จากการเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี ตามงบการเงินของ Lenovo สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินธุรกิจที่ไม่ตรงตามเป้าหมาย ส่งผลต่อกำไรที่ลดหวบอย่างน่าตกใจและจำเป็นต้องปลดพนักงานถึง 3,200 คน
ตัวเลขกำไรสุทธิประจำไตรมาสแรกของ Lenovo ลดลงถึง 51% หรือคิดเป็น 105 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ส่วนแบ่งการตลาดของคอมพิวเตอร์พีซีทั่วโลกจะเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่ 20.6% ก็ตาม ขณะที่รายได้โดยรวมยังเพิ่มขึ้น 3% อยู่ที่ 10.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่นับว่ายังน้อยกว่าที่ นักวิเคราะห์จากหลายฝ่ายประเมินไว้ที่ 11.29 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ Lenovo ต้องปลดพนักงาน 3,200 คน หรือ 5% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและปรับโครงสร้างองค์กรให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ Yang Yuanqing ซีอีโอและประธานของ Lenovo ได้ออกมาเปิดเผยทิศทางในอนาคตอันใกล้ว่า การดำเนินธุรกิจจำเป็นต้องมีการปรับปรุงในส่วนของธุรกิจคอมพิวเตอร์พีซีที่ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับพัฒนาโครงสร้างในธุรกิจโทรศัพท์มือถือเช่นกัน
อย่างไรก็ดีการพัฒนาโครงสร้างในธุรกิจโทรศัพท์มือถือของ Lenovo แม้จะมีแรงสนับสนุนจาก Motorola ที่ซื้อมาจาก Google แต่ด้วยการแข่งในตลาดโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนที่ดุเดือดทั้งในประเทศจีน รวมถึงประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ทำให้ Lenovo หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญกับการแข่งขันจากคู่แข่งขันที่มากขึ้นในทุกระดับตลาด