[Top Stories] ปัจจุบันใครอยากเรียนอะไร อยากรู้ภาษาไหน เพียงเข้าเว็บหรือ Youtube ก็มีสื่อการสอนให้เรียนรู้เพียบ แต่สื่อการสอนเหล่านั้นเหมาะกับเราไหม และช่วยให้เราเรียนจนจบคอร์สด้วยไหม ถ้าไม่ แสดงว่าเราอาจมาผิดทาง วันนี้ลองมาดู Duolingo แอปฯ สอนหลากภาษา อยากเรียนภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น เยอรมัน ฯลฯ แอปฯ นี้มีหมด พร้อมด้วยฟีเจอร์ช่วยสอนแบบเฉพาะตัว เฉพาะตัวยังไง และการใช้ AI เข้ามาช่วยสอน จะช่วยสร้างแบบการสอนเฉพาะตัวอย่างไรบ้าง ลองมาดูกันครับ

รู้จักกับ Duolingo

Duolingo เป็นแพลตฟอร์มผู้ให้บริการด้านการเรียนภาษาออนไลน์ชั้นนำระดับโลก และเข้าถึงได้ง่ายกับทุกคนทั่วโลก การันตีโดยมีจำนวนนักเรียนรายเดือนมากกว่า 74 ล้านคนทั่วโลก ได้ทำแบบฝึกหัดกว่า 9 พันล้านชุดต่อสัปดาห์

จุดเด่นตัวแอปฯ ก็มีรูปแบบการสอนที่ให้ความสนุกแบบเดียวกับการเล่นเกม มีหลักสูตรที่ครอบคลุมตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่ มีภาษาให้เรียนมากกว่า 40 ภาษา มีหลักการสอนเฉพาะทาง (Duolingo Method) และฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้มากขึ้น ทั้งการใช้ AI ช่วยสร้างแบบเรียน การใช้พอดคาสต์ การใช้มินิเกม และอีกมากมาย ล่าสุดในงาน Duocon 2023 ที่ผ่านมา ก็ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อย่าง Duolingo Math หรือคณิตศาสตร์ และ Duolingo Music หรือดนตรี เข้ามาเป็นหลักสูตรเสริม นอกจากการเรียนภาษาด้วย

ถามก่อนสอน

ก่อนเริ่มใช้แอปฯ ก็จะมีการถามก่อนเลยว่า ทักษะภาษาที่ต้องการเรียนอยู่ประมาณไหน ถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็ว่าไปตามจริง รู้ถึงขั้นไหนแล้ว ต้องการเรียนเพื่อสื่อสารหรือใช้ทำงาน จากนั้นตัวแอปฯ จะใช้ AI ช่วยประมวลผล เพื่อบอกก่อนเลยว่า หลังจบหลักสูตรเราจะมีทักษะภาษาถึงขนาดไหน ชนิดจำศัพท์ได้กี่คำ สนทนาได้กี่ชุด และจากนั้นตัวแอปฯ ก็จะแปลงร่างเป็นครูสอนภาษาส่วนตัว ที่พร้อมจะส่ง Notification แจ้งบทเรียน (หลังให้สิทธิ์แอปฯ) หรือหากเราห่างหายการเข้าแอปฯ ไปพักนึง มันจะนับเลยว่าเราไม่ได้เข้าแอปฯ หรือโดดเรียนไปกี่วันแล้ว (ฮ่า) สุดท้ายตัวแอปฯ ก็จะมีบททดสอบสั้น ๆ ให้ เพื่อเป็นการเตรียบแบบเรียนที่เหมาะกับผู้ใช้หลังจากนี้เอง

ให้ AI วิเคราะห์

นอกจาก ‘เรียนเหมือนเล่นเกม’ ที่เป็นจุดเด่นหลักของแอปฯ แล้ว ก็ยังมี AI ที่เป็นเบื้องหลังสำคัญด้วย โดยที่ผ่านมาทางผู้พัฒนาแอปฯ ก็ใช้ AI มาช่วยออกแบบเนื้อหาการสอนมากว่า 10 ปีแล้ว จนได้กลายเป็นแอปฯ สอนภาษายอดนิยมระดับโลกในทุกวันนี้เอง ซึ่ง AI จะเริ่มทำงานตั้งแต่ใช้งานแอปฯ ครั้งแรก ตามที่กล่าวไป มันจะดูก่อนเลยว่าผู้ใช้หรือผู้เรียนมีทักษะด้านภาษานั้น ๆ ระดับไหน จากนั้นคอยเตรียมแบบเรียนที่เหมาะสม เพื่อเรียนได้ตรงจุดมากที่สุด

ทั้งนี้ยังมีการใช้ ChatGPT4 เข้ามาช่วยด้วย โดยผู้ใช้ก็สามารถเรียกใช้งานในรูปแบบแชท เพื่อสอบถามบทเรียนหรือถามจุดที่สงสัยเพิ่มเติมแบบ Raeltime ได้อีกด้วย

เรียนเหมือนเล่น 

เพื่อให้การเรียนไม่น่าเบื่อจนเกินไป ตัวแอปฯ Duolingo ก็มีภาพกราฟฟิกเป็นตัวมาสคอตประจำแอปฯ มาแทนตัวผูัใช้ เสมือนกำลังเล่นเกมแนวผจญภัย ซึ่งจะมีแบ่งเป็นด่าน ๆ และทุก ๆ ครั้งที่ผ่านด่าน ก็จะได้แต้ม มาประดับบนโปรไฟล์ เอาไปอวดได้ว่่าเราเรียนถึงขั้นไหนหรือมีทักษะถึงระดับไหนได้แล้ว ส่วนตัวเกมก็จะมีแบ่งรูปแบบเป็นมินิเกมให้เล่นอีกหลาย ตามหลักสูตรของใครของมัน และมีบททดสอบทักษะภาษาในหลากหลายสถานการณ์ แบบอินเทอร์แอคทีฟ เช่นจำลองว่ากำลังนั่งอยู่ในร้านกาแฟต่างประเทศ

หลากภาษา

ต้องบอกก่อนเลยว่า ตัวแอปฯ ไม่ได้มีเฉพาะภาษาอังกฤษ จีน หรือญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายภาษา รวมกว่า 40 ภาษา ซึ่งเลือกได้เลยว่า จะให้สอนภาษานั้น ๆ เป็นภาษาอะไร เช่นเรียนภาษาญี่ปุ่น แต่ให้สอนเป็นภาษาอังกฤษหรือจีนก็ยังได้

ให้ดนตรีและคณิตช่วย

สองฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาเร็ว ๆ นี้อย่าง Duolingo Math (คณิตศาสตร์) และ Duolingo Music (ดนตรี) เป็นหลักสูตรเสริมสำหรับใครที่อยากเรียนคณิตศาสตร์ หรือฝึกทักษะด้านดนตรีเพิ่มเติม

ซึ่งการเรียนทั้งสอง ก็อาจได้ทักษะภาษาอังกฤษเพิ่มเติมด้วย ซึ่งทางผู้พัฒนาแอปฯ ก็เตรียมเพิ่มภาษาอื่น ๆ ตามมาเร็ว ๆ นี้

ประมวลผลการเรียน

ทุก ๆ ครั้งที่มีการเรียน ทั้งการฝึกพูด ฟัง เขีนน และอ่าน ผ่านบทสอบต่าง ๆ ที่แอปฯ ให้มา ทั้งหมดทั้งมวลก็จะนำไปสู่การประมวลผลการเรียน ซึ่งจะมีบอกเลยว่า เราเรียนถึงไหนแล้ว หากยังไม่พอก็เข้า้ไปเรียนหรือท้าทายเพิ่มเติมได้ ท้ายนี้หากใครสนใจอยากลองเรียน ตัว Duolingo ก็มีให้เรียนทั้งในรูปแบบแอปฯ ซึ่งรองรับทั้ง Android กับ iOS หรือเรียนผ่านเว็บ https://www.duolingo.com ก็ได้เช่นกัน