จากเหตุการณ์ “รัฐประหาร” ครั้งที่ 13 ในประเทศไทย เมื่อเวลา 16.30 น. ของวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 สื่ออย่างวิทยุ โทรทัศน์หรือแม้กระทั่งการรายงานข่าวสดผ่าน Youtube ได้ถูกจำกัดสิทธิในการเผยแพร่รายการปกติอย่างสิ้นเชิง เหลือเพียงสื่ออย่างโซเชียลมีเดียที่ยังเป็นแหล่งรับข่าวสารได้
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคโซเชียลมีเดียรุ่งเรื่องการรับข่าวสารสามารถทำได้โดยง่ายและรวดเร็ว ผ่านทาง Facebook และ Twitter สองโซเชียลมีเดียยอดนิยมสำหรับคนไทย และการรับข่าวสารทาง LINE ซึ่งจากความง่ายและรวดเร็วอาจมองเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้ประชาชนรู้ทันสถานการณ์ต่างๆแบบนาทีต่อนาที แต่ในทางกลับกันมันกลายเป็นช่องทางของการฉกฉวยโอกาสของ “ผู้ไม่หวังดี” ที่มักมีเจตนาให้ร้าย ยุยง ปั่นป่วน ให้เกิดความแตกแยก ความวิตกกังวล ให้กับประชาชนคนไทยด้วยการปล่อย “ข่าวลือ” จากการโพสต์ทาง Facebook, Twitter และ LINE ซึ่งส่วนมากมักจะแฝงด้วยประโยคที่ว่า “จากวงใน”, “รีบส่งต่อ เรื่องด่วน” ฯลฯ และด้วยความรวดเร็วในการส่งต่อหรือแชร์ด้วยโซเชียลมีเดียหรือแอพแชทก่อให้เกิดความตื่นตระหนก ไม่ใช่เพียงแค่ตัวบุคคล แต่ยังอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจ ความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองไทยได้
ล่าสุดในโซเชียลมีเดียกลับมีผู้ไม่หวังดีปล่อยข่าวลือการตัดอินเทอร์เน็ต ทำให้ประชาชนที่หลงเชื่อส่งต่อหรือแชร์กันเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งกระทรวงไอซีทีและ คสช. (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) ต้องรีบออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว พร้อมชี้แจงว่า ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลข่าวสารทางสื่อออนไลน์ เช่น แจ้งว่ามีการปิดสัญญาณอินเตอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย ไลน์ ยูทูป ซึ่งบิดเบือนความจริง โปรดรับทราบข้อมูลที่ถูกต้องจากสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก
และในโอกาสนี้จึงขอแนะนำให้ชาวโซเชียลมีเดียทั้งหลาย ตลอจนผู้ใช้งานทุกคนควรใช้วิจารณญาณทั้งด้านหลักฐานและการติดตามการแถลงข่าวมากกว่าจะตัดสินกันที่การส่งต่อหรือแชร์ข่าวเรื่อยมาทางโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในสถานการณ์บ้านเมืองเช่นนี้ครับ !!!!
ภาพจาก Twitter : @Thairath_News