ประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับโครงการประมูลกล้องถ่ายภาพชุดพิเศษ Leica รุ่น M 10-P Limited Edition เฉลิมพระเกียรติเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2562 (เพื่อ 22 องค์กรการกุศล) เมื่อค่ำคืนวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา ทำยอดรายได้รวมถึง 214 ล้านบาท โดยมีนักธุรกิจจากฮ่องกง และสิงคโปร์ มาเข้าร่วมประมูลด้วย
การประมูลครั้งนี้ จัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และดำเนินการโดยสถาบันการประมูลคริสตี้ส์ ประเทศไทย โดยมีเหล่าบรรดาผู้ที่มีชื่อเสียงในสังคมเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ทั้งนักธุรกิจ นักบริหารระดับสูง นักสะสม รวมถึงศิลปิน และเซเลบ ขณะที่มีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลทั้งไทยและต่างชาติกว่า 300 ราย โดยการประมูลเริ่มขึ้นประมาณ 19.20 น. และใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง สำหรับการประมูลกล้องไลก้า 21 ชุด โดยได้เงินรายได้รวมทั้งสิ้น 214 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานตามพันธกิจของ 22 มูลนิธิและองค์กรการกุศล โดยกล้องสีเขียวจำนวน 1 ชุดในที่นี้ จะส่งมอบให้สถาบันโรคไตแห่งประเทศสิงคโปร์ เพื่อนำไปประมูลที่ประเทศสิงคโปร์ นอกจากนักธุรกิจจากฮ่องกง ยังมีนักธุรกิจจากสิงคโปร์สนใจเข้าร่วมงานและชนะการประมูลกล้องชุดสีเหลือง หมายเลข 6/10 เพื่อมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ด้วยราคา 15 ล้านบาท
ทั้งนี้ คุณหนิง-ปัญญชลี เพ็ญชาติ ทำหน้าที่ในการดำเนินการประมูล โดยแบ่งการประมูลออกเป็น 5 รอบ การประมูลแบ่งเป็น 5 รอบ โดยกล้องไลก้าสีเขียว ราคาเริ่มต้น 1 ล้านบาท และสีเหลือง ราคาเริ่มต้น 1.5 ล้านบาท ซึ่งราคาประมูลจะเพิ่มขึ้นครั้งละประมาณ 10% ทั้งนี้ บรรยากาศการประมูลมีการแข่งขันเสนอราคากันอย่างคึกคัก โดยกล้องไลก้าชุดสีเหลือง หมายเลข 8/10 ปิดราคาประมูลสูงสุดที่ 25 ล้านบาท โดยนักธุรกิจจากฮ่องกง เพื่อมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย ส่วนกล้องไลก้าชุดสีเขียว หมายเลข 5/20 ปิดราคาประมูลสูงสุดที่ 15 ล้านบาท ซึ่งจะมอบให้มูลนิธิคณะแพทย์ศาสตร์จุฬาฯ
นายเทอเรนซ์ ชง นักธุรกิจฮ่องกงที่บินมาร่วมงานประมูลครั้งนี้ กล่าวว่า “สนใจมาร่วมประมูลกล้องไลก้า เพราะตนเองชอบการสะสมกล้องตัวต้นแบบและสะสมเลนส์อยู่แล้ว และยังเป็นการประมูลเพื่อการกุศลอีกด้วย จึงรู้สึกภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมนี้” นอกจากนายชง จะคว้าการประมูลกล้องไลก้าชุดสีเหลืองดังกล่าวไปแล้ว ยังปิดการประมูลกล้องชุดสีเขียว หมายเลข 2/20 ด้วยราคา 5 ล้านบาท เพื่อมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์
ขณะที่ แพทย์หญิงเจรียง จันทรกมล ประธานบริษัทในเครือบางปะกอก-ปิยะเวช ประมูลกล้องชุดสีเขียว หมายเลข 5/20 ด้วยราคา 15 ล้านบาท เพื่อมูลนิธิคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งแพทย์หญิงเจรียง เป็นศิษย์เก่า และให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการต่างๆ ของมูลนิธิฯ มาโดยตลอด
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวว่า “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเคยรับสั่งว่า ประเทศไทยยังอยู่ได้ เพราะคนไทยยังคงมีการให้ ซึ่งกิจกรรมการประมูลกล้องถ่ายภาพชุดพิเศษ เพื่อ 22 องค์กรการกุศล คร้งนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนถึงการให้ เพื่อประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติผ่านโครงการต่าง ๆ ของมูลนิธิและสมาคมเหล่านี้”
ด้าน นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการอำนวยการจัดงาน และอดีตนายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์) กล่าวเปิดงานการประมูลในครั้งนี้ว่า “เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2562 บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นร่วมเทิดพระเกียรติและร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสมหามงคลนี้ ด้วยการจัดสร้างกล้องถ่ายภาพ Leica (ไลก้า) รุ่น M 10-P Limited Edition เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2562 ขึ้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความจกรักภักดี และด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
กล้องถ่ายภาพ Leica เป็นกล้องจากประเทศเยอรมันนีที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 100 ปี และได้รับยกย่องว่าเป็นกล้องถ่ายภาพที่สร้างด้วยความประณีตละเอียดอ่อนประดุดงานศิลปะ ให้คุณภาพภาพที่คมชัด มีความคงทน มีรูปแบบที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำแบบใคร นับเป็นยอดปรารถนาของที่รักการถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง และเป็นที่นิยมของนานาประเทศที่จะจัดสร้างกล้องไลก้ารุ่นพิเศษเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสที่สำคัญที่สุด อาทิ วาระครบรอบพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์ประเทศต่าง ๆ ซึ่งมักจะจัดทำ ในจำนวนจำกัดเพื่อให้เป็นของที่ทรงคุณค่าและจารึกไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่สำคัญของโลกที่นักสะสมต่างแสวงหามาครอบครอง
การจัดทำกล้องถ่ายภาพไลก้ารุ่นพิเศษนี้ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้รับอนุญาตจากคณะอนุกรรมการฝ่ายกลั่นกรองการขอใช้ตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในคณะกรรมการฝ่ายโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ให้เชิญตราสัญลักษณ์ไปประดับกล้องได้ โดยได้จัดทำกล้องถ่ายภาพเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ ชุดสีเหลือง จำนวน 10 ชุด และชุดสีเขียวจำนวน 20 ชุด เพื่อนำกล้อง 6 ชุด ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร
ส่วนที่เหลือ 1 ชุด จะนำหนึ่งชุดเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และอีกหนึ่งชุด จะมอบให้พิพิธภัณฑ์ไลก้า ประเทศเยอรมันนี เพื่อจัดแสดงเป็นการถาวรร่วมกับกล้องถ่ายภาพชุดสำคัญอื่นๆ ของโลกที่เก็บไว้ ณ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เห็นถึงความสำคัญที่คนไทยรักและเทิดทูลสถาบันพระมหากษัตริย์
สำหรับ 22 ชุด ที่นำออกจำหน่าย เพื่อนำรายได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการนี้ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้น้อมนำพระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตามพระราชปณิธานในการสืบสาน รักษา และต่อยอด ด้วยการซื้อกล้องถ่ายภาพทั้งหมด และนำเงินรายได้จำนวน 35 ล้านบาท ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้น จึงได้นำกล้องถ่ายภาพจำนวน 22 ชุด มอบให้กับ 22 มูลนิธิ และองค์กรการกุศล เพื่อนำมาจัดประมูลในครั้งนี้”
โครงการประมูลกล้องถ่ายภาพชุดพิเศษ Leica รุ่น M 10-P Limited Edition เฉลิมพระเกียรติเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2562 (เพื่อ 22 องค์กรการกุศล) ในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากเหล่าบรรดาผู้มีชื่อเสียงในแวดวงสังคมมาร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ คุณกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ศ.ดร.นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ คุณบอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ คุณอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา คุณก้อง กมลสุทธิ์ ทัพพะรังสี คุณนก ประภาวดี โสภณพนิช แหวนแหวน-ปวริศา เพ็ญชาติ คุณโดนัท มนัสนันท์ เป็นต้น
สำหรับผลการประมูลกล้องไลก้า 21 ชุด ได้แก่
1 ชุดสีเขียวหมายเลข 10/20 ราคา 5 ล้านบาท (มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ )
2 ชุดสีเขียวหมายเลข 2/20 ราคา 5 ล้านบาท (มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์)
3 ชุดสีเขียวหมายเลข 11/20 ราคา 5 ล้านบาท (มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า)
4 ชุดสีเขียวหมายเลข 4/20 ราคา 5.5 ล้านบาท (มูลนิธิจุฬาภรณ์)
5 ชุดสีเขียวหมายเลข 3/20 ราคา 5.5 ล้านบาท (มูลนิธิ TO BE NUMBER ONE)
6 ชุดสีเขียวหมายเลข 9/20 ราคา 7 ล้านบาท (ศิริราชมูลนิธิ)
7 ชุดสีเขียวหมายเลข 7/20 ราคา 7 ล้านบาท (มูลนิธิรามาธิบดี)
8 ชุดสีเขียวหมายเลข 12/20 ราคา 12 ล้านบาท (มูลนิธิสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์)
9 ชุดสีเหลืองหมายเลข 6/10 ราคา 15 ล้านบาท (มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช)
10 ชุดสีเหลืองหมายเลข 10/10 ราคา 16 ล้านบาท (มูลนิธิราชประชานุเคราะห์)
11 ชุดสีเหลืองหมายเลข7/10 ราคา 20 ล้านบาท (ไตรโครงการ ได้แก่ (มูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, มูลนิธิภูบดินทร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, และมูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพระบรมราชูปถัมภ์)
12 ชุดสีเหลืองหมายเลข 8/10 ราคา 25 ล้านบาท (มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย)
13 ชุดสีเขียวหมายเลข 5/10 ราคา 15 ล้านบาท (มูลนิธิคณะแพทย์ศาสตร์จุฬาฯ)
14 ชุดสีเขียวหมายเลข 6/20 ราคา 8 ล้านบาท (มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า)
15 ชุดสีเขียวหมายเลข 17/20 ราคา 8.5 ล้านบาท (มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก คณะแพทยศาสตร์)
16 ชุดสีเขียวหมายเลข 13/20 ราคา 9 ล้านบาท (มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์)
17 ชุดสีเขียวหมายเลข 15/20 ราคา 10 ล้านบาท (มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์)
18 ชุดสีเขียวหมายเลข 19/20 ราคา 8.5 ล้านบาท ( องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF)
19 ชุดสีเขียวหมายเลข 18/20 ราคา 9.5 ล้านบาท (มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย)
20 ชุดสีเขียวหมายเลข 16/20 ราคา 6.5 ล้านบาท (สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย)
21 ชุดสีเขียวหมายเลข 20/20 ราคา 11 ล้านบาท (มูลนิธิชัยพัฒนา)