สมัยนี้เวลาจะซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ ราคาหมื่นขึ้นไปอาจจะไม่ใช่คำตอบเสมอไป เพราะปัจจุบันสมาร์ทโฟนในราคาหลักพันก็พกพาสเปคในแบบที่ใช้ได้ดีใกล้เคียงกับรุ่นแพงๆ แถมดีไซน์ในบางรุ่นยังทำออกมาดูดีสูสีกับตัวท็อปๆ อีกด้วย ในรีวิวครั้งนี้แอดมินจะขอนำทุกท่านไปรู้จักกับ Lenovo VIBE K5 Plus อีกหนึ่งสมาร์ทโฟนราคาหลักพัน ที่ไม่ว่าจะโทร แชท ดูหนัง เล่นเกม ฟังเพลง เท่านี้ก็นับว่าคุ้มแล้ว
Lenovo VIBE K5 Plus สเปคที่ให้มามีดังนี้
– หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920 x 1080 พิกเซล) 441ppi
– ขนาดตัวเครื่อง 142 x 71 x 8.2 มม. น้ำหนัก 142 กรัม
– รัน Android 5.1.1 Lollipop
– ใช้งานได้ 2 ซิม ประเภท MicroSIM
– ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 616 Octa-Core
– หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 405
– แรม 2GB, พื้นที่เก็บข้อมูลภายในเครื่อง 16GB รองรับ microSD ได้สูงสุด 32GB
– กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED และระบบ Auto Focus
– กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
– ใช้ลำโพงในระบบเสียง Dolby Atmos
– สนับสนุนการเชื่อมต่อ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.1, GPS และใช้พอร์ต microUSB 2.0
– แบตเตอรี่ความจุ 2750mAh
อุปกรณ์ภายในกล่อง
ภายในกล่องจะประกอบไปด้วยตัวเครื่อง Lenovo VIBE K5 Plus, สาย USB, อะแดปเตอร์ชาร์จแบต และฟิลม์
การออกแบบและจอแสดงผล
Lenovo VIBE K5 Plus ถูกออกแบบด้วยวัสดุที่มีน้ำหนักเบา สังเกตที่ฝาหลังจะเป็นอลูมิเนียมผิวมัน เรียบ ไม่ทำให้ลื่นหลุดจากมือง่ายๆ แต่ด้วยวัสดุที่นำมาใช้มีโอกาสที่จะเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย ดังนั้นการใส่เคสจึงเป็นทางเลือกที่ดีเพื่อการปกป้องตัวเครื่อง ขณะที่ความหนา 8.2 มิลลิเมตร ทำให้กระชับในขณะอยู่ที่อุ้งมือของเรา แถมขนาดหน้าจอ 5 นิ้วยังส่งผลดีต่อการใช้งานมือเดียวอีกด้วย
หน้าจอใช้กระจกเป็นส่วนประกอบ ความละเอียดการแสดงผลมาในแบบ Full HD ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นความละเอียดขั้นพื้นฐานที่ถูกบรรจุอยู่สมาร์ทโฟนหลายรุ่น หลายระดับราคา ภาพ สี และความสว่างที่แสดงบนหน้าจอให้ความชัดเจน แต่ด้วยความที่หน้าจอเป็นกระจกจะทำให้เห็นเป็นเงาสะท้อนในเวลาใช้งานในสถานที่มีแสงมากๆ หรือบริเวณกลางแจ้งครับ
ตำแหน่งปุ่มควบคุมต่างๆ
ตำแหน่งปุ่มปิดแอพ ปุ่มโฮม ปุ่มย้อนกลับ จะอยู่ถัดลงมาจากหน้าจอ เป็นไอคอนแสดงชัดเจน แต่จะไม่มีไฟมาให้ด้วย อาจยุ่งยากเล็กน้อยหากต้องการกดใช้งานในที่แสงน้อยหรือในที่มืด สำหรับปุ่มปิดแอพที่เป็นไอคอนสี่เหลี่ยม ถ้าแตะหนึ่งครั้งจะเรียกใช้ตัวตั้งค่าวิตเจ็ต ถ้าแตะค้างจะเข้าสู่หน้าต่างปิดแอพที่เปิดค้างไว้ทั้งหมดครับ
พอร์ต MicroUSB 2.0 กับรูต่อหูฟังจะอยู่ตำแหน่งขอบบนตัวเครื่อง ด้านขวาจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง ที่ใช้งานเป็นชัตเตอร์ถ่ายภาพได้ด้วย ถัดลงมาเล็กน้อยในฝั่งเดียวกันจะเป็นปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิด-ปิดหน้าจอ และเปิด-ปิดเครื่อง
ขณะที่การใส่ซิมการ์ดจะต้องเปิดฝาหลังออกมา เมื่อพลิกเครื่องด้านหลังจะมีร่องสำหรับเปิดฝาหลังอยู่ที่มุมซ้ายด้านล่าง ซึ่งสามารถเปิดได้ง่ายครับ เมื่อเปิดมาจะเห็นช่องใส่ซิมการ์ดประเภท MicroSIM อยู่เหนือแบตเตอรี่ โดยเราจะต้องถอดแบตเตอรี่ออกก่อนถึงจะใส่ซิมได้ และในช่องกลางระหว่างซิมมีไว้สำหรับใส่ microSD card ที่ใช้ความจุได้สูงสุด 32GB นับเป็นเรื่องดีที่ Lenovo แยกส่วนระหว่างช่องใส่ซิมกับ microSD card ออกมาชัดเจน
ลำโพงด้านหลังที่มาพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos เป็นตัวชูโรงที่ Lenovo นำมาใช้กับสมาร์ทโฟนเกือบทุกรุ่นที่เปิดตัวในช่วงหลังๆ เป็นเทคโนโลยีพลังเสียงที่ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับเสียงธรรมชาติในแบบ 360 องศามากที่สุด ซึ่งหากใครที่อยากชมตัวอย่างเสียงในแบบ Dolby Atmos สามารถเข้าไปที่แอพ Dolby เพื่อเลือกฟังเสียงในแต่ละประเภทก่อนตัดสินใจเลือกใช้ได้
ซอฟต์แวร์ใน Lenovo VIBE K5 Plus ยังเป็น Android 5.1.1 Lollipop ครอบด้วยอินเทอร์เฟซ VIBE UI ที่ตัด app drawer หรือหน้ารวมแอพทั้งหมดทิ้งไป เพื่อให้แอพที่มากับเครื่องหรือติดตั้งภายหลังแสดงอยู่ด้านหน้าทันที ซึ่งแอพที่มากับเครื่องนอกจากบริการของ Google แล้ว แอพของ Lenovo ก็ยังมีสอดแทรกมาบ้าง แต่ในชีวิตจริงเราอาจไม่ได้ใช้มันนัก
หน้าล็อคสกรีนที่เราจะเห็นว่ามีปุ่มลัดสำหรับโทรออกและแอพกล้อง หากมีการแจ้งเตือนเข้ามา เช่น การแจ้งเตือนจาก Facebook, แจ้งเตือนจากอีเมล์ เราสามารถแตะที่การแจ้งเตือนนั้นๆ สองครั้งติดกัน เพื่อดูข้อความและตอบกลับได้
การใช้งานแบตเตอรี่ เมื่อดูจากตัวเลขความจุที่ให้มา 2750mAh อาจดูเฉยๆ แต่เมื่อใช้งานพบว่าหากใช้ปกติ เช่น เปิด 3G/4G, โทรออก รับสาย แชท LINE เปิดเช็คข่าวจาก Facebook บ้าง ภายใน 1 วัน สามารถยืนระยะอยู่ได้สบายเมื่อแบตเตอรี่เหลือประมาณ 15% จะมีหน้าต่างแจ้งเตือนให้รู้ พร้อมแนะนำให้เปิดใช้โหมดประหยัดพลังงาน หรือทำให้เรารู้ตัวว่าจะต้องใช้พาวเวอร์แบงค์แล้วนะ
อีกเรื่องที่น่าสนใจ จะเห็นว่าทุกวันนี้คนเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนกันเยอะ แล้ว Lenovo VIBE K5 Plus จะทำได้ดีแค่ไหนกันเชียว? แอดมินลองเล่นเกม 7 Guardians ซึ่งการตอบสนองต่อการควบคุม การแสดงผลภาพ สี ไปจนการเคลื่อนไหวของตัวละครในเกมนับว่าราบรื่นเป็นอย่างดี แต่เล่นไปสักพักจะรู้สึกได้เลยว่าเครื่องจะอุ่นขึ้นมาเล็กน้อยครับ
ผลทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอพ AnTuTu Benchmark ซึ่งคะแนนโดยรวมอยู่ที่ 37,852 คะแนน
กล้องถ่ายภาพ
ในความละเอียด 13 ล้านพิกเซลในกล้องหลัง มาพร้อมโหมดสนับสนุนการถ่ายภาพมี 3 โหมด ได้แก่ โหมดอัตโนมัติ, พาโนรามา และเอฟเฟ็กต์หรือเปลี่ยนสีภาพ เน้นที่ความง่ายของถ่ายภาพที่ไม่ซับซ้อน ไม่มีสิ่งใดต้องปรับแต่งให้ยุ่งยาก ซึ่งก่อนถ่ายภาพเราสามารถเข้าไปตั้งค่าก่อนได้ว่าจะเลือกอัตราส่วนของภาพเป็นเท่าใด จะเป็น 4:3 หรือ 16 : 9 ก็ได้ หรือไม่พอใจจะปรับค่า ISO เองก็มีให้เลือกถึง ISO 1600
แอพกล้องถ่ายภาพในขณะพร้อมใช้งาน พร้อมโหมดถ่ายภาพอื่นๆ
การถ่ายภาพอาจไม่ใช่จุดแข็งของ Lenovo VIBE K5 Plus เนื่องจากทันทีที่เปิดกล้องหลัง ระบบ Auto Focus ยังทำได้ค่อนข้างช้า รวมถึงการจับภาพและการเก็บลงในพื้นที่เก็บข้อมูลยังทำได้ช้าเช่นเดียวกัน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง
สรุปหลังการใช้งาน
ในภาพรวมของ Lenovo VIBE K5 Plus ในความเห็นส่วนตัวของแอดมินมองว่า การออกแบบภายนอกจะเน้นไปที่ความเรียบง่ายเป็นหลัก ถนัดมือในเวลาหยิบถือหรือใช้งานด้วยมือเดียว จุดเด่นต้องยกให้เรื่องของการใช้งานเพื่อความบันเทิงที่จะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ให้ความพึงพอใจดีเลยทีเดียว หรือจะเป็นการใช้สอยอื่นๆ เช่น โทรเข้า รับสาย ตอบแชท เล่น Facebook สามารถตอบสนองการใช้งานได้สบายๆ
การถ่ายภาพไม่ใช่จุดแข็งของ Lenovo VIBE K5 Plus หากพัฒนาให้ดีขึ้นน่าจะช่วยให้สมาร์ทโฟนเครื่องนี้มีความสนใจเพิ่มขึ้นไปอีก
Lenovo VIBE K5 Plus วางขายแล้วในราคา 5,990 บาท (เช็คเมื่อ 21 มิ.ย.59)