Home Blog Page 1547

กล้องเตือนภัยจิ๋ว ช่วยนำทางผู้พิการทางสายตา

วิวัฒนาการด้านการแพทย์ล้ำหน้าไปอีกขั้น เมื่อผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐอเมริกาพัฒนากล้องติดกระเป๋าที่จะทำให้เราปลอดภัยจากอุบัติเหตุ โดยที่ติดกล้องจิ๋วไว้ที่กระเป๋าเสื้อ เมื่อเรากำลังจะเดินชนสิ่งกีดขวาง ก็จะมีเสียงร้องเตือนขึ้น!!

blind-cam-630

นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านตาและหู จากสถาบันวิจัย Schepens ที่รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกาได้คิดค้นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ที่มีปัญหาและผู้พิการทางสายตา เพียงแค่ติดตั้งกล้องจิ๋วไว้ที่กระเป๋าเสื้อมันก็จะส่งเสียงร้องเตือนเมื่อเราเจอสิ่งกีดขวาง

โดยผู้เชี่ยวชาญได้ทดสอบโดยนำผู้ป่วย 25 คนมาเข้าร่วมทดสอบอุปกรณ์หลีกเลี่ยงการปะทะกัน โดยอุปกรณ์ชิ้นนี้สามารถหลีกเลี่ยงการเดินชนได้ประมาณ 37%  ส่วนวิธีการใช้งานจะเป็นแบบไหน ลองดูได้ที่คลิปวีดิโอด้านล่างนี้เลย

และถึงแม้ว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้จะยังอยู่ในขั้นการค้นคว้าและวิจัย ก็นับว่าเป็นข่าวดีที่อีกไม่นานจะมีกล้องเตือนภัยจิ๋ว ให้ผู้ที่มีปัญหาทางสายตาเดินทางได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น:)

ที่มา: engadget

 

Emvio นาฬิกาเรือนแรกช่วยวัด + ขจัดความเครียด

อุปกรณ์ wearable นั้นเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดก็ได้มีผู้คิดผลิตนาฬิกาตรวจวัดระดับความเครียดโดยให้ชื่อมันว่า Emvio เป็นสมาร์ทวอทช์เก๋ๆ ในโครงการของ Kickstarter  มาให้เราอยากได้กันอีกแล้วววว

emveegif

Emvio นั้นถือเป็นนาฬิกาตรวจวัดระดับความเครียดเรือนแรกเลยก็ว่าได้ และแน่นอนว่าหากเป็นสมาร์ทวอทช์ก็ต้องดูเวลาได้แน่นอน แต่ความสามารถของมันที่นอกเหนือจากนั้นจะต้องทำให้เราอยากได้เจ้า Emvio กันแน่ๆ

ความสามารถพิเศษของ Emvio นั้นสามารถวัดระดับความเครียดของเราได้ถึง 10 ระดับ ดูอัตราการเต้นของหัวใจ วัดการเคลื่อนไหวของร่างกายในแต่ละวัน แถมยังมีวิธีจัดการความเครียดให้เราเดี๋ยวนั้นอีกด้วย

ซึ่งหากมันพบว่าระดับความเครียดของเราเพิ่มขึ้นเครื่องก็จะสั่น และเมื่อเราเริ่มเครียดตั้งแต่ระดับ 6 ขึ้นไป มันจะร้องเตือน จนกว่าเราจะสงบลงเจ้าเครื่องนี้ก็จะสั่นอีกครั้งให้เราให้เรากดที่ปุ่มเซนเซอร์ ไฟก็จะกลับมาเป็นสีเขียวเช่นเดิม

29a686318fcda24f0649417540781e00_original

นอกจากนี้แอพฯ Emvio มีรองรับบนสมาร์ทโฟนระบบ iOS (ส่วนระบบ Android คงต้องรอกันไปก่อน) ให้เราเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ โดยในแอพฯ นี้มันจะช่วยแนะนำวิธีกำจัดความเครียด อย่างให้เราไปวิ่งเพื่อผ่อนคลาย  แถมยังวิเคราะห์และเก็บสถิติความเครียดของเราไว้อีกด้วยนะ

นับเป็นไอเดียที่ดีมากๆ เพราะทำให้เราได้รู้และจัดการความเครียดได้ด้วยตัวเอง หากการระดมทุนครั้งนี้สำเร็จก็จะจัดส่งสินค้าให้กับผู้ร่วมระดมทุนในเดือนพฤศจิกายนปีนี้จ้า

ที่มา: engadget, kickstarter

Nevergrid เกมน้องใหม่ เอาใจคอเกม Puzzle

Nevergrid เกมน้องใหม่แนว Puzzle ที่ใช้หินก้อนเล็กๆ เหลี่ยมๆ น่าตาน่ารักเป็นตัวดำเนินเรื่อง และถ้าใครอยากหาเกมไว้เล่นฆ่าเวลาตอนที่เบื่อๆ เซ็งๆ เกมนี้ช่วยคุณได้

50030

Nevergrid เป็นเกมง่ายๆ ที่เหมือนกับนำเกมในตำนานอย่าง Pacman และเกมแนว Puzzle แบบเลื่อนๆ มาผสมกัน โดยมี 80 ด่านให้เราได้ตะลุยกัน แถมแต่ละด่านยังมีความหลากหลายที่ต่างกันออกไปอีกด้วย

ตอนนี้เกม Nevergrid มีให้ดาวน์โหลดเฉพาะระบบ iOS 7.0 ขี้นไปเท่านั้น ราคา 0.99 ดอลลาร์  ลองดูตัวอย่างเกมก่อนเล่นกันที่คลิปข้างล่างนี้เลย

ที่มา: ifun.de

 

เครื่องเล่นแผ่นเสียงเจ๋งๆ จากใจคนรักเลโก้

คนรักเลโก้ห้ามพลาด! เพราะที่เกาหลีนั้น Hayarobi หนึ่งในสมาชิกคลับคนรักเลโก้ ได้มีไอเดียเจ๋งๆ สร้างเครื่องเล่นแผ่นเสียงยุคเก่าจากเลโก้  โดยตั้งชื่อให้มันว่า The Planet   

lego-record-player-by-hayarobi-1-970x0

ต้องบอกก่อนเลยว่าที่ Hayarobi ได้ทำเครื่องเล่นแผ่นเสียงเลโก้ขึ้นมานั้นก็เพราะความชอบจริงๆ โดยได้ใช้เลโก้ถึง 2,400 ชิ้น ส่วนฟังก์ชันของเครื่องเสียงก็ได้ให้ผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องเสียงช่วยดูแล

ภายในเครื่องเสียงนั้นจะใช้ Power Functions Battery Box และ Power Functions M-Motor อย่างละอัน ความเจ๋งของมันอยู่ที่มันสามารถตั้งค่าให้เล่นได้ทั้ง 33  เศษ 1 ส่วน 3 หรือ 45 รอบต่อนาที แถมการวางตำแหน่งของเข็มที่ดูละเอียดอ่อนมากๆ แต่อุปกรณ์อย่างเลโก้ก็สามารถทำออกมาได้ดีเลยล่ะ

lego-record-player-by-hayarobi-2-935x623นอกจากนี้เครื่องเล่นแผ่นเสียงนี้ยังมีมีแท่นกลมๆ อีก 4 ด้าน เพื่อใช้ถ่วงเครื่องเสียงให้เล่นได้ลื่นขึ้น ดูไปดูมาก็คล้ายๆ กับรูปดวงอาทิตย์จากบทนำในซีรีย์เรื่อง Game of Thrones เลย ความไม่ธรรมดาของมันทำให้เครื่องเล่นแผ่นเสียงเลโก้นี้ได้เข้าร่วมแข่งขันในงาน Seoul Bricks Pop-Art เมื่อปี 2014 ด้วย

เลโก้ตัวนี้ยังไม่มีวางขายทั่วไป แต่ถ้าใครอยากดูสิ่งของต่างๆ ที่ทำมาจากเลโก้ก็เข้าไปชมได้ที่เว็บ brickinside มีเลโก้ที่ Hayarobi ออกแบบเองอีกเยอะเลยล่ะ

ที่มา: digitaltrends

สุดเจ๋ง! ประชันดนตรีแก้วน้ำ มนุษย์ vs หุ่นยนต์ Kuka

คลิปการเล่นดนตรีจากแก้วประชันกันระหว่าง Timo Boll นักปิงปองดาวรุ่งจากเมืองเบียร์ และ หุ่นยนต์แขนกล Kuka kr agilus ที่จะทำให้พวกเราอึ้งกันไปเลย

boll_gegen_roboter_kuka_die_revanche4_evo_580x326

ท้าวความกันก่อนว่าจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นมีการแข่งขันปิงปองระหว่าง Timo Boll และหุ่นยนต์ Kuka บนยูทูป มีคนเข้าดูการแข่งขันนี้กว่า 6,000,000 คน ซึ่งผลสรุปในตอนนั้นนักปิงปองอย่าง Timo Boll ก็ชนะหุ่นยนต์แขนกล Kuka ไปด้วยคะแนน 11 : 9

(สำหรับใครที่พลาดชมการแข่งขันครั้งแรก ก็คลิ๊กดูกันได้ ที่นี่ เลย)

มาในครั้งนี้หุ่นยนต์แขนกลอย่าง Kuka จะกลับมาแก้แค้นอีกครั้ง แต่จะเปลี่ยนการการแข่งขันโดยท้านักปิงปอง (คนเก่าเจ้าเดิมอย่าง Timo Boll) มาแข่งขันการเล่นดนตรีจากแก้ว ซึ่งใครจะอยู่ใครจะไปลองมาชมในคลิปที่อยู่ด้านล่างนี้กัน

การประลองในครั้งนี้เป็นแคมเปญที่เกิดขึ้นจากธุรกิจโฆษณาที่จัดขึ้นโดยบริษัท Sassenbach และกำกับโดยบริษัท Velvet Mediendesigns ที่เมืองมิวนิค สปอตโฆษณาตัวนี้เป็นสปอตตัวแรกที่มีการดวลแบบ 1:1 อย่างเมื่อปีที่แล้วก็ได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย อย่างเช่น Red Dot Award มาครอบครอง เรียกได้ว่าเป็นคลิปที่เจ๋งจริงๆ

ที่มา: wuv.de

กระโดดโลดเต้น เล่นเกมมันส์ๆ กับ Lumo

ของเล่นของเด็กยุคใหม่นี่มันน่าเล่นซะเหลือเกิน  อย่างล่าสุดก็มีของเล่นจากการระดมทุนในโครงการของ Indiegogo ที่น่าสนใจมากๆ ชื่อว่า Lumo เรามั่นใจว่าถ้าผู้ใหญ๋หัวใจเด็กมาเห็นล่ะก็ต้องติดใจเล่นไม่ยอมเลิกแน่ๆ ฮ่าๆ

 

lumo-projector-640x426-cLumo เป็นเครื่องโปรเจคเตอร์ที่จะฉายเกมออกมาให้เราเล่นกันที่ฝาผนังห้อง ไม่ก็ที่พื้น ซึ่งขนาดของโปรเจคเตอร์ที่ฉายนั้นจะเป็นขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้า 6 x 4 ฟุต ให้เราสามารถเล่นในบ้านได้อย่างสบายๆ โดยที่เราสามารถติดเครื่อง Lumo ไว้ที่ผนังห้องเท่านั้น

ใน Lumo จะมีเกมให้เล่นมากมาย แต่จะมีเกมที่ใช้ในการเปิดตัวเพียง 10 เกม อย่างเช่น เกมเต้น เกมฮ็อกกี้ และเกมกระโดดสุดหินอย่าง Squash Things แถมทางผู้ผลิตยังให้เด็กๆ สามารถออกแบบและปรับแต่งเกมด้วยวิธีการง่ายๆ  ตามเกมต้นแบบได้อีกด้วย

นอกจากนี้ทางผู้ผลิตยังได้คิดหาวิธีการขยับขยายเกมให้มันเล่นเกมในระบบ Android ได้โดยเชื่อมต่อผ่านบลูทูธอีกด้วย

lumo-projector-floor-game-girl-640x426-c

ของเล่นชิ้นนี้พึ่งได้จดสิทธิบัตรให้เป็นของเล่นที่ใช้แสงอินฟาเรดในการฉาย และใช้เซ็นเซอร์ความละเอียดต่ำในการตรวจับภาพการเคลื่อนไหว

และตอนนี้หากใครสนใจจับจองก็สามารถเข้าไปร่วมระดมทุนได้ที่เว็บไซต์ Indiegogo กันได้เลย หากการระดมทุนในครั้งนี้สำเร็จ ก็จะส่งมอบให้ในเดือนมิถุนายนปี 2016

ส่วนถ้าอยากจะรู้ว่าวิธีการเล่นจะสนุกแค่ไหนก็ลองดูได้ในคลิปข้างล่างนี้กันเลย

ที่มา: digitaltrendslumoplay

https://youtu.be/7Fc6Xsi6Tlc

ทิ้งรีโมทแล้วมาคบ Nyrius Smart Outlet

เบื่อมั้ย? กับการที่ต้องมีรีโมทหลายๆ อันไว้ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอย่างละตัว!! ผู้ผลิต Nyrius Smart Outlet จะทำให้ปัญหาเหล่านั้นหมดไป เพราะอุปกรณ์ชิ้นนี้จะช่วยเราควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ให้เรานั่งนิ่งๆ เชิดๆ อย่างราชาเลยล่ะ

4c6f16472c500ef4784e33c663d29c28_originalที่ผู้ผลิตแบรนด์ Nyrius ได้คิดค้น Smart Outlet ตัวนี้ขึ้นมาก็เพราะว่า ผู้ผลิตต้องการให้อุปกรณ์ภายในบ้านอย่าง เครื่องปรับอากาศ หลอดไฟ พัดลม หรือแล็บท็อป ควบคุมผ่านอุปกรณ์เพียงชิ้นเดียว ให้เราใช้งานได้ง่ายๆ ไม่ต้องมีรีโมทหลายๆ อัน

ส่วนวิธีการใช้งานนั้นเพียงแค่เสียบอุปกรณ์ตัวนี้ไว้ที่ปลั๊กไฟ ให้เราควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของเราจากสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตของเรา โดยใช้งานได้ทั้งระบบ iOS และ Android ผ่านสัญญาณบลูทูธ แต่การควบคุมนั้นเราสามารถอยู่ห่างได้เพียง 33 ฟุตเท่านั้น

nyrius-smart-outlet-640x0

แต่หากเราไม่อยู่ก็สามารถตั้งเวลาเปิด – ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เอง แม้ว่าตอนนั้นเราจะอยู่นอกเขตสัญญาณบลูทูธ การตั้งเวลาไว้เช่นนี้ก็จะทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก

Nyrius Smart Outlet มาจากการระดมทุนในโครงการดีๆ อย่าง Kickstarter ซึ่งหากการระดมทุนในครั้งนี้สำเร็จก็จัดส่งสินค้าให้ในเดือนพฤษภาคมนี้ ถ้าสนใจอยากเข้าร่วมระดมทุนก็ลองเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ kickstarter กันได้เลย

ที่มา: digitaltrends

 

ประดับสวนให้สว่างอย่างๆ ล้ำด้วย Playbulb Garden

Playbulb Garden ไฟตกแต่งสวนเจ๋งๆ จากการระดมทุนในโครงการดีๆ อย่าง Kickstarter ที่จะทำให้บ้านของเราดูไฮเทคขึ้นไปอีก ใครที่ชื่นชอบการตกแต่งสวนพลาดไม่ได้เด็ดขาด

022b811c24555c4f97433346c5a27a64_original

Playbulb Garden นั้นมีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก ส่วนวิธีใช้นั้นก็แสนจะง่ายเพียงแค่เสียบฐานของมันเข้ากับตัวไฟ และนำไปปักไว้ที่สวนได้เลย แถมเวลาฝนตกก็ไม่ต้องกังวลใจเพราะมันสามารถกันน้ำได้

และถ้าพูดถึงคุณสมบัติพิเศษของเจ้า Playbulb Garden นั้นมีมากมายเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จไฟผ่านพลังงานแสงอาทิตย์ เมื่อแบตเตอรีเต็ม 1 ครั้ง ก็สามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 20 ชั่วโมง แถมยังมีระบบเซนเซอร์ที่จะช่วยประหยัดพลังงาน ที่สามารถเปิดปิดได้โดยเองอัตโนมัติด้วยล่ะ

playbulb-garden-unilluminated-640x426-c

นอกจากนี้เรายังสามารถควบคุมเจ้า Playbulb Garden ผ่านสมาร์ทโฟนของเราด้วยบลูทูธ โดยดาวน์โหลดแอพฯ Playbulb X ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดทั้งระบบ iOS และ Android ให้เราเปลี่ยนสีไฟผ่านทางแอพฯ ได้ตามใจชอบ

ส่วนจะเปลี่นไฟให้เป็นแบบไหนบ้างนั้น ไฟใน Playbulb Garden มีลูกเล่นด้วยกันอยู่ 5 แบบไม่ว่าจะเป็นไฟแบบ Rainbow, Rainbow Fade, Pulsing, Flashing และแบบ Candle effect (ลองดูในคลิปด้านล่างได้เลย)

ต้องขอบคุณการระดมทุนจากโครงการดีๆ อย่าง Kickstarter ที่มักจะให้โอกาสคนที่มีไอเดีย ผลิตของที่แปลกใหม่อยู่เสมอเลย ซึ่งหากการระดมทุนในครั้งนี้สำเร็จก็จะส่งมอบให้ผู้ร่วมระดมทุนในเดือนพฤษภาคมนี้

ที่มา: digitaltrends

 

เปิดตัว handiii แขนกลสุดล้ำจากญี่ปุ่น ในราคาที่เราเอื้อมถึง !!

อีกหนึ่งความหวังใหม่ของผู้พิการ “handiii” แขนกลเทียมพลาสติกรุ่นต้นแบบ ที่ผลิตจาก 3D-printing โดย Exiii บริษัทน้องใหม่ในญี่ปุ่น มีความพิเศษคือ การออกแบบที่สวยงามล้ำสมัย ความละเอียดละอ่อนสูง และ ต้นทุนในการผลิตไม่ถึงหมื่น !!

Windows Store เตรียมปรับราคา App เพื่มขึ้น มีผลกลางเดือน เม.ย นี้

2015-03-23_06-14-08เมื่อเศรษฐกิจ มันเอาแน่เอานอนไม่ได้ ก็ต้องดิ้นรนกันไปตามสภาพ Microsoft ประกาศแผนที่จะปรับราคา App บน Windows Store ให้ยืดหยุ่นตามค่าเงินของแต่ละประเทศ จากเดิมที่เป็นราคากลางมาโดยตลอด (ในที่สุดก็ตามรอย Apple และ Google ซักที) หลังปัจจุบันค่าเงินมีความผันผวนมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้พัฒนา App ได้รับรายได้ที่ควรจะเป็นนั้นเอง

หลังการปรับราคานั้น ก็จะส่งผลกระทบทำให้อัตราราคาสูงขึ้น 20% หรือมากกว่า ยกเว้นสหรัฐฯ เนื่องจากใช้เงินสกุลดอลลาร์เป็นสกุลเงินหลักอยู่แล้ว ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว ทั้งนี้ทาง Microsoft ก็ได้มีการแจ้งเตือนไปยังผู้พัฒนารายอื่นๆเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เรียกได้ว่า ก็แฟร์ๆดี เพื่อให้นักพัฒนามีกำลังใจในการสร้าง App ดีขึ้นมา ได้อีกต่อไป เพราะหากปล่อยไว้ต่อไป ก็จะกลายเป็นว่า บางประเทศที่มีค่าเงินมากขึ้น แต่ Microsoft เรียกเก็บเท่าเดิม ยกตัวอย่างคือ App นี้ราคาอยู่ที่ 50 บาท เมื่อยึดตามค่าเงินสหรัฐ ในขณะที่ประเทศหนึ่งจะอยู่ที่ 45 เมื่อเทียบกับค่าเงินสหรัฐ ก็เท่ากับว่า รายได้หายไป 5 บาทนั้นเอง (หากมีคนโหลดเป็นล้าน ก็หายเป็นล้านครับ) เพราะเหตุนี้จึงมีการปรับราคาให้ตรงตามค่าเงินของแต่ละประเทศ เพื่อที่จะได้รายได้ของผู้พัฒนามีควรจะเป็นนี้เอง เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้…..

ที่มา : Techspot

Hot Issue