หลังจาก LINE ประกาศความน่าตื่นเต้นครั้งใหญ่ สำหรับวงการสื่อโฆษณาในธุรกิจคอนเทนต์ออนไลน์จากงาน LINE NEXPLOSION 2020 ไปเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา LINE ยังคงรุกหน้าพัฒนารูปแบบและกลยุทธ์สื่อโฆษณาบนแพลตฟอร์ม LINE อย่างต่อเนื่อง หวังสื่อโฆษณาดิจิทัลเป็นตัวผลักดัน ช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยให้สามารถเดินหน้า พร้อมเป็นแรงขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาให้เติบโตได้ในปี 2563
จากผลการสำรวจของนีลเส็น ประเทศไทย พบว่ามูลค่าเม็ดเงินโฆษณาปี 2562 อยู่ที่ 1.24 แสนล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2561 อยู่เพียง 3% แม้ว่าโดยรวมจะเป็นเลขการเติบโตที่น้อยลง เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตของปีก่อนหน้านี้ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ 2 อันดับประเภทสื่อที่เติบโตทิ้งห่างสื่อประเภทอื่นๆ คือ สื่อโรงภาพยนตร์ 20% และสื่ออินเทอร์เน็ต 19% (อ้างอิง: DAAT) ชี้ให้เห็นว่าสื่อ 2 ประเภทนี้มีโอกาสเติบโตได้ และยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และน่าจะได้รับความนิยมจากนักการตลาดในปี 2563 นี้อย่างต่อเนื่อง
ทว่าในช่วงต้นปี 2563 ที่ผ่านมา สื่อโฆษณาหลายประเภทล้วนได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัส Covid-19 ทำให้เม็ดเงินและการเติบโตอาจลดลง แต่ในส่วนสื่อโฆษณาออนไลน์หรือดิจิทัล LINE ยังมองว่ายังสามารถเติบโตต่อไปได้ เพราะเป็นช่องทางที่ยังสามารถช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สื่อสารได้อย่างเข้าถึงและสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพท่ามกลางสภาวะดังกล่าว อีกทั้งเป็นโอกาสที่ทำให้หลากหลายแบรนด์ หลากหลายองค์กรได้เรียนรู้ และปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัลได้อย่างจริงจัง เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
LINE จึงได้พัฒนาเครื่องมือใหม่ๆ รวมถึงโซลูชั่นในด้านสื่อโฆษณา ที่จะเป็นอาวุธช่วยนักการตลาด นักโฆษณา แบรนด์และองค์กรต่างๆ ให้บรรลุเป้าหมายการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยโซลูชั่นที่จะมีปล่อยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ได้แก่
1) “STORY LINKED” โซลูชั่นโฆษณารูปแบบใหม่บน LINE TV ที่แบ่งโฆษณาวิดีโอออกเป็นลำดับหรือเป็นตอนๆ ต่อเนื่องในลักษณะของ Sequential Ads ทางเลือกใหม่สำหรับนักโฆษณา ที่จะเพิ่มความน่าค้นหา ความน่าสนใจให้กับตัวโฆษณาจากการจัดแบ่งลำดับคลิปโฆษณาในแต่ละตอน ทำให้ผู้ชมสามารถย่อยเนื้อหาที่นักโฆษณาอยากจะสื่อสารได้ครบถ้วน และเข้าใจได้ง่ายขึ้น เมื่อเทียบกับการโฆษณารูปแบบเดิมที่ต้องใส่เนื้อหาที่ต้องการไว้ในคลิปตอนเดียว ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการลงโฆษณาบนแพลตฟอร์มของ LINE ได้ตรงความต้องการของนักโฆษณาและผู้ชมทั้งสองฝ่าย โดยจะเปิดให้บริการโซลูชั่นดังกล่าวในเดือนมีนาคมนี้
2) สื่อโฆษณาแบบ OMO (Online Merge Offline) แบบครบวงจร ด้วยการจับมือกับ 2 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ในวงการสื่อนอกบ้าน และสื่อโฆษณาเคลื่อนที่ชั้นนำของเมืองไทยคือ VGI และ BMN มุ่งยกระดับมาตรฐานสื่อโฆษณาในประเทศไทยให้ครบวงจร และตอบโจทย์นักการตลาดในการเข้าถึงลูกค้าได้ครบทุกมิติของชีวิตประจำวันมากขึ้น ด้วยการผนวกสื่อโฆษณาออนไลน์ และออฟไลน์เข้าด้วยกัน สร้างประสบการณ์การรับรู้ของลูกค้าให้ไร้รอยต่อและมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม อำนวยความสะดวกให้นักการตลาด นักโฆษณาสามารถวางแผนการลงทุนในสื่อโฆษณาได้ง่ายขึ้น และครบวงจรมากขึ้น คือสามารถลงทุนในสื่อโฆษณาทั้งสองประเภทได้ครบในที่เดียว ซึ่งนักการตลาดจะได้พบกับสื่อโฆษณาจากความร่วมมือดังกล่าวภายในเดือนพฤษภาคมนี้
3) ‘LINE Reach Curve’ เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลดิจิทัลสำหรับการวางแผนสื่อโฆษณาบนแพลตฟอร์ม LINE ภายใต้ความร่วมมือครั้งใหญ่กับบริษัทวิจัยการตลาดชั้นนำระดับโลกอย่าง นีลเส็น ประเทศไทย โดย LINE Reach Curve จะช่วยทำให้แบรนด์หรือนักการตลาดสามารถวิเคราะห์ และวางแผนการใช้งบประมาณลงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม LINE ได้อย่างเหมาะสม สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดไว้อย่างตรงจุด และมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมยกระดับการวิเคราะห์ข้อมูลดิจิทัลด้านสื่อโฆษณาให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่นักโฆษณาและแบรนด์ต่างๆ ที่ร่วมเป็นพันธมิตรกับ LINE อีกด้วย ซึ่งนักการตลาดจะสามารถเริ่มลองใช้เครื่องมือ LINE Reach Curve ได้ภายในไตรมาสที่ 2 นี้
“แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยในปัจจุบันจะเผชิญกับอุปสรรค ความท้าทายหลายด้าน LINE ยังคงมุ่งหวังที่จะเป็นหนึ่งหนทางช่วยเหลือให้ทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ สามารถก้าวข้ามและเติบโตต่อไปได้ โดยเราหวังว่า 3 โซลูชั่นและเครื่องมือด้านสื่อโฆษณาบนแพลตฟอร์มของเราดังกล่าว จะเป็นช่องทางและกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยทำให้แบรนด์ นักการตลาดไทยยังคงสามารถสื่อสาร สร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มผู้บริโภคของพวกเขาได้อย่างแม่นยำ มีประสิทธิภาพ อีกทั้งเรายังพร้อมร่วมมือกับหลากหลายพาร์ทเนอร์ เพื่อยกระดับมาตรฐานและส่งเสริมอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาในไทยให้ดียิ่งขึ้น เติบโตยิ่งขึ้นกว่าเดิมในปี 2563 นี้” นายณธกฤต กาญจนมัณฑนา หัวหน้าฝ่ายการพาณิชย์ คอนเทนต์ และมีเดีย LINE ประเทศไทย กล่าวทิ้งท้าย
นับว่าโซลูชั่นหรือเครื่องมือแต่ละตัวเป็นไฮไลท์เด็ดที่นักการตลาดและแบรนด์ไทยไม่ควรมองข้ามในปีนี้เลยก็ว่าได้ ถือเป็นอีกหนึ่งความตื่นเต้นของวงการสื่อโฆษณาดิจิทัลในต้นปี 2563 ที่จะช่วยให้แบรนด์สามารถสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้า กลุ่มผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมท่ามกลางสถานการณ์แวดล้อมที่ท้าทายเช่นนี้ การเรียนรู้ ศึกษาหาหนทางรับมือล่วงหน้านับเป็นการบ้านชิ้นใหญ่ที่ทุกธุรกิจควรต้องเตรียมตัว โดย LINE พร้อมเป็นแพลตฟอร์มส่งเสริมและสนับสนุนทุกธุรกิจให้ก้าวข้ามและเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน