Muze ผู้นำด้านการพัฒนาซอฟท์แวร์เว็บไซต์และแอปพลิเคชันสัญชาติไทยแบบครบวงจรให้กับธุรกิจ ร่วมกับ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ ช่อง 3 ผสานความร่วมมือสร้างทีม Tech Developer เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในการปรับตัวของ BEC หรือช่อง 3 สถานีโทรทัศน์อันดับหนึ่งคู่วงการโทรทัศน์ไทยมาอย่างยาวนานในการสร้างความสามารถในการแข่งขันสู่ความสำเร็จในโลกดิจิทัล ด้วยการเปิดตัวแพลตฟอร์ม CH3Plus และสร้างกระแสต่อเนื่องด้วย Gulf The Next Stage คอนเสิร์ตเอ็กซ์คลูซีฟบน CH3Plus ที่ผลักดันให้ยอด Monthly Active User รวมโตขึ้นกว่า 200% และจำนวนสมาชิกในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2563 ถึง ไตรมาสที่ 1 ของปี 2564 เติบโตขึ้นถึง 50% สวนกระแสวิกฤติเศรษฐกิจ
หลายปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมโทรทัศน์ในไทยและทั่วโลกต้องเผชิญกับความท้าทาย ไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี (Digital Disruption) พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการนิยมหันมารับชมความบันเทิงผ่านทางอินเทอร์เน็ต (OTT TV) เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Youtube, Line TV หรือ Netflix รวมถึง TV On-demand ที่ผู้บริโภคสามารถรับชมภาพยนต์หรือรายการที่ชื่นชอบได้ทุกที่ ทุกเวลา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นนี้ มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริโภคข่าวสารและความบันเทิงของผู้บริโภค ส่งผลให้ผู้ให้บริการในอุตสาหกรรมโทรทัศน์ต้องนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและก้าวให้ทันกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล
CH3Plus คือดิจิทัลแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันที่ Muze ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับ ช่อง 3 เพื่อปรับโฉมแนวทางการนำเสนอเนื้อหาสาระและความบันเทิงให้มีความทันสมัยและสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัลมากขึ้น โดยผู้ชมสามารถรับชมรายการต่างๆ รวมถึงละคร ข่าว ซีรี่ส์ของทางช่อง 3 ได้ทุกที่ ทุกเวลา เน้นการชมแบบสดและสามารถย้อนหลังได้ก่อนใคร ผ่านทุกช่องทางที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผ่านทางแอปพลิเคชัน CH3Plus รองรับทั้งมือถือและแท็ปเลต และช่องทางเว็บไซต์ www.ch3plus.com นอกจากนี้ภายใน CH3Plus ยังมีฟีเจอร์พิเศษอีกมากมาย รวมถึงฟีเจอร์เสริมที่ช่วยให้แฟนคลับสามารถติดตาม พูดคุย ส่งกำลังใจให้ดาราศิลปินที่ชื่นชอบได้อย่างใกล้ชิด อาทิ Celebrity Feed ฟีเจอร์เสริมที่ให้เหล่าแฟนคลับสามารถติดตามทุกความเคลื่อนไหวของดารา ศิลปินคนโปรด ฟีเจอร์ Live Chat สำหรับผู้ใช้ CH3Plus Premium ที่สามารถส่งข้อความพูดคุยกับนักแสดงในขณะที่ละครกำลังออนแอร์ได้
ช่อง 3 ได้ร่วมมือกับ Muze พาร์ทเนอร์คนสำคัญด้านการพัฒนาเทคโนโลยี ที่ได้รวบรวมดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำมาสร้างทีมที่ไม่ได้มีเพียงแค่ Developer เท่านั้น ในทีมที่พัฒนาขึ้นยังประกอบไปด้วย Product Owner (PO), System Analyze (SA), QA และ Scrum Master เพื่อทำงานร่วมกับทีมช่อง 3 ในการสร้างและพัฒนาแพลตฟอร์มของ CH3Plus สู่การเป็นแพลตฟอร์ม OTT ระดับโลก ผ่านแนวคิดการทำงานแบบ Agile ที่ทีมงานทุกคนมองเห็นเป้าหมายเดียวกันและพร้อมปรับตัวเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์และการวิเคราะห์ตลาด นอกจากนี้ Muze ยังเสนอไอเดียการทำงานแบบ Feedback loop นำผลตอบรับลูกค้าให้ทีมสามารถพัฒนางานได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ดีที่สุด และทันต่อความต้องการตลาด
คุณบิ๊ก วรุตม์ ลีเรืองสกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ สำนักดิจิทัลและกลยุทธ์สื่อใหม่ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน)
“เมื่อวิถีของผู้บริโภคเปลี่ยนไป สิ่งที่เราต้องปรับตัวและเปลี่ยนมุมมอง คือ แนวทางการทำธุรกิจและการยอมรับว่าเทคโนโลยีคือเครื่องมือสำคัญในสร้างธุรกิจให้สามารถเข้าถึงและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที ซึ่งช่อง 3 ได้มองหาพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญ มีความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคและที่สำคัญสามารถทำงานร่วมกับเราได้และมองเห็นเป้าหมายเดียวกันกับเรา ทีมงานของ Muze ได้เข้ามาเติมเต็มในส่วนนี้ ทั้งวิธีการทำงานร่วมกัน รวมถึงไอเดียที่สร้างสรรค์ในการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้เราสามารถเข้าใจและเข้าถึงผู้บริโภคได้ใกล้ชิดมากขึ้น” คุณบิ๊ก วรุตม์ ลีเรืองสกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ สำนักดิจิทัลและกลยุทธ์สื่อใหม่ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) กล่าว
คุณบี พีรณัฎฐ์ ทูลแสงงาม ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารบริษัท Muze
“การได้ร่วมงานกับ ช่อง 3 ในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวของความสำเร็จของ Muze ซึ่งสิ่งที่เราให้ความสำคัญอย่างมากในการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ คือ การมีทีมงานที่มีความสามารถด้านการสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมถึงสามารถในการเข้าใจธุรกิจและมองเห็นเป้าหมายเดียวกับลูกค้า ซึ่ง Muze ได้ตั้งทีมเพื่อทำงานร่วมกับ ช่อง 3 โดยเฉพาะ เรายึดแนวคิดการทำงานแบบ Agile ในรูปแบบ Scrum เพื่อให้ทั้งสองทีมสามารถสื่อสารกันได้อย่างเข้าใจ วางแผน ลงมือทำ ตามเป้าหมายระยะสั้นเพื่อให้มีการประเมินผลลัพธ์และพร้อมเปลี่ยนแปลงเสมอ โดยเราเชื่อว่าแนวคิดและแนวทางการทำงานที่ผสมผสานกันนี้ช่วยส่งเสริมความร่วมมือในการทำงานและนำไปสู่ความสำเร็จของธุรกิจในระยะยาวในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้” คุณบี พีรณัฎฐ์ ทูลแสงงาม ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารบริษัท Muze กล่าว
นอกจากการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลให้กับ ช่อง 3 แล้ว Muze ยังนำเสนอไอเดียที่มาจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านระบบดิจิทัล รวมถึงขยายความร่วมมือในการพัฒนาธุรกิจนี้ไปยังพาร์ทเนอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านอื่นๆ อาทิ พาร์ทเนอร์สตูดิโอเพื่อการสร้าง Content ที่ทันสมัยตรงใจผู้ชมยุคใหม่ นอกจากนี้การสร้างโครงสร้าง Fandom และการจัดคอนเสิร์ตไลฟ์สดของ ช่อง 3 ด้วยแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีความเสถียร ทำให้ช่อง 3 สามารถจัดคอนเสิร์ตผ่านช่องทางออนไลน์ รองรับผู้ชมได้มากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และมีผู้ชมคอนเสิร์ตผ่านระบบเดียวกันมากกว่า 8,000 คนจากทั่วโลกเช่นกัน
การแข่งขันในอุตสาหกรรมข่าวสารและความบันเทิงยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจสื่อโทรทัศน์สามารถปรับตัวเข้าสู่โลกดิจิทัลและแข่งขันกับคู่แข่งใหม่ๆได้ คือ การมีพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและสามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อเดินไปสู่เป้าหมายเดียวกันได้ โดย ช่อง 3 และ Muze ยังคงร่วมมือกันอย่างแข็งขันในการพัฒนา CH3Plus สู่การเป็นแพลตฟอร์ม OTT ระดับโลก และวางแผนที่จะร่วมทุนเพื่อปรับโฉมอุตสาหกรรมข่าวสารและความบันเทิงของไทยให้ทัดเทียมกับต่างชาติต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ Muze ได้ที่เว็บไซต์ www.muze.co.th/ และเพจเฟซบุ๊ก Muze Innovation
เกี่ยวกับบริษัท Muze
บริษัท Muze เป็นบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีในประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อปี 2557 โดย Muze มอบบริการโซลูชั่นด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็น แพลตฟอร์มด้านอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจร โซลูชั่นด้านการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) รวมถึงบริการพัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ Muze ยังได้พัฒนาสินค้านวัตกรรมเพื่อเสริมประสิทธิภาพธุรกิจให้กับแบรนด์ชั้นนำมากมายในประเทศไทยให้สามารถแข่งขันในโลกที่อีคอมเมิร์ซกำลังเฟื่องฟูและสามารถยกระดับประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าผ่านการออกแบบเฉพาะตัว ด้วยวิสัยทัศน์ของบริษัทและทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี Muze มุ่งมั่นสรรสร้างและพัฒนาสินค้าและบริการด้านดิจิทัลมาตรฐานระดับโลกเพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจและองค์กรในประเทศไทยพร้อมกับการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างแข็งแกร่ง
