NTT DATA เร่งสร้างอนาคตดิจิทัลของอินเดีย: ลงทุนครั้งใหญ่ในโครงสร้างพื้นฐานและ AI เพื่อเชื่อมโยงโลก

ภาพประกอบ: อากิระ ชิมาดะ (กลาง) ประธาน และ CEO ของ NTT
  • เปิดศูนย์นวัตกรรม AI แห่งใหม่และการติดตั้งเครือข่ายออปติคอลและไร้สายแห่ง นวัตกรรม (Innovative Optical and Wireless Network – IOWN) เพื่อเร่งการเป็นผู้นำด้าน เทคโนโลยีของอินเดีย
  • สร้างระบบเคเบิลใต้น้ำ MIST เชื่อมต่อโดยตรงระหว่างอินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย
  • การเปิดตัวศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่สุดของ NTT DATA ในอินเดีย เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยน แปลงดิจิทัล

NTT DATA ผู้นำระดับโลกในด้านธุรกิจดิจิทัลและบริการเทคโนโลยีประกาศ แผนกลยุทธ์สำคัญที่เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการขยายตลาดและการลงทุนในอินเดีย โดยหนึ่ง ในโครงการที่โดดเด่นคือการเปิดตัวระบบเคเบิลใต้น้ำ MIST ซึ่งมีกำหนดเริ่มใช้งานภายในเดือนมิถุนายน 2568 ระบบเคเบิล MIST ที่มีความยาวถึง 8,100 กิโลเมตร พร้อมด้วยความสามารถในการรับส่งข้อมูล สูงสุดถึง 200 เทราไบต์ต่อวินาที (Tbps) จะเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างประเทศมาเลเซีย อินเดีย สิงคโปร์ และประเทศไทย เป็นก้าวสำคัญที่ยกระดับการเชื่อมต่อดิจิทัลระหว่างภูมิภาค และถือเป็นครั้งแรกที่ NTT DATA เปิดตัวระบบเคเบิลที่เชื่อมโยงอินเดียกับเครือข่ายระดับโลกได้โดยตรง ซึ่งการลงทุนใน MIST นี้ ไม่เพียงช่วยส่งเสริมการเชื่อมต่อระดับโลกอย่างไร้รอยต่อและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้าง พื้นฐานที่สำคัญสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัลของอินเดียที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ยังเป็นการตอบสนองต่อ ความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในการเชื่อมต่อและการแลกเปลี่ยนข้อมูลทั่วโลกในยุคดิจิทัลที่ไม่หยุดนิ่ง ทั้งนี้ การเชื่อมต่อของระบบ MIST กับจุดลงจอดที่มุมไบของ NTT DATA ได้เสร็จสมบูรณ์แล้วใน เดือนกุมภาพันธ์ 2566 และจุดลงจอดที่เจนไนในเดือนพฤษภาคม 2566

ด้วยการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง NTT DATA ประกาศเปิดตัวศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่สุดในอินเดีย ซึ่งสามารถรองรับโหลด IT ได้มากกว่า 500 เมกะวัตต์ (MW) เมื่อพร้อมใช้งานเต็มที่ บริษัทฯ ดำเนินการเกือบสองในสามของศูนย์ข้อมูลในอินเดียด้วยพลังงานหมุนเวียน และมุ่งมั่นที่จะใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ภายในปี 2573 ในศูนย์ข้อมูลและการดำเนินงานทั้งหมด ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย รวมถึงอุโมงค์ใต้ดินเพื่อการเชื่อมต่อที่ราบรื่นและเทคโนโลยีการทำความเย็น วิทยาเขตแห่งนี้เน้นความปลอดภัย นวัตกรรม และความยั่งยืน

ในฐานะที่ NTT DATA เป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลอันดับสามของโลก บริษัทฯ  มีแผนที่จะขยายความจุ ศูนย์ข้อมูลจาก 1,500 เมกะวัตต์ (MW) ในปัจจุบัน ไปเป็นมากกว่า 2,000 เมกะวัตต์ (MW) โดยเฉพาะในตลาดอินเดีย ซึ่ง NTT DATA เป็นผู้นำตลาดโดยคาดว่าจะเพิ่มความจุอีก 400 เมกะวัตต์ (MW) ในปีต่อๆ ไป ทั้งนี้ NTT DATA เป็นผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลเพียงรายเดียวที่มี AI load ที่ใช้งานแล้วกว่า 200 MW ทั่วโลก ในขณะที่โลกกำลังพูดถึง AI-ready อยู่นั้น NTT DATA คือ AI-experienced

ในฐานะที่นวัตกรรมเป็นเสาหลักของ NTT DATA บริษัทจึงได้ขยายและเปิดศูนย์นวัตกรรมในบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย โดยจะมุ่งเน้นไปที่โครงการ AI, Digital Twin และ Quantum Computing ทั้งนี้ การขยายตัวในครั้งนี้ยังเสริมความแข็งแกร่งให้กับศูนย์นวัตกรรมทั้ง 11 แห่งของ NTT DATA ที่กระจายอยู่ใน 11 ประเทศทั่วโลก  ด้วยการลงทุนในการพัฒนาและเสริมสร้างบุคลากรที่มีทักษะสูงใน สายงานเทคโนโลยีเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทั่วโลกเพื่อผลักดันการพัฒนาโซลูชั่นทางเทคโนโลยี ด้วย AI โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ AI ประเภท Agentic

พร้อมกันนี้ NTT DATA ยังประกาศความพร้อมในการใช้งานเชิงพาณิชย์ของ Innovative Optical and Wireless Network (IOWN) หรือเครือข่ายออปติคอลและไร้สายแห่งนวัตกรรม ซึ่งเป็นเครือข่ายแห่งอนาคต ที่พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อและลดต้นทุนการส่งข้อมูล โดยเทคโนโลยี IOWN APN ได้ถูกนำมาใช้ เชื่อมต่อศูนย์ข้อมูลในภูมิภาคมุมไบ เพื่อให้การส่งข้อมูลมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและต้นทุนต่ำลง

เทคโนโลยี IOWN ยังอยู่ในขั้นตอนการเริ่มต้นใช้งานในอินเดีย โดยมีแนวทางที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การประมวลผลข้อมูลและการสื่อสารที่ใช้เทคโนโลยีโฟโตนิกส์เพื่อให้การเข้าถึงเครือข่ายมีความรวดเร็วและ รองรับปริมาณข้อมูลสูง NTT Group ตั้งเป้าที่จะทำให้เทคโนโลยีนี้สามารถใช้งานได้อย่างแพร่หลายภายในปี 2573 เพื่อรองรับปริมาณข้อมูลที่กำลังเติบโตทั่วโลก ซึ่งคาดว่าปริมาณข้อมูลทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจนถึงระดับ 175 เซตตะไบต์ (zettabytes) ภายในปี 2568

อากิระ ชิมาดะ ประธาน และ CEO ของ NTT กล่าวว่า “อินเดียจะเป็นกุญแจสำคัญในกลยุทธ์ ระดับโลกของเรา โดยได้รับการขับเคลื่อนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจและดิจิทัลที่รวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันอินเดีย เป็นหนึ่งใน 10 ตลาดที่สร้างรายได้สูงสุดให้กับบริษัท และเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจที่ NTT DATA ได้มี ส่วนสำคัญในการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT ทั้งในอินเดียและทั่วโลก โดยเฉพาะในด้านศักยภาพ ของศูนย์ข้อมูล เรามุ่งมั่นที่จะลงทุน 59 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั่วโลกภายในปี 2570 เพื่อส่งเสริม การเติบโตในด้านต่างๆ รวมถึงศูนย์ข้อมูลและ AI เรามุ่งมั่นที่จะมอบโซลูชันที่ครบวงจรให้กับลูกค้าของเรา ทั่วโลกในด้านศูนย์ข้อมูล เครือข่าย แอปพลิเคชัน BPaaS บริการที่จัดการ คลาวด์ ความปลอดภัย และโซลูชัน AI”

อภิจิต ดูเบย์ CEO ของ NTT DATA, Inc. กล่าวว่า “ตลอดหลายปีที่ผ่านมา บริษัทได้ลงทุนกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของอินเดีย และยังคงมุ่งมั่นที่จะลงทุนอย่างต่อเนื่องใน ภูมิภาคนี้ การเปิดใช้งานระบบเคเบิล MIST ถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัท ในการเร่งรัดการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ระบบเคเบิล MIST ที่ลงจอดใกล้กับ Gateway of India ในมุมไบ กำลังทำหน้าที่เป็นประตูเชื่อมโยงของโลก เราจะยังคงขยายการดำเนินงานในอินเดีย โดยเน้นการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลที่นำโดย GenAI และปรับปรุงธุรกิจของเราในระดับโลก ขณะเดียวกันก็รักษาความมุ่งมั่นในเรื่องเป้าหมายความยั่งยืน อินเดียจะเป็นหนึ่งใน 5 ตลาดหลักของเรา ภายใน 3 ปีข้างหน้า”

อวิณาช โจชิ CEO ประจำประเทศอินเดีย ของ NTT DATA กล่าวว่า “เศรษฐกิจอินเดียในปัจจุบัน กำลังอยู่ในช่วงการเติบโต โดยเป็นตลาดชั้นนำและศูนย์กลางของนวัตกรรม ทักษะ และโอกาสตลอด หลายปีที่ผ่านมา NTT DATA ได้เติบโตผ่านการเข้าซื้อกิจการ และในปัจจุบันเรามีลูกค้ากว่า 3,000 รายในอินเดีย และจะยังคงสร้างแรงผลักดันนี้ต่อไป ในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมหลัก เช่น ธนาคาร การผลิต และยานยนต์ เรากำลังอยู่ในยุคของเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และ NTT DATA มั่นใจในความสามารถของบริษัทและคนในองค์กรในการตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้านโซลูชัน เทคโนโลยี ศูนย์ข้อมูล การบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐาน และแอปพลิเคชันอย่างแข็งแกร่ง”