เผย Nvidia ร้องขอให้ผู้ค้าหยุดขายการ์ดจอกับนักขุดในปริมาณมาก เพราะไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย หลังมีกระแส Cryptocurrency จนส่งผลให้การ์ดจอขาดตลาดและมีราคาขึ้นสูงอีกรอบ
สำหรับเกมเมอร์คนไหนที่คิดจะสอย “คอมฯ ประกอบ” ตอนนี้ คงต้องเลื่อนแผนไปก่อน เนื่องจากช่วงนี้แรมกับการ์ดจอมีราคาแรงเหลือเกิน โดยเฉพาะการ์ดจอที่นอกจากจะแพงขึ้นแล้ว ยังหาซื้อยากอีกด้วย สาเหตุก็คาดว่ามาจากกระแสเหรียญฯ ออนไลน์หรือ Cryptocurrency กลับมาบูมอีกครั้ง ทำให้เหล่านักขุด (Miner) ทั้งหน้าใหม่และเก่า ไล่เหมาการ์ดจอจนขาดตลาด
ล่าสุดมีผู้บริหารของ Nvidia จากเยอรมนีที่ชื่อ Boris Böhles ได้ออกมากล่าวว่า
“สำหรับ Nvidia แล้ว เกมเมอร์มาก่อนอันดับแรก เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักต่อกิจกรรมและผลิตภัณฑ์ GeForce ของบริษัท เพื่อแน่ใจว่าพวกเขาจะได้การ์ดจอที่ดีจากเรา จึงขอแนะนำให้ผู้ค้าทำสิ่งที่เหมาะสม และตอบสนองความต้องการของเหล่าเกมเมอร์ตามปกติ”
ทั้งนี้ทาง Nvidia ได้ปรับหน้าร้านของตัวเอง ให้จำหน่ายการ์ดจอเพียง 2 ตัวต่อคน เรียบร้อยแล้ว พร้อมแนะนำให้ร้านค้าอื่น ๆ ทำตามด้วย โดยไม่เป็นการบังคับ แต่อยากให้มองกลุ่มลูกค้าที่เป็นเกมเมอร์สำคัญกว่านักขุด เพราะพวกเขา “มีความภักดีกว่า” มีโอกาสที่จะกลับมาซื้อการ์ดจอรุ่นใหม่เมื่อพร้อมเสมอ ในขณะที่นักขุดส่วนใหญ่จะหยุดซื้อทันที เมื่อการขุดไม่คุ้มทุนแล้วนั้นเอง
สำหรับเรื่องนี้อาจมองได้หลายแง่พอควร ทางด้านนักขุดที่แม้ Nvidia จะเห็นความสำคัญน้อยกว่า แต่ก็ถือเป็นลูกค้าเหมือนกัน ไปห้ามขายเลยก็ไม่ได้ ส่วนทางด้านเกมเมอร์ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ ยังไงก็ขึ้นอยู่กับร้านค้ารับจำหน่ายอยู่ดีว่าจะเลือกทางไหน เพราะถึงอย่างไรทาง Nvidia ไปบังคับอะไรไม่ได้เลย แต่ก็ได้ออกมาประกาศจุดยืนชัดเจนแล้วว่า จะสนับสนุนฝั่งเกมเมอร์มากกว่า
ส่วนตัวผมมองว่า เกมเมอร์มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ Nvidia หรือ AMD เอง สามารถพัฒนาการ์ดจอรุ่นใหม่ ๆ ได้เสมอ และส่งผลดีในระยะยาวด้วย ส่วนชาวเหมืองก็ช่วยให้เกิดวงการทางการเงินใหม่ และเหมือนจะมี “การ์ดจอสำหรับสายขุด” ออกมาขายแล้ว แต่หลายคนคงติด ประกัน 3 เดือน (กับขายต่อยาก) ที่ชวนปวดใจไม่น้อย….
ที่มา : PCmag