บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ หรือ JWD มั่นใจรักษาภาพรวมการดำเนินธุรกิจไตรมาสแรกที่ผ่านมาอยู่ในระดับน่าพอใจ หลังธุรกิจคลังสินค้าทั่วไป ขนส่งสินค้าในประเทศและข้ามแดนยังดีต่อเนื่อง แม้ภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัวและหลายประเทศออกมาตรการที่เข้มงวดเพื่อแก้ไขปัญหาแพร่ระบาดของ COVID-19 เดินหน้านำเสนอบริการและโซลูชั่นใหม่ ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าและช่วยแก้ไขปัญหา Pain Point รวมถึงปรับแผนบริหารจัดการและการว่าจ้างพนักงานเอาท์ซอร์สให้สอดคล้องกับปริมาณ มั่นใจฐานะการเงินในปัจจุบันยังแข็งแกร่ง
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับอาเซียน เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความมั่นใจในการรักษาภาพรวมการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 อยู่ในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับภาพรวมอุตสาหกรรม แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ในหลายประเทศ ส่งผลให้ประเทศต่าง ๆ ต้องออกมาตรการที่เข้มงวดเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาด เช่น ประเทศไทยที่ประกาศปิดศูนย์การค้าและธุรกิจที่มีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดเป็นการชั่วคราว ตลอดจนได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์และเริ่มส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจ
สำหรับภาพรวมการดำเนินของ JWD ในเดือนมกราคม-มีนาคมที่ผ่านมา เช่น ธุรกิจให้บริการคลังสินค้าทั่วไป ธุรกิจรับขนส่งในประเทศและขนส่งสินค้าข้ามแดนทั้งทางรถและทางราง ยังคงมีลูกค้าใช้บริการและอัตราการเช่าพื้นที่ในระดับที่ดีต่อเนื่องจากปลายปีก่อน โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าทางรางที่ได้รับงานจากผู้ประกอบการรายใหญ่ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ส่งผลให้มีปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ที่รับขนส่งเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ยกเว้นธุรกิจรับฝากและบริหารสินค้าอันตราย และธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์ ที่มีลูกค้าบางส่วนได้รับผลกระทบด้านซัพพลายส่งผลให้มีความต้องการใช้บริการลดลงบ้าง ขณะที่ธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นเริ่มมีการเบิกสินค้าอาหารทะเลแช่แข็งออกจากคลังเพิ่มขึ้น ซึ่งน่าจะมีปัจจัยมาจากความต้องการกักตุนอาหารเพิ่มขึ้นในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามอัตราการเช่าพื้นที่ยังคงอยู่ในระดับที่ดี
ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวบริษัทฯ ได้รุกนำเสนอบริการและโซลูชั่นใหม่ ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าและช่วยลูกค้าแก้ไขปัญหา Pain Point เช่น การนำเสนอบริการใหม่ขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วนพิเศษ (Cold Chain Express), บริการจัดส่งสินค้าเวชภัณฑ์, การให้บริการขนส่งสินค้าข้ามแดนจากไทย-กัมพูชา-เวียดนาม, การนำเสนอโซลูชั่นให้ลูกค้ากระจายพื้นที่จัดเก็บสินค้าเพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจหากรัฐบาลประกาศเคอร์ฟิวห้ามออกนอกเคหสถานในช่วงเวลาที่กำหนด เป็นต้น
ขณะเดียวกันได้ปรับแผนบริหารจัดการและบริหารค่าใช้จ่ายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยในส่วนธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับการรับฝากและบริหารยานยนต์ที่เริ่มมีปริมาณงานลดลง ได้ปรับลดการว่าจ้างบุคลากรภายนอกหรือเอาท์ซอร์สเพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณงานและสามารถบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนการเช่าพื้นที่เพื่อรับฝากยานยนต์นั้นยังมีความต้องการตามปกติ
ทั้งนี้ คณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ ได้จัดตั้งคณะทำงานด้าน Business Continuity Plan (BCP) เพื่อจัดทำแผนงานปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องในทุกสถานการณ์ ทั้งในส่วนงานที่ต้องพบลูกค้า ส่วนงานสนับสนุน ธุรกิจในต่างประเทศ โดยปัจจุบันเริ่มให้พนักงานบางส่วนปฏิบัติงานที่บ้าน (Work from home) และใช้เทคโนโลยีด้านไอทีเข้ามาเพิ่มประสิทธภาพการทำงาน ตลอดจนให้ความสำคัญด้านความสะอาดปลอดภัยในการขนส่งและจัดเก็บสินค้า โดยจัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment) ที่จำเป็นแก่พนักงานและการวางมาตรการด้านสุขอนามัยอย่างเข้มงวดเพื่อให้ความมั่นใจแก่ลูกค้า
“จากสถานการณ์โรคระบาดที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ เรามองว่าการให้บริการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนเป็นธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบค่อนข้างช้า เนื่องจากการขนส่งสินค้ายังมีความจำเป็นในทุกสถานการณ์ ขณะเดียวกันได้วางโมเดลธุรกิจให้มีความยืดหยุ่นสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์โรคระบาดยืดเยื้อ จะมุ่งเน้นการบริหารกระแสเงินสด (Cash flow) ทั้งในส่วนรายรับและรายจ่าย เช่น การชะลอแผนการลงทุนบางโครงการจนกว่าสถานการณ์โรคระบาดจะคลี่คลาย นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีวงเงินกู้จากสถาบันการเงินอีกจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้เบิกใช้เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำรอง จึงมั่นใจว่าฐานะการเงินของบริษัทฯ ในปัจจุบันยังมีความแข็งแกร่ง” นายชวนินทร์ กล่าว