ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ฝุ่น PM 2.5 กลายเป็นปัญหาระดับชาติ ที่นาซ่ายังต้องยื่นมือเข้ามาช่วย
ล่าสุดสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) จับมือ NASA เดินหน้าเก็บตัวอย่างอากาศเหนือน่านฟ้าไทย เพื่อทำความเข้าใจต้นตอฝุ่น PM2.5 และปัญหามลภาวะอากาศ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาระยะยาว
ความร่วมมือนี้อยู่ภายใต้โครงการ Airborne and Satellite Investigation of Asian Air Quality หรือ ASIA-AQ โดย NASA จะนำเครื่องบิน DC-8 และ GIII บินเก็บข้อมูลอากาศในหลายพื้นที่ในเอเชีย มาประกอบกับข้อมูลจากดาวเทียม GEMS ของเกาหลีใต้ และสถานีวัดคุณภาพอากาศภาคพื้น (PANDORA) ที่ติดตั้งไว้ตามจุดต่างๆ บนพื้นโลก
โครงการนี้ไม่ได้มีเฉพาะประเทศไทยที่เข้าร่วม แต่ยังมีอีกหลายประเทศที่ประสบปัญหาฝุ่นไม่ต่างกัน อย่างเกาหลีใต้ ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการวิจัยครั้งนี้จะมาวิเคราะห์และสร้างแบบจำลอง เพื่อทำความเข้าใจสาเหตุการเกิด การเปลี่ยนแปลง และเชื่อมโยงไปสู่ปัญหามลภาวะอากาศ ตลอดจนพัฒนาแบบจำลองและการเก็บข้อมูลจากภาคพื้น และดาวเทียมต่อไปในอนาคต
ดร. วิภู รุโจปการ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ยอมรับว่า ปัญหามลภาวะทางอากาศ เป็นปัญหาที่ซับซ้อน การศึกษากระบวนการเกิดการเปลี่ยนแปลง และการสลายตัว รวมถึงการวางแผนแก้ปัญหาอย่างตรงจุดนั้นต้องเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ ซึ่งกระบวนการต่าง ๆ ทำได้ค่อนข้างยาก ด้วยข้อจำกัดของอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ใช้ในการศึกษา เช่น สถานีเก็บข้อมูลภาคพื้นนั้นเป็นเพียงตัวอย่างของอากาศส่วนเล็กๆ ระดับผิวเท่านั้น แต่ไม่สามารถทราบถึงสภาพอากาศทั้งหมดที่อยู่เบื้องบนได้
รวมถึงขีดจำกัดที่ไม่สามารถศึกษาพื้นที่เป็นวงกว้างได้ และอาจถูกรบกวนโดยสภาพแวดล้อมใกล้เคียง ในขณะที่ดาวเทียมนั้นสามารถศึกษาในมุมกว้าง แต่สังเกตการณ์ได้เพียงปริมาณโดยรวมของทั้งมวลอากาศเหนือพื้นที่ที่ดาวเทียมกำลังศึกษา จึงไม่สามารถบอกได้ว่าสารประกอบแต่ละชนิดนั้นมีการกระจายตัวในแนวดิ่งอย่างไร
เครื่องบิน DC-8 ภายใต้ภารกิจ ASIA-AQ จึงใช้การโฉบลงลดระดับเพื่อเตรียมลงจอดในท่าอากาศยานต่าง ๆ แต่จะลอยอยู่เหนือพื้นเพียง 50 ฟุต (15 เมตร) ก่อนที่จะไต่ระดับกลับขึ้นไปในระดับ 10,000 ฟุต (ประมาณ 3 กม.) ในรูปแบบการบินที่เรียกว่า missed approach โดยอาศัยรันเวย์ของสนามบินอู่ตะเภา ดอนเมือง สุโขทัย เชียงใหม่ แพร่ พิษณุโลก เป็นเส้นทางในการบินเก็บตัวอย่างอากาศทั้งเช้าและบ่าย สนามบินละสองรอบ รวมเป็นเวลาทั้งสิ้น 8 ชั่วโมง มีกำหนดปฏิบัติภารกิจเหนือน่านฟ้าไทย จำนวน 5 เที่ยวบิน ระหว่างวันที่ 16-26 มีนาคม 2567 ภายในเครื่องบินจะมีอุปกรณ์เครื่องมือกว่า 25 รายการที่สามารถดูดอากาศภายนอกเข้าไปเพื่อเก็บข้อมูลองค์ประกอบของมลพิษทั้งในรูปแบบแก๊สและอนุภาค และวิเคราะห์ทั้งชนิด และปริมาณของสารประกอบเคมีในอากาศได้หลายร้อยประเภท เพื่อวิเคราะห์การกระจายตัวของมลพิษในแนวดิ่งได้อย่างละเอียด
ส่วนเครื่องบิน GIII จะมีภาระหน้าที่แตกต่างออกไป โดยจะบินที่ระดับความสูง 23,000 ฟุต มีเพดานบินคงที่ และบินกลับไปมาเพื่อทำแผนที่สภาพอากาศเหนือเขตกรุงเทพและปริมณฑล พร้อมทั้งสำรวจความเข้มข้นของสารเคมี เช่น ฟอร์มอลดีไฮด์ และโอโซน เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลที่ได้จากดาวเทียม GEMS ของเกาหลีใต้ เครื่องบิน GIII จะบินประมาณวันละสองถึงสามครั้ง เพื่อเปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลาของวัน
ข้อมูลที่ได้จากภารกิจ ASIA-AQ ในครั้งนี้จะเป็นข้อมูลสำคัญที่จะนำมาวิเคราะห์ถึงองค์ประกอบ แหล่งกำเนิด กลไกการเกิด และสัดส่วนที่มาของมลพิษอากาศเหนือน่านฟ้าไทย ในระดับชั้นความสูงต่าง ๆ ถือเป็นชุดข้อมูลใหม่ที่ประเทศไทยยังไม่เคยทราบมาก่อน และการนำข้อมูลดังกล่าวมาเปรียบเทียบกับข้อมูลจากดาวเทียม และสถานีภาคพื้น จะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาแบบจำลองที่จะสามารถทำการวัด และทำนายมลภาวะทางอากาศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
James Crawford นักวิจัยจากองค์การนาซา หัวหน้าโครงการ ASIA-AQ กล่าวว่า “ข้อมูลที่ได้จากภารกิจนี้เป็นข้อมูลของสภาพอากาศเพียงไม่กี่วัน แต่นักวิจัยจากไทยจะเป็นผู้ที่จะสานต่อผลที่ได้จากโครงการศึกษานี้ให้ถูกผลักดันต่อไปในอนาคต เพื่อทำความเข้าใจและแก้ปัญหามลพิษทางอากาศอย่างยั่งยืนในระยะยาวของประเทศไทยได้”
ปัจจุบัน NARIT มีกลุ่มวิจัยวิทยาศาสตร์บรรยากาศ ที่ร่วมกับเครือข่ายวิจัยจากหน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการศึกษาวิจัยแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง PM2.5 มุ่งเน้นวิเคราะห์หาชนิด ความหนาแน่น การกระจายตัว และปริมาณสารประกอบอินทรีย์ระเหยจากแหล่งชีวภาพ และตัวติดตามละอองลอยที่เป็นต้นกำเนิดทุติยภูมิของฝุ่นละออง PM2.5 ในทุกภูมิภาคของประเทศไทย การได้รับเชิญจากองค์การนาซา (NASA) ให้เข้าร่วมวิเคราะห์ข้อมูลจากโครงการ ASIA-AQ ในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่จะข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคุณภาพอากาศในไทย เพื่อทำนายและนำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหามลภาวะทางอากาศอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ โครงการ ASIA-AQ มีองค์กรนานาชาติ และหน่วยงานไทยเข้าร่วม อาทิ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ในฐานะผู้ประสานงานหลักร่วมกับ องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐเมริกา หรือ นาซา (NASA) National Institute of Environmental Research (NIER) จากประเทศเกาหลีใต้ Department of Environment and Natural Resources (DENR) จากประเทศฟิลิปปินส์ Universiti Kebangsaan Malaysia (UKM), Ministry of Environment (MOENV) แห่งไต้หวัน สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และกรมควบคุมมลพิษ