ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั่นนำจากแดนมังกร Meizu เปิดตัว M2 Note ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โชว์ประสิทธิภาพที่คุ้มกว่ารุ่นก่อนอย่าง M1 Note พอควร เผยราคาเพียง 5,990 บาท วางขายเฉพาะที่ LAZADA เริ่ม 29 ก.ย นี้
สั่งซื้อเท่านั้น เมื่อคืนที่ผ่านมา ทาง Meizu ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากจีน ได้เข้ามาเปิดตัว Meizu M2 Note ที่ประเทศไทยแบบจริงๆจังๆแล้ว โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ เป็นรุ่นต่อยอดจาก M1 Note เมื่อ 6 เดือนก่อน มาในครั้งนี้ก็ได้จัดสเปกใหม่ที่ดีกว่าเดิม อย่างซีพียู MT6753 octa-core 64 bit ที่เมื่อก่อนเป็น MT6752 Quad Core ส่วนดีไซน์ยังคงแบบ R-angle curve ขอบโค้งมนเช่นเคย แต่ตรงปุ่ม Home มีการเปลี่ยนเป็นแบบ Physical (เป็นปุ่มกด) ที่ฝั่งเซ็นเซอร์ควบคุมเฉพาะภายใน (ไม่ใช้สแกนลายนิ้วมือ) มาให้ด้วย
สำหรับราคานั้นอยู่ที่ 5,990 บาท โดยจะวางขายแบบ Flash Sale ที่ Lazada เริ่มขายวันที่ 29 กันยายนนี้ เวลาสิบโมงถึงเที่ยง ใครสนใจ เตรียมตังค์กับความไวให้พร้อมเลยครับ
รายละเอียดสเปก Meizu M2 Note
Display : 5.5 นิ้ว Full HD 1080p
CPU : MediaTek MT6753 octa-core 64 bit
RAM : 2GB
ROM : 16-32GB รองรับ SD Card 160GB
Main Camera : 13 ล้านพิกเซล, ใช้เซ็นเซอร์ของ Samsung CMOS, Dual Flash, Zero-Delay Shooting
Front Camera : 5 ล้านพิกเซล
Battery : Li-Ion 3100
ขนาดตัวเครื่อง : 150.9 x 75.2 x 8.7 mm
น้ำหนัก : 149 กรัม
ระบบปฏิบัติการ : Flyme 4.5 (Android Lollipop 5.1)
สีให้เลือก : สีเทา และ สีขาว
มาดูในส่วนของพรีวิวกัน รูปแรกที่เห็นอยู่นี้คือตัวกล่องบรรจุภัณฑ์ของ Meizu M2 Note ถือว่าสวยเอาเรื่องทีเดียว เหมือนจะเป็นดีไซน์ใหม่จากก่อนหน้านี้ด้วย
ต่อกันที่ตัวเครื่อง สำหรับหน้าจอของรุ่นนี้ อยู่ที่ 5.5 นิ้ว แต่เมื่อลองถือดูแล้ว กลับรู้สึกว่า “ไม่ใหญ่มาก” ค่อนข้างพอดีมือทีเดียว (แต่รู้สึกตกใจตอนเห็นครั้งแรกเล็กน้อย….) หน้าจอถือว่าสวยทีเดียว อาจเป็นเพราะเทคโนโลยี GTT Full lamination ที่ช่วยลดแสงสะท้อน ทำให้เห็นความละเอียดของการแสดงผลมากขึ้นนี้เอง ส่วนด้านหลัง ใช้วัสดุที่จับดูแล้ว รู้สึกเรียบมือพอควร แต่ไม่ลื่นมาก เขาบอกว่าเป็น แมกนีเซียมอัลลอยเฟรม เคลือบด้วยโพลีคารบอเนต ส่วนเครื่องที่จับอยู่นี้ เป็นตัวสีเทานะครับ (สีขาวยังไม่เห็น – -)
ตัวเครื่องมีความบาง 8.7 มิลลเมตร น้ำหนักเพียง 149 กรัม ลองถือแล้ว จัดว่าเบามากๆ แทบไม่รู้สึก อ่อ เกือบลืมพูดถึงปุ่ม Home ที่บอกว่าเป็นเซ็นเซอร์พิเศษ ในตัว Meizu M2 Note จะมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า mBack เป็นปุ่ม Home แบบสัมผัส คือเวลากดจะเป็นปุ่ม Home แต่ถ้าแตะๆ หรือปัดซ้าย-ขวา จะเป็นปุ่ม Back นั้นเอง ส่วนนี้อาจจะต้องทำความคุ้นเคยอยู่หน่อยครับ (แต่ผมชอบนะ)
ก่อนเขามาในส่วนของกล้อง ก็ได้ยลโฉมตัว Flyme 4.5 ไปแล้ว บอกเลยว่า ดู Smooth พอๆกับ iOS เลยทีเดียว ถือว่าลื่นมากๆ เมื่อลองเข้ามาดูส่วนควบคุมกล้อง ก็พบว่า เหมือนทุกอย่างมันจะมารวมอยู่ในหน้าเดียว การใช้งานถือว่าง่าย ไม่ค่อยยาก ในหน้าตั้งค่าจะมีให้ปรับอยู่ 7 แบบ แต่ในที่นี้ผมขอลองแค่โหมด Auto เท่านั้น เพื่อวัดกันไปเลยว่า ซอฟแวร์ของกล้องจะมีความฉลาดขนาดไหน
ในสภาพที่ผมถ่ายอยุ่นั้น ถือว่าค่อนข้างมืด (น่าจะสังเกตุกันได้ กับภาพที่ผมใช้มือถือถ่ายชัวร์ๆ) แต่เมื่อลองเอา Meizu M2 Note ถ่ายด้วยโหมด Auto ดูแล้วพบว่า ภาพที่ได้ค่อนข้างสว่างทีเดียว จับภาพได้ไว้ด้วย ถือว่าผ่านสำหรับเรื่องกล้องครับ ซึ่งคงเป็นเพราะอานิสงส์จากเซ็นเซอร์ของ Samsung CMOS นี้เอง ก็ขอปิดพรีวิวสั้นๆนี้เท่านี้ ไว้ถ้ามีโอกาสได้เครื่องมารีวิวจริงๆ ผมจะมาเล่าถึงประสิทธิภาพภายใน ที่ชัดเจนกว่านี้แน่นอนครับ
