Dell EMC PowerMax ขยายความเป็นผู้นำด้านระบบจัดเก็บข้อมูล เพื่อตอบโจทย์ความต้องการการทำงาน ในรูปแบบของ Cloud, Automation และ เพิ่มประสิทธิภาพการรองรับ next-generation workload
เดลล์ เทคโนโลยีส์ ประกาศการอัพเดทครั้งสำคัญของ Dell EMC PowerMax ผสานเทคโนโลยียุคหน้า (next-generation technologies) เพื่อความเป็นที่สุด (best-in-class) ในด้านประสิทธิภาพการทำงาน (performance) สำหรับ critical applications ทั้งในปัจจุบันและที่จะมาในอนาคต
นับตั้งแต่ เปิดตัวในปี 2018 Dell EMC PowerMax ได้ช่วยลูกค้าที่ใช้ ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบ high-end ในทุกๆ กลุ่มอุตสาหกรรม เช่น ธนาคารชั้นนำ กลุ่มผู้ให้บริการคลาวด์ และเฮลธ์แคร์ เป็นต้น โดยการรองรับการทำงาน application ที่ต้องการ response times หรือ latency ต่ำมากๆ อันเป็นหัวใจหลัก และที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือ การเข้าถึงข้อมูลในระบบจัดเก็บอย่างต่อเนื่อง เพื่อดำเนินธุรกิจแบบไม่สะดุด Dell EMC คือผู้นำตลาด ด้านระบบจัดเก็บข้อมูลแบบ high-end โดยมีส่วนแบ่ง 43.9% ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งอันดับรองลงมา เกือบ 3เท่า อ้างอิงข้อมูลจาก IDC
เป็นผู้นำวงการระบบจัดเก็บข้อมูล: Dell EMC PowerMax เปิดตัว Dual Port SCM SSDs ในการนำมาใช้เป็น Persistent Storage
Dell EMC PowerMax ได้นำเอา Dual Port Intel® Optane™ SSD มาใช้เป็น Storage Class Memory (SCM) ในแบบ persistent storage สู่ตลาดเป็นรายแรก โดย Dual Port Intel® Optane™ SSD เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด อันเนื่องมาจากเป็นการพัฒนาร่วมกัน ระหว่างเดลล์ และอินเทล ซึ่งเป็นการร่วมมือกันมาอย่างยาวยาวนานนับหลายทศวรรษระหว่างทั้งสองบริษัท
เดลล์ เทคโนโลยีส์ ยังประกาศความพร้อมของ NVMe-oF สำหรับการใช้งานกับบน PowerMax arrays ซึ่งช่วยให้เกิด NVMe แบบครบวงจร (end-to-end) ที่แท้จริง ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลและ latency ที่ต่ำกว่าเดิม ซึ่งเป็นคุณสมบัติของ Enterprise Data Center สมัยใหม่
End-to-end NVMe บน PowerMax ใช้ I/O PwerMax FC 32Gb I/O modules, 32Gb Connectrix switches, directors และ NVMe 32Gb Host bus adapter พร้อมซอฟต์แวร์ Dell EMC PowerPath อันเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการเข้าถึงข้อมูลอย่างต่อเนื่อง พร้อมความสามารถในการโอนย้ายข้อมูล ถือเป็น SAN multipathing ซอฟแวร์ ในระดับเอนเทอร์ไพรซ์ตัวแรกที่มาพร้อมการรองรับ NVMe-oF อย่างสมบูรณ์
การผสมผสานกันเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครของ PowerMax เช่น สถาปัตยกรรมแบบ scale-out, end-to-end NVMe และเป็นรายแรกที่มีการนำเอา SCM มาร่วมใช้ในวงการนอุตสาหกรรมระบบจัดเก็บข้อมูล เพื่อประสิทธิภาพและความเร็วที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมให้แก่ลูกค้าดังนี้
- รองรับ IOPS สูงถึง 15 ล้าน
- รองรับ Bandwidth มากถึง 350GB/วินาที
- เวลาตอบสนองที่ดีขึ้น (Better Response Times) ดีขึ้นถึง 50%
- เวลาตอบสนองในการอ่าน (Read Response Times) ต่ำในระดับ Sub-100us (microseconds)
Built-in Machine Learning บน PowerMax สามารถวิเคราะห์เชิงทำนาย (predictive analytics) และการจดจำรูปแบบ (pattern recognition) เพื่อการจัดวางข้อมูลให้ถูกต้องตามประเภทของมีเดีย (SCM หรือ Flash) แบบอัตโนมัติตาม IO โปรไฟล์ โดย PowerMax จะวิเคราะห์และคาดการณ์โดยการเทียบชุดข้อมูล 40 ล้านชุดในแบบเรียล-ไทม์ และทำการตัดสินใจเพื่อจัดวางข้อมูลมากถึง 6 พันล้านครั้งต่อวัน ส่งผลให้ประหยัดเวลาและต้นทุน ในขณะที่ประสิทธิภาพก็สูงสุดขึ้นด้วย
Streamline Operations and Speed Application Development
Dell EMC PowerMax ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการ infrastructure ได้แบบอัตโนมัต รวมถึงการสร้าง DevOps workflows ได้แบบง่ายๆ เพื่อที่จะใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบน PowerMax สตอเรจ ลูกค้าสามารถทำ configuration management, deployment application และ งานเกี่ยวกับ container workloads ต่างๆ ผ่านความสามารถในการทำ provisioning และจัดการแบบ automate ของ PowerMax ทำให้การดำเนินงานทางด้านไอทีของลูกค้าคล่องตัวและมีประสิทธิภาพด้วย:
- VMware vRealize Orchestrator (vRO) ปลั๊ก-อิน ซึ่งมีอยู่ใน VMware Solutions Exchange ช่วยให้ลูกค้าสามารถพัฒนารูทีนการทำงานอัตโนมัติแบบ end-to-end รวมถึงการทำโพรวิชันนิ่ง การปกป้องข้อมูลและการดำเนินงานของโฮสต์ ลูกค้ายังสามารถให้การทำรูทีนโดยอัตโนมัติในรูปแบบไอเท็มใน self-service catalog บนแพลตฟอร์มของ VMware vRealize Automation ได้อีกด้วย
- โมดูล Ansible ที่ใส่มาล่วงหน้า (pre-built) ช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้าง Playbooks สำหรับการทำสตอเรจโพรวิชันนิ่งการทำสแน็ปช็อต และการทำเวิร์กโฟลว์ในการจัดการข้อมูลเพื่อการดำเนินงานที่สอดคล้องและเป็นไปโดยอัตโนมัติ โดยโมดูลเหล่านี้มีพร้อมใช้อยู่ใน GitHub แล้ว
- Container Storage Interface (CSI) ปลั๊ก-อินใหม่สำหรับการทำโพรวิชันของ PowerMax และจัดการกับสตอเรจสำหรับเวิร์กโหลดที่ทำงานบน Kubernetes ทั้งนี้ CSI ปลั๊ก-อินซึ่งมีให้บริการอยู่บน GitHub จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและบริการข้อมูลระดับโลกของ PowerMax ให้กับแอพพลิเคชั่นจำนวนมากที่สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมแบบไมโครเซอร์วิส (micro-services-based architecture)
มอบความยืดหยุ่นให้คลาวด์ด้วย Dell EMC PowerMax
ปัจจุบัน ลูกค้าสามารถ รวมเอา Dell EMC PowerMax ไว้ในกลยุทธ์ทางด้านมัลติ-คลาวด์ได้ในหลากหลายรูปแบบต่างๆ กัน ซึ่งทั้งหมดนี้มอบความพร้อมในการใช้งานระดับเวิลด์คลาส ความยืดหยุ่น ความปลอดภัย และประสิทธิภาพพร้อมด้วยความคล่องตัวในการทำงานของไฮบริดคลาวด์
อย่างแรกเลยก็คือ Dell Technologies Cloud Validated Designs สำหรับ Dell EMC PowerMax ช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไฮบริดคลาวด์ของตัวเองได้ในขณะที่มอบความยืดหยุ่นในการนำมาใช้งานกับเวิร์กโหลดที่มีความต้องการเฉพาะเจาะจงสำหรับสตอเรจขนาดใหญ่เป็นพิเศษ (unique external storage) รวมไปถึงการปรับขนาดความจุอิสระและคุณสมบัติขั้นสูงเช่นการปกป้องข้อมูลในตัว
Dell EMC Cloud Storage Services ให้บริการ Dell EMC Storage ในรูปแบบของบริการคลาวด์สาธารณะเพื่อใช้ในการการกู้คืนความเสียหาย (Disaster Recovery) ข้ามคลาวด์ต่างๆ ทั้ง AWS รวมถึง Google Cloud และ Microsoft Azure พร้อมด้วยกรณีของการใช้มัลติ-คลาวด์ ซึ่งรวมถึงการวิเคราะห์ และการทดสอบและพัฒนา (test/dev) ทั้งนี้บริการ Cloud Storage Services หรือการบริการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ได้รับการออกแบบมาเพื่อประหยัดเวลาในการจัดการระบบ รวมไปถึงการบริการรักษาความปลอดภัยข้อมูลในระดับเอนเทอร์ไพรซ์ (enterprise-grade) ประสิทธิภาพ สมรรถนะในการทำงาน การจัดทำสำเนา (replication) และความพร้อมในการทำงานบนพับลิค คลาวด์ต่างๆ
ความพร้อมในการวางตลาด
“จากการที่ NVMe ของ PowerMax มาถูกทาง ทำให้เราสามารถขจัดภาวะคอขวดของสตอเรจและยังยังทำให้แอปพลิเคชันสามารถบรรลุถึงศักยภาพการทำงานสูงสุดได้อีกด้วย” ไบรอัน เพอรูทกา สถาปนิคด้านเทคนิคอล โซลูชัน ของเวิลด์ ไวด์ เทคโนโลยี กล่าว “เราให้คุณค่าและความสำคัญต่อนวัตกรรมที่เดลล์ อีเอ็มซี นำมาสู่อุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง”