Lockdown Mode เป็นโหมดความปลอดภัยขั้นสูงสุดโดยเปิดตัวมาพร้อมกับ iOS 16, iPadOS 16 และ macOS Ventura ออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้ใช้จากภัยคุกคามทางไซเบอร์ขั้นสูง อย่างกรณีของมัลแวร์ Pegasus ที่รัฐบาลบางประเทศ ซื้อมัลแวร์มาใช้ติดตามดูคนที่จะสร้างปัญหาให้พวกเขา (ส่วนตัวเชื่อว่าไอโหมดนี้ น่าจะเกิดขึ้น จากเหตุการณ์ Pegasus นั่นแหละ)
หากถามว่า มันมีความจำเป็นขนาดไหน ? ก็ต้องบอกว่า มันขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่ผู้ใช้แต่ละคนต้องเผชิญ หากเป็นผู้ใช้ที่มีความเสี่ยงสูงเช่น นักข่าว นักเคลื่อนไหว คนที่กุมความลับราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐ ก็ควรจะเปิดใช้งานแหละ
แต่สิ่งที่ผมเจอคือ สื่อบางแห่งรวมทั้งหน่วยงานราชการ ต่างบอกว่าให้เปิดใช้งาน Lockdown Mode เพื่อป้องกัน “แอปดูดเงิน” ทำให้หลายคนเลือกจะเปิดใช้ โดยอาจไม่ได้ศึกษามันอย่างละเอียด หรือไม่ได้อ่านคำเตือนที่ห้อยเล็ก ๆ ไว้ตอนท้าย
ประโยชน์ของ Lockdown Mode คือมันสามารถปกป้องเราจากสปายแวร์ขั้นสูง โดยปิดใช้งานหรือจำกัดคุณสมบัติและการเชื่อมต่อบางประการของอุปกรณ์ ซึ่งรวมถึง
+ ป้องการติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่รู้จัก
+ ป้องกันการเข้าถึงไฟล์แนบในข้อความ
+ ป้องกันการโทรวิดีโอ FaceTime จากบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต
+ ป้องกันการเข้าถึงการเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi ที่ไม่รู้จัก
ก็ดูเหมือนจะปลอดภัยมากใช่ไหม แต่มันต้องแลกกับอะไรบ้างล่ะ
1.ไฟล์ที่แนบมากับข้อความรวมถึงลิงก์ จะถูกบล็อค ยกเว้นรูปภาพ วิดีโอ และเสียงบางประเภท ซึ่งหากมีแบรนด์ส่งโปรโมชั่น เพื่อให้เรากดลิงก์เข้าไปรับสิทธิ์ เราก็จะกดไม่ได้นะเออ
2.เข้าบางเว็บไม่ได้ โดยเฉพาะเว็บที่มีโค้ดซับซ้อน หรือเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเกินไป และอาจไม่ได้แสดงอักษรใด ๆ
3.ใช้งาน Facetime ไม่ได้ เว้นแต่คน ๆ นั้นจะเคยคุยกับเรา ก่อนจะเปิดใช้งาน Lockdown Mode
4.ภาพถ่ายที่แชร์ในอัลบั้ม จะถูกลบตำแหน่งออก และอัลบั้มที่แชร์จะถูกลบออกจากแอปรูปภาพด้วย
5.เชื่อมต่ออุปกรณ์แยกไม่ได้ จะต้องทำการปลดล็อค Lockdown Mode ก่อน หรือต้องมีการยืนยัน สแกนหน้าหรือรหัสผ่านตลอดเวลา
6.ไม่ต่อ Wi-Fi สาธารณะให้เอง หากตรวจพบว่า Wi-Fi นั้นไม่มีความปลอดภัย
ถ้าคิดว่า เปิดโหมดนี้แล้ว ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการชีวิต ก็เปิดใช้งานได้ครับ แต่หากเปิดเพราะกลัวแอปดูดเงิน ผมว่ามันไม่คุ้มที่ใช้ชีวิตให้มันยุ่งยากขึ้น ซึ่งตัวเราเอง ควรมีความรู้ในการป้องกันตัวเองด้วย ไม่ใช่หวังจะพึ่งพาแต่ระบบอย่างเดียว
สำหรับ iOS แล้ว ผมยังไม่เจอกรณีที่แฮกเกอร์สามารถโอนเงิน โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องกดอะไรที่ตัวเครื่องนะ (อันนี้เจอแต่ใน Android) ที่เจอคือ ถูกหลอกให้โอนเงิน หรือถูกหลอกให้ใส่ข้อมูลส่วนตัวลงในลิงก์ที่ส่งมามากกว่า
ต้องยอมรับว่า Apple มีระบบความปลอดภัยที่ค่อนข้างจะแข็งแกร่ง หากเทียบกับระบบอื่น สิ่งรวมถึงการอนุมัติแอปต่าง ๆ ก่อนจะขึ้นไปอยู่บน App store รวมทั้งการอัปเดตความปลอดภัยเป็นประจำ (ที่บังคับให้อัปเดต) ทำให้ช่วยป้องกันไม่ให้มัลแวร์แพร่กระจายไปยังอุปกรณ์ได้ง่าย ๆ
และในปัจจุบัน แม้ Apple จะถูกดันจาก EU อย่างหนัก ให้เปิดเสรีในการติดตั้งแอปพลิเคชั่นเหมือนกับ Android พูดง่าย ๆ คือ ติดตั้งแอปนอกนั่นแหละ แต่ตอนนี้ ยังใช้แค่บางประเทศเท่านั้น ในไทยเรา iOS ยังไม่สามารถติดตั้งแอปนอก App store ได้ ซึ่งหากทำได้ แฮกเกอร์คงบอก เสร็จตูล่ะ…..
สุดท้าย สำหรับคนที่เปิดใช้งานโหมดนี้แล้ว หากวันหนึ่ง พบปัญหาการใช้งานที่ไม่ลื่นไหล อย่าลืมไปปิดโหมดนี้ ก่อนจะรีเซ็ตเครื่องใหม่ล่ะ..