หลังจากที่โพสต์ก่อนหน้านี้ LG G4 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เป็นการแนะนำสเปคแบบคร่าวๆ ไปแล้ว คราวนี้มาร่วมเจาะลึกไปกับรายละเอียดของ LG G4 ว่าจะมีอะไรที่คุณยังไม่รู้อีกบ้าง
ดีไซน์
ก่อนหน้าจะมีภาพหลุดของ LG G4 มีการคาดเดาถึงการปรับเปลี่ยนดีไซน์และวัสดุที่จะนำมาใช้ ซึ่งอาจเป็นไปได้ถึงการนำวัสดุประเภทอลูมิเนียมมาเป็นส่วนผสม เพื่อสร้างความหรูหราให้กับสมาร์ทโฟนเรือธงของ LG และเมื่อถึงเวลาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ LG G4 ถูกดีไซน์มาในสองแบบ โดยแบบแรกเป็นฝาหลังที่ทำจากพลาสติกแฝงด้วยลายเส้นตัดกัน ให้ความแตกต่างจาก LG G3 ไปอีกแบบ ขณะที่อีกหนึ่งดีไซน์ที่ถูกล่าวถึงมากนั่นคือ ฝาหลังที่ทำจากวัสดุหนังแท้ มีตะเข็บพาดเป็นแนวตั้วอยู่กึ่งกลาง และมีโลโก้ G4 ปักอยู่บริเวณมุมล่างขวาของฝาหลัง
เมื่อวิเคราะห์ถึงการนำเสนอ LG G4 ในรุ่นฝาหลังหนังแท้ บ่งบอกได้ถึงแนวคิดของ LG ที่ต้องการให้สมาร์ทโฟนเรือธงเปรียบเสมือนเครื่องประดับที่มีความเป็นแฟชั่น ผสมผสานกับเทคโนโลยีอันทันสมัย มีความโดดเด่นตั้งแต่แรกเห็น พร้อมกับการหยิบจับถนัดมือมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องลื่นหลุดมืออีกต่อไป ส่วนของดีไซน์ด้านหน้ายังคงมีความคล้ายคลึงกับ LG G3 ซึ่งภาพรวมตัวเครื่องของ LG G4 จะมีความโค้งมนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพื่อความหยิบจับที่ถนัดมือผู้ใช้มากยิ่งขึ้น
หน้าจอแสดงผล QHD IPS Quantum Dot
LG G4 ยังยึดหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560 x 1440 พิกเซล) เช่นเดียวกับ LG G3 แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นภายใต้หน้าจอแสดงผลเรียกว่า “IPS Quantum dots” เทคโนโลยีที่รวมอยู่ในทีวี 4K รุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่องาน CES 2015 ต้นเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้หน้าจอ LG G4 มีความสว่างเพิ่มขึ้น 25%, สีสันของภาพคมชัดขึ้น 50% และมีความถูกต้องของสีถึง 98% เทียบเท่ามาตรฐานของภาพยนตร์ดิจิตอลจากฮอลลีวู้ด
กล้อง
เป็นอีกหนึ่งสิ่งชูโรงจาก LG G4 คือกล้องหลังกับกล้องหน้า โดยตามสเปคนั้นระบุว่า LG G4 มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.8 (เหนือกว่า Samsung Galaxy S6 และ S6 Edge ที่ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/1.9) ช่วยให้แสงสีเพิ่มขึ้นมากกว่า LG G3 ถึง 80% ส่งผลการให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีเลเซอร์ช่วยจับโฟกัสภาพขณะเดียวกัน LG ยังต่อยอดระบบกันสั่นในเวลาถ่ายภาพด้วย OIS 2 ช่วยให้การถ่ายภาพมีความเสถียรมากขึ้นอีกเช่นกัน
อีกหนึ่งคุณสมบัติที่โดดเด่นของกล้องหลังของ LG G4 เป็นการใช้เซนเซอร์ที่เรียกว่า “Color Spectrum” โดย LG อธิบายว่าเซนเซอร์ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความถูกต้องในการอ่านค่าสี RGB และสามารถปรับสมดุลแสงสีขาวในขณะถ่ายภาพ ทั้งในแบบปกติหรือการใช้แฟลช เพื่อให้ภาพที่ออกมามีสีสันที่ความใกล้เคียงเสมือนภาพที่เห็นจากสายตามนุษย์
นอกจากนี้ในฟีเจอร์ด้านการถ่ายภาพที่เพิ่มขึ้นมาของ LG G4 อาทิ การสนับสนุนสำหรับภาพ RAW + JPG, การแสดงตัวอย่างภาพแบบ Real-Time, การเปิดโหมดกล้องด้วยความเร็วเพียง 0.6 วินาที ฯลฯ ขณะที่กล้องหน้าให้ความละเอียดสูงถึง 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการ Selfie
ขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 808
ใน LG G4 เลือกใช้โพรเซสเซอร์ Qualcomm Snapdragon 808 ผิดกับที่มีการวิเคราะห์กันว่าจะเป็น Snapdragon 810 เหมือนเช่น LG G Flex 2 ซึ่งประสิทธิภาพของรุ่น 808 ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ารุ่น 810 โดยชิปเป็นแบบ 64-bit, Dual ARM Cortex-A57 + Quad Cortex-A53, สนับสนุนประสิทธิภาพการบันทึกวีดีโอในความละเอียดระดับ 4K และประสบการณ์ด้านการถ่ายภาพที่ดียิ่งขึ้น, รองรับการเชื่อมต่อ LTE ด้วยโมเด็มรุ่นใหม่ที่ทันสมัยที่สุด ช่วยตอบสนองการเชื่อมต่อได้รวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเข้าถึงไฟล์ในระบบคลาวด์ หรือการสตรีมมิ่งเพลงและวีดีโอคุณภาพสูง
Qualcomm Snapdragon 808 ใน LG G4 มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Qualcomm IZat รวบรวมข้อมูลตำแหน่งจากดาวเทียม และทำงานประสานกับ WLAN และเซนเซอร์ชนิดต่างๆ เพื่อให้ LG G4 สามารถระบุตำแหน่งและนำทางได้ทางอย่างถูกต้อง แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อนทั้งจากในเมืองและภายในอาคาร เป็นต้น
นอกจากนี้ Qualcomm Snapdragon 808 ยังช่วยให้ระบบเสียงของ LG G4 มีความชัดเจนยิ่งขึ้น และยังสามารถบันทึกเสียงได้อย่างชัดเจน แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง และยิ่งไปกว่านั้นคุณสมบัติของโพรเซสเซอร์รุ่นนี้ยังส่งผลถึงแบตเตอรี่ที่ช่วยให้การใช้งาน LG G4 ได้มากกว่าหนึ่งวันเต็มๆ ขณะที่ส่วนของกราฟฟิกนั้นใช้ GPU Adreno 418 รองรับการแสดงผลภาพหรือวีดีโอในระดับ 4K
แบตเตอรี่ถอดออกได้ และเทคโนโลยีสำหรับการชาร์จ
LG G4 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh สามารถถอดออกได้ ตัวเครื่องมีเทคโนโลยี Quick Charge ที่ช่วยให้การชาร์จแบตเร็วขึ้น และยังรองรับ Wireless Charging หรือการชาร์จไร้สายอีกด้วย
ซอฟต์แวร์
LG G4 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop พร้อมครอบทับด้วย LG UX 4.0 ในสไตล์ Material Design ซึ่ง LG กล่าวสนับสนุนว่าอินเตอร์เฟซนี้ “เป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้น” พร้อมทั้งขจัดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นในเวลาตั้งค่า เพื่อให้เกิดความง่ายและสะดวกต่อการใช้งาน เช่น ซอฟต์แวร์รุ่นใหม่นี้ยังตอบสนองการใช้งานร่วมกับโหมดกล้อง เพียงผู้ใช้แตะที่ปุ่มพาวเวอร์ด้านหลังสองครั้งก็จะเป็นการเข้าสู่โหมดกล้องได้ในทันที แม้ในขณะนั้นจะปิดหน้าจออยู่ก็ตาม เป็นต้น
ราคา วันวางจำหน่าย และสิทธิพิเศษ
ส่วนของราคานั้น LG ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาในเวลานี้ ขณะการวางจำหน่ายจะเริ่มต้นในวันนี้ (29 เมษายน 2015) ที่บ้านเกิด ประเทศเกาหลีใต้ และในเร็วๆ นี้ LG G4 จะเริ่มวางจำหน่ายผ่าน 180 ผู้ให้บริการด้านเครือข่ายจากทั่วโลก ส่วนประเทศไทยคาดว่าจะมีข่าวดีเรื่องการวางจำหน่ายและราคาในเร็วๆ นี้ และสำหรับผู้ที่ซื้อ LG G4 ยังจะได้รับสิทธิพิเศษของการเก็บข้อมูลบน Google Drive ในพื้นที่ความจุ 100GB เป็นสองปีเต็ม ฟรี !!!
ภาพจาก AndroidAuthority