OpenAI เปิดตัวเครื่องมือใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า Deep Research ซึ่งจะมาเป็นผู้ช่วยในการค้นคว้าข้อมูลออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นคำถามวิทยาศาสตร์ยากๆ ไปจนถึงคำแนะนำในการเลือกรถยนต์ ซึ่ง Deep Research จะช่วยเราหาคำตอบได้อย่างรวดเร็ว
ลองนึกภาพว่าคุณมีนักวิเคราะห์ข้อมูลส่วนตัวที่พร้อมทำงานให้เราได้ตลอดเวลา Deep Research ก็เปรียบเสมือนอย่างนั้นเลย เครื่องมือนี้จะค้นหาข้อมูลทั้งจากตัวอักษร รูปภาพ และไฟล์ PDF บนโลกออนไลน์ รวมถึงไฟล์ที่คุณอัปโหลดเข้าไป เพื่อสร้างรายงานสรุปแบบเจาะลึก ซึ่ง OpenAI เคลมว่างานที่ปกติอาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง Deep Research สามารถทำเสร็จได้ในเวลาเพียงหลักสิบนาทีเท่านั้น
Deep Research เป็น AI agent ตัวที่สองที่ OpenAI เปิดตัวในปีนี้ โดยก่อนหน้านี้ พวกเขาได้ปล่อย “Operator” ออกมา ซึ่งสามารถช่วยเราจองตั๋วเครื่องบิน วางแผนซื้อของ หรือแม้แต่จ่ายเงินซื้อของให้เราได้ ทั้งสองบริการนี้จะเปิดให้ใช้งานเฉพาะผู้ที่จ่ายเงิน 200 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ ChatGPT Pro เท่านั้น
การเปิดตัว Deep Research และ Operator สะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์ใหม่ในวงการ AI นั่นคือ AI Agents หรือซอฟต์แวร์ AI ที่สามารถทำงานที่ซับซ้อนหลายขั้นตอนให้เราได้ โดยที่เราแทบไม่ต้องดูแลอะไรเลย
นอกจาก OpenAI แล้ว ยังมีบริษัทอื่น ๆ เช่น Microsoft และ Anthropic ก็กำลังพัฒนา AI Agents ของตัวเองเช่นกัน เป้าหมายของพวกเขาคือการสร้างเครื่องมือที่ช่วยประหยัดเวลาให้กับผู้ใช้ทั้งในเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน เพื่อทำให้ AI กลายเป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเราจริงๆ
ปัจจุบัน OpenAI ยอมรับว่า Deep Research ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และอาจให้ข้อมูลที่แต่งขึ้นมาเอง หรือแยกแยะระหว่างข่าวลือกับข้อมูลจริงได้ยาก นอกจากนี้ยังต้องใช้พลังการประมวลผลสูงมาก ทำให้ในตอนนี้ผู้ใช้จะสามารถใช้งานได้เพียง 100 ครั้งต่อเดือนเท่านั้น
OpenAI วางแผนที่จะเปิดให้บริการ Deep Research กับผู้ใช้ที่จ่ายเงินรายอื่น ๆ ในอนาคต เช่น Plus, Team และ Enterprise แต่ยังไม่ได้กำหนดช่วงเวลาที่ชัดเจน (ส่วนตัวผมคิดว่า น่าจะต้องคิดเรื่องพลังการประมวลผลใหม่แล้วล่ะ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่า ทุกคนใช้กันอย่างบ้าคลั่งมาก)
AI Agents กำลังจะเปลี่ยนโลกลองนึกภาพว่าในอนาคตว่า เราจะมีผู้ช่วย AI ส่วนตัวที่สามารถทำงานแทนได้หลายอย่าง ตั้งแต่การจัดการตารางเวลา การค้นหาข้อมูล ไปจนถึงการจัดการการเงิน นี่คืออนาคตที่ AI Agents กำลังจะพาเราไป
Deep Research ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ OpenAI ในการพัฒนา AI ให้กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่จะมาช่วยให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น และมันยังเป็นสัญญาณที่บอกว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคแห่ง AI Agents อย่างเต็มตัวแล้ว