LINE Pay แพลทฟอร์มการชำระเงินจากแอพแชทชื่อดังลงนามเซ็นสัญญาร่วมลงทุนกับ Rabbit ระบบบัตรสมาร์ทการ์ดที่สามารถใช้ได้กับเครือข่ายระบบขนส่งมวลชน รวมถึงสินค้าและบริการจากพันธมิตรต่างๆ ภายใต้ชื่อบริษัทตามกฎหมาย “LINE Biz Plus Limited” ถือเป็นการผสานแพลตฟอร์มการชำระเงินแบบออนไลน์ และออฟไลน์รายใหญ่เป็นครั้งแรกในประเทศไทย
แรบบิทเป็นระบบการชำระเงินแบบออฟไลน์ ซึ่งมีบัตรแรบบิทเป็นตัวกลางในการชำระค่าบริการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ ทั้งด้านขนส่งมวลชน และการชำระค่าสินค้าที่ร้านค้าต่างๆ ในปัจจุบันมีการออกบัตรแรบบิทไปแล้วจำนวนกว่า 5 ล้านใบ และมีจุดรับบัตรแรบบิทมากกว่า 4,000 จุด กระจายอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล
LINE Pay แพลตฟอร์มการชำระเงินผ่านมือถือจาก LINE อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ได้ “ช้อปง่าย จ่ายสนุก” หลังจากประสบความสำเร็จครั้งใหญ่จากแคมเปญ “อั่งเปานำโชคจาก LINE Pay” ด้วยยอดการโอนเงินเผ่านกระเป๋าเงิน LINE Pay สูงถึง 8 ล้านครั้งภายใน 7 วันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้ลงทะเบียนใช้งาน LINE Pay ณ ปัจจุบันสูงถึง 1.5 ล้านคน และจำนวนร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศเกินกว่า 250 ร้านค้าด้วยระยะเวลาที่เปิดให้บริการในประเทศไทยยังไม่ถึง 1 ปี
มร. เนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท บีเอสเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ “แรบบิท” ได้ประกาศถึงการร่วมลงทุนกับบริษัท LINE Biz Plus Limited (หรือ LINE Pay) ในสัดส่วน 50:50 เพื่อร่วมสร้างบริการ Rabbit LINE Pay ในครั้งนี้ว่า “นี่คือจุดเปลี่ยนทางธุรกิจที่สำคัญของแรบบิท Rabbit LINE Pay จะเป็นผู้ให้บริการชำระเงินรายแรกในประเทศไทย ที่ได้รวมระบบการชำระเงินแบบออนไลน์และออฟไลน์ เข้าไว้ด้วยกันอย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้ Rabbit LINE Pay เป็นผู้นำตลาดการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยเพื่อเข้าสู่สังคมปลอดเงินสด หรือ Cashless Society”
“การตกลงร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้ แรบบิทได้ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้ใช้ LINE จำนวน 33 ล้านคน และยังสามารถขยายตลาดไปยังต่างจังหวัดได้อีกด้วย ผู้ใช้บริการ Rabbit LINE Pay จะได้รับความสะดวกสบายจากระบบชำระเงินผ่านร้านค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นการตอบสนองนโยบายของทางภาครัฐที่จะผลักดันให้คนไทยเข้าสู่สังคมปลอดเงินสดอีกด้วย” มร. เนลสันกล่าวเพิ่มเติม
มร. จิน วู ลี ผู้จัดการ LINE Biz Plus Limited ประเทศไทย (LINE Pay) กล่าวว่า “Rabbit เป็นระบบการชำระเงินชั้นนำ พร้อมไปด้วยพาร์ทเนอร์ร้านค้าออฟไลน์ที่มีชื่อเสียง เช่น แมคโดนัลด์ เทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี เป็นต้น ในขณะที่ LINE Pay มีฐานพาร์ทเนอร์ร้านค้าออนไลน์ที่แข็งแกร่ง เช่น ลาซาด้า เอ็นโซโก้ เป็นต้น เราเชื่อว่าการร่วมทุนในครั้งนี้ จะทำให้สังคมการใช้จ่ายปลอดเงินสดแพร่หลายและเติบโตขึ้นในหมู่่ผู้ใช้ไทยได้เป็นอย่างดี จนกลายเป็นอีกหนึ่งเทรนด์สำหรับธุรกิจเพย์เมนต์ในยุคเศรษฐกิจดิจิตอล”
มร. จิน วู ลี ได้กล่าวเสริมว่า “จากการประกาศการร่วมทุน Rabbit LINE Pay ในครั้งนี้ ทั้ง LINE Pay และ Rabbit จะทำงานร่วมกันทั้งในส่วนของการแชร์ อัพเดตช่องทางธุรกิจที่เป็นประโยชน์ให้ซึ่งกันและกัน แนะนำพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสมร่วมกัน ถือเป็นโอกาสที่ LINE Pay จะได้ขยายช่องทางการเติมเงิน การชำระเงินให้มากขึ้นด้วยการสนับสนุนจาก Rabbit ในขณะที่ Rabbit ก็จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์หลักผ่านแพลตฟอร์ม LINE Pay ”
Rabbit LINE Pay มีแผนจะประกาศบริการแรกกับร้านค้าหลักในฐานะบริการตัวอย่างก่อนภายในไตรมาสที่ 3 และจะเปิดให้บริการเต็มตัวในพื้นที่กรุงเทพมหานครฯ ภายในไตรมาสที่ 4 ปีนี้
Rabbit LINE Pay มีแผนที่จะสร้างบริการด้านการชำระเงินทางมือถือ ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้มากยิ่งขึ้นในอนาคต ด้วยความง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อนในการทำธุรกรรม รวมไปถึงโปรแกรมสะสมรีวอร์ดมากมาย ภายใต้ความร่วมมือของพาร์ทเนอร์อันหลากหลายของทั้งสองแบรนด์ ผู้ใช้สามารถสนุกและเพลิดเพลินไปกับ Rabbit LINE Pay ได้ในทุกช่วงไลฟ์สไตล์โดยไม่จำเป็นต้องพกเงินสดติดตัวตลอดเวลา เพียงแค่ใช้บริการ Rabbit LINE Pay ในการชำระเงิน เช่น ซื้อกาแฟในร้านคอฟฟี่ช้อปยามเช้า เดินทางไปทำงานด้วยบีทีเอสหรือบีอาร์ที ช้อปออนไลน์จากร้านใน LINE GIFTSHOP หรือจะโอนเงินให้เพื่อนหรือร้านค้า เป็นต้น
Rabbit LINE Pay จะมุ่งพัฒนาและอัพเดทบริการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวก และให้ความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้ชาวไทยทุกท่าน และจะยังคงเพิ่มร้านค้าที่ร่วมรายการให้มีความหลากหลาย และสร้างกิจกรรมทางการตลาดที่สนุก เพื่อตอบโจทย์ทุกกิจกรรมของผู้ใช้ในทุกไลฟ์สไตล์ด้วย Rabbit LINE Pay