ไม่ถามสักคำ ผู้ใช้โวย Kaspersky บังคับใช้ซอฟต์แวร์ใหม่

[อลม่าน] ย้อนไปก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้สั่งแบน Kaspersky โดยห้ามจำหน่ายในประเทศ สืบเนื่องจากความมั่นคง เพราะเป็นบริษัทจากรัสเซีย ส่วนลูกค้าก็ถูกโอนไปยัง Pango บริษัทผู้ให้บริการด้านโซลูชั่นความปลอดภัยไซเบอร์ของสหรัฐฯ แทน จนล่าสุดผู้ใช้ Kaspersky ในสหรัฐฯ พบซอฟต์แวร์ใหม่ปรากฏในเครื่องอย่าง “UltraAV” แบบไม่ทันตั้งตัว

“ตื่นขึ้นมาพบ Kasperky หายไปจากระบบโดยสิ้นเชิง พร้อมกับ UltraAV และ Ultra VPN ที่เพิ่งถูกติดตั้งใหม่” จากผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งที่ได้ออกมาเผย จนมีผู้ใช้รายอื่น ๆ ได้ออกมายืนยันว่าเจอเหมือนกัน รวมถึงมีกระทู้อื่น ๆ ที่รายงานเหมือนกันด้วย

อดีตตัวแทนจำหน่ายของ Kasperky เผยรู้สึก ‘หงุดหงิด’ กับการลบซอฟต์แวร์ Kaspersky โดยอัตโนมัติ และแทนที่ด้วยซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสตัวอื่นโดยสิ้นเชิง ทางด้านอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหรัฐฯ กล่าวว่าการกระทำนี้ กลับเป็นความเสี่ยงครั้งใหญ่ซะมากกว่า

อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้บางรายเผยได้รับอีเมลจาก Kaspersky เกี่ยวกับการเปลี่ยนไปใช้ UltraAV แล้ว ซึ่งการเปลี่ยนไปใช้ซอฟต์แวร์ดังกล่าว เกิดขึ้นตอนที่รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจห้ามจำหน่ายซอฟต์แวร์ Kaspersky ทั่วประเทศ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาแล้ว

และในช่วงต้นเดือนกันยายน มีรายงานว่า Kaspersky ได้บรรลุข้อตกลงในการโอนลูกค้าไปยัง Pango ซึ่งเป็นเจ้าของ UltraAV นั้นเอง แน่นอนว่าเป็นซอฟต์แวร์ที่ไม่คุ้นหู เนื่องจากเพิ่งมาใหม่ จนสร้างความกังวลให้กับอดีตผู้ใช้ Kaspersky พอควร

Vadim M. ทีมงานของ Kaspersky เผยผ่าน Forum ในเว็บไซต์ Official เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมาว่า บริษัทได้ร่วมมือกับ UltraAV เพื่อทำให้การเปลี่ยนผ่านไปสู่ผลิตภัณฑ์ของตนเป็นไปอย่างรารื่นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

แต่แม้จะมีข้อตกลงกันแล้ว ทางผู้ใช้ Kaspersky ก็รู้สึกไม่พอใจที่ถูกบังคับติดตั้งซอฟต์แวร์ลงในเครื่อง PC โดยไม่ได้รับอนุญาต บางรายจัดการลบ UltraAV และ UltraVPN ออกทันที

ที่มา : Techcrunch