สำหรับ Lenovo เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ลุยตลาดสมาร์ทโฟนในบ้านเรามาอย่างต่อเนื่อง โดยมีตลาดระดับล่างและระดับกลางเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักสำหรับสมาร์ทโฟน Lenovo ซึ่งดีไซน์ สเปค และราคาในหลายๆ รุ่นที่ผ่านมาน่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจใครหลายคน และวันนี้แอดมินมีรีวิว Lenovo VIBE K5 Note อีกหนึ่งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่มาแนะนำให้ทุกคนได้เก็บไว้เป็นทางเลือก ในเวลาที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่
Lenovo VIBE K5 Note มีสเปคดังนี้
– ตัวเครื่องมีความบาง 8.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 165 กรัม
– หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดการแสดงผล Full HD (1920 x 1080 พิกเซล 403ppi)
– รันระบบปฏิบัติการ Android 5.1.1 Lollipop ครอบด้วยอินเทอร์เฟซ VIBE UI
– ใช้งานได้ 2 ซิมการ์ด
– ชิปเซ็ตประมวลผล Mediatek Helio P10 Octa-core แบบ 64-bit ความเร็ว 1.8GHz
– หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali T860MP2
– แรม 3GB LPDDR3 หน่วยความจำภายใน 32GB รองรับ microSD card ความจุสูงสุด 128GB
– กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2, มีแฟลช LED และเทคโนโลยีโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection auto Focus)
– กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
– แบตเตอรี่ความจุ 3500mAh แกะถอดฝาหลังไม่ได้
– สนับสนุนสัญญาณ 3G และ 4G ทุกคลื่นความถี่
– มีระบบสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง
– ใช้ระบบเสียง Dolby Atmos
การออกแบบ
ทันทีที่หยิบตัวเครื่องมาจากในกล่อง สิ่งที่แอดมินรู้สึกได้ทันทีว่า เอ้ย !! สวยดีนิ ทั้งการออกแบบที่ใช้อะลูมิเนียมเป็นหลัก ประกอบกับสีทองยอดนิยมแห่งยุค ช่วยส่งเสริมให้ Lenovo VIBE K5 Note เป็นหนึ่งสมาร์ทโฟนที่เห็นแล้วสะดุดตาไม่น้อย และเรื่องที่แอดมินค่อนข้างชอบสำหรับสมาร์ทโฟน Lenovo ในรุ่นหลังๆ จะมีเคสใสแถมมาให้ในกล่องด้วย ไม่เสียเงินเพิ่มไปหาซื้อเอง อิอิ
ขยับมาที่ขอบตัวเครื่องด้านล่างสุดจะมีพอร์ต USB และช่องไมโครโฟนขนาดจิ๋ว ขณะที่ถัดขึ้นไปด้านบนมีช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ขอบด้านซ้ายเป็นช่องสำหรับใส่ซิมการ์ด สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นงานแบบ 2 ซิม หรือเลือกใช้ซิมเดียวและเพิ่ม microSD card เข้าไป สำหรับพื้นที่การเก็บข้อมูลที่มากขึ้น ส่วนขอบด้านขวาเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง แถมเป็นปุ่มชัตเตอร์ถ่ายภาพได้ ส่วนขอบด้านขวาเป็นปุ่มพาวเวอร์ ใช้เปิด-ปิดหน้าจอ และเปิด-ปิดเครื่อง
ด้านหลังไล่ตั้งแต่ด้านบนลงมา มีช่องไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน, กล้องความละเอียด 13 พิกเซล, แฟลช LED, เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ แปะโลโก้ VIBE ตรงกลางผู้ใช้จดจำจนขึ้นใจ และท้ายสุดเป็นลำโพงที่แฝงมาด้วยเทคโนโลยี Dolby Atmos
สแกนลายนิ้วมือ
ที่เห็นเป็นปุ่มกลมๆ ด้านหลังเครื่องไม่ใช่การออกแบบเพื่อให้ตัวเครื่องดูแปลกนะครับ แต่มันคือปุ่มสแกนลายนิ้วมือ ที่เข้าช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยของการใช้งานควบคู่ไปกับการใส่รหัสผ่านด้วยตัวเลขหรือลากเส้นจุดต่อจุด ซึ่งจากที่ทดลองใช้งานพบว่าจะรองรับการสแกนนิ้วมือได้สูงสุด 2 นิ้วเท่านั้น และการสแกนเพื่อปลดล็อคหน้าจอก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
ซอฟต์แวร์ที่ใช้ Android 5.1 1 Lollipop
Lenovo VIBE K5 Note มาพร้อม Android 5.1 1 Lollipop ซึ่งในรุ่นนี้สามารถเลือกได้ว่าจะใช้งานภายใต้อินเทอร์เฟซ VIBE UI ที่ตัด app drawer หรือหน้ารวมแอพทั้งหมดทิ้งไป เพื่อให้แอพที่มากับเครื่องหรือติดตั้งภายหลังแสดงอยู่ด้านหน้าทันที หรือจะเลือกเป็นแบบ Android UI โดยคุณลักษณะนี้จะเป็นการนำ app drawer หรือหน้ารวมแอพกลับมาอีกครั้ง มีแบ็คกราวสีขาวถูกทับด้วยแอพทั้งหมดที่ติดตั้งมากับเครื่องและแอพโหลดมาใหม่ ให้ความรู้สึกเสมือนเป็น Pure Android ซึ่งลักษณะของหน้ารวมแอพจะคล้ายกับในสมาร์ทโฟน Moto อีกหนึ่งแบรนด์ในเครือ Lenovo ใครต้องการแบบเข้าถึงแอพทั้งหมดได้จากโฮมเพื่อความสะดวกก็เลือก VIBE UI หรือใครที่ต้องการให้หน้าโฮมดูโล่งๆ ให้แอพไปรวมอยู่ที่ app drawer ทั้งหมด ก็เลือกใช้ Android UI เอาที่ตามที่สะดวกละกันครับ
อ่อๆๆ ลืมบอกไปวิธีเปลี่ยน UI เพียงแตะหน้าจอค้างไว้ จะเป็นการเรียกเมนูลัดสำหรับตั้งค่าการแสดงผล ให้เลือกที่ “การกำหนดลักษณะ” เมื่อเลือกเสร็จแล้วจะเข้ามาที่หน้าต่าง “การตั้งค่าเดสก์ทอป” จากนั้นให้เลือกที่ “ตัวใช้งานตามค่าเริ่มต้น” และทำการเลือก UI ตามที่ต้องการครับ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกปรับเปลี่ยนวอลเปเปอร์ หรือเพิ่มวิตเจ็ตได้ง่ายเพียงแตะหน้าจอค้างไว้เช่นกันครับ
คุณสมบัติแนะนำอื่นๆ ไปลองเล่นกันได้เองนะครับ เช่น เมนูคุณลักษณะที่จะมีเมนูย่อยอีกหลายเมนู ซึ่งในส่วนการแสดงลายนิ้วมือ เราสามารถตั้งค่าเพื่อให้ปุ่มสแกนลายนิ้วมือทำงานอื่นๆ เพิ่มเติมได้ ยกตัวอย่าง แค่แตะที่สแกนลายนิ้วมือก็สามารถกลับไปยังหน้าโฮมได้ หรือกำหนดเป็นปุ่มถ่ายภาพได้ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเมนูสลับโหมด VR สำหรับใช้ร่วมกับแว่นตา VR ซึ่งปัจจุบันน่าจะหาซื้อได้ง่ายมากขึ้นครับ
เทคโนโลยีด้านเสียง Dolby Atmos
ยังเป็นตัวชูโรงสำหรับสมาร์ทโฟน Lenovo หลายรุ่นในระยะหลังๆ ระดับความดัง ความทุ้ม นุ่มลึกของเสียงดนตรีในขณะฟังเพลง หรือเอฟเฟคเสียงในเวลาดูหนัง ดูละครย้อนหลัง และเล่นเกม เรียกได้ว่าเป็นระบบเสียงในสมาร์ทโฟนที่มีคุณภาพดีตัวหนึ่งเลยครับ
การจัดการพลังงาน
สำหรับ Lenovo VIBE K5 Note มาพร้อมกับโหมดการประหยัดพลังงานขั้นสูง ไว้ใช้ในกรณีที่เปอร์เซนต์แบตเตอรี่เหลือน้อยมากๆ ซึ่งเมื่อเปิดโหมดนี้นี้ระบบจะทำการปรับการแสดงผลทั้งหมดเป็นสีขาวดำ พร้อมจำกัดการใช้งานให้เหลือเพียงการโทรเข้า-รับสาย และการรับ-ส่งข้อความ เท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าเมื่อถึงเวลาแบตเหลือน้อยจริงๆ แล้ว จะได้ใช้โหมดนี้กันรึเปล่า เพราะเชื่อว่าสมัยนี้คนใช้สมาร์ทโฟนจะมีพาวเวอร์แบงค์เป็นอุปกรณ์ข้างกายพกติดตัวไม่ห่างเช่นกัน
ทดสอบประสิทธิภาพและความแรงของ Lenovo VIBE K5 Note ผ่านแอพ Antutu Benchmark ซึ่งคะแนนโดยรวมอยู่ที่ 46,916 คะแนน
ภาพแสดงผลจากการเล่นเกม Heroes of Incredible Tales อยู่ในระดับที่ชัดดีทีเดียว
กล้องถ่ายภาพ
กล้องหลังมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2, มีแฟลช LED และเทคโนโลยีโฟกัสภาพแบบ PDAF (Phase Detection auto Focus) เรียกใช้งานง่ายแม้ในขณะล็อคหน้าจอ โดยจะมีแอพกล้องที่เสมือนเมนูลัดอยู่ที่มุมขวาล่างของล็อคสกรีน สามารถทัชเพื่อใช้กล้องได้อย่างรวดเร็ว ภายในกล้องไม่ได้มีฟีเจอร์อะไรที่สลับซับซ้อนมากนัก มีโหมด HDR, พาโนรามาและฟิลเตอร์เท่านั้น ส่วนความละเอียดของภาพถ่ายสูงสุดอยู่ที่ 4160 x 3120 พิกเซล
กล้องหน้ามาในระดับความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีโหมดปรับหน้าสวยหรือ Beauty ให้ปรับถึง 7 ระดับ มีเซนซอร์ที่คอยตรวจจับใบหน้า เท่าที่ลองใช้เซลฟี่รู้สึกได้ว่าความคมชัดอยู่ในระดับที่พอใช้ แต่ยังไม่ถึงในระดับที่ดีนัก
ตัวอย่างภาพถ่าย
จากกล้องหลัง
จากกล้องหน้า
สรุปหลังการใช้งาน
จากการทดลองใช้ Lenovo VIBE K5 Note มาหลายวัน งานออกแบบถือว่าเป็นสิ่งแรกที่น่าชื่นชม หน้าจอความละเอียด Full HD ให้การแสดงผลที่คมชัด ส่วนต่อมาในเรื่องของระบบเสียงที่ยังเป็นตัวชูโรงที่ส่งเสริมให้สมาร์ทโฟน Lenovo หลายต่อหลายรุ่นที่ผ่านมาจนมาถึงรุ่นนี้มีพลังและมีคุณภาพ เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือให้ความรวดเร็วในการปลดล็อคหน้าจอ หรือหากจะใช้เป็นปุ่มชัตเตอร์ถ่ายเซลฟี่ก็ทำได้รวดเร็วเช่นกัน
ประสบการณ์ด้านการเล่มเกมก็ถือว่าทำลื่นดีทีเดียว ยังไม่พบว่าเล่นๆ ไปแล้วออกอาการสะดุดแต่อย่างใด แบตเตอรี่ขนาด 3500mAh จากที่ลองใช้งานปกติใน 1 วัน เช่น โทรเข้า-รับสาย, เปิด Facebook, แชท LINE, ส่อง Instagram, ถ่ายภาพนิดหน่อย และเปิด Google Maps นำทาง แบตเตอรี่อึดพอตัวเลย ใช้งานใน 1 วันแบบไม่ต้องชาร์จสบายๆ ครับ
ส่วนสุดท้ายเรื่องการถ่ายภาพด้วยกล้องหลังให้ความรู้สึกที่ดี ภาพที่ออกมานับว่าคมชัดใช้ได้เลย กล้องหน้ามีการเก็บภาพถ่ายลงบนพื้นที่เก็บข้อมูลหลังจากเซลฟี่ยังทำได้ช้าไปเล็กน้อยครับ
สำหรับ Lenovo VIBE K5 Note ปัจจุบันวางขายแล้วในราคา 7,990 บาท ใครที่สนใจสมาร์ทโฟนในราคาไม่เกิน 10,000 บาท ใช้งานได้แบบไม่ต้องมีฟีเจอร์เยอะแยะนัก Lenovo VIBE K5 Note เป็นอีกหนึ่งทางเลือกวันนี้แอดมินนำมาเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจครับ ^^
ขอบคุณ Lenovo Mobile Thailand สำหรับ Lenovo VIBE K5 Note ในการรีวิวครั้งนี้ครับ
ซึ่งจากที่ทดลองใช้งานพบว่าจะรองรับการสแกนนิ้วมือได้สูงสุด 2 นิ้วเท่านั้น
ผมใช้อยู่ได้ 5 นิ้วนะครับ
ไม่มีการแจ้งเตือนข้อความ LINE หรือ FB โดยเฉพาะโหมดพักหน้าจอ