Home Blog Page 1549

Microsoft เตรียมนำผู้ช่วยอัจฉริยะ Cortana ลงบนระบบ iOS และ Android

Microsoft เตรียมนำบริการของตัวเอง เข้าสู่ตลาดแพลทฟอร์มโมบายอื่นๆ เพิ่มอีกหนึ่งชิ้น ด้วยการพัฒนาผู้ช่วยอัจฉริยะของตนเอง Cortana ทำเป็นแอพพลิเคชันเข้าสู่ Android และ iOS

Google ยืนยันใช้ USB Type-C บน Android ด้วย

หลังจากการเปิดตัว MacBook รุ่นใหม่ไปไม่กี่วันนี้ พร้อมทั้งหันมาใช้ USB Type-C เป็นพอร์ทเชื่อมต่อแบบครอบจักรวาลในเครื่อง และล่าสุด Google ได้ยืนยันแล้วว่าจะนำ USB Type-C ไปใช้บน Android ในอนาคตอย่างแน่นอน

เค้าห้ามนั่ง งั้นเรายืน(นั่ง)ก็ได้ “Mogo” ทางเลือกใหม่ของคนขี้เมื่อย

mogo2“ก็คนมันเมื่อยอ่ะ” ทันทีที่ได้เห็นเจ้านี้ อยู่ดีๆประโยคนี้มันก็ลอยเข้ามาให้หัวซะอย่างงั้น ก่อนอื่นเลย ผมต้องขอคารวะคนคิดเจ้าสิ่งนี้ก่อน ที่สามารถคิดค้นสุดยอดเครื่องมือเพื่อมวลมนุษย์ชาติ(?)อย่างเจ้านี้ได้ ชื่อของมันก็คือ “Mogo” หรือชื่อเต็มว่า “Mogo portable seat” ผลิตโดย Focal Upright เก้าอี้ยืนพกพา (ใช่เปล่าหว่า…) ที่จะทำคุณสามารถยืนได้ตลอดทั้งวันโดยที่ไม่เมื่อย เหมาะสำหรับคนที่ต้องอยู่ในสภาวะยืนนานๆ เช่น รายงานข่าว พรีเซ้นงาน ยืนเข้าแถว ยืนต้อนรับลูกค้า หรือ ยืนเคารพผู้พัน !! (เกรงว่าจะโดนไล่ให้ไปวิดพื้น ไม่ก็หนักกว่านั้นแน่ๆ) และที่สำคัญคือ เวลาเรานั่ง มันจะเหมือนกับว่าเรากำลังยืนอยู่ด้วย แบบนี้

11303

สำหรับเจ้านี้ เดิมจุดประสงค์หลักตามที่แหล่งข่าวเขาว่ามา คือ มันทำมาเพื่อ “โต๊ะยืน” คือเวลาเราไปห้องสมุด หรือ ห้องค้นข้อมูล เราก็จะเห็นโต๊ะคอมฯที่ไม่มีที่นั้ง แต่เราต้องยืนเล่นแทน แน่นอนว่าเวลาใช้ไปนานๆมันจะเมื่อย !! เจ้านี้แหล่ะจึงมีเพื่อการนี้

mogoมาดูที่ลักษณะของ Mogo กันหน่อย สำหรับเจ้านี้ ก็ไม่มีกลไกพิศดารอะไรมาก มีแค่เบาะรองนั่ง กับ ท่อนอลูมิเนียมที่สามารถแยกร่างได้ และพับเก็บได้ แต่วัสดุที่ใช้กลับพรีเมี่ยมน่าดู อย่างแรกตรงปลายค้ำยันด้านล่างจะเป็นยาง Soft Durometer Rubber ใช้สำหรับปักที่ที่เราจะนั้งโดยไม่ให้ลื่น เบ่าะนั่งเป็น Fiberglass-Reinforced Nylon & Turf tip อย่างนุ่มและกันกระแทก และสุดท้ายตรงลำตัวใช้วัสดุแบบ Extruded Recyclable Aluminum ข้างในยัด EVA Foam แข็งแรงทนทาน

ดูจากวัสดุที่ใช้แล้ว เรียกได้ว่า “เพื่อความสบายของมวลมนุษย์เราจัดเต็ม” จัดเต็มจริงๆครับทั้งวัสดุและราคาที่ปาเข้าไปที่ 124 เหรียญฯ (ประมาณ 4 พันบาท) กันเลย สำหรับใครที่สนใจและอยากลองละลายทรัพย์เล่น ไปดูได้ที่ Store Focal Upright เลยครับ

คลิปตัวอย่างการใช้งาน

https://www.youtube.com/watch?v=fO1up1hbCN0

ที่มา : Businessinsider

สุดซึ้ง !! ข้อมูลใหม่เผยว่า Tim Cook เคยเสนอตับของตัวเองให้ Steve Jobs ฟื้นตัวมาแล้ว แต่สุดท้าย…

3043628-poster-p-1-tim-cook-tried-to-offer-steve-jobs-a-portion-of-his-liver

ในช่วงปีสุดท้ายของ Steve Jobs เคยมีเหตุการณ์บันทึกไว้ว่า ครั้งหนึ่ง Tim Cook เพื่อนร่วมงานและคู่หูสำคัญ เคยเสนอตับส่วนหนึ่งของตัวเองให้กับ Steve Jobs เพื่อให้สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ แต่กลายเป็นว่า กลับถูกปฏิเสธ พร้อมกับโดนด่ากราดชุดใหญ่อีก แม้ว่า Tim Cook จะพยายามเสนอว่า มันจะไม่มีผลเสียกับเขา แถมยังมีโอกาสความสำเร็จความสูงมากด้วย แต่สุดท้าย Steve Jobs ก็ปฏิเสธอยู่ดี

3042432-inline-i-1-becoming-steve-jobs-steves-legacy-life-is-too-short

จากส่วนหนึ่งของหนังสือชีวประวัติ Steve Jobs เล่มใหม่ล่าสุด Becoming Steve Jobs (หรือชื่อเต็มว่า Becoming Steve Jobs The Evolution of a Reckless Upstart into a Visionary Leader) ที่เขียนโดย Rick Tetzeli บรรณาธิการ Fast Company และ Brent Schlender อดีตผู้สื่อข่าวจาก Fortune และ The Wall Street Journal โดยหนังสือเล่มดังกล่าวนี้ ข้างในจะกล่าวถึง เรื่องราวความลับน่าอัศจรรย์ของ Steve Jobs ที่ยังมีอีกมากมายและยังไม่มีใครล่วงรู้ ในช่วงโปรโมทหนังสือนั้น ก็ได้มีการเอาเนื้อหาบางส่วนของเล่มมาเผยแพร่ โดยจากทางเว็บ Fast Company นี้เอง ซึ่งเนื้อหาที่ว่านี้ ก็นับว่าเป็นข้อมูลใหม่ที่น่าสนใจมากๆ โดยมีใจความดังนี้

“One afternoon, Cook left the house feeling so upset that he had his own blood tested. He found out that he, like Steve, had a rare blood type, and guessed that it might be the same. He started doing research, and learned that it is possible to transfer a portion of a living person’s liver to someone in need of a transplant. About 6,000 living-donor transplants are performed every year in the United States, and the rate of success for both donor and recipient is high. The liver is a regenerative organ. The portion transplanted into the recipient will grow to a functional size, and the portion of the liver that the donor gives up will also grow back.”

บ่ายวันหนึ่ง Cook กลับมาถึงบ้านอย่างอารมณ์เสีย หลังจากที่เขาได้ไปตรวจและพบว่า เลือดของเขากับ Steve นั้น เป็นเลือดชนิดหายากด้วยกันทั้งคู่ และยังคาดอีกว่า น่าจะสามารถเข้ากันได้อีกด้วย เขาจึงลองไปศึกษาวิจัยด้วยตนเองดูว่า มันจะเป็นไปได้ไหมถ้าหากจะลองปลูกถ่ายตับบางส่วน จากอีกคนไปสู่อีกคนดู ทั้งนี้มีสถิติว่า ในสหรัฐอเมริกานั้นมีการเปลื่ยนถ่ายตับมากถึง 6,000 ครั้งต่อปี และยังมีอัตราการความสำเร็จของการปลูกถ่ายทั้งผู้บริจาค และ ผู้รับนั้นสูงมาก

ทำไม Tim Cook ถึงอารมณ์เสีย ? มันคือต่อจากนี้ครับ หลังจาก Tim Cook พบว่า เลือดของเขากับ Steve Jobs นั้นมีความเข้ากันได้ และรู้ว่ามีโอกาสสูงมากที่การปลูกถ่ายตับของเขาให้กับ Steve Jobs นั้นจะประสบความสำเร็จสูง โดยที่เขานั้นจะไม่เป็นอันตรายอีกด้วย เขาจึงได้เข้าไปหา Steve Jobs ที่กำลังพักอยู่ในบ้าน ที่เมือง Palo Alto และได้ยื่นเสนอตับของเขาให้ แต่ยังไม่ทันไร Steve Jobs ก็ปฏิเสธแบบทันที !! พร้อมตะโกนอย่างเกี้ยวกราดว่า “No !! I’ll never let you do that. I’ll never do that.” ไม่ ผมไม่ยอมให้คุณทำแบบนั้นแน่ ไม่มีวัน !!! และมีอีกชุดใหญ่…. แม้ Tim Cook จะโชว์ผลการตรวจจากแพทย์ว่ามันจะไม่เป็นอะไร กระนั้นแล้ว Steve Jobs ก็ยังคงปฏิเสธอยู่ดี….. อย่างไรก็ตามแม้จะถูกด่ากราดไปชุดใหญ่และถูกปฎิเสธจนทำให้อารมณ์เสีย แต่ถึงอย่างนั้น Tim Cook ก็บอกว่า

“Somebody that’s selfish,” Cook continues, “doesn’t reply like that. I mean, here’s a guy, he’s dying, he’s very close to death because of his liver issue, and here’s someone healthy offering a way out. I said, ‘Steve, I’m perfectly healthy, I’ve been checked out. Here’s the medical report. I can do this and I’m not putting myself at risk, I’ll be fine.’ And he doesn’t think about it. It was not, ‘Are you sure you want to do this?’ It was not, ‘I’ll think about it.’ It was not, ‘Oh, the condition I’m in . . .’ It was, ‘No, I’m not doing that!’ He kind of popped up in bed and said that. And this was during a time when things were just terrible. Steve only yelled at me four or five times during the 13 years I knew him, and this was one of them.”

“หากเป็นคนอื่นที่เห็นแก่ตัว คงไม่มีทางตอบแบบนั้นแน่ ผมหมายถึงว่า ชายคนนี้(หรือน่าจะอารมณ์ประมาณว่า “ไอ้หมอนี้”) คนที่กำลังจะใกล้ตายเพราะตับมีปัญหาอยู่รอมร่อนี้ และ ตรงหน้าเขาก็มีคนสุขภาพดีมานำเสนอทางเลือกให้ ผมพูดว่า Steve ผมสุขภาพสมบูรณ์ดี ผมลองเช็คดูแล้ว นี้ไงผลการตรวจ ผมสามารถทำได้ และผมจะไม่เสี่ยงด้วย ผมไม่เป็นไร แต่เขากลับไม่สนใจที่ผมพูด(อนุญาติเติมคำเพื่ออรรถรสนะครับ) และตะโกนว่า ไม่มีวัน !! คุณแน่ใจหรือที่ต้องการแบบนี้ !! ไม่มีวัน !! ให้ผมคิดดูก่อนเรอะ ไม่มีวัน !!!  โอ้ …..ไม่ ผมไม่ยอมให้คุณทำแบบนั้นแน่ !!! เขาลุกขึ้นจากเตียงทันทีในขณะพูด ตลอดที่เคยร่วมงานกันมา 13 ปี Steve เคยตะคอกใส่ผมเพียง 4-5 ครั้งเท่านั้น นี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่ผมรู้จักเขาดี และนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของเขา”

เรียกได้ว่า เป็นการแสดงให้เห็นถึงอีกมุมที่คาดไม่ถึงทั้ง Steve Jobs และ Tim Cook เลยทีเดียว เคยมีหนังสือบางเล่มที่เขียนถึงบุคลิกของ Steve Jobs ว่า เป็นคนอารมณ์ร้าย และ เห็นแก่ตัว อารมณ์ร้ายนี้ถูก แต่เห็นแก่ตัวนี้ไม่ใช่แน่ๆ จากข้อมูลข้างต้นก็แสดงให้เห็นแล้ว ส่วนที่คาดไม่ถึงอีกอย่างก็คือ ความสัมพันธ์ของทั้งสองที่มีความลึกซึ้งเกินคาด(อย่าคิดลึก) แสดงให้เห็นว่าตัว Tim Cook เองนั้นแคร์เจ้านายของตนเองมากๆ เช่นเดียวกับ Steve Jobs เองก็เหมือนกัน 

สำหรับหนังสือเล่มนี้ จะมีจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ซึ่งในระหว่างนี้ก็กำลังมี Pre-Order ในเว็บไซต์ Amazon อีกด้วย สำหรับพวกเรานั้น ไม่ต้องรีบร้อน เชื่อว่าหนังสือดีๆแบบนี้จะต้องมีแปลไทยอย่างแน่นอน ในเร็วๆนี้ แต่ถ้าใครเทพอังกฤษ ก็ไปจัดมาก่อนได้เลยครับ

ที่มา : Time ภาพ(ข้อมูล) : Fastcompany

จินตนาการล้ำลึก มาดูเหล่าดีไซน์เนอร์ ช่วยกันออกแบบ Apple Car กัน

car91จาก โครงการสุดสะท้านโลก ของ Apple ที่ประกาศว่า จะขอมาเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์อย่างเป็นทางการในเร็วๆนี้ ระหว่างที่ Apple กำลังหาคนมาร่วมพัฒนาโครงการ “Titan” รถไฟฟ้าขับเคลื่อนเองได้อยู่นั้น ทางเว็บไซต์ Freelancer.com ก็ได้ลองเปิดให้นักออกแบบมาช่วยกันดีไซน์รถของ Apple ซึ่งไม่ได้เป็นการออกแบบเล่นๆนะครับ แต่เป็นการแข่งขันเป็นจริงเป็นจังกันเลย ในชื่อว่า “The most innovative design for the Apple electric car” ก็มีแข่งกันไปในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้เอง จนถึงขณะนี้ ก็มีผู้เข้าร่วมออกแบบแล้วถึง 135 คน โดยผลงานของแต่ละคนนั้น จะสวยงาม(หลุดโลก)ขนาดไหนนั้น ทางเว็บ Businessinsider ได้คัดออกมาให้ดังนี้

car91

 แลมโบกินี่ ? ล้อ Tron สไตล์ !! Entry #28 ออกแบบโดย redahaidour

car10

Apple สไตล์ !! (เขาว่างั้นอ่ะครับ) Entry #38 ออกแบบโดย majick103

54f9312017a01_thumb900

กระบะ or เก๋ง ? เอาซักอย่างซิฮะ Entry #115 ออกแบบโดย GurMaster

car4

กระจกแบบ 360 องศา คิดว่าไงครับ ? Entry #97 ออกแบบโดย GraphiteLines

car5

แว่บแรกคุณคิดเหมือนผมไหม…….Entry #55 ออกแบบโดย gauravvermacse

car6

มันคือศิลปะ !!! (ทำเสียงแบบ อ.เฉลิมชัย) Entry #108 ออกแบบโดย alastaircrewe

car7

อืม………Entry #129 ออกแบบโดย mi1en

car9

เขาบอกว่า ตรงล้อจะมีโลโก้ Apple ส่องสว่างด้วย Entry #100 ออกแบบโดย maximchernysh

car3

เห็นเขาว่า ได้รับแรงบันดาลใจจาก Mini-Van Entry #110 ออกแบบโดย MSabor16

แต่ล่ะคันนี้ เรียกได้ว่า “รถต่างดาวชัดๆ” แต่ดูแล้วเหมือนออกแบบในสไตล์ “luxury” เน้นหรู เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ของ Apple ยังไงยังงั้น จะเห็นได้ว่า บางคันก็ออกแบบคล้ายพวก Sport Car บางคันก็เหมือนรถหรูอย่าง BMW ไม่ก็ Benz กับ บางคันก็……บินไปแล้ว ทั้งนี้ก็ต้องมาลุ้นกันว่า ใครจะเป็นผู้ชนะ และจะส่งผลให้ รถจากโครงการ Titan ของ Apple จะมีหน้าตาออกมาแบบไหน รอติดตามกันต่อไป

สำหรับภาพทั้งหมดนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ใครอยากดูแบบเต็มๆ ไปดูได้ ที่นี้  หรือใครสนใจจะเข้าร่วมประกวดด้วย ก็จัดเลยครับ

ที่มา : Businessinsider

 

Atrias หุ่นยนต์ขายาวจอมอึด!!!

หุ่นยนต์ขายาวนามว่า Atrias สร้างและออกแบบโดยมหาวิทยาลัย Oregon State University ด้วยลักษณะขาของมันที่ยาว แขนและขาของมันก็ทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ และน้ำหนักของมันก็เบ๊า เบา ทำให้มันเคลื่อนที่ได้ว่องไวกว่าหุ่นยนต์ทั่วไปเลยล่ะ

atrias

เจ้าหุ่นยนต์ Atrias นั้นที่จริงมันเป็นหุ่นยนต์ที่เป็นต้นแบบในการตอบสนองเรื่องภัยพิบัติต่างๆ อย่างเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผู้ทดสอบได้ทำการทดสอบเจ้าหุ่นสองขานี้ทั้งเตะ ทั้งถีบ เอาลูกบอลปาใส่ มันก็สามารถทรงตัวได้ดีเลยทีเดียว

โดยหุ่นตัวนี้จะต้องแสดงความสามารถของมันบนเวที DARPA Robotics Challenge ที่จะมีขึ้นในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ และหากอยากรู้จัก Atrias กันมากขึ้นก็สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของมันได้ที่ทวิตเตอร์ @ATRIASrobot ทาง Google+ และ ทาง Youtube  กันได้เลยยย

ที่มา: engadget

 

ปลอกคอ GPS พูดคุยกับสุนัขระยะไกล

เดี๋ยวนี้ปลอกคอ GPS สำหรับสัตว์เลี้ยงนั้นมีมากมาย บริษัท Haier ก็ลองหันมาผลิตกับเค้าดูบ้าง แต่ความพิเศษที่ทำให้ปลอกคอ GPS นี้ไม่เหมือนกับรุ่นอื่นๆ ก็คือ การเรียกหาสุนัขจากปลอกคอเสมือนกับเราพูดคุยกับสุนัขผ่านโทรศัพท์นั่นเอง

haier-smart-dog-collar-640x640โดยเราสามารถติดตามดูความเคลื่อนไหวของมันผ่านทางสมาร์ทโฟนด้วยระบบ GPS เพื่อให้เรารู้ว่าน้องหมาจอมซนของเราออกไปวิ่งเล่นอยู่ที่ไหน และถ้ามันออกนอกบริเวณไกลเกินกว่าที่กำหนด มันจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนมาที่เราด้วยล่ะ

ส่วนปุ่มสีแดงที่อยู่ที่ปลอกคอนั้น เป็นปุ่มฉุกเฉินที่ให้เราสามารถบันทึกหมายเลขฉุกเฉิน โดยบริเวณปลอกคอจะมีไมโครโฟนและลำโพงอยู่ เพื่อให้เราสามารถพูดคุยกับสุนัขได้ในระยะไกล เพื่อให้เราเช็คว่ามันยังมีชีวิตอยู่ดีใช่มั้ย และเรียกให้มันกลับบ้าน

ปลอกคอนี้ได้ออกแบบให้เหมาะกับสุนัขมากที่สุด สายทำมาจากหนัง และตอนนี้ก็ผลิตแค่ขนาดสำหรับสุนัขเท่านั้น ซึ่งผู้ผลิตจะวางขายก่อนสิ้นปีนี้ จะวันที่เท่าไรนั้นคงต้องติดตามดูกันอีกที

ส่วนราคาก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 100 – 150 ดอลลาร์ ( 3,200 – 4,900 บาท ) ถึงแม้ว่าราคาอาจจะสูงอยู่ซักหน่อย แต่มันก็คุ้มอยู่ไม่น้อย เพราะเราจะได้ไม่ต้องคอยกังวลหากสัตว์เลี้ยงของเราหายไปยังไงล่ะ

ที่มา: digitaltrends

รีวิว Zyxel NSA310S – NAS บ้านๆ ที่รองรับ Hybrid Cloud

เมื่ออุปกรณ์ไอทีภายบ้านมีจำนวนมากขึ้น ทั้งคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต และยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เริ่มเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น เริ่มจากสมาร์ททีวีและยังมีอื่นๆ ตามมา สิ่งสำคัญก็คือพื้นที่เก็บข้อมูลที่สามารถแชร์ให้อุปกรณ์ทั่วทั้งบ้านสามารถเรียกใช้งานร่วมกันได้อย่างสะดวก ดังนั้น NAS จึงเป็นอุปกรณ์ที่หลายๆ คนเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะ NAS ขนาดเล็กสำหรับใช้งานตามบ้านทั่วไป

โนคี (Noke) ที่ล็อกจักรยานไร้กุญแจ!

โนคี (Noke) ที่ล็อกจักรยานบลูทูธ จากการระดมทุนในโครงการของ Kickstater  ความสร้างสรรค์ของมันอยู่ที่่การใช้บลูทูธในการล็อกจักรยาน โดยไม่ต้องพกลูกกุญแจให้ระแวงว่ามันจะหายอีกต่อไป

noke-lock-3-970x548-c

โดยจักรยานตัวนี้มันจะเชื่อมสัญญาณบลูทูธจากโทรศัพท์ของเราไปยังที่ล็อกจักรยาน เพียงแค่เปิดแอพและคลิกล็อกเท่านั้น อีกทั้งมันยังมีสัญญาณ GPS เพื่อช่วยเราจำว่าจักรยานเราอยู่ที่ไหน แถมมีสัญาณเตือนเมื่อมีคนมาขโมยด้วย (เสียงดังไกลถึง 50 เมตรเชียวนะ)

และไม่ต้องห่วงเรื่องแบตว่าจะหมดเพราะว่าที่ล็อกกุญแจโนคีอายุของแบตเตอรีอยู่ได้นาน 5 – 6 เดือน เมื่อแบตเตอรีเหลืออยู่ประมาณ 20% มันก็จะเตือนผ่านแอพให้เราเอาไปชาร์จซะ

คงมีคนคิดว่า แล้วถ้าแบตมือถือหมดล่ะจะทำยังไง??? ด้วยฟังก์ชัน Quick-Click จะทำให้เราสามารถคลิกรหัสลับตรงที่ล็อกจักรยานได้เลย

โนคี (Noke) สามารถใช้งานได้กับระบบ iOS Android หรือ Windows Phone ก็ได้ นอกจากนี้ยังมีแพลนว่าจะให้มันใช้งานได้กับสมาร์ทวอทช์ด้วย

หากใครสนใจก็ลองเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ Kickstater ซึ่งตอนนี้เปิดรับระดมทุนอยู่ การออกแบบที่ดูสวยงามน่าใช้ บวกกับความสามารถที่หลายหลายขนาดนี้ ชวนให้อยากครอบครองซะเหลือเกิน

ที่มา: digitaltrends

Robert Downey Jr หรือ Iron man ทำเซอร์ไพรเด็กพิการ 7 ขวบด้วยการมอบแขนเทียม

“Iron man” หรือ Robert Downey Jr ซูเปอร์ฮีโร่มาดกวนจากมาเวลที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ได้เดินทางไปเซอร์ไพรซ์เด็กน้อยพิการแขนวัย 7 ขวบ ด้วยการมอบแขนจักรกล

Hot Issue