โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ที่เหมาะสำหรับสายครีเอเตอร์ แถมยังใช้เล่นเกมได้สบาย ๆ ซึ่งในรุ่นนี้ต้องบอกเลยว่า Lenovo เขาให้สเปคมาแบบจัดเต็มในราคาที่จับต้องง่ายกว่ารุ่นก่อนมาก มาพร้อมเทคโนโลยี AI ช่วยควบคุมและแจกจ่ายงานลงในแต่ละคอร์ของ CPU ช่วยให้การใช้งานไหลลื่น ไม่มีสะดุด รวมทั้งยังมีระบบระบายความร้อนในเจนเนเรชั่นที่ 5 แล้ว เรนเดอร์งานหนักแค่ไหน ก็ยังชิวได้อยู่
เครื่องที่เราได้มาทดสอบ มาพร้อมกับชิปประมวลผลตัวท็อป Intel Core i9-13900HX รุ่นล่าสุด ที่ให้ประสิทธิภาพที่สูงมาก จับคู่กับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4070 ซึ่งจะทำให้การทำงานกราฟฟิกต่าง ๆ รวมทั้งการเล่นเกม ทำได้อย่างราบลื่น หากใครไม่อยากประกอบพีซีเพราะพื้นที่ในบ้านมีไม่มากหรืออยากมีคอมเครื่องเดียวเอาไว้ใช้ทำงาน และใช้เล่นเกมไปด้วย ก็หันมาใช้ Notebook Hi-End ระดับท็อปตัวนี้แทนได้ ที่สำคัญคือ มันพกไปใช้งานนอกบ้านได้ด้วย
ทำไมเราถึงบอกว่า เครื่องนี้เล่นเกมได้ ทำงานก็เด็ด นั่นเพราะสถาปัตยกรรมของชิป Intel และเทคโนโลยีภายในที่หลายคนอาจไม่รู้เคยมาก่อน ซึ่งก่อนเข้าเนื้อหาการรีวิว เราขอพูดถึงเทคโนโลยีชิปที่หลายคนอาจมองข้ามไป และยังไม่รู้ว่าชิป Gen 13 ของ Intel นั้นเจ๋งแค่ไหน
1.สถาปัตยกรรมแบบ Hybrid Core
ตั้งแต่ชิปรุ่น Intel Gen 12 อินเทลได้มีการออกแบบสถาปัตยกรรมแบบ Hybrid Core เพราะอะไร ? อินเทลมองว่า เราไม่ได้ใช้เครื่องงานหนัก ๆ ตลอดเวลา โดยได้แยกคอร์ประมวลผลออกมา 2 แบบคือ P-core และ E-core ซึ่งจะตอบที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้มากกว่า โดย Efficiency core (E-Core) จะรันตอนทำงานเบาๆ เปิด Word , Powerpoint , โปรแกรมออฟฟิสอื่น ๆ หรือนั่งดู Youtube ซึ่งคอร์เหล่านี้ความแรงพอที่ใช้งานเบาๆ ได้สบาย ประโยชน์คือมีความร้อนน้อยกว่า กินไฟน้อยกว่า ช่วยประหยัดพลังงานได้มากขึ้น
ถัดมาคือ Performance core (P-core) ตามชื่อเลยคือให้ประสิทธิภาพสูง ความแรงมาก ทำงานหนักได้สบาย แต่กินไฟมากขึ้นนิดหน่อย ช่วยในการเล่นเกมที่มีรายละเอียดเกมสูงมาก ๆ ช่วยเรนเดอร์วีดีโอหนัก ๆ หรือใช้สำหรับการทำงานแบบ Multitasking ที่ต้องเปิดโปรแกรมหลายอย่างพร้อมกัน ช่วยให้ใช้งานได้อย่างไม่มีสะดุด
แล้ว Intel รู้ได้ยังไงว่า งานไหน ใช้คอร์อะไร ก็เพราะมีคนสั่งการยังไงล่ะ ภายในชิปจะมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Intel Thread director ซึ่งเป็นตัวจัดการลำดับการทำงานของแกนประมวลผลในซีพียูระหว่าง P-core และ E-core เช่น เปิด Youtube ใช่ไหม ส่ง E-Core ไป หรือเปิดเล่นเกม ส่ง P-core ไป ซึ่งจะทำให้เกิดการทำงานแยก ไม่ยุ่งกัน ทำให้ไม่ต้องแบ่งทรัพยากร แน่นอนว่าเฟรมเรทที่ได้ ก็จะสูงขึ้น
2.Intel Quick Sync Video
อันนี้บอกเลยว่า เป็นฟีเจอร์ที่ชอบมาก และหลายคน “มองข้าม” โดยปกติแล้ว หากเป็น Gaming Notebook ก็จะมีการ์ดจอมาให้ ถูกไหม ทำให้ชิปกราฟฟิกใน CPU หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า “การ์ดจอ ออนบอร์ด” ก็จะถูกปล่อยว่าง ไม่ได้ใช้งานใด ๆ แต่ Intel มีแนวคิดจะที่ดึงพลังการประมวลผลจากการ์ดออนบอร์ดมาใช้งานควบคู่กับการ์ดจอแยกครับ
ยกตัวอย่างเช่น สำหรับคนที่ต้องการจะใช้งานแบบ Multitasking ที่ต้องการเล่นเกมด้วย ทำสตรีมด้วย อาจมองว่า ต้องใช้เครื่องแรง ๆ หรือ PC Desktop เท่านั้น เพราะโปรแกรมสตีมมิ่งนั้นกินพลังงานสูง Intel จึงพัฒนาฟีเจอร์ Quick Sync Video (QSV) ขึ้นมา โดยดึงเอา iGPU หรือชิปกราฟฟิกออนบอร์ดไปใช้ในการประมวลผลสำหรับทำสตรีมมิ่ง และให้ CPU กับ การ์ดจอแยก ประมวลผลเฉพาะเกมไป ส่งผลให้ลดภาระใน CPU ได้มากถึง 40-50 เปอร์เซ็นเลยทีเดียว แค่นี้ก็ใช้ Notebook ในการทำสตรีมมิ่งได้แล้ว ซึ่งเราสามารถเข้าไปปรับได้ในโปรแกรมสตรีมมิ่งได้เลยครับ
3.Intel Virtual Technology
เป็นนวัตกรรมที่ Intel พัฒนาขึ้นมาสำหรับการทำ Virtual Machine หากใครชอบเล่นเกมมือถือบนคอม ที่ต้องใช้งานผ่าน BlueStacks หรือโปรแกรมอื่น ๆ แต่เวลาเล่น มันหน่วง มันแลคซะเกิน ลองเข้าไปเปิดใช้งานใน Intel Virtual Technoloy ได้ใน Bios ครับ และมันจะทำให้ BlueStacks ลื่นมากขึ้น
เจาะลึกเทคโนโลยีชิปภายในกันไปแล้ว มาดูที่ตัวเครื่องกันมั่งดีกว่า
รายละเอียดสเปค Lenovo Legion Pro 5i
- Display : 16″ WQXGA (2560 x 1600) อัตราส่วนภาพ 16:10, 240Hz VRR , HDR 1000, IPS-Level HDR 400 sRGB 100% NVIDIA® G-SYNC™ Support
- CPU : Intel Core i9-13900HX
- GPU : Nvidia GeForce RTX 4070 Laptop GPU 16GB GDDR6
- Memory : 32GB DDR5-5600 MHz (16GB x 2)
- Storage : 1TB M.2 SSD 2 slot (NVMe PCIe Gen4) Up to 2 TB
- Wi-Fi/Bluetooth : Wi-Fi 6E, 802.11ax 2×2 Wi-Fi + Bluetooth 5.1, M.2 card
- LAN : Gigabit Ethernet, 1x RJ-45
- Ports I/O : 1 x Type C (Intel:USB 3.2 Gen2 + DisplayPort 1.4) , 1 x Type A (USB 3.2 Gen 1 , 1 x Audio Combo Jack , 1 x Type A (USB 3.2 Gen 1) , 1 x E-Shutter Button 1 x DC in , 1 x Type C (USB 3.2 Gen2 + DisplayPort1.4 + Power Delivery 140W) , 1 x Type A USB 3.2 Gen 1 (Always On USB 5V2A),1 x Type A USB 3.2 Gen 1 , 1 x HDMI 2.1 ,1 x Lan RJ45
- Camera : 1080P with E-Shutter รองรับ Windows Hello
- Security : Firmware Trusted Platform Module (TPM) 2.0 , E-Shutter Webcam Button
- Speaker : 2W Speaker x2 With Nahimic Audio
- Battery : 4-Cell 80Whr Super Rapid Charge
- Adaptor : 300W adapter Slim Tip
- Dimension (WxDxH) : 363.4 x 260.35 x 22.45-26.75 mm
- Weight : 2.55 kg (3.55 kg With Adaptor)
- Color : Onyx grey
- OS : Windows 11 Home
ฮาร์ดแวร์ ดีไซน์และการออกแบบ
ฐานแชสซีของ Legion Pro 5i นั้นทำจากพลาสติกผสม (PC-ABS) มีความยืดหยุ่นสูงแต่ไม่แตกหักง่าย และช่วยลดทอนน้ำหนักของตัวเครื่องลงไปได้มาก ส่วนฝาพับเป็นอะลูมิเนียมเคลือยทั้งหมด ทำให้มีความแข็งแรงทนทานมาก และ Lenovo ก็ได้ออกแบบบานพับแบบใหม่ที่เป็นอลูมิเนียมเช่นกัน เปิด-ปิด ได้ยาว ๆ 4-5 ปีไปเลย มาพร้อมสี Onyx Grey ซึ่งมีให้เลือกเพียงสีเดียว ต่างจากก่อนหน้าที่มีสีขาวด้วย
สำหรับ Lenovo แล้ว เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรายแรกๆ ที่เริ่มดีไซน์พอร์ตต่าง ๆ ไว้ที่ขอบด้านหลังของเครื่อง เพื่อมีให้เกมเมอร์หรือครีเอเตอร์ มีพื้นที่ด้านข้างไว้ใช้ทำอะไรได้มากขึ้น ส่วนตัวมองว่าดีมาก เพราะ Notebook บางรุ่น ดีไซน์เอาพอร์ตต่าง ๆ มาอยู่ฝั่งขวามือ ซึ่งเวลาเล่นเกม ก็เกะกะไปหมดจนต้องต่อเมาส์กับคีย์บอร์ดแยก
Lenovo ยังมีฝาครอบพลาสติกปิดรูระบายความร้อนที่ติดมากับแชสซีของตัวเครื่อง กันไม่ใช่ผู้ใช้เผลอเอามือไปโดนแผ่นซิงค์ แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาต่อการอัปเกรดนะครับ เพราะหากถอดน็อตออก แกะนิดเดียวก็เปิดฝาได้ง่าย ๆ
สิ่งที่เยี่ยมยอดที่สุดคือ ตัวเครื่องมาพร้อมกล้องเว็บแคมขนาด Full HD 1080p ไม่ใช่ 720p แล้ว นั่นทำให้เวลาที่เราใช้ประชุมงานหรือวีดีโอคอลกับเพื่อน ภาพจะไม่แตกอีกต่อไป ซึ่งก็ถือว่าดีแล้ว เพราะอินเทอร์ปัจจุบันก็เร็วขึ้นมาก ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับความคมชัดแค่ 720p ครับ
คีย์บอร์ดและทัชแพช
Lenovo มีคีย์บอร์ดสำหรับเล่นเกมแบรนด์ของตัวเองในชื่อ “TrueStrike” ซึ่งใช้กับ Legion ทุกรุ่น มาพร้อมไฟ RGB แบบ4 โซนที่สามารถเปลี่ยนรูปแบบไฟได้ถึง 4 รูปแบบ โดยเปลี่ยนได้ผ่านปุ่ม Fn+ Spacebar
ปุ่มกดแต่ละปุ่ม มีขนาดพอเหมาะกับนิ้ว มีระยะห่างอยู่ที่ 1.5 มม. ซึ่งเป็นระยะห่างมาตรฐานสำหรับ Gaming Keyboard ครับ ส่วนในเรื่องของการสัมผัส ให้ความรู้สึกนุ่มลึก ไม่ยวบแต่ไม่แข็งจนเกินไป เล่นเกมมัน ๆ แต่สำหรับคนที่ใช้พิมพ์งานเป็นหลัก อาจจะไม่ค่อยรู้สึกชอบเท่าไหร่
สำหรับทัชแพชมีขนาด 2.95 x 4.72 นิ้ว ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลเวลากดและใช้นิ้วลูบ และยังมีความแม่นยำในการใช้งาน แต่ส่วนใหญ่แล้วทัชแพชใน Gaming Notebook มักจะไม่ค่อยได้ใช้งานกันเท่าไหร่ เพราะเกมเมอร์น่าจะหันไปใช้เมาส์เกมมิ่งกันมากกว่า ทัชแพชจึงเหมาะกับการใช้งานอื่น ๆ ที่ไม่ใช่การเล่นเกม
อีกส่วนหนึ่งที่ชอบมากคือ Lenovo ดีไซน์ให้ปุ่มลูกศรนั้นแยกโซนจากส่วนของปุ่มหลัก ทำให้การเล่นเกมที่ใช้ปุ่มลูกศรนั้นกดได้ง่ายขึ้น แต่จุดสังเกตคือ ปุ่ม WASD ไม่ได้ถูกทำให้โดดเด่นหรือให้สัมผัสแตกต่างจากปุ่มอื่น ๆ ซึ่งส่วนตัวมองว่า มันควรจะโดดเด่นมากกว่านี้เนอะ
สำหรับการปรับโหมดการใช้งาน สามารถกดได้ง่าย ๆ ผ่านปุ่ม Fn + Q ซึ่งมี 3 โหมดให้เราเลือกใช้คือ 1. Auto คือระบบจะปรับพัดลมอัตโนมัติ 2.Silent หรือโหมดเงียบ โหมดที่เสียงเบาที่สุด ช่วยทำงานได้ดี 3.Performance โหมดเหมาะกับการเล่นเกมมากที่สุด
จอแสดงผล
สำหรับหน้าจอ นับเป็นจุดที่โดนเด่นมาก ๆ ของ Lenovo Legion Pro 5i เลยก็ว่าได้ มาพร้อมความคมชัดแบบ 2K WQXGA (2560 x 1600) ขนาด 16 นิ้ว พาแนล IPS อัตราส่วน 16:10 และให้ค่า Refresh Rate ถึง 240 Hz รองรับ NVIDIA® G-SYNC ช่วยลดภาพฉีกขาดของหน้าจอได้อย่างมาก เรียกว่า ให้ออปชั่นมาสมกับความเป็น Gaming Notebook สุด ๆ
อี่กส่วนสำคัญคือ หน้าจอมาพร้อมค่าสี sRGB 100% AdobeRGB 75% และ DCI-P3 ที่ 76 % นั่นแปลว่า เราสามารถนำ Notebook เครื่องนี้ไปทำงานกราฟฟิกได้สบาย ๆ แต่หากเราต้องใช้ค่าสีอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ sRGB ก็สามารถคาลิเบรทจอภายหลังได้ครับ
ลำโพง
Lenovo Legion Pro 5i มาพร้อมลำโพงขนาด 2 วัตต์ที่อยู่ใต้เครื่อง จำนวน 2 ข้าง มาพร้อมตะแกรงขอบทำมุม ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้เสียงอู้อี้เมื่อเราวางคอมบนโต๊ะหรือตัก จากการฟังยอมรับว่า เสียงค่อนดีสามารถแยกความแตกต่างระหว่างเสียงเบา ๆ ได้ระดับหนึ่ง มาพร้อมแอปช่วยจูนเสียงอย่าง Nahimic ช่วยให้เราเลือกโปรไฟล์เสียงต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การฟังเพลง , ดูหนัง , เล่นเกม , วีดีโอคล และแอปยังรวมทั้งยังรองรับการเชื่อมต่ลำโพงภายนอก และสามารถปรับค่าเสียงผ่านตัวแอปได้เช่นกัน
พอร์ตเชื่อมต่อ
อย่างที่บอกไปเบื้องต้นว่า Lenovo คือแบรนด์แรกๆ ที่มีการนำพอร์ตเชื่อมต่อหลัก ๆ มาไว้ด้านหลังตัวเครื่อง เพื่อให้เกมเมอร์มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ไม่ต้องมานั่งกังวลกับสายด้านข้าง
พอร์ตด้านหลัง (เริ่มจากซ้ายสุด)
- Lan RJ45
- USB-C 3.2 Gen 2
- HDMI 2.1
- USB 3.2 Gen 1
- USB 3.2 Gen 1 (Alway On)
- Power Connector
พอร์ตด้านซ้าย
- USB-C 3.2 Gen 1
- USB-C 3.2 Gen 2
พอร์ตด้านขวา
- USB 3.2 Gen 1
- 3.5 mm Audio Combo
- ปุ่ม Switch เปิด-ปิด กล้อง Webcam
การอัปเกรด & ระบบระบายความร้อน
เมื่อแกะฝาครอบด้านหลังออก จะพบกับ Heat pipe ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นระบบระบายความร้อน Lenovo coldfront 5.0 รุ่นใหม่ มีพัดลม blower สองตัวที่ช่วยระบายความร้อนให้กับ CPU และ GPU โดยจะดูดอากาศจากใต้ตัวเครื่องและระบายลมร้อนออกด้านหลังและด้านข้างสองฝั่ง ซึ่งไม่ได้ระบายออกด้านหน้าจอ ช่วยให้การเล่นเกมไม่สะดุด และคียบอร์ดไม่ร้อนจนเกินไป
ตัวเครื่อง สามารถอัปเกรดแรมเพิ่มได้สูงสุดที่ 64GB (DDR5 5600 MHz) และรองรับการ SSD M.2 PCIe Gen 4 ความจุสูงสุด 2TB (1 TB x 1TB)
ประสิทธิภาพ
CPU & RAM
CPU ของ Lenovo Legion Pro 5i เป็น Intel Gen 13 รุ่นท็อปสุดอย่าง Intel Core i9-13900HX (
24 Cores 32 Threads (8P+16E) ) ความเร็วสูงสุด 5.4GHz สถาปัตยกรรม 10 นาโนเมตร อัตราการกินไฟเริ่มต้นที่ 55 วัตต์
แรมที่ติดตั้งมาในเครื่อง เป็น DDR5 บัส 5600 MHz ความจุ 32 GB (16GB x 2 แบบ Dual Channel) เพียงพอต่อการใช้เล่นเกมแบบเหลือ ๆ
GPU
การ์ดจอในเครื่องเป็นการ์ดระดับกลาง – สูง NVIDIA GeForce RTX 4070 แรม 8GB GDDR6 สถาปัตยกรรม Ada Lovelace มี CUDA Cores อยู่ที่ 4608 รองรับการเล่นเกมได้ทุกเกมพร้อมกับเรนเดอร์งานได้ไหลลื่น รองรับ DLSS3 และ Ray Tracing หมดห่วงเรื่องอัตรา FPS แม้จะเปิดเล่นเกมแบบ 2K อัตราการกินไฟสูงสุด 140 วัตต์ (แนะนำว่าให้เสียบสาย Power ระหว่างเล่นเกมหนัก ๆ )
PC Mark
สำหรับโปรแกรมทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่อง PCMARK10 ได้คะแนนโดยรวมที่ 8353 ซึ่งถือว่าสูงมาก เป็นอีกหนึ่งเหตุผล
3D Mark
ผลทดสอบ 3DMARK ได้คะแนนกราฟฟิก 9,075 คะแนน ส่วนคะแนน CPU ได้ 16,407 เปรียบเทียบกับการเล่นเกม battlefield V ความละเอียด 2K 1440p ปรับแบบ Ultra ได้ FPS เกิน 90+ สบาย ๆ ครับ
Cinebench R15 R20 และ R23
ผลทดสอบ CINEBENCH แต่ละโปรแกรม แยกออกเป็นข้อมูลคือ
- R23 ใช้ทดสอบกำลังประมวลผลของซีพียู ซึ่งมีความละเอียดและแม่นยำเป็นพิเศษ ได้คะแนน Multi Core 25,651 pts และ Single Core อีก 2,025 pts
- R20 ใช้ทดสอบกำลังประมวลผลของซีพียูเป็นหลัก ได้คะแนน CPU 10,715 pts
- R15 ใช้ทดสอบการเรนเดอร์งานและโมเดล 3D ว่าซีพียูและกราฟิคการ์ดทำได้ลื่นไหลหรือไม่ คะแนน OpenGL 266.31 fps และ CPU 4,554 cb
Crystaldiskmark ทดสอบ SSD
SSD PCIe Gen4 ที่ติดตั้งมาจากโรงงานเป็นของ SAMSUNG ขนาด 1TB ให้ค่า Read สูงสุดที่ 6,672.94 MB/s และค่า Write สูงสุดที่ 2,212.20 ซึ่งถือว่าเร็วเอาเรื่อง หมดปัญหาเรื่องคอขวดหาก CPU เรียกหาไฟล์เกมขนาดใหญ่
แบตเตอรี่และความดังพัดลม
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ทดสอบโดยการเปิด Youtube ผ่านเบราว์เซอร์ Edge เปิดความสว่างหน้าจอที่ 70% ปรับฟังก์ชั่นเป็น Auto Mode และเปิดใช้งานฟังก์อื่น ๆ ปกติ แบตสามารถใช้งานได้ราว 2 ชั่วโมงเศษ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติสำหรับ Gaming Notebook นะครับ
ความดังพัดลม
สำหรับพัดลม อันนี้ต้องยอมรับว่า ถ้าหากปรับให้พัดลมทำงานแบบ Full เพื่อช่วยให้ระบายความร้อนได้แบบสูงสุด เสียงจะค่อนข้างดังครับ ดังขนาดไหน ? ง่าย ๆ คือคนที่อยู่ในห้องเดียวกับเรา ได้ยินชัดเจนแน่นอน แต่เชื่อว่า เราคงไม่ได้เปิดใช้งานแบบเต็มประสิทธิภาพแบบนี้ตลอด ซึ่งน่าจะใช้เฉพาะช่วงที่เรนเดอร์วีดีโอหนัก ๆ หรือเปิดใช้โปรแกรมเทสที่ต้องรีดประสิทธิภาพของเครื่องออกมา
ซอฟต์แวร์ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพ
Lenovo Legion Pro 5i มาพร้อมซอฟต์แวร์สุดเจ๋งอย่าง Lenovo Vantage ที่ช่วยให้เราปรับตั้งค่าต่าง ๆ ของเครื่องได้ง่ายขึ้น ทั้งการดูค่าสถานะของ CPU , GPU และ vRAM ช่วยให้เราเช็คว่ามีซอฟต์แวร์ใดกินพลังงานเครื่องมากเกินไปหรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่ให้เราปรับใช้งานเพิ่มเติมได้
- Thermal Mode ปรับการใช้งานอุณภูมิในตัวเครื่อง ซึ่งมันก็คือ Fn+Q ที่ปรับโหมดการทำงาน แต่เราสามารถปรับในซอฟต์แวร์ได้เช่นกัน
- GPU Overclock เร่งการทำงานสูงสุดของการ์ดจอ ช่วยให้การ์ดจอแรงขึ้นอีกหน่อย
- Network Boost ช่วยทำให้ Internet ให้มีความเสถียรมากขึ้น เหมาะสำหรับใช้เล่นเกมอย่างมาก
- Auto Close ให้เราเลือกซอฟต์แวร์ที่จะให้ปิดอัตโนมัติเมื่อเราเล่นเกม
- GPU Working Mode ให้เราเลือกโหมดการทำงานของ GPU เช่น ให้เปิดทำงานแบบ Hybrid ให้ระบบเลือกเองว่าจะใช้งาน GPU ที่เป็นออนบอร์ดหรือ RTX 4070 หรือเลือกให้ใช้งานเฉพาะ GPU ออนบอร์ด ซึ่งจะทำให้ลดการกินไฟและลดความดังของพัดลมลงไปได้
นอกจากนี้ โปรแกรมยังซิงค์กับข้อมูลอื่น ๆ ในเครื่อง เช่น System Update ช่วยดูว่ามีการอัปเดตไดรเวอร์หรือไม่ หรีอใช้ปรับ Macro Key ก็ยังทำได้ครับ
ทดสอบการเล่นเกม
ผมทดสอบด้วยการเล่นเกม Call of Duty : Modern Warfare ปรับสุดทุกอย่าง ปรับภาพเป็น 2K เปิด DLSS สามารถทำ FPS ได้เกิน 90 FPS ซึ่งถือว่าโอเคมาก
ทดอสอบเรนเดอร์วีดีโอ
ผมทดลองเอา Project จากอีกเครื่องที่เป็นไฟล์วีดีโอ 4K ขนาด 100GB เศษ มาทดลองเรนเดอร์ใน Legion Pro 5i พบว่าใช้เวลาเพียง นาทีครึ่งเท่านั้น ถือว่าเร็วมาก สายครีเอเตอร์ไม่ต้องสงสัยแล้วว่า เครื่องนี้ใช้ทำงานได้ไหมนะ..
ประกันตัวเครื่อง
สำหรับการรับประกันตัวเครื่อง Legion Pro 5i นั้นให้ประกันแบบจุใจ มีประกันอุบัติเหตุ 2 ปี และมี On-Site Service Ultimate Support ให้อีก 4 ปีเต็ม เครื่องเสียเมื่อไหร่ เรียกช่างมาซ่อมถึงบ้านได้เลย
ราคาตัวเครื่องตอนนี้อยู่ 69,990 ซึ่งถ้าหากซื้อผ่านเว็บไซต์ของ Lenovo จะได้ส่วนลดเพิ่มเติมครับ
สรุป
สำหรับ Lenovo Legion Pro 5i นับเป็น Notebook ที่ต้องยอมรับเป็นตัวจบจริง ๆ มันสามารถไปใช้งานได้หลากหลาย แม้ซีรีย์ Legion จะเป็นรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์ แต่ด้วยเทคโนโลยีภายในทั้งเรื่องของชิปที่ชาญฉลาด การ์ดจอ RTX ที่สามารถนำมาทำงานกราฟฟิกได้ดีมาก รวมทั้งซอฟต์แวร์ Lenovo Vantage ที่สามารถปรับการทำงานของ Overclock ได้ง่าย ๆ จะเรนเดอร์หนักแค่ไหนก็หมดห่วง มันจึงตอบโจทย์การใช้งานปัจจุบันที่หลายคนไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับที่เท่าไหร่
นอกจากนี้ Lenovo ยังทำราคามาดีมาก ตัวรุ่นตัวท็อปสุดที่เป็น CPU Intel Core i9-13900HX ที่ได้มารีวิวนั้นมีราคาต่ำกว่า 7 หมื่น และยังมีประกัน On-Site Service Ultimate Support ให้อีก 4 ปีเต็ม ซื้อแล้วก็ใช้งานได้ยาว ๆ หายห่วงครับ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Lenovo