Nikon ประกาศเปิดตัว “Nikon D5″ สุดยอดกล้องที่จะขยายขอบเขตของการถ่ายภาพอย่างไร้ขีดจำกัดให้กับช่างภาพมืออาชีพ กล้อง DSLR ฟอร์แมต FX ตัวล่าสุดของนิคอนนี้ได้รับพัฒนาคุณลักษณะหลายประการ อาทิ ความสามารถในการบันทึกภาพวัตถุเคลื่อนที่ และคุณภาพของผลงานที่น่าประทับใจเมื่อถ่ายภาพด้วยค่าความไวแสงสูง เพื่อรองรับกับการบันทึกภาพในทุกโอกาสไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร
มร.ฮิโรชิ โอเซกิ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว“เราเข้าใจดีว่า ช่วงเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาทีนั้นมันมีความสำคัญเพียงใด ในการบันทึกภาพการแข่งขันกีฬาที่กำลังเข้มข้น หรือภาพข่าวในสถานการณ์ที่กำลังคับขัน ซึ่งกล้องคู่ใจที่ดีจะต้องตอบโจทย์ได้เหนือกว่าทุกความคาดหมาย ด้วยการให้ผลงานที่มีประสิทธิภาพผสมผสานระหว่างความสามารถในการเก็บภาพกว้าง และการเก็บทุกรายละเอียดได้โดยทันที ไม่ว่าสถานการณ์หรือสภาพแวดล้อมตอนนั้นจะเป็นเช่นไร”
“ด้วยความเชื่อเช่นนี้ เราจึงได้พัฒนากล้อง Nikon D5 กล้อง DSLR รุ่นใหม่ในฟอร์แมต FX ซึ่งไม่เพียงแต่จะตอบทุกความต้องการที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ตัวกล้องยังได้รับการออกแบบให้ใช้งานสะดวก และความทนทานสูง กล้อง D5 นี้จึงเปรียบเสมือนเพื่อนคู่ใจช่างภาพมืออาชีพที่ยากจะหาอุปกรณ์ใดได้เสมอเหมือน”
ช่างภาพที่ต้องทำงานแข่งกับเวลาและจำเป็นต้องติดตามทุกสถานการณ์ ทุกความเปลี่ยนแปลงให้ทันท่วงที จะชื่นชอบกับระบบออโต้โฟกัสใหม่แบบ 153 จุด และช่องมองภาพที่แสดงภาพได้คงที่มากขึ้น ช่วยให้การติดตามวัตถุที่เคลื่อนไหวทำได้ง่ายขึ้น แม้จะถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงถึงประมาณ 12 เฟรมต่อวินาที*1 ภาพที่ได้จะมีความสวยงามยิ่งขึ้นจากการผสานการทำงานของเซ็นเซอร์รับภาพ CMOS ฟอร์แมต FX ใหม่ และระบบประมวลผลภาพ EXPEED 5 ใหม่ ที่นิคอนได้พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด ทำให้สามารถบันทึกภาพด้วยค่าความไว ISO มาตรฐานสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของนิคอน คือสูงถึง ISO 102400 ช่วยเพิ่มอิสระในการถ่ายภาพได้อย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งไม่เพียงแต่มีผลกับภาพนิ่งเท่านั้น ยังให้ภาพเคลื่อนไหวที่ดีขึ้นด้วยเช่นกัน กับความสามารถในการบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบ 4K UHD (3840 × 2160) ที่เป็นคุณสมบัติใหม่ล่าสุดจากกล้องนิคอน D5
นิคอน D5 ยังได้รับการพัฒนาคุณสมบัติและฟังก์ชั่นใหม่มากมาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างเห็นได้ชัดทั้งในด้านของเวลาและคุณภาพของงาน ด้วยความละเอียดภาพ 20.8 ล้านพิกเซล หน้าจอทัชสกรีน LCD ความละเอียดสูง การเชื่อมต่อที่รวดเร็วทั้งแบบใช้สาย LAN ผ่านทางช่องต่ออีเทอร์เน็ตที่มีในตัวเครื่อง และแบบไร้สายผ่านระบบเครือข่ายไร้สาย*2 พร้อมช่องใส่เมมโมรี่การ์ดถึงสองช่อง*3 ช่วยให้การทำงานราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด
เซ็นเซอร์วัดแสงรุ่นใหม่ 180K-pixel RGB ในระบบ Advanced Scene Recognition จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของระบบออโต้โฟกัส (AF) การเปิดค่าการรับแสงอัตโนมัติ (AE) และระบบปรับสมดุลแสงขาวอัตโนมัติ (AWB) โดยคุณสมบัติและการใช้งานอันเป็นสุดยอดทั้งหมดนี้อัดแน่นอยู่ในกล้องที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น และมีชัตเตอร์ที่เที่ยงตรงและทนทานมากขึ้น เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานทั้งในด้านความแม่นยำในการถ่ายภาพ ความแข็งแรงของกล้อง และความทนทาน นอกจากนี้ กล้องนิคอน D5 ยังรองรับการทำงานของฟังก์ชั่น Nikon Creative Lighting แบบใหม่ Advanced Wireless Lighting (AWL) ควบคุมแฟลชแบบไร้สายด้วยคลื่นวิทยุ และ Unified Flash Control*4 (ผนวกการควบคุมแฟลช) ใหม่ของนิคอนอีกด้วย
คุณลักษณะเด่นของกล้อง นิคอน D5
1. ตอบสนองรวดเร็ว ตามติดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบออโต้โฟกัสใหม่ให้ประสิทธิภาพสุดยอดในการติดตามวัตถุเคลื่อนที่ไม่จำกัดสถานการณ์ ช่วงเวลาสำคัญมักเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา ช่างภาพต้องเตรียมพร้อมรับมืออยู่เสมอให้สามารถบันทึกภาพได้ไม่ว่าสภาพแสงจะเป็นเช่นไร โจทย์นี้ได้รับการตอบด้วยระบบออโต้โฟกัสใหม่ของ D5 ด้วยโมดุลเซ็นเซอร์ออโต้โฟกัส Multi-CAM 20K ที่มีจุดโฟกัส 153 จุด โดยมี เซ็นเซอร์แบบ cross-type 99 จุด เพื่อครอบคลุมพื้นที่โฟกัสกว้างขึ้นและเพิ่มความหนาแน่นของจุดโฟกัสเพื่อจับโฟกัสวัตถุได้แม่นยำมากขึ้น จุดโฟกัสกลางมีความสามารถในการจับโฟกัสวัตถุในสภาวะแสงน้อยถึง -4 EV
ในขณะที่จุดโฟกัสอื่นเริ่มที่ -3 EV*5 ช่วยให้สามารถจับออโต้โฟกัสได้ แม้ในสภาพแสงน้อยมาก และวัตถุมีคอนทราสต่ำมาก นอกจากนั้นยังมีส่วนประมวลผลระบบออโต้โฟกัสสำหรับการจับวัตถุความเร็วสูงโดยเฉพาะ ทำงานควบคู่กับเซ็นเซอร์วัดแสง 180K-pixel RGB จึงมั่นใจได้ว่าระบบออโต้โฟกัสจะมีประสิทธิภาพที่วางใจได้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
2. รัวชัตเตอร์ได้ต่อเนื่อง ไม่สะดุด
ถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงที่ประมาณ 12 เฟรมต่อวินาที ผ่านช่องมองภาพที่แม่นยำ ช่วยให้การติดตามวัตถุเคลื่อนที่เป็นเรื่องง่าย D5 ถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงที่ประมาณ 12 เฟรมต่อวินาที*1 พร้อมระบบ AF และ AE ที่ใช้ติดตามวัตถุได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกระดับคุณภาพของภาพ และทุกการตั้งค่า ISO ที่เลือกใช้ การเพิ่มกลไกกระจกสะท้อนใหม่ช่วยให้การมองภาพผ่านช่องมองมีความนิ่ง สามารถมองตามวัตถุเคลื่อนที่ได้ง่ายขึ้น เสริมความคล่องตัวในการทำงานด้วยความสามารถในการบันทึกภาพแบบ lossless compressed RAW 12-bit ได้ต่อเนื่องสูงสุดถึง 200*6 รูปจากการถ่ายภาพในชุดเดียว
3. การสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัด ให้ภาพถ่ายเล่าเรื่องราวได้แจ่มชัด
ค่ามาตรฐานความไว ISO ที่สูงขึ้นเพื่อคุณภาพผลงานที่เหนือกว่าเมื่อถ่ายในช่วงความไวแสงสูงที่มักใช้เสมอ
การประสานงานที่ทรงพลังระหว่างเซ็นเซอร์รับภาพ CMOS ฟอร์แมต FX ใหม่ของนิคอน และระบบประมวลผลภาพ EXPEED 5 ใหม่ ช่วยขยายขีดความสามารถค่าความไวแสง ISO มาตรฐานใหม่ที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของนิคอน นั่นคือ สูงถึง ISO 102400 ด้วยระดับที่สูงอย่างไม่เคยมีมาก่อน จะทำให้ผลงานที่ได้มีคุณภาพที่ดีกว่าในทุกระดับ แม้บันทึกภาพที่ค่าความไวแสง ISO ที่ 3200 – 12800 อย่างที่มักใช้สำหรับการถ่ายภาพกีฬา หรือภาพเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกัน นอกจากนี้ช่วงไดนามิคของเซ็นเซอร์รับภาพที่กว้างขึ้นช่วยให้รายละเอียดชัดเจน ในโทนสีที่ถูกต้องสมจริง แม้ถ่ายภาพวัตถุที่มีสีสันจัดจ้านซึ่งยากต่อการเก็บรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน
4. ตื่นตากับผลงานการสร้างภาพยนตร์ที่คมชัดระดับสูงสุด
ผลงานภาพยนตร์ในรูปแบบ 4K UHD (30p) กล้อง D5 รองรับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวในแบบ 4K ที่ให้ความละเอียดคมชัดกว่าแบบ HD หรือ Full-HD สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบ 4K UHD (3840 × 2160) / 30p, 25p, 24p ลงในเมมโมรี่การ์ดที่อยู่ในตัวกล้อง สามารถเลือกดูผลงานทันทีผ่านช่อง HDMI ต่อกับจอแสดงผลภายนอก หรือจะบันทึกวีดีโอแบบไม่บีบอัดลงเครื่องบันทึกภายนอก ด้วยความสามารถในการเลือกค่าความไวแสงมาตรฐานสูงสุดได้ถึง ISO 102400 หรือสูงขึ้นถึงระดับ Hi 5 (เทียบเท่า ISO 3280000) ภาพที่ได้จึงมีคุณภาพที่เหนือกว่า แม้จะตั้งค่าความไวแสงสูง เสริมประสิทธิภาพสู่ประสบการณ์สร้างภาพยนตร์อันน่าตื่นตาด้วยความสามารถในการถ่ายผลงานเคลื่อนไหวแบบ Time-lapse ระดับ 4K UHD ได้โดยตรงจากกล้องทันที
5. คุณสมบัติขั้นสูงเพื่อตอบโจทย์ความเร็ว และประสิทธิภาพในการทำงาน
หน้าจอทัชสกรีน LCD ขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียดสูง 2,359k-dot หน้าจอแสดงผลแบบทัชสกรีนช่วยให้การดูผลและเลือกภาพจำนวนมาก ๆ ทำได้อย่างรวดเร็ว โดยการใช้แถบเลื่อนเฟรม รองรับการทำงานให้ง่ายขึ้นด้วยความสามารถในการใส่ข้อความในภาพ จอภาพความละเอียดสูงแสดงผลได้ชัดเจนทันที ให้ภาพคมชัดเมื่อซูมขยายภาพขณะใช้งาน Live View ช่วยให้สามารถยืนยันความคมชัดภาพทำการหาโฟกัสวัตถุ
– ยกระดับประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อเน็ทเวิร์คทั้งแบบใช้สายและไร้สาย ระบบการเชื่อมต่อเน็ทเวิร์คได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพื่อรองรับการเชื่อมต่อที่เร็วขึ้นอย่างน้อย 2 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่น D4S ทั้งการเชื่อมต่อแบบมีสายผ่านช่องต่ออีเทอร์เน็ตที่มีในตัวเครื่อง และแบบไร้สายเมื่อใช้ร่วมกับ Wireless Transmitter WT-6 ใหม่ (อุปกรณ์เสริม แยกจำหน่าย)
– การจัดเก็บผลงานที่หลากหลายเลือกได้ตามความต้องการ กล้องนิคอน D5 มีให้เลือกในสองเวอร์ชั่นตามรูปแบบของเมมโมรี่การ์ด สามารถเลือกได้ว่าจะใช้เวอร์ชั่นที่รองรับการ์ด XQD หรือเวอร์ชั่นที่รองรับการ์ด CompactFlash โดยในกล้องแต่ละเวอร์ชั่นจะมีช่องเสียบการ์ด (ประเภทเดียวกัน) ถึงสองช่อง
6. เชื่อมต่อทุกเครือข่ายได้อย่างง่ายดาย
Wireless Transmitter WT-6 (อุปกรณ์เสริม แยกจำหน่าย) สำหรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบไฮสปีด เมื่อเชื่อมต่อกับกล้อง D5 จะช่วยให้สามารถโอนถ่ายข้อมูลภาพไปยังคอมพิวเตอร์*7 หรือเซิร์ฟเวอร์ FTP ได้ในระดับไฮสปีดผ่านเครือข่ายไร้สายที่เร็วสูงสุดถึงราว 200 m*8 การสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ จะเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รองรับมาตรฐาน IEEE 802.11ac (2×2 VHT80) ใหม่ นอกจากนี้ ยังสามารถควบคุมกล้องแบบไร้สายผ่านคอมพิวเตอร์ได้ทันทีโดยการใช้ Camera Control Pro 2 (อุปกรณ์เสริม แยกจำหน่าย) และเมื่อต่อ WT-6 เข้ากับกล้อง D5 แล้วจะเปรียบเสมือนการมี LAN access point แบบไร้สายขึ้นมา ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนได้โดยตรง
Nikon D5 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน CES 2016 ที่ลาส เวกัส สหรัฐอเมริกา ไปเมื่อเร็วๆ นี้
ข้อมูลเพิ่มเติม
1 ทำได้ผ่านโหมด Continuous High-speed (CH) ด้วยความเร็วชัตเตอร์ 1/250 วินาที หรือเร็วกว่า
2 เมื่อใช้งานร่วมกับ Wireless Transmitter WT-6 (อุปกรณ์เสริม แยกจำหน่าย)
3 กล้องรุ่นนี้มีสองแบบให้เลือกตามเมมโมรี่การ์ดที่ใช้ ระหว่างการ์ดแบบ XQD สองช่อง หรือการ์ดแบบ CompactFlash สองช่อง
4 เมื่อใช้ร่วมกับ Speedlight SB-5000 (อุปกรณ์เสริม แยกจำหน่าย)
5 ที่ ISO 100, 20 °C/68 °F
6 เมื่อใช้เมมโมรี่การ์ด Lexar Professional 2933x XQD 2.0
7 ต้องมีการติดตั้ง Wireless Transmitter Utility ในคอมพิวเตอร์เสียก่อน (ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของนิคอน)
8 ต้องมีเสาใหญ่ที่ wireless LAN access point ทั้งนี้ ระยะควบคุมขึ้นอยู่กับความแรงของสัญญาณ และสิ่งกีดขวางใดๆ ที่มี
