แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (LG) เผยโฉมสุดยอดสมาร์ทโฟน LG G4 ในงานเปิดตัวที่จัดขึ้นใน 6 มหานครทั่วโลก ได้แก่ นิวยอร์ค ลอนดอน ปารีส สิงคโปร์ อิสตันบูล และโซล โดยมีแขกผู้มีเกียรติกว่า 1,000 คนเข้าร่วมยลโฉมสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก LG G3 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงในปีที่ผ่านมา ทั้งในด้านยอดขายและรางวัลจากหลากหลายเวที ทั้งนี้ ลูกค้าผู้โชคดีกว่า 4,000 คนจะได้รับเลือกให้เป็นกลุ่มแรกที่ได้เป็นเจ้าของ LG G4 ในแคมเปญการตลาดที่ใหญ่ที่สุดของแอลจี
แอลจีมุ่งพัฒนาให้ LG G4 มีรูปลักษณ์ที่ทั้งสวยสง่า เอื้อต่อความสะดวกสบายของผู้ใช้ โดดเด่นทั้งด้านการถ่ายภาพและแสดงผล และยังสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เน้นผู้ใช้เป็นหลัก โดยกล้องหลังของ LG G4 ใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงขนาด F1.8 ซึ่งทำให้เซนเซอร์ของกล้องสามารถจับแสงได้มากขึ้นถึงร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับกล้องของ LG G3 ขณะที่หน้าจอ IPS Quantum Display นั้นผ่านการพัฒนาคุณภาพให้เหนือกว่าหน้าจอ Quad HD ที่เปิดตัวไปในรุ่น G3 ในทุกด้าน เมื่อผสมผสานกับดีไซน์แบบ “Slim Arc” พร้อมเมนูและไอคอนในรูปลักษณ์ใหม่ LG G4 จึงเป็นสมาร์ทโฟนที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“แอลจีมุ่งมั่นเดินตามเป้าหมายในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดีกว่า ด้วยการพัฒนาสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่มาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย และเน้นการสร้างสรรค์ประสบการณ์การใช้งานที่มีความสมดุลในทุกด้าน จนถือเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในตลาด” นายจูโน โช ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอลจี อีเลคทรอนิคส์ กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ กล่าว “เราต้องการให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับดีไวซ์ที่ตรงต่อความต้องการของพวกเขาอย่างแท้จริง โดยสามารถสร้างความประทับใจได้ทั้งในแง่ความรู้สึกขณะใช้งาน และเทคโนโลยีที่เปี่ยมประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะดูที่ดีไซน์ กล้องถ่ายรูป จอแสดงผล หรือซอฟต์แวร์ LG G4 ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่เหนือชั้นที่สุดของแอลจี”
ดีไซน์หรูหรา ใช้งานสะดวก
แอลจีให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการเลือกใช้วัสดุชั้นยอด โดยฝาหลังของ LG G4 เป็นงานหนังแท้ทำมือแบบ full grain มีให้เลือกใน 6 โทนสี กระบวนการฟอกฝาด (vegetable tanning) ที่นำมาใช้ในการเตรียมวัสดุหนังแท้นี้ เป็นเทคนิคเก่าแก่ที่ต้องอาศัยฝีมือของช่างผู้เชี่ยวชาญในการผลิตและย้อม ฝาหลังของ LG G4 มีโทนสีอบอุ่นและสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาได้ตามแบบของหนังแท้ ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถนำไปรีไซเคิลได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากไม่มีการใช้สารเคมีที่อาจก่อให้เกิดอันตราย นอกจากนี้ LG G4 ยังมีฝาหลังสีขาว Ceramic White ที่โดดเด่นด้วยลวดลายแบบสามมิติ ฝาหลังสีเทา Metallic Gray หล่อหลอมจากฝีมือช่างศิลป์ผู้เชี่ยวชาญ และฝาหลังสีทอง Shiny Gold
ดีไซน์ที่สวยสง่า นำเทรนด์ ขนาดเหมาะมือทำให้ LG G4 มีรูปลักษณ์แตกต่างจากสมาร์ทโฟนทรงแบนราบในบอดี้โลหะที่พบได้ทั่วไป โดย LG G4 มีตัวเครื่องแบบ Slim Arc เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยหน้าจอที่มีทรงโค้งเล็กน้อย ซึ่งนอกจากจะทำให้ตัวเครื่องดูสวยไม่ซ้ำใครแล้ว ยังทำให้ LG G4 ทนทานกว่าสมาร์ทโฟน ทรงราบทั่วไปถึง 20% ในกรณีการตกกระแทกแบบคว่ำหน้าจอลง และยังถือเครื่องได้ถนัดมือกว่าอีกด้วย
นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์ดีไซน์ของ LG G4 ยังสะท้อนถึงแนวคิดเบื้องหลังรูปลักษณ์ภายนอกที่กล่าวมานี้ ด้วยสไตล์กราฟฟิกที่เรียบง่าย ใช้งานสะดวก โดยไอคอนต่างๆ จะมีสีสันสดใสกว่าในรุ่นก่อนและมีมุมกลมมน เข้ากันกับดีไซน์เครื่องแบบ Slim Arc ได้เป็นอย่างดี ในขณะที่วิดเจ็ต Smart Notice นั้นสามารถเปลี่ยนสีพื้นหลังและตัวอักษรให้เข้ากับภาพพื้นหลังหน้าจอได้อีกด้วย
สุดยอดประสบการณ์การถ่ายภาพและแสดงผล
แอลจีได้ออกแบบให้กล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซลของ LG G4 สามารถถ่ายภาพได้สวยแม้ในสภาพแสงที่ไม่อำนวย โดยเลนส์ที่มีรูรับแสงขนาด F1.8 ช่วยให้เซนเซอร์กล้องสามารถจับแสงได้มากขึ้นถึงร้อยละ 80 ในขณะที่ฟังก์ชัน OIS 2.0 ยังช่วยให้ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ง่ายดายยิ่งขึ้น ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าระบบ OIS+ หนึ่งเท่าตัว จึงสามารถชดเชยการสั่นไหวของกล้องในแนวตั้งและแนวนอนได้มากขึ้นจาก 1 องศาเป็น 2 องศา และยังชดเชยการสั่นไหวในแนวลึก เพื่อให้ภาพถ่ายคมชัดสูงสุด
คุณสมบัติ Manual Mode ของ LG G4 ช่วยให้ช่างภาพมืออาชีพสามารถถ่ายภาพได้อย่างใจนึกด้วยการตั้งค่าโฟกัส ความเร็วชัตเตอร์ ISO การชดเชยปริมาณแสง และการปรับอุณหภูมิแสงสีขาวในทุกๆ ช็อต โดยภาพถ่ายทุกภาพสามารถจัดเก็บได้ทั้งในรูปแบบ RAW และ JPEG เพื่อให้นำไปปรับแต่งได้โดยไม่สูญเสียรายละเอียดหรือความคมชัด
นอกจากนี้ กล้องหลังของ LG G4 ยังมีระบบ Color Spectrum Sensor (CSS) ซึ่งมีให้ใช้งานในสมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรก
โดยฟังก์ชันนี้ทำให้ภาพถ่ายมีโทนสีที่แม่นยำยิ่งขึ้น ด้วยเซนเซอร์ที่สามารถอ่านค่าสีในระบบ RGB ได้จากแสงในสถานที่นั้นๆ และยังตรวจจับแสงอินฟราเรดที่สะท้อนออกมาจากวัตถุต่างๆ ได้อีกด้วย ระบบ CSS จะนำข้อมูลที่อ่านได้ทั้งหมดนี้มาปรับโทนแสงสีขาวและสีแฟลช เพื่อให้ภาพที่ถ่ายออกมาใกล้เคียงกับโทนสีจริงมากที่สุด จึงกำจัดปัญหาสีแดงเพี้ยนเป็นสีส้มสด หรือสีขาวกลายเป็นสีเหลืองหม่นไปได้อย่างสิ้นเชิง
เพื่อภาพถ่ายเซลฟี่ที่คุณภาพดีเหมือนภาพจากกล้องมืออาชีพ LG G4 มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซลที่จับภาพได้ดีทั้งภาพเดี่ยวและภาพกลุ่ม พร้อมฟังก์ชัน Gesture Interval Shot ที่เหนือชั้นกว่าระบบ Gesture Shot ในรุ่นเดิม ด้วยการกำมือสองครั้งหน้ากล้องเป็นสัญญาณให้ถ่ายภาพเซลฟี่ 4 ภาพในเวลา 2 วินาที ให้คุณไม่พลาดทุกช็อตสวยแม้ในสภาพที่ถ่ายรูปได้ไม่สะดวก
LG G4 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้หน้าจอ IPS Quantum Display ใหม่ ขนาด 5.5 นิ้ว ที่แอลจี ดิสเพลย์ พัฒนาให้แสดงสีได้แม่นยำกว่าเดิมถึงร้อยละ 20 สว่างขึ้นถึงร้อยละ 25 และมีระดับคอนทราสท์มากขึ้นร้อยละ 50 จอภาพใหม่นี้ยังเป็นจอความละเอียดระดับ Quad HD รุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยี Advanced In-Cell Touch (AIT) ซึ่งผนึกรวมส่วนจอแสดงผล LCD และเซนเซอร์ของทัชสกรีนให้รวมกันเป็นชิ้นเดียว ช่วยให้จอสามารถแสดงสีสันได้แม่นยำและไวต่อการสัมผัสมากยิ่งขึ้น จอภาพของ LG G4 ผ่านการตั้งค่าสีตามมาตรฐาน DCI (Digital Cinema Initiatives) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในกลุ่มสตูดิโอภาพยนตร์จากฮอลลีวู้ด
เปี่ยมด้วยพลังและประสิทธิภาพ
ถึงแม้ว่าจอทัชสกรีนของ LG G4 จะมีคุณภาพเหนือชั้นกว่าที่เคย แต่ก็ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อความทนทานของแบตเตอรี่ โดยสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh แบบถอดเปลี่ยนได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หาได้ไม่ง่ายนักในสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์รุ่นใหม่ๆ ในขณะที่ชิปประมวลผล Qualcomm® Snapdragon™ 808 พร้อม X10 LTE มอบทั้งประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานที่โดดเด่น จึงทำให้ LG G4 สามารถใช้งานได้เต็มวันอย่างไร้กังวล ถึงแม้ว่าจะมีความจุแบตเตอรี่เท่ากับรุ่น G3 แต่ LG G4 จะสามารถรับมือกับการใช้งานได้นานกว่าถึง 20%
เนื่องในโอกาสการเปิดตัวชิป Snapdragon™ 808 สู่สายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรก ดร. พอล อี เจค็อบส์ ประธานกรรมการบริหารของควอลคอมม์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้เดินทางมาร่วมงานเปิดตัว LG G4 กับนายจูโน โช ที่มหานครนิวยอร์ค ขณะที่รองประธานกรรมการของควอลคอมม์ นายจิม โดห์ ได้ไปร่วมงานเปิดตัวที่กรุงโซล
“แอลจีและควอลคอมม์ เทคโนโลยีส์ ได้ร่วมกันพัฒนาชิป Snapdragon™ 808 มาตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม เพื่อปรับแต่งเทคโนโลยีในเชิงลึก และวางรากฐานให้กับคุณสมบัติใหม่ๆ ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใครของ LG G4” ดร. เจค็อบส์ กล่าว “สมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของการรวบรวมสุดยอดนวัตกรรมต่างๆ มาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง”
ซอฟต์แวร์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน
LG G4 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ UX 4.0 ซึ่งมุ่งเน้นตอบโจทย์การใช้งานจริง มอบความสะดวกสบายใช้งานง่าย จึงรองรับความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนได้ดียิ่งขึ้น ด้วยเมนูรูปแบบใหม่ที่ลดขั้นตอนในการทำงานต่างๆ ลง แต่ขณะเดียวกันได้เพิ่มตัวเลือกในการตั้งค่ามากขึ้นสำหรับการใช้งานในขั้นสูง
– ถ่ายรูปได้รวดเร็ว โดยไม่ต้องเปิดแอพกล้อง ด้วย Quick Shot เพียงกดปุ่ม Rear Key ด้านหลังเครื่องสองครั้งโดยไม่ต้องเปิดหน้าจอ นอกจากนี้ กล้องของ LG G4 ยังรวดเร็วอย่างน่าทึ่ง พร้อมใช้งานในเวลาเพียง 6/10 ของวินาที
– แอพ Gallery ใหม่ เปิดดูภาพถ่ายจำนวนมหาศาลได้อย่างรวดเร็ว พร้อมรองรับการเปิดดูรูปในไทม์ไลน์ ฟังก์ชัน Memories จะจัดภาพถ่ายและวิดีโอเป็นกลุ่มตามสถานที่และวัน-เวลาที่ถ่าย โดยไม่ต้องพึ่งพาการอัพโหลดขึ้นคลาวด์
– Event Pocket ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวบรวมทุกกิจกรรมและการนัดหมายไว้ในปฏิทินเดียว เพียงลากตารางนัดหมายจากปฏิทินและเว็บไซต์โซเชียลมีเดียต่างๆ มาวางรวมกันหลังจากการตั้งค่าการใช้งานครั้งแรก โดยไม่ต้องวุ่นวายกับการใช้ปฏิทินหลายอันอีกต่อไป
– Smart Notice ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมแจ้งเตือนให้ทราบถึงข้อมูลสภาพอากาศ การเดินทาง และสาระประโยชน์อีกมากมาย โดยระบบจะสังเกตและปรับข้อมูลให้ตรงกับพฤติกรรมของผู้ใช้ อาทิ วิธีการเดินทางไปทำงาน Smart Notice สามารถแจ้งเตือนผู้ใช้ถึงข้อมูลต่างๆ ด้วยข้อความที่แม่นยำ ตรงต่อสถานการณ์ เช่น อาจเตือนให้ผู้ใช้นำร่มติดตัวไปด้วย ขณะที่เดินไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน
– Quick Help ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหาคำตอบสำหรับข้อสงสัยในการใช้งาน LG G4 ได้ทันที ผ่านทาง
วิดเจ็ท Smart Notice โดยนอกจากจะมีคำอธิบายเกี่ยวกับการตั้งค่าต่างๆ แล้ว ยังสามารถช่วยนัดหมายให้ผู้ใช้โทรศัพท์ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเพื่อขอคำแนะนำอีกด้วย
– แอลจีได้จับมือกับพันธมิตรหลายรายเพื่อร่วมกันเสริมให้ประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟน LG G4 เหนือชั้นยิ่งขึ้น โดย LG G4 ทุกเครื่องจะมาพร้อมกับแอพชุด Google Office เพื่อการทำงานและติดต่อประสานงานในระหว่างเดินทาง โดยเจ้าของสมาร์ทโฟน LG G4 ทุกคนจะสามารถใช้พื้นที่เก็บข้อมูลในคลาวด์จาก Google Drive ได้ฟรีถึง 100GB เป็นเวลาสองปีเต็ม ส่วนคุณสมบัติ MirrorLink ยังช่วยให้ LG G4 ทำงานร่วมกับรถยนต์จากโฟล์คสวาเกนได้ โดยผู้ขับขี่รถยนต์จะสามารถใช้หน้าจอบนแผงคอนโซลรถเพื่อควบคุมฟังก์ชันด้านการโทรศัพท์ นำทาง และเปิด-ปิดเพลงบน LG G4 ได้
LG G4 จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศเกาหลีก่อนในวันที่ 29 เมษายนนี้ ก่อนจะเปิดตัวออกสู่ตลาดอื่นทั่วโลก ผ่านผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือกว่า 180 ราย โดยจะมีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับราคาและช่องทางการจำหน่ายในแต่ละประเทศต่อไป
ข้อมูลทางเทคนิค:*
- ชิปเซ็ต: Qualcomm Snapdragon™ 808 พร้อม X10 LTE
- จอภาพ: Quad HD IPS Quantum Display ขนาด 5.5 นิ้ว (ความละเอียด 2560×1440 หรือ 538ppi)
- หน่วยความจำ: 32GB eMMC ROM และ 3GB LPDDR3 RAM พร้อมช่องใส่การ์ดไมโครเอสดี
- กล้อง: กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ 8 / OIS 2.0 กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์ F2.0
- แบตเตอรี่: 3,000mAh (ถอดเปลี่ยนได้)
- ระบบปฏิบัติการ: Android 5.1 Lollipop
- ขนาด: 148.9 x 76.1 x 6.3-9.8 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก: 155 กรัม
- เครือข่ายที่รองรับ: 4G / LTE / HSPA+ 21 Mbps (3G)
- การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 a, b, g, n, ac / Bluetooth 4.1LE / NFC / USB 2.0
- สี: (เซรามิก) เทา Metallic Gray / ขาว Ceramic White / ทอง Shiny Gold , (หนังแท้) ดำ / น้ำตาล / แดง / ฟ้า / เบจ / เหลือง
- อื่นๆ: ถ่ายภาพแบบ Manual Mode / Gesture Interval Shot / Quick Shot
*สเปกและสีของเครื่องอาจแตกต่างกันไปในแต่ละตลาด