ManageEngine ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้ Zoho Corporation และผู้ให้บริการโซลูชันบริหารจัดการ IT สำหรับองค์กรชั้นนำ ได้ประกาศขยายการรองรับการผสานระบบบน AD360 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการบริหารจัดการอัตลักษณ์และการเข้าถึง (IAM) โดยเพิ่มการเชื่อมต่อสำเร็จรูปกว่า 100 รายการ นับเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถของแพลตฟอร์ม IAM แบบครบวงจรของบริษัท การขยายตัวครั้งนี้ครอบคลุมการผสานระบบกับแอปพลิเคชันสำหรับองค์กรที่ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็นระบบบริหารทรัพยากรบุคคล (HRMS) ระบบบริหารจัดการบริการด้าน IT (ITSM) ระบบจัดการข้อมูลความปลอดภัย (SIEM) และแพลตฟอร์มอื่น ๆ นอกจากนี้ AD360 ยังมาพร้อมกับ REST API เพื่อให้สามารถผสานการทำงานกับแอปพลิเคชันของบุคคลที่สามและระบบภายในองค์กรได้อย่างยืดหยุ่นและทรงพลัง
มุมมองจากองค์กรธุรกิจ เหตุใดเรื่องนี้จึงสำคัญ

องค์กรขนาดใหญ่ในปัจจุบันต้องเผชิญกับความท้าทายสำคัญในการบริหารจัดการเครื่องมือด้าน IT ที่หลากหลายและกระจัดกระจาย ข้อมูลจากรายงาน “Gartner Identifies the Top Cybersecurity Trends for 2025” (เผยแพร่เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2025) ระบุว่า องค์กรโดยเฉลี่ยต้องจัดการเครื่องมือด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์มากถึง 45 รายการจากผู้ให้บริการกว่า 3,000 ราย ซึ่งก่อให้เกิดความซับซ้อนในการบริหารจัดการ
องค์กรที่มีขนาดใหญ่มักดำเนินงานในสภาพแวดล้อมไอทีที่มีผู้ให้บริการหลายราย (multi-vendor IT environments) แต่สิ่งนี้กลับเพิ่มความซับซ้อนที่นำไปสู่ปัญหาข้อมูลประจำตัวที่กระจัดกระจาย (fragmented identities) ซึ่งส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการเข้าถึงทรัพยากร และเพิ่มภาระต้นทุนด้านไอที จากผลสำรวจ IAM Leadership Survey ปี 2024 ของ Gartner® พบว่า 54% ขององค์กร มีจำนวนเหตุการณ์ละเมิดข้อมูลประจำตัวเพิ่มขึ้น โดย 1 ใน 3 ขององค์กร ต้องเผชิญกับการหยุดชะงักของธุรกิจ ได้รับความสูญเสียทางการเงิน หรือบทลงโทษทางกฎระเบียบอันเนื่องมาจากเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ 85% ของเหตุการณ์การละเมิดข้อมูลประจำตัว มีสาเหตุมาจากการถูกแฮกข้อมูลประจำตัวของเครื่องจักร (machine identities) เช่น บัญชีบริการหรือบัญชีอัตโนมัติ ตามรายงาน Data Breach Investigations Report ปี 2024 ของ Verizon พบว่า 31% ของเหตุการณ์ละเมิดทั้งหมดตั้งแต่ปี 2013 เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูลประจำตัวที่ถูกขโมย
ด้วยกฎหมายและข้อบังคับการปฏิบัติตามข้อกำหนดทั่วโลกที่กำหนดให้องค์กรต้องรักษาข้อมูลประจำตัวและการเข้าถึงที่ถูกต้องและทันสมัยอยู่เสมอ การอัปเดตบันทึกข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ การรวมข้อมูลประจำตัวอย่างไร้รอยต่อไม่ใช่เพียงแค่ความท้าทายด้านไอทีสำหรับองค์กรอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็นทางธุรกิจ
“วิสัยทัศน์ของเราคือการขจัดปัญหาข้อมูลระบุตัวตนที่กระจัดกระจาย และทำให้การกำกับดูแลข้อมูลอัตลักษณ์องค์กรทำได้ง่ายขึ้นอย่างรอบด้าน” มานิคานเดน ธังการาจ รองประธานบริษัท ManageEngine กล่าว “ด้วยการผสานรวมที่ขยายตัวของ AD360 เรากำลังเพิ่มพลังให้ธุรกิจสามารถสร้างระบบดิจิทัลที่เป็นหนึ่งเดียวได้อย่างแท้จริง ในการเปิดตัวนี้ เราต้องการช่วยลูกค้าเปลี่ยนการจัดการข้อมูลประจำตัวจากภาระทางการปฏิบัติการให้กลายเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่น และความปลอดภัย และในขณะนี้ โรงพยาบาลสามารถจัดสรรการเข้าถึงของแพทย์ใน Epic EHR ได้โดยอัตโนมัติในวันที่ได้รับการว่าจ้างผ่าน Workday โดยไม่ต้องเขียนโค้ด และไม่ก่อเกิดความล่าช้า”
เสริมความคล่องตัวทางธุรกิจด้วยการผสานรวมที่ไร้รอยต่อ
การผสานรวมของ ManageEngine AD360 ใช้ประโยชน์จากโปรโตคอลมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น SCIM, SAML 2.0, OpenID Connect (OIDC), OAuth 2.0 และ REST APIs เพื่อรับประกันความเข้ากันได้อย่างไร้รอยต่อในระบบไอทีที่หลากหลาย ด้วยอินเทอร์เฟซแบบไร้โค้ดที่ใช้งานง่าย ทีมไอทีสามารถตั้งค่าการเชื่อมต่อและออกแบบการทำงานแบบอัตโนมัติได้โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้เชิงโปรแกรมเฉพาะทาง ซึ่งช่วยเร่งระยะเวลาในการนำไปใช้งานจากหลายเดือนให้เหลือเพียงไม่กี่วัน
เครือข่ายการผสานรวมที่ครอบคลุมของ ManageEngine สำหรับการจัดการการเข้าถึงข้อมูลระบุตัวตนช่วยให้สามารถ
- เร่งกระบวนการสร้างมูลค่า – องค์กรสามารถผสานรวมและทำให้กระบวนการทำงานด้านการจัดการอัตลักษณ์ดิจิทัลเป็นอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็ว ลดต้นทุนการดำเนินงาน ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานผ่านระบบจัดการวงจรแบบรวมศูนย์และการซิงโครไนซ์ข้อมูลอัตลักษณ์แบบเรียลไทม์
- ความยืดหยุ่นและทางเลือกเชิงกลยุทธ์– องค์กรสามารถผสานรวมกับแอปพลิเคชันระดับองค์กรได้อย่างอิสระ โดยไม่ถูกจำกัดด้วยผู้ให้บริการรายใดรายหนึ่ง เพื่อรับประกันในเรื่องความเข้ากันได้ ความสามารถในการขยายตัว และการรองรับความต้องการทางธุรกิจที่หลากหลาย
- ระบบอัตโนมัติด้านข้อมูลประจำตัวขั้นสูง– ในยุคที่ธุรกิจมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน AD360 สามารถนำกระบวนการจัดการข้อมูลระบุตัวตนแบบไม่มีโค้ดที่ซับซ้อนมาช่วยทำให้งานสำคัญต่าง ๆ เป็นอัตโนมัติ เช่น การจัดสรรบัญชีผู้ใช้ การปรับเปลี่ยนสิทธิ์การเข้าถึง การซิงโครไนซ์ข้อมูลประจำตัว และการปิดบัญชีผู้ใช้อย่างปลอดภัยในระบบจัดการข้อมูลประจำตัวขององค์กร
- ความสอดคล้องที่ไร้ช่องว่าง – ระบบจัดการข้อมูลประจำตัวสามารถปรับข้อมูลประจำตัวให้สอดคล้องกันระหว่างระบบ HR, IT และระบบรักษาความปลอดภัยได้โดยอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้องค์กรผ่านการตรวจสอบตามข้อกำหนดของ GDPR, HIPAA และ SOX
“ความสามารถในการทำงานร่วมกันระหว่างแอปพลิเคชันทางธุรกิจที่สำคัญช่วยให้กระบวนการต่างๆ เช่น การรับพนักงานใหม่และการยกเลิกสิทธิ์การเข้าถึงเป็นไปอย่างราบรื่น สร้างมูลค่าทางธุรกิจที่จับต้องได้และเร่งผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เครื่องมือ IAM แบบเดิมมักให้ความสำคัญกับการผสานรวมเป็นลำดับท้าย ทำให้ต้องใช้เวลาหลายเดือนในการเชื่อมต่อระบบ IAM ขององค์กรเข้ากับ ITSM หรือ HCM แต่ AD360 สามารถทำได้ภายในไม่กี่คลิก นี่ไม่ใช่แค่การเชื่อมต่อระบบ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงแนวทางการจัดการอัตลักษณ์ขององค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย” ธังการาจ กล่าว
เกี่ยวกับ AD360
ManageEngine AD360 เป็นแพลตฟอร์มการจัดการอัตลักษณ์แบบครบวงจรที่เชื่อมโยงผู้คน เทคโนโลยี และประสบการณ์เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ พร้อมมอบการมองเห็นและการควบคุมโครงสร้างพื้นฐานด้านอัตลักษณ์ขององค์กรอย่างเต็มรูปแบบ โซลูชันนี้รองรับการบริหารวงจรชีวิตอัตโนมัติ (Automated Life Cycle Management) ระบบล็อกอินครั้งเดียวที่ปลอดภัย (Secure SSO) การยืนยันตัวตนหลายปัจจัยแบบปรับเปลี่ยนตามความเสี่ยง (Adaptive MFA) และการกำกับดูแล การตรวจสอบ ความสอดคล้องตามกฎระเบียบ และการวิเคราะห์อัตลักษณ์ จากคอนโซลเดียวที่ใช้งานง่าย ด้วยการผสานรวมที่พร้อมใช้งานและรองรับการเชื่อมต่อแบบกำหนดเอง AD360 สามารถเข้ากับระบบไอทีที่มีอยู่ได้อย่างง่ายดาย ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและทำให้การจัดการอัตลักษณ์เป็นระบบมากขึ้น องค์กรชั้นนำในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การดูแลสุขภาพ การเงิน การศึกษา และภาครัฐให้ความไว้วางใจ AD360 ในการช่วยให้การจัดการอัตลักษณ์เป็นเรื่องง่าย ยกระดับความปลอดภัย และรับรองการปฏิบัติตามมาตรฐานข้อบังคับที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.manageengine.com/active-directory-360/