม่หยุดที่จะหันกลับมามองตนเองว่า จริงๆแล้วตัวเราไม่ได้ขาดอะไรเลย  เพียงแต่เรามักมองไปข้างหน้าจนบางทีลืมมันไป

ARM เปิดตัว Cortex-A72 และ Mali-T880 ชิปเซ็ตตัวใหม่ประจำปี 2016 ประหยัดกว่า แรงกว่า หลายเท่า

บริษัทผลิตชิปเซ็ตชื่อดัง ARM เปิดตัว ชิปเซ็ตตัวใหม่ที่จะมาในปี 2016 อย่าง CPU Cortex-A72 ที่เร็วกว่าเดิมถึง 3.5 เท่า และประหยัดพลังงานมากกว่าเดิมถึง 70% กับ GPU Mali-T880 แรงกว่ารุ่นเก่า 1.8 เท่า และประหยัดพลังงานกว่าถึง 40% มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ CoreLink CCI-500 ที่จะช่วยเสริมการทำงานให้ดียิ่งขึ้น

ผิดพลาดกันได้ (แต่ช่วยแก้ไข (อย่างรวดเร็ว) ให้ด้วย) !!

มาเลเซียแอร์ไลน์ และ แอร์เอเชีย .. เครื่องบินตกเหมือนกัน แต่ต่างกันที่แนวทางการแก้ปัญหา
ครั้งนั้นทางการมาเลเซียอิดออดเรื่องการให้ข้อมูล ทำให้การค้นหาของนานาชาติผิดที่ผิดทาง เสียเวลาไปเยอะ
ครั้งนี้ทางการอินโดนีเซียเปิดเผยข้อมูลและให้ความช่วยเหลือเต็มที่ ในที่สุดก็หากล่องดำจนเจอ
แม้กระบวนการเหล่านี้จะไม่ได้ทำให้ผลลัพธ์เปลี่ยนไป ผู้สูญเสียชีวิตมิได้ฟื้นคืน (ขอแสดงความไว้อาลัย ณ ที่นี้ด้วย) แต่กระแสชื่นชมต่อการปฏิบัติงานนั้นต่างกัน และความมั่นใจที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ก็ต่างกัน

angry1
เหมือนกับที่ช่วงหลังยักษ์ใหญ่แห่งธุรกิจอีคอมเมิร์ซในไทยบางราย ดูเหมือนจะมีประเด็นที่โดนโพนทะนาบนสังคมออนไลน์ต่อเนื่องติดต่อกันหลายครั้ง บ้างก็ส่งสินค้าแล้วเสียหาย บ้างก็ส่งสินค้าไม่ครบจำนวน บ้างก็ส่งสินค้าผิด บ้างก็ส่งสินค้าปลอม และบ้างก็ส่งกล่องเปล่า ??
กรณีหลังสุดนั้นผู้รับไหวตัวทัน แกะกล่องเปิดดูเรียบร้อย แต่พอแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ กลับได้รับคำแนะนำว่า ให้รับสินค้าหรือ “กล่องเปล่า” นั้นไปก่อน เดี๋ยวค่อยมาเคลมเงินคืนทีหลัง
และมีอีกหลายๆ ครั้งที่ผู้ซื้อผู้ซึ่งประสบโชคชะตาอันไม่ค่อยจะดีเกี่ยวกับการสั่งสินค้าออนไลน์จากยักษ์ใหญ่รายนี้ ต้องรอเงินคืนนานหลายสัปดาห์
ตลกมั้ยครับกับตรรกะป่วยๆ — ซื้อของต้องจ่ายเงินก่อน แต่พอผิดพลาดต้องรอเงินคืนเป็นเดือน
ไม่แปลกที่ว่าเวลามีบริษัทไหนโทรหรือส่งจดหมายมาเชิญให้ผมใช้บัตรเครดิตเพื่อหักบัญชีค่าใช้จ่ายโดยอัตโนมัติ ผมจะปฏิเสธไปทุกครั้ง ด้วยเพราะเหตุผลที่ว่า ไม่มีรายใดกล้าการันตีกับผมว่า หากมีการหักเงินในจำนวนที่ไม่ถูกต้อง แล้วจะสามารถคืนเงินกลับมาให้ผมได้ในเวลา 3 วันอย่างที่ผมต้องการ
จริงๆ ผมเชื่อว่าคนทำมาค้าขาย ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าที่ดีหรือไม่ดี ยังไงก็เจอปัญหาและอุปสรรค แต่เส้นที่แบ่งคั่นตรงกลางระหว่างสองฝั่งก็คือ วิธีการและความรวดเร็วในการแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้คลายกังวล
หลายอย่างเราอาจแก้ไขไม่ได้ในเวลาที่ลูกค้าต้องการ แต่การสื่อสารที่ดีและเหมาะสมก็จะช่วยคลายความกังวลเหล่านั้น ประกอบกับหากเราแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ตามหลักเหตุและผล เชื่อว่าลูกค้าส่วนใหญ่ก็ยอมเข้าใจ เพราะร้านค้าแย่ๆ เดี๋ยวนี้มีให้เห็นมากมาย ส่วนลูกค้ารายไหนที่ไม่ยอมเข้าใจและเอาไปป่าวประกาศตามเว็บบอร์ดต่างๆ ท้ายสุดคำโจมตีเหล่านั้นก็จะกลับมาประจานตนเองอยู่ดี (ซึ่งก็มีให้เห็นอยู่ตลอดเช่นกัน)
บางครั้งผมปวดหัวกับตรรกะของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคน ที่เจอบ่อยก็เช่น พอส่งสินค้าผิด หรือส่งสินค้าช้า ..
– ตอนนี้ลูกค้าเยอะมากเลยค่ะ ไม่ว่างดูปัญหาให้ >>> แต่ดันว่างขายสินค้าให้กับลูกค้ารายใหม่ !!
– เห็นใจกันบ้างสิครับ วันนึงต้องตอบคำถามทาง LINE ตั้งเยอะ >>> รอสองสามวันแล้ว ยังไม่เรียกว่าเห็นใจอีกเรอะ !!
– วุ่น เหนื่อย เครียด คุณไม่ได้เป็นคนขาย ไม่มีทางเข้าใจหรอก ปัญหาเยอะแยะ >>> เลิกอาชีพนี้ไปเถอะ !!
พวกนี้มันปัญหาของคุณคนขายทั้งนั้น สิ่งที่คุณพูดมา มันคือปัญหาของคุณ มันคือปัญหาของคนขาย และมันไม่ใช่เรื่องเหมาะสมเลยที่จะหยิบเรื่องแถๆ เหล่านี้มาใช้เป็นคำตอบให้กับลูกค้า
ก็มีแต่เมืองไทยนี่ละครับที่ใช้ LINE, Facebook, IG ขายของกันเป็นล่ำเป็นสัน แต่ท้ายสุดก็เจอปัญหา เพราะระบบมันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ขายของ ในเมื่อเลือกแนวทางแบบนี้ ก็ค่อยๆ แก้ไขปัญหากันไป
ใช่ว่าผมจะไม่เข้าใจ เพราะผมเองก็เจอสารพัดปัญหาในการทำงานเช่นกัน แค่จดใส่กระดาษ จัดเรียง และค่อยๆ ไล่ตามแก้ไปทีละอย่าง เดี๋ยวมันก็หมดเอง นอนน้อยลงอีกนิด ใช้เวลาพักให้น้อยลงอีกหน่อย ก็จะทยอยแก้ไขสิ่งต่างๆ ได้เร็วขึ้น
เชื่อเถอะครับว่า หากได้พยายามแก้ไขปัญหาอย่างตั้งใจ นอกจากลูกค้าจะไม่โกรธแล้ว เผลอๆ ยังกลับมาเป็นลูกค้ากันใหม่และแนะนำบอกต่อด้วยซ้ำ
อย่าทำตัวเป็นคอลล์เซ็นเตอร์บางค่ายที่ดีแต่ให้ฝากเรื่องไว้ และพูดท่องบทเหมือนที่ถูกสอนมาราวกับเด็กอนุบาลว่า “เดี๋ยวจะติดต่อกลับไปนะคะ” แต่รอเป็นเดือนเป็นปีก็ยังไม่มีใครตอบกลับมา
อย่าลืมว่าค้าขายออนไลน์นั้น ความมั่นใจในร้านค้าถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดในการตัดสินใจซื้อสินค้าแบบที่มือไม่ได้จับ ตาไม่ได้มองสินค้าจริง ใครสร้างความมั่นใจที่ว่าได้มากกว่าก็ย่อมได้เปรียบ
เหมือนกับที่คนไทยส่วนใหญ่แห่ไปซื้อสินค้าออนไลน์จากเว็บดีลหรือเว็บอีคอมเมิร์ซดังที่โหมโฆษณากันในทุกมีเดีย คนเลือกเพราะคนมั่นใจว่าเป็นบริษัทดูมั่นคง คงไว้ใจได้กว่าพ่อค้าแม่ค้าทั่วไป
แต่น่าแปลกที่เสียเงินสร้างแบรนด์กันไปมากหลาย กลับปล่อยให้แค่เรื่องการให้บริการและแก้ปัญหาให้ลูกค้า กลายมาเป็นสิ่งทำลายชื่อเสียงของแบรนด์ที่สะสมมานาน
เพียงแค่หาคนที่มีทัศนคติที่ดีและพร้อมช่วยแก้ปัญหาเข้ามาทำงาน ไม่ใช่แถหรือปัดความรับผิดชอบหรือเพิกเฉยต่อความเดือดร้อนของลูกค้า แค่นี้ก็กินใจผู้ซื้อไปอีกนาน  บอกตามตรง เห็นมาหลายกรณี แล้วรู้สึกเสียดายงบประมาณในการทำแบรนดิ้งแทน !!

ท้าชน Apple Pay ? Galaxy S6 จะรองรับระบบการชำระเงินผ่านมือถือด้วย

การชำระเงินผ่านมือถือกำลังจะเป็นเทรนด์ใหม่ที่เข้ามามีบทบาทต่อผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องต่อพฤติกรรมดังกล่าวหลายท่านคงพอทราบดีว่า Apple ได้เปิดฉากเดินเกมรุกด้วยระบบชำระเงินที่เรียกว่า Apple Pay ซึ่ง Samsung ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทชั้นนำที่มองเห็นโอกาสที่เปิดกว้างของการชำระเงินด้วยมือถือ จึงทำให้มีข่าวว่าเตรียมเปิดตัวระบบการชำระเงินของตัวเองภายใต้ชื่อ “Samsung Pay”

TINDER แอพฯ หาคู่ หมู่ก๊วนเยอรมัน!

tinder-dating-site-2

ที่บอกว่า Tinder เป็นแอพหาคู่ของก๊วนเยอรมันนั้นเพราะในประเทศเยอรมนีมีคนใช้แอพนี้ถึง 2 ล้านคน! (ไม่น่าเชื่อว่าชาวเยอรมันจะขี้เหง๊า ขี้เหงา) แอพฯ นี้จะค้นหาบุคคลที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับเรา หากเราถูกใจก็เพียงแค่กดไลค์ หากเค้ากดไลค์เรากลับ ก็เป็นอันว่าการจับคู่นั้นเสร็จสมบูรณ์  ระบบก็จะแนะนำให้เราคุยผ่านแชทและสานสัมพันธ์ต่อกันเอาเอง

Jonathan Badeen หนึ่งในผู้ก่อตั้งแอพฯ Tinder บอกว่าประเทศเยอรมนีเป็นตลาดที่สำคัญมาก เมื่อต้นปีที่แล้ว แอพฯ Tinder ได้เป็นสื่อกลางประชาสัมพันธ์บอกกลุ่มเป้าหมายเพื่อรณรงค์โรคเอดส์   ในกลางเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ก็จะมีการเปิดตัว Tinder Plus แอพฯ รูปแบบใหม่ที่คุณภาพเยี่ยมกว่าเดิม โดยเพิ่มระบบ Location ให้เราสามารถค้นหาคนที่อยู่นอกพื้นที่ และสามารถเลือกคนที่เราเคยกดทิ้งไปกลับมากดไลค์ใหม่ได้อีกด้วย

ไม่น่าเชื่อว่าแอพฯ หาคู่ที่ฮิตๆ ในประเทศเยอรมันอย่าง Tinder กลับไม่ค่อยได้รับความนิยมในเมืองไทยเท่าไรนัก แอพฯ แชทฮิตๆ ในประเทศไทยก็มีมากมายอย่างเช่น Wechat,  Beetalk, Badoo, Skout, Available, WhosHere ฯลฯ แต่ถ้าจะให้เหมือน Tinder ที่สุดก็คงจะเป็นแอพฯ Noonswoon เพียงแต่ต่างกันที่ เจ้าแอพฯ Noonswoon จะแนะนำแต่คนที่มีความสนใจคล้ายๆ เราในทุกๆ เที่ยงวัน เพียงวันละ 1 คนเท่านั้น

นอกจากแอพฯ หาคู่จะมีข้อดีที่ทำให้เราได้คู่ดั่งใจหวังแล้ว แต่อันตรายที่เกิดจากแอพฯประเภทนี้ก็มีให้เห็นอยู่มาก    ดีไม่ดีอาจเปรียบเสมือนกับการขอมี Sex แบบสุภาพ  เพราะสิ่งที่เห็นก็เป็นเพียงผิวเผินอาจเกิดความเหงา ซึ่งรักแท้ที่จะเกิดขึ้นจากแอพฯ ประเภทนี้ที่จริงมันเป็นไปได้ยากมาก เพราะนอกจากจะเห็นหน้าจากรูปที่ผ่านการปรับแต่งด้วย Camera 360 แล้วนิสัยใจคอก็ไม่ได้รู้จักกันจริงๆ ถ้าจะเล่นก็ต้องระวังตัวกันให้ดีนะโดยเฉพาะสาวๆ..แล้วจะหาว่าไม่เตือน

Q2041A493434

 

ที่มา techhivemarketingoops

Samsung เตรียมลุยตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางเต็มอัตราศึก เปิดตัว Samsung Galaxy A5 และ Galaxy A7 สวย เก่ง คุ้ม

ซัมซุงแห่งประเทศไทย หรือ ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว Samsung Galaxy A5 และ Galaxy A7 สมาร์ทโฟนระดับกลางสเปคพรีเมี่ยม และประกาศเตรียมเดินหน้าลุยตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลาง พร้อมเตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนอีก 15 รุ่น เร็วๆนี้

น่าทึ่ง…ผู้ใช้ Facebook 750 ล้านคนทั่วโลก Log on ผ่านมือถือ

ล่าสุด Facebook รายงานข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์คถึงพฤติกรรมผู้ใช้ ซึ่งมีจำนวนมากใช้การเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟนเป็นหลัก โดยผู้ใช้ Facebook จากจำนวน 1.39 พันล้านคนทั่วโลก 890 ล้านคนเข้าใช้งาน Facebook ทุกวัน เป็นแบบ User Active (DAUs) และผู้ใช้ 745 ล้านคน Log-in ใช้งานผ่านทางสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในระบบ นอกจากนี้ผู้ใช้ 1.18 พันล้านคน เข้าใช้ Facobook บนอุปกรณ์โมบายของตนอย่างน้อยเดือนละครั้ง (MAUs)

facebook-logo

DAUs จำนวน 890 ล้าน เป็นตัวเลขโดยเฉลี่ยในเดือนธันวาคม 2014 เพิ่มขึ้น 18% จากปีต่อปี สำหรับโมบายเพิ่มขึ้น 34% และ MAUs มีจำนวน 1.39 พันล้านคนจากเดือนธันวาคม 2014 เพิ่มขึ้น 13% จากปีที่แล้ว ส่วน MAUs ที่เป็นโมบายอยู่ที่ 1.19 พันล้าน เพิ่มขึ้นถึง 26% โดยใน US และ แคนาดามีจำนวนผู้ใช้ในแต่ละวันสูงถึง 157 ล้านคน ส่วนยุโรปและเอเซียอยู่ที่ประมาณ 217 ล้านคนและ 253 ล้านคนตามลำดับ จากผลสำรวจในไตรมาสสุดท้ายของปี 2014 ในภูมิภาคเอเซียนั้นมีจำนวนผู้ใช้ที่เข้าถึง Facebook ในการเข้าใช้อย่างน้อยเดือนละครั้งมากที่สุด ตามมาด้วยยุโรป 301 ล้านคนและ US และ Canada 208 ล้าน

facebook-user

นอกจากนี้ยังมีรายงานเกี่ยวกับอัตราการเติบโตและรายได้ที่สูงขึ้นถึง 49% ด้วยยอดรายได้ 3.85 พันล้านเหรีนญ เพิ่มขึ้นจากรายงานที่ได้จากไตรมาสที่ผ่านมาซึ่งมีอยู่ 1.59 พันล้านเหรียญ โดยเป็นรายได้ที่มาจากการโฆษณา นอกจากนี้ Facebook ยังมองว่าในปีนี้มีโอกาสที่จะมีผลกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นถึง 96% ด้วยรายได้ที่มากถึง 2.94 พันล้านบาท ในขณะที่รายได้รวมจะอยู่ที่ 12.47 พันล้านเหรียญที่นับว่าสูงขึ้นถึง 58% เลยทีเดียว นับว่าเป็นตัวเลขที่สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจได้ไม่น้อย

ที่มา : ndtv

ยอดขาย Motorola ช่วยดันรายได้ Lenovo ทะยานสูงขึ้น

ตามการเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ในปี 2014 ของ Lenovo ชี้ชัดถึงยอดขายสมาร์ทโฟนแบรนด์ Motorola ที่ซื้อมาจาก Google สามารถขายได้มากกว่า 10 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ผ่านมา สนับสนุนให้ Lenovo มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

หูฟังชิคๆ ที่ไม่มีวันพัน!!! Cord Cruncher

11 12

 

ปัญหาหูฟังพันกันจะหมดไป บริษัทน้องใหม่ Cord Cruncher  ประสบความสำเร็จในการผลิต หูฟัง และสายชาร์ตแบต ที่จะช่วยถนอมและป้องกัน ไม่ให้มันพันยุ่งเหยิงในระหว่างที่เรานำเก็บใส่กระเป๋า

ลักษณะของหูฟังที่ว่านี้จะถูกหุ้มด้วยปลอกยาง มันจะช่วยรักษาสายเหล่านี้ให้ไม่พันกันยุ่งเหยิง และเมื่อเราต้องการใช้ก็ทำได้โดยจับตรงส่วนปลายสายของปลอกยางแล้วยืดออกโดยที่มีความยาวประมาณ 40 เซนติเมตรและประมาณ 100 เซนติเมตร ในขณะที่ยืดออก เวลาเก็บก็แค่ดึงยางยืดออกให้หุ้มกับสายชาร์จหรือหูฟังของเราเท่านั้น นอกจากนี้จะนำมาทำสายรัดข้อมือก็ไม่ว่ากัน เจ๋งดี ข้อควรระวังในการใช้ก็จะมีแค่ ห้ามบีบและงอ (แต่ม้วนได้) ที่หุ้มเด็ดขาดถ้าไม่อยากให้มันพังก่อนเวลาอันควร

ดูไปดูมาสรรพคุณก็คงจะคล้ายๆ กับเม็ดบีทที่ร้อยสายชาร์จแบตมือถือ..หรือเปล่า? ถ้าสนใจก็ลองเข้าไปที่เว็บของ cordcruncher ได้เลยราคาก็อยู่ที่ 24.99 – 29.99 ดอลลาร์หรือประมาณ 817 – 977 บาท บวกลบไม่เกินนี้ ส่วนถ้ายังงงๆ กับวิธีใช้อยู่ลองไปดูวิธีใช้ที่ http://vimeo.com/51323510 กันเลย

13  14

ที่มา spiegelneuerdingscordcrunchergadgetreview

 

 

 

Hot Issue