ใครว่าการกลับเข้ามาทำตลาดในไทยอีกครั้งของสมาร์ทโฟน Moto จะเงียบเหงาก็คงจะไม่จริงเท่าไหร่ เพราะหากไปลองค้นดูตามเว็บไซต์ Pantip จะเจอกับกระทู้ถามไถ่ถึง Moto มากอยู่ทีเดียว แถมยิ่งช่วงนี้ Moto ประเทศไทย รุกหนักตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางและระดับท็อปด้วยการนำ Moto Z และ Moto Z Play เข้ามาวางขาย แต่จะมาแบบโดดเดี่ยวไม่ได้ ยังมาพร้อมกับอาวุธคู่กายที่เรียกว่า Moto Mods มาเสริมแกร่งให้คนที่เห็นเกิดอาการอยากได้มันมากขึ้นไปอีก โดยแอดมินมีโอกาสได้ทำความรู้จักกับ Moto Z Play พร้อมด้วย Moto Insta-Share Projector 1 ใน 5 ของ Moto Mods ซึ่งหลังจากทดลองใช้มาระยะหนึ่งจึงขอนำมารีวิวให้เพื่อนๆ ใน aripfan ได้รับชมกันครับ
Moto Z Play สเปคมีดังนี้
– ตัวเครื่องบาง 6.99 มิลลิเมตร น้ำหนัก 165 กรัม
– หน้าจอแสดงผล Super AMOLED ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1080 x 1920 พิกเซล 403ppi)
– ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 625 แบบ Octa Core ความเร็ว 2.0GHz
– หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 506
– แรม 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB รองรับ microSD card ความจุสูงสุด 2TB
– ใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด ประเภท NANO SIM
– ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow
– กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0, แฟลชคู่ Dual LED, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) และระบบ Laser Auto Focus
– กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 มีแฟลช LED
– เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มโฮม
– พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
– แบตเตอรี่ความจุ 3510 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จแบตได้เร็ว TurboPower charging
การออกแบบ
ถือว่างานดีไซน์ของ Moto Z Play มีความแตกต่างไปจาก Moto X Style กับ Moto G4 Plus ที่แอดมินเคยรีวิวไปชัดเจนครับ ขอบตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียม ส่วนฝาผลังเป็นกระจก พร้อมแถบแม่เหล็กประดับอยู่บริเวณส่วนท้ายของฝาหลัง มีรูจิ๋วที่เป็นไมโครโฟน (ตัวที่ 1) เป็นตัวที่ทำหน้าที่ประกบติดกับ Moto Mods นอกจากนี้ตัวเครื่องยังเคลือบสารตัวหนึ่งที่เรียกว่า Water Repellent Nano-Coating เทคโนโลยีที่ช่วยป้องกันละอองน้ำได้ แต่จะไม่สามารจุ่มหรือแช่น้ำได้ครับ
หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ประกอบกับความละเอียด Full HD ช่วยเรื่องการแสดงผลที่ชัดเจน จึงเป็นขนาดที่หลายๆ คนน่าจะชอบ ในส่วนด้านหน้าจะเห็นว่ากล้องหน้าจะมีแฟลชมาให้ด้วย ลำโพงที่ใช้ฟังขณะสนทนายังเป็นลำโพงสำหรับฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกมในตัวด้วย ปุ่มย้อนกลับ ปุ่ม Recent Apps อยู่ในรูปแบบ On-Screen อยู่ส่วนท้ายของหน้าจอ ขณะที่ปุ่มโฮมมีหน้าที่เพียงเป็นที่สแกนลายนิ้วมือเท่านั้น และหากสังเกตดีๆ จะมีรูขนาดจิ๋วขนาบอยู่ด้านข้าง ซึ่งหน้าที่ของมันคือเป็นไมโครโฟน (ตัวที่ 2) ครับ
ด้านขวาตัวเครื่องเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงและปุ่มพาวเวอร์เปิด-ปิดหน้าจอหรือเปิด-ปิดเครื่อง ซึ่งปุ่มจะค่อนข้างเล็กครับ มีการสลับปุ่มพาวเวอร์ย้ายมาอยู่ด้านล่างของปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ใครที่ชินกับการใช้งานสมาร์ทโฟนที่มีปุ่มพาวเวอร์อยู่ด้านบนอาจต้องปรับตัวกันเล็กน้อย แต่ใช้ไปสักระยะจะจับจุดได้และคุ้นเคยไปเองครับ
ด้านบนตัวเครื่องเป็นถาดใส่ซิม รองรับ 2 ซิม ประเภท NANO SIM ซึ่งในถาดซิมนี้ยังสามารถใส่ microSD card เพิ่มเข้าไปพร้อมกันได้ ส่วนเจ้ารูจิ๋วที่เห็นทำหน้าที่เป็นไมโครโฟน (ตัวที่ 3) ครับ ส่วนล่างสุดเป็นพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C พร้อมด้วยช่องต่อหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร
การใช้งาน
จากตัวเครื่อง Moto Z Play ที่ค่อนข้างบาง อาจทำให้หลายคนรู้สึกกลัวว่าเวลาถือจะลื่นหลุดมือง่าย ดังนั้นการที่ Moto มี Moto Style Shells มาให้จึงเป็นส่วนเสริมที่ทำให้การหยิบถือมีความสะดวกและยึดเกาะมือได้ดีขึ้น Moto Style Shells ที่ว่านี้เป็นเคสอีกประเภท เป็นหนึ่งใน Moto Mods มีแม่เหล็กที่ช่วยประกบกับตัวเครื่องได้อย่างแน่นหนา พร้อมทั้งช่วยครอบขอบเลนส์กล้องหลังที่นูนขึ้นมาได้ด้วย
Moto Insta-Share Projector
เป็น 1 ใน Moto Mods สำหรับตระกูล Moto Z โดยเฉพาะ มันคือ โปรเจคเตอร์พกพา มีแบตเตอรี่ในตัว ความจุ 1100 mAh ฉายภาพได้ในนานกว่า 1 ชั่วโมง ให้ความละเอียดของภาพฉายอยู่ที่ 854×480 WVGA (480p) อัตราส่วน 16 : 9 ให้ภาพขนาดกว้างสูงสุด 70 นิ้ว มีพอร์ต USB Type-C ในตัว ตัวหลอดไฟมีอายุใช้งานนานสูงสุด 10,000 ชั่วโมง สามารถปรับโฟกัสของภาพได้ มีปุ่มเปิด-ปิดในตัว
การใช้งานนั้นง่ายมากครับ แค่ประกบ Moto Insta-Share Projector เข้าด้านหลังตัวเครื่อง จากนั้นระบบจะทำการเชื่อมต่อให้อัตโนมัติ โดยเรามีหน้าที่เพียงกดปุ่มเปิดที่ตัวโปรเจคเตอร์และหาระยะเพื่อการฉายภาพเท่านั้นครับ
การทดสอบเมนูต่างๆ
Moto Z Play ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow เป็นประเภท “Pure Android” ที่ไม่มี User Interface ใดๆ มาครอบทับ เพื่อให้การทำงานมีความลื่นมากที่สุด เช่นเดียวกับ Moto X Style และ Moto G4 Plus ที่เคยรีวิวมาครับ ฟีเจอร์ที่จะแนะนำขอยกตัวอย่างบางฟีเจอร์ ได้แก่ การใช้ท่าทางเพื่อสั่งงาน โดยเมนูนี้ให้เข้าไปที่แอปฯ Moto ครับ จะมีประโยคบอกให้เรารู้ชัดเจน ซึ่งการใช้ท่าทางสั่งงานนี้จะแบ่งออกเป็นเมนูย่อยอีกประมาณ 6 เมนู ได้แก่ การกวาดนิ้วเพื่อย่อหน้าจอ, เขย่าสองครั้งเพื่อใช้ไฟฉาย, เข้าใกล้เพื่อใช้ Moto Display, บิดสำหรับการถ่ายภาพด่วน, พลิกเพื่อการห้ามรบกวน และยกขึ้นเพื่อให้เสียงเรียกเข้าหยุด โดยเราสามารถเลือกเปิดฟีเจอร์ใดฟีเจอร์หนึ่งได้ตามที่เราคิดว่าสะดวกต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน
User Interface ของ Moto Z Play
เมนู Display ภายในแอปฯ Moto เราสามารถกำหนดได้ว่าจะให้แอปฯ ใดแสดงการแจ้งเตือนได้บ้าง ช่วยลดการรบกวนจากบางแอปฯ ที่มักมีการแจ้งเตือนสม่ำเสมอ สำหรับคนช่างรำคาญครับ
ภายในแอปฯ Moto มีลูกเล่นให้เราใช้งานมากมาย
ปุ่มโฮมที่รองรับการสแกนลายนิ้วมือได้เพียงอย่างเดียว เราสามารถกำหนดลายนิ้วมือได้มากกว่าหนึ่งนิ้ว สามารถสแกนเพื่อปลดล็อคหน้าจอแม้ปิดหน้าจออยู่ได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้นมันสามารถสแกนลายนิ้วเพื่อล็อคหน้าจอได้ด้วย อันนี้ถือว่าแอดมินค่อนข้างชอบครับ
เรื่องของการเล่นเกมบน Moto Z Play สามารถตอบสนองได้ลื่นดีทีเดียว การแสดงกราฟิกจากเกม HIT (Heroes of Incredible Tales) ให้รายละเอียดได้อย่างชัดเจนครับ
ทดสอบด้วยแอปพลิเคชั่น Antutu Benchmark
คะแนนของ Moto Z Play จาก AnTuTu Benchmark อยู่ที่ 64160 คะแนน
กล้อง
ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ทุกคนที่มีสมาร์ทโฟนให้ความสำคัญครับ เริ่มต้นการใช้งานกล้องหลายคนคงคุ้นเคยกับการเปิดจากแอปฯ กล้องโดยตรง แต่เมนูการใช้ท่าทางเพื่อสั่งงาน เมื่อเราเปิดฟีเจอร์บิดสำหรับการถ่ายภาพด่วนแล้ว เพียงเราบิดข้อมือ 2 ครั้งติดกัน จะเป็นการเปิดกล้องให้เราอัตโนมัติครับ สะดวกและรวดเร็วดีมาก กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0, แฟลชคู่ Dual LED, ระบบโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) และระบบ Laser Auto Focus ซึ่ง User Interface ในการใช้กล้องไม่มีอะไรยุ่งยากนัก มีไอคอนระบุชัดเจนทั้งการปรับเปลี่ยนกล้องหน้า-กล้องหลัง, โหมด HDR, แฟลช และการตั้งเวลา
User Interface จากแอปฯ กล้อง Moto Z Play
มีโหมด Manual มาให้ด้วยสำหรับนักถ่ายภาพที่ชอบปรับแต่งเอง สามารถเปลี่ยนค่า ISO ได้ถึง 3200 ปรับค่า White Balance, ปรับโฟกัส รวมไปถึงปรับค่าความสว่างได้ นอกจากนี้การบันทึกวีดีโอยังรองรับความละเอียดสูงสุดถึง 4K Ultra hD (30fps) ด้วย
User Interface จากแอปฯ กล้อง Moto Z Play
ขณะที่กล้องหน้ามีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 มีแฟลช LED รองรับการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p (30fps)
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง ที่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โหมดปกติ
บทสรุป รีวิว Moto Z Play
ในภาพรวมแล้วแอดมินว่า Moto Z Play เป็นสมาร์ทโฟน Android ตัวใหม่ภายใต้ Lenovo ที่ดีไซน์ออกมาค่อนข้างมีความหรูหรา มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อรองรับกับ Moto Mods ที่เมื่อใดรวมร่างกันแล้วทำให้สมาร์ทโฟนสามารถทำงานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ส่วนของสเปคนั้นใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟน Android หลายแบรนด์ในตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลาง เพียงแต่ที่ทำให้ Moto Z Play ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษก็เนื่องด้วยลูกเล่นของ Moto Mods พร้อมด้วยแบตเตอรี่ที่อึด ใช้งานได้ทนนานกว่าตัวท็อปอย่าง Moto Z เสียอีก และทั้งนี้ทั้งนั้น Moto Z Play ที่วางขายในราคา 15,900 บาท จะไม่มี Moto Mods แถมมาให้ ต้องซื้อแยกต่างหากและราคาก็แตกต่างกันออกไปด้วย ซึ่ง Moto Mods ทั้ง 6 แบบที่วางขายเวลานี้ เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ในอนาคตเชื่อว่าจะยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากขึ้นกว่านี้แน่นอน
ทิ้งท้ายด้วยความแตกต่างระหว่าง Moto Z และ Moto Z Play ขอแยกเป็นดังนี้ครับ
– Moto Z หน้าจอมีความละเอียด 1440 x 2560 พิกเซล ส่วน Moto Z Play หน้าจอมีความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล
– Moto Z บาง 5.19 มิลลิเมตร น้ำหนัก 136 กรัม ส่วน Moto Z Play บาง 6.99 มิลลิเมตร น้ำหนัก 165 กรัม
– Moto Z ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 821 ส่วน Moto Z Play ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 625
– Moto Z มีแรม 4GB หน่วยความจำภายใน 64GB ส่วน Moto Z มีแรม 3GB หน่วยความจำภายใน 32GB
– Moto Z มีกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.8 มีระบบกันสั่น OIS ส่วน Moto Z Play มีกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0
– Moto Z แบตเตอรี่ความจุ 2600 mAh ส่วน Moto Z Play แบตเตอรี่ความจุ 3510 mAh
ขอขอบคุณ Lenovo ประเทศไทย สำหรับตัวเครื่องรีวิวในครั้งนี้ครับ
