Home Blog Page 1548

ไม่ฮิตอย่างที่คิด เมื่อผลสำรวจพบว่า Apple Pay มีผู้ใช้งาน iPhone 6 เพียง 6% เท่านั้นที่ใช้

2015-03-22-image-6หลังเปิดตัวกันไปเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว เมื่อตอนที่ iPhone 6/6 Plus ได้เผยตัวเองให้ทั่วโลกยลโฉมเป็นครั้งแรก (หรือเปล่า ?) Apple ก็ได้ชูฟังค์ชั่นใหม่ที่จะมากับเครื่องดังกล่าวอย่าง Apple Pay ทางเลือกใหม่ของการ Shopping ที่ไม่ต้องควักเงินอีกต่อไป  โดยจะใช้สมาร์ทโฟนเป็นตัวกลางจ่ายนั้นเอง ยอบรับว่า ในตอนนั้นฟังดูแล้ว ก็น่าสนใจไม่น้อย (โดยเฉพาะ NFC บน Apple นี้แหล่ะ)

ปัจจุบันกลับกลายเป็นว่า เมื่อมีรายงานจาก Apple Pay มีผู้ใช้งานเพียง 6% เท่านั้นเอง ส่วน 94% ไม่เคยใช้งานเลย และอีก 85% บอกว่า ไม่อยากไปยุ่งกับมันเลย…. ทำให้ทาง Apple ต้องเร่งจัดทำสติ๊กเกอร์ที่เป็นสัญลักษณ์ Apple Pay ตามห้าง และ ร้านสะดวกซื้อ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็ต้องมาดูกันต่อแนวคิดนี้จะช่วยให้คนหันมาสนใจได้มากแค่ไหนกันต่อไป

ส่วนลักษณะการติดสติ๊กเกอร์จะต้องติดให้เห็นแบบชัดๆตามนี้
Apple-sends-out-decals-to-merchants-to-promote-Apple-Pay (1)

บริเวญหน้าเคาท์เตอร์ต้องติดให้เห็นชัดๆ
Apple-sends-out-decals-to-merchants-to-promote-Apple-Payหน้าร้านจะต้องมีติดสูงจากพื้นดินอย่างน้อย 50 เมตร ให้เห็นในระดับสายติด

ที่มา : Techspot ภาพ : phonearena

แอพฯ นกสีฟ้าเตรียมเพิ่มลูกเล่นใหม่ ให้วีดิโอเล่นอัตโนมัติ

หลังจากที่เมื่อไม่นานมานี้ทวิตเตอร์เพิ่มลูกเล่นใหม่ให้เราสามารถลงวีดิโอบนหน้าไทม์ไลน์กันไปแล้ว ตอนนี้ทวิตเตอร์ก็ได้คิดที่จะเพิ่มลูกเล่น ให้วีดิโอบนหน้าไทม์ไลน์เคลื่อนไหวได้อัตโนมัติล่ะ

twitter-update-v6-440x292-c

ปกติแล้ววีดิโอในทวิตเตอร์นั้นจะเป็นภาพนิ่งหากเราอยากดูจึงค่อยคลิ้กเข้าไป แต่ตอนนี้ทวิตเตอร์ก็ได้พัฒนาวีดิโอให้เล่นได้อัตโนมัติเมื่อเราเลื่อนหน้าไทม์ไลน์ไปเจอ

แต่การเล่นวีดิโออัตโนมัติบนทวิตเตอร์นั้น จะไม่มีเสียงวีดีโอมากวนใจ เราจะเห็นภาพเคลื่อนไหวเป็นแค่ภาพตัวอย่างเพียง 6 วินาทีวนลูปอยู่อย่างนั้นเพื่อดึงดูดความสนใจให้เราอยากที่จะกดเข้าไปดู และถ้าหากอยากดูเต็มๆ ก็เพียงแค่คลิ้กเข้าไปดู ภาพวีดิโอตัวเต็มพร้อมเสียงก็จะปรากฎขึ้น

ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในขั้นทดลองเท่านั้น ซึ่งหากทำออกมาแล้วผลที่ออกมาผู้ใช้ทวิตเตอร์ส่วนใหญ่ไม่พอใจทางนักพัฒนาก็จะรีบเอาฟีเจอร์นี้ออกทันที

ที่มา: digitaltrends

Smartstones หินสื่อสารผ่านการสัมผัส

Smartstones อุปกรณ์สื่อสารชิ้นแรกที่ไม่ต้องใช้คำพูดในการสื่อสาร แต่ให้ใช้การสัมผัสแทน โดยจุดประสงค์หลักก็เพื่อเอาไว้ให้เราติดต่อกับเด็กๆ ผู้สูงวัย หรือคนป่วยที่มีปัญหาด้านการพูดนั่นเอง ซึ่งหากคนธรรมดาอย่างเราๆ ต้องการใช้เจ้า Smartstones Touch ก็ไม่ว่ากัน

smartstones-touch-002-970x646-c

ลักษณะของ Smartstones ได้ออกแบบให้มีลักษณะเหมือนกับก้อนหิน ด้วยขนาดที่เล็กทำให้พกพาได้สะดวกสบาย โดยสามารถทำเป็นเครื่องประดับไว้ที่ข้อมือ หรือห้อยคอก็ได้ ซึ่งเราจะใช้ Smartstones นี้เชื่อมต่อกับ Smartphone เพื่อที่จะได้สื่อสารได้สะดวกขึ้นยังไงล่ะ

smartstones-touch-006-640x640

ส่วนวิธีใช้นั้นเราสามารถแตะไปที่ Smartstones เฉยๆ หรือเลื่อนนิ้ว ซึ่งมันจะสามารถจับความเคลื่อนไหวของผู้สัมผัส และจดจำท่าทางเพื่อใช้ในการสื่อสาร ซึ่งเราสามารถกำหนดได้เอง เพื่อให้สัญญาณแจ้งเตือนนั้นไปโผล่ยัง Smartphone ของเรา

อย่างเช่น ถ้ากดปุ่มด้านบนแปลว่าโอเค ถ้ากดด้านล่างแปลว่าไม่โอเค หากสไลด์นิ้วลงแปลว่าให้มาหาตอนนี้ หรือถ้า Smartstones นั้นส่งเสียงร้องก็แปลว่า ให้ผู้ที่มี Smartstones นั้นไปหาแทน เป็นต้น

20150213151058-Stone-grandma-says-goodnight-bright-purple

ส่วนวิธีการชาร์จแบตนั้นเราไม่ต้องเสียบสายชาร์จให้ยุ่งยาก เพียงแค่นำ Smartstones ไปวางไว้ในที่วางของมันก็สามารถชาร์จแบตเตอรีได้ทันที เพียงแค่นี้การติดต่อสื่อสารระหว่างเราและผู้ถือ Smartstones ก็สามารถทำได้ง่ายยิ่งขึ้นแล้ว เราก็ไม่ต้องมาคอยเป็นห่วงคนที่เรารักอีกด้วย

Smartstones ได้เข้าร่วมการระดมทุนในโครงการของ Indiegogo ซึ่งไม่ว่าผลที่ออกมาจะเป็นยังไง บรรลุเป้าหมายหรือไม่ ทางผู้ผลิตก็จะจัดส่งสิินค้าให้กับผู้ร่วมระดมทุนปลายปี 2015 และหากใครต้องการเป็นคนแรกๆ ที่ได้ Smartstones ไปครอบครองก็สามารถร่วมระดมทุนกันได้เลยยย

ที่มา: digitaltrends

Instagram เปิดตัวแอพฯน้องใหม่ Layout from Instagram

เราคงจะเคยเห็นแอพฯ ที่สามารถรวมภาพหลายภาพไว้ในภาพเดียวได้กันมาบ้างแล้ว และในตอนนี้ Instagram ก็ได้เปิดตัวแอพฯ น้องใหม่อย่างแอพฯ Layout from Instagram ที่มีคุณสมบัติรวมภาพหลายภาพไว้ในกรอบเดียวได้เช่นกัน

instagram-layout-970x0

ผู้ออกแบบแอพฯ Layout อย่าง Joshua Dickets ได้ออกแบบแอพฯ นี้ให้แยกออกมาจาก Instagram อีกที โดยจุดเด่นของแอพฯ Layout ก็คงจะอยู่ที่การที่มันแยกหมวดหมู่ให้มีเฉพาะภาพหน้าคนให้เราเลือกได้ง่ายขึ้น

ส่วนการใช้งานนั้นสามารถรวมภาพได้สูงสุดถึง 9 ภาพ โดยรูปไหนที่เราไม่สนใจเราก็สามารถเปลี่ยนรูปนั้นเพียงรูปเดียวได้เลย นอกจากนี้ยังสามารถย้ายรูป ย่อขยาย สลับด้านได้ เพียงแค่นี้ก็สามารถอัพโหลดรูปและปรับแต่ฟิลเตอร์ลง Instagram ต่อได้เลย

tumblr_inline_nlh6wkjdmu1qm4rc3_500-432x750 (1)

แม้ว่าภายในแอพฯ Layout นั้นจะดูไม่ต่างจากแอพฯ รวมภาพอื่นๆ เท่าไรนัก แต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ทำออกมาได้ดีทีเดียว

ส่วนใครที่ไม่ได้มีบัญชีของ Instagram ก็สามารถใช้แอพฯ Layout ในการปรับแต่งภาพได้นะ แต่ตอนนี้แอพฯ Layout เปิดรองรับเฉพาะระบบ iOS เท่านั้น ส่วนระบบ Android คงต้องรออีกซักนิด คาดว่าจะมีมาให้ได้ใช้กันในเร็วๆ นี้แน่นอน

ที่มา: digitaltrendsengadget

 

 

Dash & Dot คุณครูสมองกล หัดนักเรียนเขียนโปรแกรม

Vikas Gupta ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของ Wonder Workshop ได้เปิดสอนการเขียนโปรแกรมง่ายๆ กว่า 150 โรงเรียน ทั้งระดับประถมและมัธยมในสหรัฐอเมริกา โดยทำงานร่วมกับครูในโรงเรียนเพื่อวางแผนการสอนและศึกษาถึงสิ่งที่เด็กๆ สนใจ

1-928b9b71cd161b9a3e67c92fbef1e4b5

ที่ Vikas Gupta ได้มีไอเดียผลิตหุ่นยนต์ตัวนี้ก็เพราะว่า Gupta นั้นได้ลาออกจากงานมาเลี้ยงลูก ก็เลยคิดอยากที่จะทำของเล่นที่ใช้ซอฟต์แวร์ในการผลิตและพัฒนา เพื่อไม่ให้ของเล่นนั้นมีวันเก่า

หุ่นยนต์ Dash & Dot นั้นได้ออกแบบมาให้เล่นได้ทั้งเด็กผู้หญิงและผู้ชาย โดยเด็กๆ จะสามารถเขียนโปรแกรมให้มันเคลื่อนที่ไปได้รอบๆ และให้มันสื่อสารได้ ในตัว Dash & Dot จะมีเซนเซอร์ในการตรวจจับวัตถุ และเมื่อได้ยินเสียงหรือมีแสงสว่างมันก็จะตอบสนองเรา นอกจากนี้เด็กๆ สามารถซื้ออุปกรณ์เสริมให้หุ่นยนต์ได้อีกด้วย

dash_dot_kids-970x0

ส่วนวิธีใช้งานนั้นเพียงแค่เชื่อมต่อเจ้าหุ่นยนต์กับแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน ได้ทั้งระบบ iOS และ Android ผ่านบลูทูธ โดยมี 4 แอพฯ พื้นฐานรองรับรับอยู่  และในอนาคตทางผู้ผลิตตั้งใจที่จะพัฒนาแอพฯ เพื่อให้้ใช้งานกับ Dash & Dot ได้มากกว่านี้ด้วย

หลังจากที่ Gupta มาที่โรงเรียน เด็กๆ ก็มีแรงบันดาลใจในการเรียนขึ้นเยอะ ถ้ามีมาเปิดสอนเด็กไทยบางก็คงจะดีไม่น้อย หากใครสนใจซื้อหุ่นยนต์ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ Wonder Workshop โดยราคาเริ่มต้นที่ 170 ดอลลาร์ (5,533 บาท) ส่วนอุปกรณ์เสริมก็อยู่ที่ประมาณ 20 – 40 ดอลลาร์ (600 – 1,300 บาท) จ้าา

ที่มา: digitaltrends

 

 

ออกแบบของเล่นเจ๋งๆ ด้วยแอพฯ Tinkerplay

แอพ Tinkerplay แอพใหม่จากค่าย Autodesk ที่จะให้เราสร้างและออกแบบตัวละครอย่างหุ่นโมเดลจากมือถือของเราและใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ พิมพ์ออกมาเป็นของเล่นให้เราประกอบจริงๆ

Tinkerplay_screenshotที่จริงแอพ Tinkerplay นั้นสามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย แต่ที่มุ่งเป้าหมายไปที่เด็กๆ นั้น ก็เพราะผู้ผลิตตั้งใจที่จะให้แอพนี้ช่วยพัฒนาสมองของเด็ก ให้เด็กๆ สนุกและอยากที่จะเรียนรู้ นอกจากนี้ผู้ผลิตได้ออกแบบแอพนี้ให้ใช้งานง่าย และให้เด็กๆ สามารถลงมือทำด้วยตัวเองให้ได้มากที่สุด

และไม่ต้องห่วงว่าการออกแบบของเล่นในแอพนี้จะง่ายจนน่าเบื่อ เพราะว่าเราสามารถปรับระดับให้มันยากได้ตามความสามารถของผู้ใช้ แต่ถึงจะออกแบบให้ดูซับซ้อนยังไงเมื่อถึงเวลาพิมพ์ภาพ 3 มิติก็สามารถพิมพ์ออกมาได้อย่างรวดเร็ว

แอพ Tinkerplay ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2558 สามารถใช้งานได้ทั้งระบบ iOS Android และ Windows ซึ่งตอนนี้ก็สามารถดาวน์โหลดมาลองเล่นกันได้แล้วจ้าา

ที่มา: engadget123dapp

 

Leef ibridge แฟลชไดร์ฟเพิ่มความจุ สูงสุดถึง 258 GB

ใครที่กำลังมองหา USB เพิ่มหน่วยความจำให้กับสมาร์ทโฟนของตัวเองกันอยู่ล่ะก็ ลองดู USB Stick ยี่ห้อ Leef  อย่าง iBridge กัน อาจจะทำให้เรามาหยุดการค้นหาแล้วเลือกใช้แฟลชไดร์ฟยี่ห้อนี้แทน

 

oneleef

ต้องบอกก่อนเลยว่า iBridge นั้นจะใช้ได้กับ iPad,  iPod Gen5 และ iPhone 5 ขึ้นไป โดย iBridge นั้นจะใช้งานพร้อมกับแอพ iBridge ซึ่งผู้ผลิตตั้งใจให้อุปกรณ์ชิ้นนี้เอาไว้แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง iOS และคอมพิวเตอร์

สิ่งที่พิเศษที่ทำให้แฟลชไดร์ฟตัวนี้ไม่เหมือนกับแฟลชไดร์ฟตัวอื่นๆ นั่นเป็นเพราะว่าผู้ผลิตได้ออกแบบให้มันไม่เกะกะเมื่อเราต้องเสียบมันไว้กับสมาร์ทโฟนของเรา และหากหน่วยความจำของเรานั้นเต็มเมื่อไหร่ ก็สามารถถ่ายภาพแล้วเก็บไว้ใน iBridge ได้โดยตรงอีกด้วย

iBRIDGE_OTG_Design_Cases

หน่วยความจำของ iBridge นั้นมี 16 GB, 32 GB, 64 GB, 128 GB และ 256 GB !!! ที่หน่วยความจำมันสูงขนาดนี้ก็เพราะว่าผู้ผลิตได้เห็นถึงปัญหาหน่วยความจำที่คนส่วนใหญ่มักใช้กันยังไงก็ไม่เพียงพอซักที จึงได้ผลิตหน่วยความจำให้สูงที่สุดถึง 256 GB เลยล่ะ

ส่วนราคานั้นก็จะอยู่ที่16GB ราคา 59 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,900 บาท), 32 GB ราคา 79 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,500 บาท), 64 GB ราคา 119 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,900 บาท), 128 GB ราคา 199 ดอลลาร์ (ประมาณ 6,500 บาท) และ 256 GB ราคา 399  ดอลลาร์ (ประมาณ 13,000 บาท) ตามลำดับ

ถ้าใครอยากมี USB นี้ไว้ครอบครอง ก็สามารถสั่งซื้อและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ leefco เลยจ้าา

ที่มา: ifun

JIVR จักรยานอัจฉริยะ ใช้พร้อมกับ iBeacon

ใครชอบปั่นจักรยานบ้างยกมือขึ้น JIVR จักรยานอัจฉริยะที่ไม่เหมือนกับ Smart bikes คันอื่นๆ ทั่วไป เพราะจักรยานคันนี้จะใช้งานด้วยระบบ iBeacon นั่นเอง

jivr-e-bike

จักรยาน JIVR ที่มาจากการคิดและออกแบบโดย Marcin Piatkowski และ James Calvert ซึ่ง Smart Bike คันนี้จะสามารถวิ่งได้ถึง 20 ไมล์ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

JIVR เป็น Smart Bike ที่มาพร้อมเทคโนโลยีแบบ iBeacon ที่จะทำให้ชีวิตของเราสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งให้เราใช้งานผ่านแอพ JIVR เท่านั้น และไม่เพียงแต่ใช้งานกับสมาร์ทโฟนได้เท่านั้น แต่ยังให้เราสามารถใช้งานกับ Apple Watch และ Macbook ได้อีกด้วย

นอกจากนี้จักรยาน JIVR ได้ถูกออกแบบให้สามารถวางสมาร์ทโฟนของเราไว้ตรงที่จับจักรยาน โดยมันจะเชื่อมต่อกับ Smart Bike ผ่านระบบบลูทูธ ให้เราจะสามารถดูระยะทางในการเดินทาง ดูแคลอรีที่เผาพลาญออกไป และยังเป็น GPS ที่คอยดูเส้นทางได้อย่างแม่นยำอีกด้วย

Smart Bike คันนี้มาจากการระดมทุมในโครงการของ kickstarter ซึ่งได้ตั้งเป้าไว้ที่ 70,000 ปอนด์ หากการระดมทุนในครั้งนี้สำเร็จก็จะส่งมอบสินค้าให้ในเดือนกันยายนนี้ และถ้าใครสนใจสามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของ jivrbike ได้เลย

ที่มา: engadget

สุดเจ๋ง! โดรน Speeder Bike แรงบันดาลใจจาก Star Wars

โดรนตัวใหม่ที่มีแรงบันดาลใจมาจากของเล่น Star Wars ผลิตโดย Adam Woodworth วิศวกรฮาร์ดแวร์ประจำ Google ที่ลงมือทำฝันของตัวเองให้ของเล่นบินได้นั้นกลายเป็นจริง

fpv-speeder-bike-drone_3-970x646-c

โดรนตัวนี้มีชื่อว่า 74-Z Speeder Bike หรือจะเรียกว่า Imperial Speeder Bike ก็ได้ ผู้ผลิตได้สร้างโดรนตัวนี้โดยนำของเล่น Star Wars มาดัดแปลงให้กลายเป็นโดรน

ที่จริงผู้ผลิตนั้นต้องการให้โมเดล Stromtrooper จากเรื่อง Star Wars นั่งอยู่บนโดรนแต่ด้วยความที่โมเดลตัวนี้เป็นพลาสติกทั้งหมดทำให้มันหนักเกินไป  Woodworth จึงได้ออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยที่ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็น Stromtrooper ด้วย

การควบคุมโดรนนั้นใช้รีโมทคอนโทรลธรรมดาๆ แต่ส่วนที่พิเศษที่สุดก็คงเป็นส่วนหัวของโมเดล ที่ผู้ผลิตนั้นได้ซ่อนกล้องเล็กๆ ไว้เพื่อที่ว่าการบันทึกภาพนั้นจะได้ดูสมจริงราวกับนั่งอยู่บนโดรนเองเลยล่ะ

จะว่าไปก็น่าเสียดายที่โดรนตัวนี้ไม่ได้มีวางขาย แต่ไม่ต้องเสียใจไป เพราะ Woodworth ยังใจดีสอนวิธีสร้างโดรนตัวนี้ไว้ที่ makezine ลองเข้าไปดูกันได้เลย

ที่มา: digitaltrends

 

 

 

Budgee หุ่นยนต์เพื่อนรัก นักติดตาม (เจ้าของ) !

ย้อนกลับไปปี 2014 กับความล้มเหลวที่จะผลิตหุ่นยนต์ในโครงการของ Kickstater  แต่ตอนนี้ผู้ผลิตหุ่นยนต์ Budgee ก็ประสบความสำเร็จส่งเจ้า Budgee ออกไปยังหลายๆ ประเทศแล้ว

budgee-bot-003-970x0

โดยไอเดียของผู้ผลิตนั้นมาจากการที่เค้าอยากมีหุ่นยนต์ซักตัวไว้ในบ้านเพื่ออำนวยความสะดวกสบาย หุ่นยนต์ตัวนี้หนัก 20 ปอนด์ เคลื่อนที่ด้วยล้อ แถมยังเป็นผู้ช่วยผู้สูงอายุ และผู้พิการได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย

สิ่งที่พิเศษของเจ้า Budgee นั้นคือการที่มีเซ็นเซอร์เพื่อติดตามเจ้าของ ส่วนวิธีการใช้งานนั้นก็สามารถควบคุมได้ทั้งทางระบบ iOS และ Android แต่ถ้าเราไม่อยากใช้งานผ่าน Smart phone หรือ Tablet ก็สามารถซื้อรีโมตเล็กๆ เพิ่มเพื่อใช้ในการควบคุมเจ้า Budgee แทนก็ได้

url-8722861ce62157faae3468293742f083-325x325-c

หุ่นยนต์ Budgee สามารถวิ่งได้เร็วถึง 4 ไมล์ต่อชั่วโมง แถมเมื่อเราจะเอามันไปไหนก็พับเก็บได้สะดวกสุดๆ แต่ถ้าใครไม่แน่ใจว่าเจ้า Budgee วิ่งเร็วขนาดนี้มันจะหน้าขมำพังไวมั้ยเนี่ยะ ทางผู้ผลิตก็ออกมาบอกแล้วว่าเมื่อมันตามเราไปในที่ๆ เป็นขั้นบันไดหรือทางลาดชัน ระบบจะส่งเสียงร้องเตือนและหยุดวิ่งโดยอัตโนมัติ

ตอนนี้ Budgee นั้นราคาสูงถึง 1,400 ดอลลาร์ (46,000 บาท) เลยทีเดียว ถ้าใครสนใจ หรืออยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ 5elementsrobotics เลย

ที่มา: digitaltrends

 

Hot Issue